สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (13 มีนาคม 2562)--------นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นเนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“บริษัท ฯ”) KTIS เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นเนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“บริษัท ฯ”) ขอเรียนให้ทราบเกี่ยวกับการเข้าร่วมลงทุนโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (Nakhornsawan Biocomplex : NBC) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เคทิส ไบโอเอทานอล จํากัด (“KTBE”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าร่วม ลงทุนกับกลุ่มบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จํากัด (มหาชน) ในโครงการ NBC ซึ่งตั้งอยู่ที่อําเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีเงินลงทุนก่อสร้างโครงการไม่เกิน 7,500 ล้านบาท (เจ็ดพันห้าร้อยล้านบาท)
สำหรับแหล่งเงินทุน มาจาก 1) เงินทุนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2,600 ล้านบาท (บริษัทฯ จะลงทุนในบริษัทร่วมทุนเป็นจํานวนไม่เกิน 1,300 ล้านบาท โดยเป็น เงินทุนหมุนเวียนสําหรับการดําเนินกิจการของบริษัทฯ และเงินกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศ)
ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับบริษัทฯ มีกลยุทธ์การเติบโตและสร้างความเป็นผู้นําในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อ สิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลยุทธ์ดังกล่าว ได้แก่ เชื้อเพลิงชีวภาพ เคมีชีวภาพ และพลาสติก ชีวภาพ ซึ่งการลงทุนในโครงการดังกล่าว จะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากอ้อย และ เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนต่อยอดธุรกิจเคมีชีวภาพ และพลาสติกชีวภาพ(ที่ผลิตจากอ้อย) ในอนาคต อีกด้วย
คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการลงทุนในโครงการ NBC เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิต เอทานอลจากอ้อย จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และจะเป็นโครงการนําร่องใน อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ
ด้านนายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 13 มี.ค.2562 มีอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นเนล ซูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) ในโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) ตั้งอยู่ในอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมีเงินลงทุนก่อสร้างโครงการไม่เกิน 7.5 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท จีจีซี เคทิส ไบโออินดัสเทรียล จำกัด (GKBI) โดยมีบริษัทย่อยของ GGC ถือหุ้น 50% ร่วมกับบริษัทย่อยของ KTIS ถือหุ้น 50%
ทั้งนี้ แหล่งเงินทุน มาจากเงินทุนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2.6 พันล้านบาท โดย GGC และ KTIS ซึ่งแต่ละรายจะลงทุนในบริษัทร่วมทุนไม่เกิน 1.3 พันล้านบาท และเงินทุนส่วนที่เหลือจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศ
ขณะที่สินทรัพย์หลักของโครงการ ประกอบด้วย โรงหีบอ้อย กำลังการผลิต 24,000 ตัน/วัน ,โรงผลิตเอทานอล กำลังการผลิต 600,000 ลิตร/วัน และโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 475 ตัน/ชั่วโมง
ที่มา
https://www.hooninside.com/news-feed/95369/view/
KTIS -GGC ลงขันฝ่ายละ50% ลุยโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC Project) แปะลิงค์ข่าวให้
สำหรับแหล่งเงินทุน มาจาก 1) เงินทุนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2,600 ล้านบาท (บริษัทฯ จะลงทุนในบริษัทร่วมทุนเป็นจํานวนไม่เกิน 1,300 ล้านบาท โดยเป็น เงินทุนหมุนเวียนสําหรับการดําเนินกิจการของบริษัทฯ และเงินกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศ)
ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับบริษัทฯ มีกลยุทธ์การเติบโตและสร้างความเป็นผู้นําในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อ สิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลยุทธ์ดังกล่าว ได้แก่ เชื้อเพลิงชีวภาพ เคมีชีวภาพ และพลาสติก ชีวภาพ ซึ่งการลงทุนในโครงการดังกล่าว จะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากอ้อย และ เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนต่อยอดธุรกิจเคมีชีวภาพ และพลาสติกชีวภาพ(ที่ผลิตจากอ้อย) ในอนาคต อีกด้วย
คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการลงทุนในโครงการ NBC เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิต เอทานอลจากอ้อย จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล และจะเป็นโครงการนําร่องใน อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ
ด้านนายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 13 มี.ค.2562 มีอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มบมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นเนล ซูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) ในโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) ตั้งอยู่ในอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมีเงินลงทุนก่อสร้างโครงการไม่เกิน 7.5 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท จีจีซี เคทิส ไบโออินดัสเทรียล จำกัด (GKBI) โดยมีบริษัทย่อยของ GGC ถือหุ้น 50% ร่วมกับบริษัทย่อยของ KTIS ถือหุ้น 50%
ทั้งนี้ แหล่งเงินทุน มาจากเงินทุนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2.6 พันล้านบาท โดย GGC และ KTIS ซึ่งแต่ละรายจะลงทุนในบริษัทร่วมทุนไม่เกิน 1.3 พันล้านบาท และเงินทุนส่วนที่เหลือจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศ
ขณะที่สินทรัพย์หลักของโครงการ ประกอบด้วย โรงหีบอ้อย กำลังการผลิต 24,000 ตัน/วัน ,โรงผลิตเอทานอล กำลังการผลิต 600,000 ลิตร/วัน และโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 475 ตัน/ชั่วโมง
ที่มา https://www.hooninside.com/news-feed/95369/view/