สวัสดีค่ะ เพิ่งกลับมาจากทริปคุนหมิง-ลี่เจียง เป็นการนั่งรถไฟความเร็วสูงที่จีนครั้งแรก ก่อนไปตั้งใจมากว่าจะทำรีวิวมาให้เพื่อน ๆ ในห้องนี้เป็นข้อมูลได้อ่านกัน พร้อมกับจะรีวิวเส้นทางเดินไปโรงแรมที่พักของเรา Hanting Hotel Kunming Train Station Shuanlong Branch (Hanting Express คืออีกชื่อของโรงแรมนี้)
เหมือนสวรรค์บันดาลให้เราได้สิทธิ์ในการนั่งรถไฟไปกลับในวันเดียว โดยขากลับนั่งฟรีอีกต่างหากจะเป็นยังไงมาดูกัน
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟคุนหมิง สำหรับคนที่มีตั๋วรถไฟความเร็วสูงอยู่แล้วเหมือนเรา
เราจองผ่าน trip.com ตัดบัตรเครดิตเสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย มีตั๋วให้เลือก 3 ประเภท คือ ชั้น 1 ราคาประมาณ 1,500 บาท ชั้น 2 ราคาประมาณ 1,000 บาท และตั๋วยืน ราคาเท่ากับตั๋วชั้น 2 แต่ต้องยืนตลอดการเดินทาง เพื่อน ๆ สามารถเช็คราคาได้ที่ www.trip.com ราคาจะไม่เท่ากัน ขึ้นลงตามเวลาที่เพื่อน ๆ เลือกจะเดินทาง โดยรถไฟความเร็วสูง จะมีให้เลือก 3 เวลาต่อวัน
เมื่อจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตมาแล้ว ให้พิมพ์เอกสารรหัสรับตั๋วจริงขึ้นต้นด้วย EK มายื่นที่ช่องขายตั๋วตามป้าย Tickets 1 ไปที่ช่อง 1 ซึ่งป้าย Tickets 1 นี้ถ้าเพื่อน ๆ หันหน้าออกไปตรงรูปปั้นกระทิง (มองเห็นบั้นท้ายกระทิง) จุดขึ้นตั๋วจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เดินเข้าไปช่อง 1 (เมื่อก่อนบางคนบอกต้องไปช่องหมายเลข 8) แต่ตอนนี้ไปแลกที่ช่อง 1 พร้อมยื่นพาสปอร์ต แป้บเดียวได้ตั๋วจริงมาไว้ในมือ
เมื่อได้รับตั๋วมาแล้วหน้าตาตามด้านล่าง
บนตั๋วด้านซ้ายมือจะระบุวันเวลาเดินทาง ขวามือระบุเส้นทาง เลขขบวน (ในนี้คือโบกี้ที่ 7 และเลขที่ 1 ในนี้คือ 1 D และ 1 F ด้านล่างซ้ายระบุเลข
พาสปอร์ตของผู้เดินทาง
ได้ตั๋วมาแล้ว เดินเข้าไปตามป้าย Entrance แต่เราไม่ใช่ประชากรจีน ดังนั้น เราต้องเดินไปที่ปีกฝั่งขวามือถ้าเราเดินเลี้ยวออกมาจากจุดแลกตั๋วจริง พอดีจุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ จุดตรวจบัตรโดยสารของคนที่ไม่ใช่คนจีน จะไม่สามารถสแกนบัตรผ่านเข้าเครื่องอัตโนมัติได้ ต้องโชว์ตั๋วพร้อมพาสปอร์ตด้วย
จุดนี้ถ้ามีเด็กเล็กสูง 120 ซม. จะมีที่วัดส่วนสูงก่อนเดินผ่านเข้าไป ลูกเราสูงพอดี ๆ เฉียดฉิว 120 ซม.ไม่โดนเรียกตรวจอะไร เราจึงเดินจูงลูกเข้าไปได้เลย
หลังจากผ่านเข้าไปแล้วจะมองเห็นบันไดเลื่อนอยู่ตรงกลาง เดินขึ้นไปได้เลย รถไฟทุกขบวนต้องผ่านขึ้นไปรอด้านบนอยู่แล้ว
เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หรือแม้แต่ก่อนจะขึ้นไป จะเห็นบอร์ดขนาดใหญ่แสดงสถานะรถไฟ เราสามารถตรวจสอบได้ว่ารถไฟขบวนของเราต้องไปนั่งรอที่จุด wating area ที่เท่าไหร่ สำหรับขบวนที่เราขึ้น ต้องไปรอที่จุด 7A รถไฟออกเวลา 08.15 น.
ระหว่างรอ พื้นที่ตรงนั้นจะมีร้าน Convenience store มีห้องน้ำบริการ สะอาด สะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวหิวหรือกลัวปวดห้องน้ำ โดยประตูทางเข้ารถไฟจะยังปิดอยู่จนใกล้เวลารถไฟออกจึงเปิดให้เดินลงไปขึ้นรถไฟ สำหรับขบวนที่เราขึ้น ประตูเปิดเวลา 08.00 น.
เรียกขึ้นรถไฟแล้ว ไม่ต้องรีบลุกก็ได้ ยกเว้นคุณจะเป็นตั๋วยืนที่ไม่ระบุเลขที่นั่ง เราจองที่นั่งชั้น 2 มีระบุเลขที่นั่ง ไม่ต้องกลัวโดนคนจีนแซงหรือนั่งเนียน เพราะจะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋วกับเลขที่นั่งอยู่แล้วค่ะ
หลังจากเดินลงบันไดเลื่อนไปให้ตามหาเลขโบกี้ที่เราต้องขึ้น โดยจะมีเลขกำกับอยู่ข้างประตูทางขึ้นนั่นเอง แต่พอดีเราไม่ได้ถ่ายรูปมา
เข้ามาในขบวน มองหาเลขที่นั่งของเราด้านบน ถ้าถูกก็นั่งได้เลย ไม่ต้องกลัวจะมีใครมาแย่งนั่ง เพราะเมื่อรถไฟออกไปแล้วสักครึ่งชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋ว
กรณีเราคือ พาเด็กที่ส่วนสูงก้ำกึ่งมากระหว่าง 120 ซม.ซึ่งต้องเสียตั๋วเด็กครึ่งราคา แต่เราคิดว่าลูกเราตัวผอมนั่งตักเราได้ไม่มีปัญหา จึงไม่ได้ซื้อตั๋วให้ พอเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจตั๋ว ลูกเราถูกเรียกออกไปวัดส่วนสูงด้านหลัง ตามรูป
จะเห็นว่ามีติดสติ๊กเกอร์เพื่อวัดส่วนสูงเด็กไว้ด้วย ถ้าสูงเกินกว่าที่กำหนดต้องเสียค่าตั๋ว โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บบนรถไฟเลย แต่ลูกเราสูงเกือบ ๆ 120 ซม. เลยไม่ต้องเสียเงิน กลับมานั่งที่เดิมได้
บนรถไฟมีห้องน้ำแบบนั่งยอง สะอาดใช้ได้ไม่เจอระเบิด มีตู้กดน้ำร้อนขนาดต้มมาม่ากินได้ มีเจ้าหน้าที่เข็นขายขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มด้วย ทันสมัยมาก ๆ และยังมีตำรวจรถไฟเดินตรวจตรา มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
วิวข้างทางระหว่างนั่งไฟผ่านเมืองต้าลี่ ทะเลสาปเอ๋อไห่ แต่เท่าที่ดูมา ร้อยละ 70 รถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ซะส่วนมาก ไม่ค่อยมีวิวให้ดูสักเท่าไหร่
11.18 น. รถไฟจอดที่สถานีลี่เจียง
วิวภูเขาหิมะมังกรหยกบนชานชาลาช่างสวยยิ่งนัก หารู้ไม่ว่าเราจะได้แค่ดูมันจากบนชานชาลานี้เท่านั้น
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ เราเพิ่มข้อความด้านล่าง ๆ โดยโหลดรูปไปด้วยไม่เป็น เลยใช้วิธีแก้ไขกระทู้เอาค่ะ
[CR] Review รถไฟความเร็วสูงเส้นทางคุนหมิง-ลี่เจียง ฉบับย่อ (นั่งไปและกลับในวันเดียวกัน)
เหมือนสวรรค์บันดาลให้เราได้สิทธิ์ในการนั่งรถไฟไปกลับในวันเดียว โดยขากลับนั่งฟรีอีกต่างหากจะเป็นยังไงมาดูกัน
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟคุนหมิง สำหรับคนที่มีตั๋วรถไฟความเร็วสูงอยู่แล้วเหมือนเรา
เราจองผ่าน trip.com ตัดบัตรเครดิตเสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย มีตั๋วให้เลือก 3 ประเภท คือ ชั้น 1 ราคาประมาณ 1,500 บาท ชั้น 2 ราคาประมาณ 1,000 บาท และตั๋วยืน ราคาเท่ากับตั๋วชั้น 2 แต่ต้องยืนตลอดการเดินทาง เพื่อน ๆ สามารถเช็คราคาได้ที่ www.trip.com ราคาจะไม่เท่ากัน ขึ้นลงตามเวลาที่เพื่อน ๆ เลือกจะเดินทาง โดยรถไฟความเร็วสูง จะมีให้เลือก 3 เวลาต่อวัน
เมื่อจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ตมาแล้ว ให้พิมพ์เอกสารรหัสรับตั๋วจริงขึ้นต้นด้วย EK มายื่นที่ช่องขายตั๋วตามป้าย Tickets 1 ไปที่ช่อง 1 ซึ่งป้าย Tickets 1 นี้ถ้าเพื่อน ๆ หันหน้าออกไปตรงรูปปั้นกระทิง (มองเห็นบั้นท้ายกระทิง) จุดขึ้นตั๋วจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เดินเข้าไปช่อง 1 (เมื่อก่อนบางคนบอกต้องไปช่องหมายเลข 8) แต่ตอนนี้ไปแลกที่ช่อง 1 พร้อมยื่นพาสปอร์ต แป้บเดียวได้ตั๋วจริงมาไว้ในมือ
เมื่อได้รับตั๋วมาแล้วหน้าตาตามด้านล่างบนตั๋วด้านซ้ายมือจะระบุวันเวลาเดินทาง ขวามือระบุเส้นทาง เลขขบวน (ในนี้คือโบกี้ที่ 7 และเลขที่ 1 ในนี้คือ 1 D และ 1 F ด้านล่างซ้ายระบุเลข
พาสปอร์ตของผู้เดินทาง
ได้ตั๋วมาแล้ว เดินเข้าไปตามป้าย Entrance แต่เราไม่ใช่ประชากรจีน ดังนั้น เราต้องเดินไปที่ปีกฝั่งขวามือถ้าเราเดินเลี้ยวออกมาจากจุดแลกตั๋วจริง พอดีจุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ จุดตรวจบัตรโดยสารของคนที่ไม่ใช่คนจีน จะไม่สามารถสแกนบัตรผ่านเข้าเครื่องอัตโนมัติได้ ต้องโชว์ตั๋วพร้อมพาสปอร์ตด้วย
จุดนี้ถ้ามีเด็กเล็กสูง 120 ซม. จะมีที่วัดส่วนสูงก่อนเดินผ่านเข้าไป ลูกเราสูงพอดี ๆ เฉียดฉิว 120 ซม.ไม่โดนเรียกตรวจอะไร เราจึงเดินจูงลูกเข้าไปได้เลย
หลังจากผ่านเข้าไปแล้วจะมองเห็นบันไดเลื่อนอยู่ตรงกลาง เดินขึ้นไปได้เลย รถไฟทุกขบวนต้องผ่านขึ้นไปรอด้านบนอยู่แล้ว
เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หรือแม้แต่ก่อนจะขึ้นไป จะเห็นบอร์ดขนาดใหญ่แสดงสถานะรถไฟ เราสามารถตรวจสอบได้ว่ารถไฟขบวนของเราต้องไปนั่งรอที่จุด wating area ที่เท่าไหร่ สำหรับขบวนที่เราขึ้น ต้องไปรอที่จุด 7A รถไฟออกเวลา 08.15 น.
ระหว่างรอ พื้นที่ตรงนั้นจะมีร้าน Convenience store มีห้องน้ำบริการ สะอาด สะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวหิวหรือกลัวปวดห้องน้ำ โดยประตูทางเข้ารถไฟจะยังปิดอยู่จนใกล้เวลารถไฟออกจึงเปิดให้เดินลงไปขึ้นรถไฟ สำหรับขบวนที่เราขึ้น ประตูเปิดเวลา 08.00 น.
เรียกขึ้นรถไฟแล้ว ไม่ต้องรีบลุกก็ได้ ยกเว้นคุณจะเป็นตั๋วยืนที่ไม่ระบุเลขที่นั่ง เราจองที่นั่งชั้น 2 มีระบุเลขที่นั่ง ไม่ต้องกลัวโดนคนจีนแซงหรือนั่งเนียน เพราะจะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋วกับเลขที่นั่งอยู่แล้วค่ะ
หลังจากเดินลงบันไดเลื่อนไปให้ตามหาเลขโบกี้ที่เราต้องขึ้น โดยจะมีเลขกำกับอยู่ข้างประตูทางขึ้นนั่นเอง แต่พอดีเราไม่ได้ถ่ายรูปมา
เข้ามาในขบวน มองหาเลขที่นั่งของเราด้านบน ถ้าถูกก็นั่งได้เลย ไม่ต้องกลัวจะมีใครมาแย่งนั่ง เพราะเมื่อรถไฟออกไปแล้วสักครึ่งชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจตั๋ว
กรณีเราคือ พาเด็กที่ส่วนสูงก้ำกึ่งมากระหว่าง 120 ซม.ซึ่งต้องเสียตั๋วเด็กครึ่งราคา แต่เราคิดว่าลูกเราตัวผอมนั่งตักเราได้ไม่มีปัญหา จึงไม่ได้ซื้อตั๋วให้ พอเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจตั๋ว ลูกเราถูกเรียกออกไปวัดส่วนสูงด้านหลัง ตามรูป
จะเห็นว่ามีติดสติ๊กเกอร์เพื่อวัดส่วนสูงเด็กไว้ด้วย ถ้าสูงเกินกว่าที่กำหนดต้องเสียค่าตั๋ว โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บบนรถไฟเลย แต่ลูกเราสูงเกือบ ๆ 120 ซม. เลยไม่ต้องเสียเงิน กลับมานั่งที่เดิมได้
บนรถไฟมีห้องน้ำแบบนั่งยอง สะอาดใช้ได้ไม่เจอระเบิด มีตู้กดน้ำร้อนขนาดต้มมาม่ากินได้ มีเจ้าหน้าที่เข็นขายขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มด้วย ทันสมัยมาก ๆ และยังมีตำรวจรถไฟเดินตรวจตรา มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
วิวข้างทางระหว่างนั่งไฟผ่านเมืองต้าลี่ ทะเลสาปเอ๋อไห่ แต่เท่าที่ดูมา ร้อยละ 70 รถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ซะส่วนมาก ไม่ค่อยมีวิวให้ดูสักเท่าไหร่
11.18 น. รถไฟจอดที่สถานีลี่เจียงวิวภูเขาหิมะมังกรหยกบนชานชาลาช่างสวยยิ่งนัก หารู้ไม่ว่าเราจะได้แค่ดูมันจากบนชานชาลานี้เท่านั้น
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ เราเพิ่มข้อความด้านล่าง ๆ โดยโหลดรูปไปด้วยไม่เป็น เลยใช้วิธีแก้ไขกระทู้เอาค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้