
สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราเห็นหลายๆ คนในกลุ่มท่องเที่ยวมักจะถามว่า ไปเที่ยวจีนคนเดียวได้มั้ย ไม่รู้ภาษาจีนไปได้มั้ย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้จะไปได้มั้ย ก็เลยอยากมาเล่าประสบการณ์การเดินทาง ว่าต้องทำยังไง เตรียมอะไรบ้าง อาจจะพอมีประโยชน์บ้างสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่กลัว กังวล
เราไปกันสองคนกับลูกชายอายุ 10 ขวบ และข้อมูล 64 หน้าที่หาในพันทิปบ้าง ถามในกลุ่มต่างๆ บ้าง เราเดินทางตั้งแต่ปี 2019 ไปทั้งหมด 12 วัน ถ้าใครเวลาน้อย ก็สามารถลดจำนวนวันลงได้นะคะ ก่อนเดินทางเราก็ไม่เคยรู้ภาษาจีนสักคำ
ตั๋วรถและที่พักเราไม่ได้จองไปล่วงหน้าแค่ดูๆ ไว้ว่าเราจะพักที่ไหน คิดว่าไปเดินหาเอาง่ายกว่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแผนการเดินทาง และต้องขอโทษด้วยนะคะที่อาจจะมีลูกชายอยู่ในรูปเยอะไปหน่อย ตอนแรกไม่ได้ตั้งจะเขียนรีวิวก็เลยถ่ายแต่รูปลูก
ค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบินรวมน้ำหนักกระเป๋า 2 คน ค่าเปลี่ยนที่นั่ง 9,377 บาท
ค่ารถไฟ รถบัส รถเมล์ โรงแรม ค่ากิน 23,000 บาท (แลกเงินไป 40,000 บาท เหลือกลับมาแลกคืน 17,000 บาทเกินนิดหน่อย)
ค่าวีซ่า 2 คน 3,000 บาท (ค่าจ้างทำจำไม่ได้แล้วแต่ไม่น่าเกิน 500)
31/4/19 ดอนเมือง - คุนหมิง - นอนบนรถไฟไปลี่เจียง
1/5/19 ลี่เจียง - สระมังกรดำ เดินเล่นในเมืองเก่า
2/5/19 ลี่เจียง - ภูเขาหิมะมังกรหยก
3/5/19 ลี่เจียง - นั่งรถบัสไปแชงกรีล่า วัดต้าฝอ
4/5/16 แชงกรีล่า - นั่งรถบัสไปเต้าเฉิง - ย่าติง
5/5/19 ย่าติง - ทะเลสาบ 5 สี ทะเลสาบน้ำนม ไปไม่ถึงสักทะเล
6/5/19 ย่าติง - ทะเลสาบไข่มุก - นั่งรถกลับมาที่เต้าเฉิง
7/5/19 เต้าเฉิง - แชงกรีล่า
8/5/19 แชงกรีล่า - วัดซงจ้านหลิน
9/5/19 แชงกรีล่า - ลี่เจียง
10/5/19 ลี่เจียง - หมู่บ้านไป๋ช่าชุน - นอนบนรถไฟกลับคุนหมิง
11/5/19 คุนหมิง - ดอนเมือง
สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อเราไม่รู้ภาษาจีน
1. รูปภาพสถานที่ต่างๆ และชื่อภาษาจีนของสถานที่นั้นๆ ใช้สำหรับถามทาง บอกแท๊กซี่
2. ศัพท์ภาษาจีน เช่น นับ 1-10 ให้ได้ ก่อนไปเราปริ้นแปะไว้ให้ลูกท่องทุกวัน เด็กจะจำได้ดีกว่า (คำศัพท์ภาษาจีนเราใน Google และพันทิป เจอแล้วก็เซฟเก็บไว้)
3. ข้อมูลตารางรถไฟ รถบัส ตัวอย่างตั๋ว
4. Map me
จริงๆ ใช้แอ๊ปแปลภาษาก็สะดวกมากๆ หรือใช้ wechat เวลาเราพิมพ์ภาษาไทยไป เขาสามารถกดแปลที่เครื่องเขาได้เลย หรือเขาพิมพ์ภาษาจีนมา เราก็สามารถกดแปลเป็นภาษาไทยได้เลย ความหมายอาจจะเพี้ยนบ้างนิดหน่อย
วันที่ 1 ดอนเมือง - คุนหมิง ถึงสนามบินคุนหมิงฉางสุ่ย เมืองคุนหมิง เขียนใบ Immigration Card จะมีแค่ใบขาเข้าใบเดียว ส่วนใบขาออกเขียนตอนกลับ เสร็จแล้วก็ไปต่อแถวผ่าน ต.ม. ให้เด็กเดินไปก่อน เจ้าหน้าที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยื่นพาสปอร์ต แล้วจะมีเสียงเป็นภาษาไทยให้เราทำตาม วางมือ วางนิ้ว เสร็จแล้วก็ประทับตรา ไม่ถามอะไรสักคำเดียว เสร็จแล้วเดินตามป้ายไปรับกระเป๋า เดินออกมาทางออกประตูหมายเลข 3 จะเจอกับตู้ขายตั๋ว บอกกับเขาว่า คุนหมิงหัวเชอจ้าน 昆明站 (ไปสถานีรถไฟคุนหมิง) ราคา 25Y

ได้ตั๋วแล้ว จากนั้นมองไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม ก็จะเห็นรถบัสสาย 1 และ 2 จอดเรียงรายกันอยู่ เลือกขึ้นรถบัสหมายเลข 2 เดินเข้าไปยื่นตั๋วให้พนักงานที่อยู่ประจำรถบัส ยกกระเป๋าใส่ใต้ท้องรถ แล้วก็ขึ้นไปนั่งรอ ไม่ถึงสิบนาทีรถก็ออกเดินทาง เราอ่านวิธีการเดินทางจาก
https://ppantip.com/topic/39375872
รถบัสจะมาจอดสุดสายที่หน้าโรงแรม Jin Jiang เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ให้เดินมาออกมาตรงริมถนน หันหน้าเข้าหาถนน แล้วเดินไปทางขวา เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-400 เมตร ก็จะเจอสถานีรถไฟคุนหมิงแบบในรูปนี้
เมื่อถึงสถานีรถไฟตรงทางเข้าจะมีจุดตรวจให้วางกระเป๋าทุกใบบนสายพานมันจะไหลเข้าเครื่องสแกน ส่วนตัวเราให้เดินเข้าช่องตรวจ ยืนตรงจุดตรวจจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจที่ตัวเรา ขวดน้ำตอนเราไปเขาไม่ตรวจ แต่บางรีวิวบอกว่าต้องกินให้เจ้าหน้าที่ดู เสร็จแล้วเดินผ่านเข้าไปหยิบกระเป๋าของเรา แล้วเข้าไปด้านใน เดินเบี่ยงออกไปทางขวามือ จะเห็นป้าย Tickets
เดินเข้าไปต่อแถวที่ช่อง 1 ช่องสำหรับคนพิการ เพราะเราพูดจีนไม่ได้ เข้าไปช่องอื่นเขาก็จะให้เรามาที่ช่องนี้อยู่ดี ช่องนี้เขาพูดภาษาอังกฤษได้ เมื่อถึงคิวยื่นพาสปอร์ต บอกว่า หลี่เจียง (ลี่เจียง 丽江 ) Hard Sleeper พร้อมกับยื่นตารางรถไฟที่เราเข้าไปดูในเวป
http://www.travelchinaguide.com/china-trains/ และได้เลือกวันเวลาไว้เป็นตัวอย่างปริ้นออกมาไว้ส่งให้เจ้าหน้าดูเลย เขาก็กดเครื่องคิดเลขให้เราจ่ายตัง
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เดินไปหาที่ฝากกระเป๋า ที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านซ้ายของรูปแถวๆ ที่มีหอนาฬิกา เดินไปทางซ้ายสุดของอาคารด้านข้างก็จะเจอ ค่าฝากใบละ 5Y เดินเข้าไปส่งกระเป๋าให้เขา แล้วเขาก็จะบอกราคาให้เราจ่ายเงิน แล้วจะมีบิลมาให้ ตอนมารับก็เข้าไปยื่นบิลให้เขา
ฝากกระเป๋าเสร็จแล้วถ้าใครจะไปเที่ยวสถานที่อื่นเช่น วัดหยวนทง จินบิสแควร์ เขาซีซาน หรือสถานที่อื่นๆ ก็สามารถไปได้ แต่เราไม่ได้ไป แค่เดินเล่นอยู่แถวๆ ละแวกนั้น ความจริงๆ คือ เพิ่งมาถึงวันแรกเลยไม่กล้าที่จะไปไหนไกล
ใกล้ถึงเวลาก็กินข้าวร้านแถวๆ หน้าสถานีรถไฟ ซื้อน้ำขนม แล้วกลับเข้าสถานีรถไฟ ไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน พอขึ้นมาจะเห็นบอร์ดบอกเที่ยวรถ เวลารถ แผ่นใหญ่ๆ ดูหมายเลขขบวนรถของเราบนบอร์ด และจำหมายเลขประตูทางออกไว้ ข้างบนจะมีขนม น้ำ อาหารขาย แล้วก็ไปรอแถวๆ ประตูทางออก หมายเลขของเรา ข้างบนคนก็จะเยอะๆ หน่อย พอใกล้ถึงเวลาคนจีนก็จะเริ่มไปต่อแถวที่ประตูทางออกเราก็ลุกไปต่อกับเขา จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผ่านประตูคนจีนตั๋วสีแดงไม่ต้องสอดตั๋ว คนที่มีตั๋วสีฟ้าแบบเราต้องสอดตั๋วเข้าไปที่เครื่องกั้นก่อน ส่วนมากจะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ก็ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เลย ผ่านเครื่องกั้นมาแล้วก็เดินหาหมายเลขตู้ของเรา จะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หน้าตู้ เราก็ยื่นตั๋วให้เขา เขาก็จะชี้บอกเราเอง
ขึ้นมาบนรถแล้วก็หาหมายเลขเตียงให้ตรงกับตั๋วของเรา ห้องนึงจะมี 6 เตียง ฝั่งละ 3 ชั้น เราสองคนแม่ลูกเลือกนอนเตียงล่างสุดคนละฝั่ง ทั้งห้องนอนกัน 2 คน ไม่มีใครมานอนด้วย ด้านหน้าห้องจะมีที่ชาร์ตแบต แถวๆ ห้องน้ำจะมีตู้กดน้ำอุ่นฟรีด้วย หน้าห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้าแปรงฟัน ควรพกหน้ากากอนามัยไปด้วยเพราะคนจีนสูบบุหรี่กันบนรถ
วันที่ 2 เช้านี้ที่ลี่เจียง เราตื่นตั้งแต่ตีห้าตื่นมาพร้อมกับความหนาว แล้วไปล้างหน้าแปรงฟันเก็บของ ประมาณ 06.05 น. รถไฟก็มาจอดที่สถานีลี่เจียง ส่วนเราคิดว่ายังไม่ถึงเพราะในตารางเวลาบอกว่าจะถึงประมาณ 06.43 ก็เลยยังไม่ยอมลง จนมีแม่บ้านเข้ามาพูดภาษาจีนใส่ แล้วนางก็หายไปกลับมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่าลี่เจียงๆ โอเคลงก็ได้ เมื่อออกจากรถไฟแล้วก็เดินลงบันไดไปชั้นล่าง ออกมาข้างนอกสถานียังไม่สว่างเลย

เดินออกมาจากตัวอาคาร แล้วเดินไปที่ด้านหน้าจะมีป้ายรถเมล์ ถ้ามีคนมาชวนให้เหมารถ หรือเสนอโปรแกรมเที่ยวไม่ต้องไปสนใจเดินขึ้นรถเมล์เลยค่ารถ 1Y นั่งสาย 16 (หรือสาย 4 ก็ได้) จะไปลงด้านหลังเมืองเก่าลี่เจียง ขึ้นไปเอารูปเมืองเก่าให้คนขับดู บอกว่า กู่เฉิงโข่ว 古城口 (เมืองเก่าลี่เจียง Lijiang Old Town) ถ้าเขาพยักหน้าก็ขึ้นไปเลย ขึ้นไปแล้วหยอดแบงค์เข้าไปในตู้เก็บตังด้วย
นั่งมาสักพักเข้าเขตเมืองคนเริ่มทยอยลงจนหมด เอ๊ะ ! ทำไมไม่ถึงสักทีเลยถือรูปไปถามคนขับ เขาบอกประมาณว่าเลยมาแล้ว พร้อมกับจอดให้เราลง สองแม่ลูกรีบลงจากรถ แล้วเรียกแท๊กซี่คนขับเป็นผู้หญิงเอารูปให้เขาดูว่าเราจะไปตรงนี้เขาก็พาไปส่งตรงตรงทางเข้าด้านหลัง ค่ารถ 8Y
ลงจากแท๊กซี่แล้วเดินเข้าซอยเมืองเก่าปกติจะเก็บค่าเข้าเมือง 80Y แต่ช่วงที่เราไปเขาไม่เก็บค่าเข้า ได้เข้าฟรีไปอีก เราไม่ได้จองที่พักมา แต่หาข้อมูลไว้แล้วว่าจะพักที่ไหน เดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอก็ที่พักที่ดูไว้ เป็นสไตล์จีนโบราณ อาเฮียเจ้าของใจดีมาก ค่าที่พักคืนละ 85Y เราพัก 2 คืน
เก็บของแล้วก็ออกเดินเที่ยวในเมืองเก่า ช่วงที่เราไปเจอฟ้ามืดฝนตกเกือบทุกวัน เดินไปสระมังกรดำ ใช้ Map me และแผนที่ที่ปริ้นไป ในเมืองเก่าจะมีตรอกซอกซอยเยอะมาก ส่วนมากจะเชื่อมถึงกันหมด มีร้านอาหาร ร้านขายของเยอะ

เดินชิมอาหารไปเรื่อย ร้านไหนน่ากินก็แวะตลอดทาง
เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ก็มาถึงย่านใจกลางเมืองเก่าที่มีกังหัน จากกังหันตรงนี้เราจะเดินไปสระมังกรดำ ไม่ต้องข้ามสะพานไปฝั่งกังหันนะคะ ตรงบันไดถ้ายืนหันหน้าเข้ากังหัน เดินไปฝั่งขวามือข้ามถนนไปแล้วจะมีซอย ให้เดินเข้าซอยตามลำธารไปเรื่อยๆ

จากกังหันเดินไปสระมังกรดำน่าจะเกือบ 1 กิโลเมตร เดินตามทางไปสักพักก็จะเจอกับซุ้มประตู เดินผ่านซุ้มนี้ไป
เดินไปจนสุดทางก็เจอกับประตูทางเข้าสระมังกรดำ เราจำค่าบัตรไม่ได้ แต่หลายๆ กระทู้บอกว่า 80Y แต่เราเสียประมาณ 50-60Y

เข้ามาได้แป๊บเดียวฝนก็ตกลงมา นั่งหลบฝนอยู่เกือบชั่วโมง จากนั้นเดินกลับทางเดิม
เดินกลับมาตรงกังหัน แล้วเดินออกไปตรงทางออกนอกเมือง เลี้ยวขวา เดินไปจนถึง 4 แยก เอาภาพรูปปั้นประธานเหมาเจ๋อตุงถามคนแถวนั้นดู เขาก็จะชี้บอกทางเราไปเอง เดินไปถามไปเรื่อยๆ จนเจอกับท่านเหมา ที่มาตรงนี้ก็เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะมาขึ้นรถตู้เพื่อไปภูเขาหิมะมังกรหยกนั่นเอง หรือจะซื้อทัวร์ไปก็ได้ไม่ต้องลำบาก มีรถมารับ มีอาหารให้ทาน แต่ก็จำกัดเวลาในการเที่ยว ค่าทัวร์ประมาณ 450-600Y ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจและความสามารถในการต่อ
เจอท่านเหมาแล้วก็เดินกลับทางเดิม กลับเข้ามาในเมืองเก่าวนเวียนเดินหาของกินไปเรื่อยๆ ขนมเปี๊ยะกุหลาบทานตอนร้อนๆ อร่อยมาก ค่ำแล้วเดินกลับที่พัก หลงเข้าซอยนั้นออกซอยนี้ เถียงกันเบาๆ สองคน แล้วลูกชายก็พาแม่กลับมาถึงที่พักจนได้
[CR] คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า ย่าติง สองคนแม่ลูก
สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราเห็นหลายๆ คนในกลุ่มท่องเที่ยวมักจะถามว่า ไปเที่ยวจีนคนเดียวได้มั้ย ไม่รู้ภาษาจีนไปได้มั้ย พูดภาษาอังกฤษไม่ได้จะไปได้มั้ย ก็เลยอยากมาเล่าประสบการณ์การเดินทาง ว่าต้องทำยังไง เตรียมอะไรบ้าง อาจจะพอมีประโยชน์บ้างสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่กลัว กังวล
เราไปกันสองคนกับลูกชายอายุ 10 ขวบ และข้อมูล 64 หน้าที่หาในพันทิปบ้าง ถามในกลุ่มต่างๆ บ้าง เราเดินทางตั้งแต่ปี 2019 ไปทั้งหมด 12 วัน ถ้าใครเวลาน้อย ก็สามารถลดจำนวนวันลงได้นะคะ ก่อนเดินทางเราก็ไม่เคยรู้ภาษาจีนสักคำ
ตั๋วรถและที่พักเราไม่ได้จองไปล่วงหน้าแค่ดูๆ ไว้ว่าเราจะพักที่ไหน คิดว่าไปเดินหาเอาง่ายกว่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแผนการเดินทาง และต้องขอโทษด้วยนะคะที่อาจจะมีลูกชายอยู่ในรูปเยอะไปหน่อย ตอนแรกไม่ได้ตั้งจะเขียนรีวิวก็เลยถ่ายแต่รูปลูก
ค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบินรวมน้ำหนักกระเป๋า 2 คน ค่าเปลี่ยนที่นั่ง 9,377 บาท
ค่ารถไฟ รถบัส รถเมล์ โรงแรม ค่ากิน 23,000 บาท (แลกเงินไป 40,000 บาท เหลือกลับมาแลกคืน 17,000 บาทเกินนิดหน่อย)
ค่าวีซ่า 2 คน 3,000 บาท (ค่าจ้างทำจำไม่ได้แล้วแต่ไม่น่าเกิน 500)
31/4/19 ดอนเมือง - คุนหมิง - นอนบนรถไฟไปลี่เจียง
1/5/19 ลี่เจียง - สระมังกรดำ เดินเล่นในเมืองเก่า
2/5/19 ลี่เจียง - ภูเขาหิมะมังกรหยก
3/5/19 ลี่เจียง - นั่งรถบัสไปแชงกรีล่า วัดต้าฝอ
4/5/16 แชงกรีล่า - นั่งรถบัสไปเต้าเฉิง - ย่าติง
5/5/19 ย่าติง - ทะเลสาบ 5 สี ทะเลสาบน้ำนม ไปไม่ถึงสักทะเล
6/5/19 ย่าติง - ทะเลสาบไข่มุก - นั่งรถกลับมาที่เต้าเฉิง
7/5/19 เต้าเฉิง - แชงกรีล่า
8/5/19 แชงกรีล่า - วัดซงจ้านหลิน
9/5/19 แชงกรีล่า - ลี่เจียง
10/5/19 ลี่เจียง - หมู่บ้านไป๋ช่าชุน - นอนบนรถไฟกลับคุนหมิง
11/5/19 คุนหมิง - ดอนเมือง
สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อเราไม่รู้ภาษาจีน
1. รูปภาพสถานที่ต่างๆ และชื่อภาษาจีนของสถานที่นั้นๆ ใช้สำหรับถามทาง บอกแท๊กซี่
2. ศัพท์ภาษาจีน เช่น นับ 1-10 ให้ได้ ก่อนไปเราปริ้นแปะไว้ให้ลูกท่องทุกวัน เด็กจะจำได้ดีกว่า (คำศัพท์ภาษาจีนเราใน Google และพันทิป เจอแล้วก็เซฟเก็บไว้)
3. ข้อมูลตารางรถไฟ รถบัส ตัวอย่างตั๋ว
4. Map me
จริงๆ ใช้แอ๊ปแปลภาษาก็สะดวกมากๆ หรือใช้ wechat เวลาเราพิมพ์ภาษาไทยไป เขาสามารถกดแปลที่เครื่องเขาได้เลย หรือเขาพิมพ์ภาษาจีนมา เราก็สามารถกดแปลเป็นภาษาไทยได้เลย ความหมายอาจจะเพี้ยนบ้างนิดหน่อย
วันที่ 1 ดอนเมือง - คุนหมิง ถึงสนามบินคุนหมิงฉางสุ่ย เมืองคุนหมิง เขียนใบ Immigration Card จะมีแค่ใบขาเข้าใบเดียว ส่วนใบขาออกเขียนตอนกลับ เสร็จแล้วก็ไปต่อแถวผ่าน ต.ม. ให้เด็กเดินไปก่อน เจ้าหน้าที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ยื่นพาสปอร์ต แล้วจะมีเสียงเป็นภาษาไทยให้เราทำตาม วางมือ วางนิ้ว เสร็จแล้วก็ประทับตรา ไม่ถามอะไรสักคำเดียว เสร็จแล้วเดินตามป้ายไปรับกระเป๋า เดินออกมาทางออกประตูหมายเลข 3 จะเจอกับตู้ขายตั๋ว บอกกับเขาว่า คุนหมิงหัวเชอจ้าน 昆明站 (ไปสถานีรถไฟคุนหมิง) ราคา 25Y
ได้ตั๋วแล้ว จากนั้นมองไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม ก็จะเห็นรถบัสสาย 1 และ 2 จอดเรียงรายกันอยู่ เลือกขึ้นรถบัสหมายเลข 2 เดินเข้าไปยื่นตั๋วให้พนักงานที่อยู่ประจำรถบัส ยกกระเป๋าใส่ใต้ท้องรถ แล้วก็ขึ้นไปนั่งรอ ไม่ถึงสิบนาทีรถก็ออกเดินทาง เราอ่านวิธีการเดินทางจาก https://ppantip.com/topic/39375872
รถบัสจะมาจอดสุดสายที่หน้าโรงแรม Jin Jiang เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ให้เดินมาออกมาตรงริมถนน หันหน้าเข้าหาถนน แล้วเดินไปทางขวา เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-400 เมตร ก็จะเจอสถานีรถไฟคุนหมิงแบบในรูปนี้
เมื่อถึงสถานีรถไฟตรงทางเข้าจะมีจุดตรวจให้วางกระเป๋าทุกใบบนสายพานมันจะไหลเข้าเครื่องสแกน ส่วนตัวเราให้เดินเข้าช่องตรวจ ยืนตรงจุดตรวจจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจที่ตัวเรา ขวดน้ำตอนเราไปเขาไม่ตรวจ แต่บางรีวิวบอกว่าต้องกินให้เจ้าหน้าที่ดู เสร็จแล้วเดินผ่านเข้าไปหยิบกระเป๋าของเรา แล้วเข้าไปด้านใน เดินเบี่ยงออกไปทางขวามือ จะเห็นป้าย Tickets
เดินเข้าไปต่อแถวที่ช่อง 1 ช่องสำหรับคนพิการ เพราะเราพูดจีนไม่ได้ เข้าไปช่องอื่นเขาก็จะให้เรามาที่ช่องนี้อยู่ดี ช่องนี้เขาพูดภาษาอังกฤษได้ เมื่อถึงคิวยื่นพาสปอร์ต บอกว่า หลี่เจียง (ลี่เจียง 丽江 ) Hard Sleeper พร้อมกับยื่นตารางรถไฟที่เราเข้าไปดูในเวป http://www.travelchinaguide.com/china-trains/ และได้เลือกวันเวลาไว้เป็นตัวอย่างปริ้นออกมาไว้ส่งให้เจ้าหน้าดูเลย เขาก็กดเครื่องคิดเลขให้เราจ่ายตัง
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เดินไปหาที่ฝากกระเป๋า ที่ฝากกระเป๋าจะอยู่ทางด้านซ้ายของรูปแถวๆ ที่มีหอนาฬิกา เดินไปทางซ้ายสุดของอาคารด้านข้างก็จะเจอ ค่าฝากใบละ 5Y เดินเข้าไปส่งกระเป๋าให้เขา แล้วเขาก็จะบอกราคาให้เราจ่ายเงิน แล้วจะมีบิลมาให้ ตอนมารับก็เข้าไปยื่นบิลให้เขา
ฝากกระเป๋าเสร็จแล้วถ้าใครจะไปเที่ยวสถานที่อื่นเช่น วัดหยวนทง จินบิสแควร์ เขาซีซาน หรือสถานที่อื่นๆ ก็สามารถไปได้ แต่เราไม่ได้ไป แค่เดินเล่นอยู่แถวๆ ละแวกนั้น ความจริงๆ คือ เพิ่งมาถึงวันแรกเลยไม่กล้าที่จะไปไหนไกล
ใกล้ถึงเวลาก็กินข้าวร้านแถวๆ หน้าสถานีรถไฟ ซื้อน้ำขนม แล้วกลับเข้าสถานีรถไฟ ไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบน พอขึ้นมาจะเห็นบอร์ดบอกเที่ยวรถ เวลารถ แผ่นใหญ่ๆ ดูหมายเลขขบวนรถของเราบนบอร์ด และจำหมายเลขประตูทางออกไว้ ข้างบนจะมีขนม น้ำ อาหารขาย แล้วก็ไปรอแถวๆ ประตูทางออก หมายเลขของเรา ข้างบนคนก็จะเยอะๆ หน่อย พอใกล้ถึงเวลาคนจีนก็จะเริ่มไปต่อแถวที่ประตูทางออกเราก็ลุกไปต่อกับเขา จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผ่านประตูคนจีนตั๋วสีแดงไม่ต้องสอดตั๋ว คนที่มีตั๋วสีฟ้าแบบเราต้องสอดตั๋วเข้าไปที่เครื่องกั้นก่อน ส่วนมากจะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ก็ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่เลย ผ่านเครื่องกั้นมาแล้วก็เดินหาหมายเลขตู้ของเรา จะมีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่หน้าตู้ เราก็ยื่นตั๋วให้เขา เขาก็จะชี้บอกเราเอง
ขึ้นมาบนรถแล้วก็หาหมายเลขเตียงให้ตรงกับตั๋วของเรา ห้องนึงจะมี 6 เตียง ฝั่งละ 3 ชั้น เราสองคนแม่ลูกเลือกนอนเตียงล่างสุดคนละฝั่ง ทั้งห้องนอนกัน 2 คน ไม่มีใครมานอนด้วย ด้านหน้าห้องจะมีที่ชาร์ตแบต แถวๆ ห้องน้ำจะมีตู้กดน้ำอุ่นฟรีด้วย หน้าห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้าแปรงฟัน ควรพกหน้ากากอนามัยไปด้วยเพราะคนจีนสูบบุหรี่กันบนรถ
วันที่ 2 เช้านี้ที่ลี่เจียง เราตื่นตั้งแต่ตีห้าตื่นมาพร้อมกับความหนาว แล้วไปล้างหน้าแปรงฟันเก็บของ ประมาณ 06.05 น. รถไฟก็มาจอดที่สถานีลี่เจียง ส่วนเราคิดว่ายังไม่ถึงเพราะในตารางเวลาบอกว่าจะถึงประมาณ 06.43 ก็เลยยังไม่ยอมลง จนมีแม่บ้านเข้ามาพูดภาษาจีนใส่ แล้วนางก็หายไปกลับมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกว่าลี่เจียงๆ โอเคลงก็ได้ เมื่อออกจากรถไฟแล้วก็เดินลงบันไดไปชั้นล่าง ออกมาข้างนอกสถานียังไม่สว่างเลย
เดินออกมาจากตัวอาคาร แล้วเดินไปที่ด้านหน้าจะมีป้ายรถเมล์ ถ้ามีคนมาชวนให้เหมารถ หรือเสนอโปรแกรมเที่ยวไม่ต้องไปสนใจเดินขึ้นรถเมล์เลยค่ารถ 1Y นั่งสาย 16 (หรือสาย 4 ก็ได้) จะไปลงด้านหลังเมืองเก่าลี่เจียง ขึ้นไปเอารูปเมืองเก่าให้คนขับดู บอกว่า กู่เฉิงโข่ว 古城口 (เมืองเก่าลี่เจียง Lijiang Old Town) ถ้าเขาพยักหน้าก็ขึ้นไปเลย ขึ้นไปแล้วหยอดแบงค์เข้าไปในตู้เก็บตังด้วย
นั่งมาสักพักเข้าเขตเมืองคนเริ่มทยอยลงจนหมด เอ๊ะ ! ทำไมไม่ถึงสักทีเลยถือรูปไปถามคนขับ เขาบอกประมาณว่าเลยมาแล้ว พร้อมกับจอดให้เราลง สองแม่ลูกรีบลงจากรถ แล้วเรียกแท๊กซี่คนขับเป็นผู้หญิงเอารูปให้เขาดูว่าเราจะไปตรงนี้เขาก็พาไปส่งตรงตรงทางเข้าด้านหลัง ค่ารถ 8Y
ลงจากแท๊กซี่แล้วเดินเข้าซอยเมืองเก่าปกติจะเก็บค่าเข้าเมือง 80Y แต่ช่วงที่เราไปเขาไม่เก็บค่าเข้า ได้เข้าฟรีไปอีก เราไม่ได้จองที่พักมา แต่หาข้อมูลไว้แล้วว่าจะพักที่ไหน เดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอก็ที่พักที่ดูไว้ เป็นสไตล์จีนโบราณ อาเฮียเจ้าของใจดีมาก ค่าที่พักคืนละ 85Y เราพัก 2 คืน
เก็บของแล้วก็ออกเดินเที่ยวในเมืองเก่า ช่วงที่เราไปเจอฟ้ามืดฝนตกเกือบทุกวัน เดินไปสระมังกรดำ ใช้ Map me และแผนที่ที่ปริ้นไป ในเมืองเก่าจะมีตรอกซอกซอยเยอะมาก ส่วนมากจะเชื่อมถึงกันหมด มีร้านอาหาร ร้านขายของเยอะ
เดินชิมอาหารไปเรื่อย ร้านไหนน่ากินก็แวะตลอดทาง
เข้าซอยนั้นออกซอยนี้ก็มาถึงย่านใจกลางเมืองเก่าที่มีกังหัน จากกังหันตรงนี้เราจะเดินไปสระมังกรดำ ไม่ต้องข้ามสะพานไปฝั่งกังหันนะคะ ตรงบันไดถ้ายืนหันหน้าเข้ากังหัน เดินไปฝั่งขวามือข้ามถนนไปแล้วจะมีซอย ให้เดินเข้าซอยตามลำธารไปเรื่อยๆ
จากกังหันเดินไปสระมังกรดำน่าจะเกือบ 1 กิโลเมตร เดินตามทางไปสักพักก็จะเจอกับซุ้มประตู เดินผ่านซุ้มนี้ไป
เดินไปจนสุดทางก็เจอกับประตูทางเข้าสระมังกรดำ เราจำค่าบัตรไม่ได้ แต่หลายๆ กระทู้บอกว่า 80Y แต่เราเสียประมาณ 50-60Y
เข้ามาได้แป๊บเดียวฝนก็ตกลงมา นั่งหลบฝนอยู่เกือบชั่วโมง จากนั้นเดินกลับทางเดิม
เดินกลับมาตรงกังหัน แล้วเดินออกไปตรงทางออกนอกเมือง เลี้ยวขวา เดินไปจนถึง 4 แยก เอาภาพรูปปั้นประธานเหมาเจ๋อตุงถามคนแถวนั้นดู เขาก็จะชี้บอกทางเราไปเอง เดินไปถามไปเรื่อยๆ จนเจอกับท่านเหมา ที่มาตรงนี้ก็เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะมาขึ้นรถตู้เพื่อไปภูเขาหิมะมังกรหยกนั่นเอง หรือจะซื้อทัวร์ไปก็ได้ไม่ต้องลำบาก มีรถมารับ มีอาหารให้ทาน แต่ก็จำกัดเวลาในการเที่ยว ค่าทัวร์ประมาณ 450-600Y ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจและความสามารถในการต่อ
เจอท่านเหมาแล้วก็เดินกลับทางเดิม กลับเข้ามาในเมืองเก่าวนเวียนเดินหาของกินไปเรื่อยๆ ขนมเปี๊ยะกุหลาบทานตอนร้อนๆ อร่อยมาก ค่ำแล้วเดินกลับที่พัก หลงเข้าซอยนั้นออกซอยนี้ เถียงกันเบาๆ สองคน แล้วลูกชายก็พาแม่กลับมาถึงที่พักจนได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้