ทริปบอกเลยว่ากว่าจะลากพาเพื่อนไปเที่ยวจีนได้ยากมากๆ แต่ไปแล้วกลับมาว้าวทุกคน อยากจะบอกว่าเที่ยวจีนไม่จีนอย่างที่คิด ลืมไปเลยความคิดเก่าๆ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วห้องน้ำเอาตรงๆสะอาดไม่ต่างจากที่กรุงเทพเลยแต่สถานที่ท่องเที่ยวสวยไม่แพ้สวิสกันไปเลย แต่ราคาประหยัดเหมือนเที่ยวในไทยเลยจ้า
เนื่องจากมีเวลาค่อนข้างจะจำกัดแค่4วัน3คืน เราเลยไปได้แค่คุนหมิงกับลี่เจียง ส่วนมากคนอื่นเค้าจะไปแชงกรีล่ากันต่อเลย แต่เราเวลาน้อยไม่ยากชะโงกทัวร์เอาตรงๆ เบื่อการเดินทางไกลๆ โชคดีเดี๋ยวนี้ คุนหมิง-ลี่เจียง เค้ามีรถไฟความเร็วสูงแล้วนั่งแค่3ชั่วโมงเอง ไม่ต้องนั่งรถไฟนอนแบบเมื่อก่อนแล้วรายละเอียดทริปตามนี้เลย
day1 กทม-คุนหมิง เที่ยวในเมืองคุนหมิง
day2 คุนหมิง-ลี่เจียง เที่ยวเมืองเก่าลี่เจียง
day3 1day trip ลี่เจียงทั้งวัน
day4 ลี่เจียง-คุนหมิง กลับกรุงเทพ
ค่าใช้จ่ายบอกเลยโคตรถูก
- ค่าตั๋วกรุงเทพ-คุนหมิงไปกลับแอร์เอเชีย 2600 บาท
- ค่ารถไฟ คุนหมิง-ลี่เจียง ไปกลับ 2200 บาท
- ค่าที่พัก3คืน คนละ1000 บาท (นอนสบายไม่มีห้องรวมที่จีนโรงแรมถูกเวอร์แถมสวยด้วย)
- ค่า1daytrip 550หยวน ประมาณ 2400บาท
- กินอยู่4วัน ใช้จ่ายจิปาถะ ประมาณ 3000 บาท
รวมประมาณ 11200 บาท คุ้มสะยิ่งกว่าคุ้มทริปนี้
แต่ในด้านดีก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ คือโชคดีในทริปนี้เรามีเพื่อนคนจีนเดินทางไปด้วยกัน ถ้าไม่ได้เค้า พูดได้คำเดียวเลยว่าฉิปหาย ติดต่ออะไรยากมากๆ คนจีนไม่พูดภาษาอังกฤษเลย สั่งอะไรก็ไม่มีรูปมีแต่ตัวอักษร โชคดีได้เพื่อนคนนี้ติดต่อไกด์ให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งการเดินทางค่อยกดเรียกแท็กซี่ให้ตลอด แนะนำเพื่อนๆที่จะไปเที่ยวจีนค่อยทำการบ้านศึกษามาให้อย่างดี แล้วคุณจะกลับมาเที่ยวเมืองจีนอีกแน่ๆเพราะที่เที่ยวเยอะมากๆ รับรองไปจีนครั้งเดียวไม่เคยพอ
เสียดายวันที่เราไปฝนเริ่มตก ทำให้ไม่เจอจามรี สักตัวเลยไม่รู้ไปแอบหลบฝนที่ไหนกันหมด
เมื่อมาเที่ยวเมืองเก่าลี่เจียง สิ่งที่สาวๆไม่พลาดคือเปลี่ยนชุดแปลงโฉมเป็นสาวจีนโบราณกันได้เลย แต่ละคนแต่งตัวนึกว่าหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายใน
Impression Lijiang เป็นผลงานที่สร้างสรรค์และนำเสนอโดย จางอี้โหมว เอาตรงๆนะเราไม่อินกับโชว์นี้สักเท่าไหร่ อาจจะเพราะฟังไม่รู้เรื่องก็มีส่วน
ที่พักคืนแรกที่คุนหมิง โรงแรมนี้ทำน่ารักดีครับ มีร้านอาหารอยู่ด้านในด้วย อาหารมีให้เลือกโคตรเยอะ แต่ไม่อร่อยสักอย่าง มีดีอย่างเดียวเบียร์
โคตรถูก แต่กาแฟดันแพงพอๆกับราคาข้าวงงชิป งานนี้พวกเราเลยกินแต่เบียร์แทนข้าวไปเลยฮ่าๆ
ทางโรงแรมมาลานกีฬาให้คนลงมาเล่นแก้เซ็งกันด้วย แต่เล่นได้ไม่เกิน5ทุ่มนะ ชาวบ้านเค้าจะนอน ถ้าใครตีปิงปองหลัง5ทุ่มน่าจะมีอะไรเขวี้ยงลงมาแน่ๆ
เดินเข้ามาเที่ยวในเมือง ก็จะเป็นพวกถนนคนเดิน เดินไปเดินมาเจอแต่ซุ้มประตูเยาวราชเต็มไปหมด บอกเลยงานนี้เดินหลงครับ จะไปประตูม้าทองเลยไม่ไปกันแล้ว
ด้านหน้าสถานีรถไฟ ไปเดินหลงๆอยู่ตั้งนานด้านใน เดี๋ยวนี้เค้าบอกไม่ต้องออกตั๋วแล้ว ใช้พาสปอร์ตยื่นตรงทางเข้าได้เลย หลอกพวกเราไปเป็นนังเด๋อ เดินวุ่นวายในสถานีอยู่ได้ตั้งนาน แต่ขากลับ ลี่เจียง-คุนหมิง ต้องไปออกตั๋วนะครับ เห็นอย่างนี้แต่ที่จีนเค้าพัฒนาไปไกลแล้วจ๊ะ
เห็นรถไฟครั้งแรก ตกกะใจหมดเลยนึกว่าวิ่งมาจากชินจูกุ นี่มันชิงคันเซ็นชัดๆ โอ๊ยบอกเลยงานนี้ไม่ธรรมดา ปกติสมัยก่อนคนนั่งรถไฟนอนจากคุนหมิงไปลี่เจียง9ชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้3ชั่วโมงก็ถึงแล้วนะ
ด้านในรถไฟนั่งสบายมีช่วงเสียบสายชาร์ต นั่งไปสักพักมีข้าวมีขนมผลไม้ขาย ใครที่กลัวหิวบอกเลยที่นี่มีขายทุก15นาที ไม่ต้องกลัวอด อิ่มแน่นอนงานนี้ ส่วนห้องน้ำบอกเลยว่าสะอาดมากๆ เข้าห้องน้ำรถไฟจีนแล้ว อยากจะให้รถไฟไทยเอาไปเป็นแบบอย่างบ้างจริงๆ
นั่งๆนอนๆ แปปเดียวก็ถึงลี่เจียงแล้ววว
[
วิวสองข้างทางบอกเลย สวยไม่แพ้จุดหมายปลายทางเลยจริงๆ เอาเป็นว่าดูวิวเพลินๆจนไม่อยากจะนอนเลยทีเดียว
[
ถึงที่พักที่เมืองเก่าลี่เจียง ก็มีคำถามอยู่ในใจ ว่าไอ้ตัวที่นั่งอยู่ตามหน้ารา้นขายของมันหมาหรือตัวอะไรฟ่ะ ตัวใหญ่มากๆแทบจะกินคนได้และที่แปลกคืนคนที่นี่แทบจะเลี้ยงหมาไว้ที่หน้าร้านเกือบทุกร้าน และที่สำคัญเค้าให้มันกินอะไรว่ะ ตัวถึงใหญ่ขนาดนั้น
[
บรรยากาศเมืองเก่าลี่เจียง เหมือนอยู่ในโรงถ่ายภาพยนต์จีนย้อนยุค นี่ขนาดพวกเราไม่ได้พักตรงประตูทางเข้าหลักนะ ถ้าพักตรงประตูทางเข้าเมืองเก่าคนน่าจะคึกคักกว่านี้
[
หลังจากเดินเล่นไปสักพัก เห็นแม่นางเซียวเหล่งนึ่ง เดินกันเต็มเมืองเก่าลี่เจียงเต็มไปหมด มีเหรออย่างพวกเราจะยอมน้อยหน้า เลยเช่าชุดทำผมกันบ้าง โดนค่าเสียหายไป80หยวน ต่อ1 ชั่วโมง ลื้อจะไปเดินเล่นที่ไหนก็ได้แต่ ถ้าเกิน1ชั่วโมง ลื้อจะโดนอีก80หยวน
ตอนแรกว่าจะแต่งเป็นแม่นางเซียวเหล่งนึ่ง แต่โดนเพื่อนๆยุ ๆแต่งเป็นตงฟางปุ๊ป้าย เกิดแน่นอน ที่นี่
มีแต่นางเอกเดินเต็มไปหมด มันต้องมีนางร้ายบ้างเว้ย สรุปแต่งเสร็จ เดินไปไหน
มีแต่คนขอถ่ายรูปจริงๆ สรุปค่าเช่า80หยวน คุ้มมม
[
ขนมเปี้ยสด ของขึ้นชื่อที่นี่ ถ้าใครมาไม่กินถือว่าพลาด แถมต้องกินใส้กุหลาบด้วยนะ คนทำมันก็ช่างสรรหาจริงๆ แต่มันก็อร่อยจริงๆนะ ใครไม่เคยลอง ควรลองและซื้อไปเป็นของฝากด้วยเพราะเบาอร่อยราคาไม่แพง
[
วันนี้ตื่นแหกขี้ตาแต่เช้า เพราะไกด์จะขับรถมารับโรงแรมเลย 08.00 วันนี้เราจะไปขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกกัน ดูโชว์และไป Blue moon valley แต่วิวสองข้างทางสวยเหมือนเดิน เราให้คนขับจอดแวะข้างทางถ่ายรูปกันจนคนขับบอก ลื้อจะไปขึ้นภูเขาไหม ต้องไปให้ทันกระเช้า9.30 นะเว้ย
ทางขึ้นกระเช้าใช้เวลาประมาณ15นาที โชคดีเราไปวันจันทร์ เค้าบอกคนไม่เยอะมากๆ ถ้าวันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะกว่านี้
ขึ้นไปจุดแรกน้ำตาแทบไหล มีแต่หมอกจ้า นั่งรอกว่าฟ้าจะเปิด ฟ้าก็เปิดจริงๆ แต่แบบมาไวไปไวมากๆ ส่วนกระป๋องที่ถืออยู่ในมือ ไม่ใช่ไบก้อนนะ มันคือกระป๋องอ๊อกซิเจน ใครจะมาเที่ยวที่นี่ซื้อมาเถอะได้ใช้แน่นอน เพราะเวลาเราเดินขึ้นภูเขาอากาศข้างบนมันจะยิ่งน้อยลง เดินไปเดินมาเริ่มเวียนหัว หยิบกระป่องมาหายใจเข้าก็เฮ้อเธอ สัก2ปรื้ดรับรองดีขึ้นแน่นอน แนะนำซื้อข้างล่างที่เมืองเก่านะ30หยวน ซื้อข้างบนเจอไป60หยวน เค้ารู้ว่ายังไงคุณก็ต้องใช้เลยอัพราคา
[
ถ้าใครจะถ่ายกับเจ้าตัวนี้ อีกคนละ 20หยวนครับ บอกเลยไม่ได้-เงินกูหรอกฮ่าๆ
ระยะทางไม่รู้อีกกี่ลี้ถึงจะไปถึงยอดเขา แต่พวกเราคุยกันแล้ว บอกเลยกูไม่ไปจ้า เดินแค่นี้ก็เวียนหัวจะตายแล้ว
[
"คุนหมิง-ลี่เจียง4วัน3คืนฉบับไม่ชะโงกทัวร์" part 1