ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 14:44:33 น.
นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) คาดว่ากำไรปี 61 จะดีกว่าปีก่อน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นราว 9 ล้านตันอ้อย รวมถึงคาดว่าการผลิตไฟฟ้าในปีนี้จะเดินเครื่องได้ดีขึ้น จากปริมาณชานอ้อยซึ่งเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่มีเพิ่มขึ้น ประกอบกับการซ่อมบำรุงน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด 3 โรงงาน กำลังผลิตรวม 160 เมกะวัตต์
และจะลงทุนผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยเพิ่ม การลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท จากปัจจุบันที่บริษัทเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิต (OEM) บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวให้กับจีน แล้วจีนนำไปส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ในวันนี้ KTIS และบมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนการลงทุนไบโอคอมเพล็กซ์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ในพื้นที่นำร่อง จ.นครสวรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายถือหุ้นร่วมกันฝ่ายละ 50% ซึ่ง KTS จะรับผิดชอบด้านวัตถุดิบคืออ้อย ซึ่งจะสร้างใหม่โดยไม่กระทบต่ออ้อยที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลอยู่เดิม
การลงทุนดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่ 2 พันไร่ ที่จะจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม Bioeconomy ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอจัดตั้งนิคมฯ โดยเฟสแรกจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 7.65-8 พันล้านบาท ในพื้นที่ 1 พันไร่ ลงทุนเอทานอล ,ไฟฟ้า และโรงหีบอ้อย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก่อนจะเริ่มพัฒนาเฟส 2 ที่จะเป็นการลงทุนพลาสติกชีวภาพต่าง ๆ ซึ่งในระหว่างนี้บริษัท และ GGC จะร่วมกันออกไปนำเสนอข้อมูลการลงทุน (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศ โดยในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้จะไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมฯในระยะต่อไป
อ่านต่อได้ที่ :
http://www.ryt9.com/s/iq05/2778537
KTIS โต และโต
นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) คาดว่ากำไรปี 61 จะดีกว่าปีก่อน จากปริมาณอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นราว 9 ล้านตันอ้อย รวมถึงคาดว่าการผลิตไฟฟ้าในปีนี้จะเดินเครื่องได้ดีขึ้น จากปริมาณชานอ้อยซึ่งเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่มีเพิ่มขึ้น ประกอบกับการซ่อมบำรุงน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด 3 โรงงาน กำลังผลิตรวม 160 เมกะวัตต์
และจะลงทุนผลิตบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยเพิ่ม การลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท จากปัจจุบันที่บริษัทเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิต (OEM) บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวให้กับจีน แล้วจีนนำไปส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ในวันนี้ KTIS และบมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนการลงทุนไบโอคอมเพล็กซ์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ในพื้นที่นำร่อง จ.นครสวรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายถือหุ้นร่วมกันฝ่ายละ 50% ซึ่ง KTS จะรับผิดชอบด้านวัตถุดิบคืออ้อย ซึ่งจะสร้างใหม่โดยไม่กระทบต่ออ้อยที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลอยู่เดิม
การลงทุนดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่ 2 พันไร่ ที่จะจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรม Bioeconomy ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอจัดตั้งนิคมฯ โดยเฟสแรกจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 7.65-8 พันล้านบาท ในพื้นที่ 1 พันไร่ ลงทุนเอทานอล ,ไฟฟ้า และโรงหีบอ้อย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก่อนจะเริ่มพัฒนาเฟส 2 ที่จะเป็นการลงทุนพลาสติกชีวภาพต่าง ๆ ซึ่งในระหว่างนี้บริษัท และ GGC จะร่วมกันออกไปนำเสนอข้อมูลการลงทุน (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศ โดยในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้จะไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมฯในระยะต่อไป
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2778537