คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า สถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAAA ทั้งเมืองโบราณ ภูเขาหิมะ ที่เป็นมรดกโลก สภาพอากกาศที่แสนบริสุทธิ์ วัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ นี่คือจัดเป็นทริปในฝันของนักเดินทางหลายๆคนเลย แต่ด้วยความที่เดินทางหลายต่อและอยู่ในประเทศจีนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเท่าไหร่นักเลยอาจทำให้หลายๆคนกลัวๆอยู่บ้าง วันนี้เราเลยจะมารีวิว วิธีการท่องเที่ยว วิธีการเตรียมตัว ไปจนถึงงบประมาณที่ใช้กันเพื่อประกอบการตัดสินใจกันค่ะ รูปอาจไม่สวยมากแต่จะพยายามให้ข้อมูลที่ละเอียดที่สุดเท่าที่รู้แทนละกัน เนื่องจากเป็นกระทู้แรก ผิดพลาดไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แพลนทริป
ขาไป เริ่มออกเดินทางจากกทม. วันที่ 10 เวลา 22:50 ---- ถึงคุนหมิง 02:00 +1 วัน เป็นวันที่ 11
วันที่ 11 ขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิง ---- ลี่เจียง เข้าที่พัก เดินเล่นเที่ยวเมืองเก่า เดินชมสระมังกรดำ
วันที่ 12 เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก ไป๋สุ่ยเหอ
วันที่ 13 เช็คเอ้าท์ออกจากลี่เจียง นั่งรถทัวร์ไปแชงกรีล่า เที่ยววัดซงจ้านหลิน วัดต้าฝอ(ตอนกลางคืน)
วันที่ 14 ภูเขาหิมะชือข่า นั่งรถทัวร์กลับลี่เจียง ต่อรถไฟตู้นอนกลับคุนหมิง
วันที่ 15 เดินเล่นชอปปิ้งในตัวเมือง สวนสาธารณะ green lake
ขากลับ บินจากคุนหมิง วันที่ 16 เวลา 02:55 ---- ถึงกทม 04:30
บินกับแอร์เอเชีย เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของทริปเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานและมีวันหยุดจำกัดกันมากจึงต้องประหยัดเวลาด้วยการบินออกจากกรุงเทพเลยเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ข้อดีคือไฟลท์พวกนี้มักจะถูกค่ะ ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะอยู่เลย แถมถึงเช้า งีบซีกครู่ แล้วเที่ยวได้เลยด้วยอันนี้เป็นความชอบส่วนตัว แต่ข้อเสียมันก็มีคือต้องบินไฟลท์ดึก ค่อนข้างทรหดไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ
ปล.ลืมบอกไป สมาชิกในทริปเป็นคนในบ้าน ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ วัยประมาณห้าสิบกว่ากับคุณพี่และตัวเรา วัยยี่สิบต้นๆ เนื่องด้วยที่พักตั้งอยู่ในตัวเมืองเก่าพื้นหินค่อนข้างขรุขระแล้วต้องเดินทางย้ายที่หลายเมือง อาจทำให้ล้อกระเป๋าลากพังได้และไม่สะดวกเท่าไหร่เราเลยใช้วิธีเดอะแบกกัน สัมภาระทั้งหมดจึงเป็นกระเป๋าแบคแพค ช่วยๆกันแบกไปคนละใบกระจายน้ำหนักกันค่ะ ในกรุ๊ปมีตัวเราพออ่านป้ายต่างๆได้+ฟังและพูดจีนได้นิดหน่อย(นิดจริงๆ นอกจากประโยคสั้นๆแล้วถ้ารัวจีนมาก็คือเป็นอึ้งเหมือนกันค่ะ) ซึ่งตรงนี้ไม่เป็นปัญหาเพราะเรามีสิ่งที่เรียกว่าแอพแปลภาษาและภาษามือค่ะไม่ต้องกลัว
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย วิธีการยื่นขอวีซ่าจีน เรากับแม่ช่วยกันหาข้อมูลจากพันทิปนี่ล่ะเกี่ยวกับการขอวีซ่าด้วยตนเองจะได้ไม่ต้องไปเสียตังค่ายื่นวีซ่าให้กับเอเจนซี่ต่างๆ โดยเรากับพี่จะเป็นคนรับมอบอำนาจไปยื่นแทนพ่อแม่ที่ติดทำงานค่ะ
การยื่นวีซ่าท่องเที่ยว
ของที่ต้องใช้
-passport เล่มจริงที่มีอายุเหลือเกิน 6 เดือน
-สำเนาpassport เซนต์รับรองสำเนาให้เรียบร้อย
-สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ(คนที่มายื่นแทน) อันนี้ห้ามลืมเลยเพราะค่าซีรอกซ์ที่นั่นหน้าละสามบาทแน่ะ
-เอกสารเซนต์รับมอบอำนาจ หาดูตัวอย่างได้จากในเว็บ
-รูปถ่าย พื้นหลังขาว ขนาด 1.5"x2" อันนี้เราไปถ่ายร้านมาโหลนึง 150 บาท บอกร้านว่าจะเอาไปทำวีซ่าจีนเค้าจะรู้ขนาดต่างๆและจัดการให้
-ข้อมูลไฟล์ทบิน ตั๋วรถไฟระหว่างเมือง และข้อมูลการจองที่พัก (อันนี้เราจองผ่าน Trip.com แบบยกเลิกได้เอาไว้ก่อน)
-แบบฟอร์มขอวีซ่าจีน เรากรอกข้อมูลผ่านทางออนไลน์ไปค่ะจะได้ไม่เสียเวลาหรือจะไปกรอกที่นั่นได้เหมือนกัน โดยเข้าไปกรอกได้ที่เว็บไซด์นี้
https://www.visaforchina.org/BKK_TH/howtogetavisa/quickaccess/index.shtml
กรอกเสร็จก็ปริ้นออกมาใส่กระดาษหนีบไว้เป็นชุดๆ เตรียมตัวไปยื่นกันเลยย
สถานที่ยื่นคือที่อาคาร ธนภูมิ นั่ง MRT ลงสถานีเพชรบุรี เดินออกมาทางออก 2 หันหน้าออกเลี้ยวซ้ายไปทางคอนโดQ Asok เดินตรงมาเรื่อยๆ ผ่านรร เซนดอมินิก แสดงว่าถูกทางแล้ว มาถึงแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ตรงไปเอาบัตรคิวเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้จะเป็นแผนที่เดินทางไปตึกธนภูมินะคะ
ตอนนั้นเรากับพี่รีบไปเพราะกลัวคนเยอะ ถึงประมาณ 9:00นิดๆ ยื่นเอกสารให้พี่ที่เคาท์เตอร์คัดกรองตรวจ เค้าให้บัตรคิวมา รอเรียกแล้วไปยื่นที่ช่อง จ่ายเงินสด 1,650 /เล่ม สิริเวลารวมแล้วประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็เก็บพาสปอร์ตเราไปแจ้งวันที่นัดรับอีก 4 วันให้หลังเป็นอันเรียบร้อย แนะนำให้รีบไปกันแต่เช้าไม่งั้นคิวจะเยอะแล้วนาน
การเตรียมตัว
-เช็คอุณหภูมิ สภาพอากาศ
ขั้นแรกของการเตรียมตัวเลย เนื่องจากเดือนมกราคม ยังอยู่ในช่วงหน้าหนาว ต้องเตรียมตัวมากหน่อยสำหรับมนุษย์เมืองร้อนอย่างพวกเรา โดยเราหาอ่านจากกระทู้ก่อนๆของคนที่ไปช่วงเดียวกันและดูสภาพอากาศปีก่อน ก็จะรู้ว่า ช่วงที่ไปอุณหภูมิจะแตกต่างกันตามแต่ละเมืองค่ะ โดยประมาณ
คุนหมิง = 15-17 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน 3-5
ลี่เจียง = 10-13 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน 4-5
แชงกรีล่า = 2 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน-10
เรียกได้ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวเลยทีเดียว ใดๆก็แล้วแต่ อากาศดีมากค่ะ สะอาดบริสุทธิ์ สดชื่นมากๆ ต่างจากกรุงเทพเมืองฝุ่น pm2.5 ลิบลับเลย แต่เมื่อวันใกล้ๆควรจะเช็คสภาพอากาศเรื่อยๆนะคะเผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะได้เตรียมตัวทัน โดยเราเช็คจากเว็บ weather.com ได้ล่วงหน้า 10 วัน ซึ่งก็ตรงและเชื่อถือได้อยู่
-เสื้อผ้า
หลังยื่นวีซ่าเสร็จยังเห็นว่าเหลือเวลา เราจึงเดินย้อนกลับไปที่สถานี mrt เพชรบุรี เดินไปทางขวา (ดูแผนที่ที่แนบไว้ข้างบนได้) จะไปเจอท่าเรือคลองแสนแสบค่ะ ท่าชื่ออโศก เราจะนั่งเรือนี้ไปยัง platinum เพื่อหาซื้อและสำรวจราคาเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวกันค่ะ ที่ต้องบอกว่าสำรวจราคาเพราะว่าบางอย่างเราจะไม่ได้ซื้อจากแพลตินั่มเลยทันที แต่อาศัยการเดินดูเนื้อผ้า ยี่ห้อ เทียบราคาดูกับใน shopee ถ้าใช่อันเดียวกันเราจะกดสั่งจากในแอพแทน ต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าไม่นับของที่มียี่ห้อแบรนด์ดัง ของพวกนี้ส่วนใหญ่ผลิตมาจากจีนทั้งนั้น ถ้าไม่เร่งด่วนแบบอีก 2-3 วันบิน กดสั่งแล้วรอมาส่งดีกว่า จะได้ราคาถูกกว่าครึ่งเลยค่ะ
ตัวอย่างเช่น เสื้อลองจอน 500 แต่ในแอพสั่งจากจีน รอประมาณ 7-20 วัน หรืออาจจะเร็วกว่า ราคา300 เอง
แต่บางอย่างเราก็ซื้อจากแพลตินั่มเลยเพราะร้านยอมให้ลองได้ เจ๊เจ้าของร้านน่ารักมากๆ ซื้อเสื้อไปเผื่อพ่อแต่ใส่ไม่พอดีก็ยอมให้เอากลับมาเปลี่ยนด้วย ซึ่งแหล่งซื้อเสื้อจะอยู่บริเวณชั้นใต้ดินตึกเก่าค่ะ รู้สึกถูกกว่าร้านข้างบน ไม่รู้คิดไปเองไหม 555555 ลองเดินหาเลือกเอาที่ถูกใจ
เสื้อผ้าเน้นอุ่นแต่ไม่เอาไปเยอะเพราะ
1 ขี้เกียจแบกเยอะหนัก
2 มันหนาวไม่มีเหงื่อเลยไม่ค่อยสกปรก แต่ยังไงก็แล้วแต่เรื่องเสื้อผ้านี่ก็ตามศรัทธาเลยค่ะ ใครสายไอจีเสื้อไม่ซ้ำ สายเรียบง่ายก็ตามสะดวกเลย
นิดนึงตรงการแพคของเราใช้ถุงสูญญากาศสูบเสื้อหนาวขนเป็ดและของพองๆออกให้แบนแต๋ แล้วจัดเซทไว้ เวลาหยิบออกมาใช้จะได้ง่ายไม่ต้องรื้อมากจนของเละด้วย ราคาถุงก็ไม่แพงและเอากลับมาใช้ซ้ำได้ ซื้อจากแอพสีส้มอีกเช่นกัน
-ยาต่างๆ
คนไทยหลายๆท่านจะมีอาการแพ้ที่สูงคือจะหน้ามืด วิงเวียน เพราะฉะนั้นควรเตรียมยาไปให้พร้อมค่ะ ในตัวเมืองเก่าลี่เจียงเท่าที่เดินมาไม่เจอร้านยาเลย หรือจะทานสมุนไพรก็ได้มีขายในเมืองทั้งลี่เจียง แชงกรีล่า เป็นขวดเล็กๆมาพร้อมหลอดดูด แต่ส่วนตัวบ้านเราไม่ได้กินอะไรทั้งนั้นค่ะอาศัยเตรียมร่างกายให้พร้อมเอา พอถึงเวลาเริ่มรู้สึกไม่ดีก็จะสูด ออกซิเจนกระป๋องกันเอา ซึ่งมีขายทั้งก่อนขึ้นและข้างบนภูเขาหิมะค่ะแต่แพงมากกระป๋องละ 60 元 ซึ่งทัวร์ส่วนใหญ่จะแถมมาอยู่แล้วแต่เป็ฯไซด์เล็ก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปซื้อเพิ่มเลยละกัน
-อาหาร
ที่คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า อาหารจะเป็นสไตล์ยุนนานค่ะ เป็นปิ้งย่างหม่าล่า เนื้อเสียบไม้ เส้น/ข้าวผัดมันๆ แรกๆก็อร่อย หลายๆมื้อเข้าก็ต้องวิ่งเข้าร้านฟาสฟูดเหมือนกันเพราะเลี่ยน555 ที่เจอก็จะเป็นทั่วไปเลยค่ะ Mcdonal Kfc dicos แต่พวกก๋วยเตี๋ยวก็มีนะ แต่เราไม่ชอบรสชาติมันต่างจากไทยแล้วก็ค่อนข้างจืด ส่วนอาหารสำเร็จรูปที่นั่นมีขายไม่ต้องขนไป ราคาไม่แพงมาก
อย่างมาม่า เราทานยี่ห้อ 康师傅 (KangShiFu) มีขายทุกหนทุกแห่งตั้งแต่คุนหมิงยันแชงกรีล่า สีที่รู้สึกว่าอร่อยและไม่เผ็ดคือสีเหลืองที่มีรูปเห็ดหอมกับน้ำเงิน 2อันนี้รสชาติจะไทยหน่อย ราคาประมาณ 4.5 元 อีกอย่างคือไข่ต้มสำเร็จ 蛋定卤鸡蛋 ราคาฟองละ 1-3 元 แล้วแต่ที่ เจ้าไข่ต้มดำๆนี่ล่ะคืออาหารช่วยชีวิตที่ซื้อติดไว้เลย หิวก็หยิบมาแกะทานได้สะดวก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้康师傅 และ 蛋定卤鸡蛋
蛋定卤鸡蛋 มีแบบที่เป็นไข่นกกระทาด้วยนะ 3 ฟองในหนึ่งห่อ น่ารักกุ้บกิ้บเป็นที่สุด
นอกจากนั้นเวลาขึ้นภูเขาหิมะ เราจะเตรียมช๊อคโกแล็ตและเอเนอจี้บาร์ ยี่ห้อต่างๆติดไม้ติดมือขึ้นไปด้วย เพราะของหวานช่วยเราได้มากทีเดียวเวลาเริ่มรู้สึกไม่ดี
-การจองที่พัก
ในลี่เจียงเราจองผ่าน Trip.com ค่ะ ส่วนในแชงกรีล่าเราจองผ่าน booking.com สองเว็บนี้ต่างกันยังไง?
Trip.com เป็นเว็บจีนจะมีที่พักที่เป็น local เยอะกว่ามากๆซึ่งราคาถูกกว่าที่พักใน Booking.com ด้วย แต่ต้องระวังให้ดี ที่พักบางที่ไม่สามารถรับลูกค้าที่เป็นต่างชาติได้มันจะไม่ยอมให้เราจอง หรือจะดูจากรีวิวก็ได้ว่ามีผู้เข้าพักเป็นชาวต่างชาติบ้างหรือเปล่า
โดยในลี่เจียงเราพักที่พักชื่อ Xinlinju Inn ตั้งอยู่ใน old town ราคาถูกดีมี facility ครบแม้จะแอบเก่าไปหน่อย แต่สต๊าฟน่ารักมากช่วยเหลือเราทุกอย่างผ่านแอพแปลภาษา เดินเข้าประตูมาเจอกันทีไรก็เชิญเรานั่งกินชาแบ่งขนมให้กิน ตอนเย็นมีเพื่อนบ้านทั้งป้าทั้งสาวๆมานั่งกินนั่งคุยด้วยอีก555แถมยังพูดอิ้งได้ช่วงนี้เลยมีคนคอยทรานภาษาให้เลยคุยสนุกนับว่าครึกครื้นมาก นอกจากนี้ขอเช็คเอ้าท์ก่อนเวลาที่ระบุไว้ได้ สำหรับเราให้คะแนนการบริการ 10/10 ส่วนสถานที่ 7/10 ทำเล 9/10 อยู่ในซอยเงียบสงบแต่ไม่ไกลถนนสายหลัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลืมถ่ายในห้องพักมา
ส่วนในแชงกรีล่าเราพักที่พักชื่อ yi's hostel ที่นี่คนไทยมาพักเยอะมาก เราจองห้องแฟมมิลี่ใต้หลังคา ข้อดีคือมีช่องแสงด้วย ตอนเช้าเลยอุ่นมากติดที่หลังคาเตี้ยไปหน่อย ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือสต๊าฟสื่อสารอิ้งคล่องช่วยเราได้มากทีเดียว มีบริการรับส่งจากสถานีรถบัสฟรี สำคัญคือทำเลสุดยอด ห่างจากวัดต้าฝอแค่ 5 นาที น้องแมวอ้วนน่ารักมาก ติดตรงที่ส่วนกลางเหม็นบุหรี่จัดๆ (ที่แชงสูบบุหรี่กันหนักมาก สูบในร้านข้าว ในห้องปิด ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ) สำหรับเราให้คะแนนการบริการ 10/10 ส่วนสถานที่ 8/10 ทำเล 10/10
ที่พักทั้งหมดจัดการจองเสร็จก็เมลกลับไปที่เว็บเพื่อขอ we chat ของโรงแรมเวลาหลงทางไปไม่ถูก จะได้ให้เขาแชร์โลเคชั่นในวีแชทมาได้ ซึ่งแมพโลเคชั่นในวีแชทเนี่ย ทั้งเวิร์ค ทั้งละเอียด และตรงกับเมืองเก่าลี่เจียงและแชงที่สุดแล้ว มีไว้ไม่หลงแน่นอนจ้า
เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องการจองรถไฟ การแลกเงิน ของที่ต้องเตรียมอีกนิดหน่อย และราคาค่าใช้จ่ายตลอดทริปนะคะ
[CR] รีวิวเที่ยว คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า มกราคม2020 [EP.1 วีซ่า/เตรียมของ/ค่าใช้จ่าย]
แพลนทริป
ขาไป เริ่มออกเดินทางจากกทม. วันที่ 10 เวลา 22:50 ---- ถึงคุนหมิง 02:00 +1 วัน เป็นวันที่ 11
วันที่ 11 ขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิง ---- ลี่เจียง เข้าที่พัก เดินเล่นเที่ยวเมืองเก่า เดินชมสระมังกรดำ
วันที่ 12 เที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก ไป๋สุ่ยเหอ
วันที่ 13 เช็คเอ้าท์ออกจากลี่เจียง นั่งรถทัวร์ไปแชงกรีล่า เที่ยววัดซงจ้านหลิน วัดต้าฝอ(ตอนกลางคืน)
วันที่ 14 ภูเขาหิมะชือข่า นั่งรถทัวร์กลับลี่เจียง ต่อรถไฟตู้นอนกลับคุนหมิง
วันที่ 15 เดินเล่นชอปปิ้งในตัวเมือง สวนสาธารณะ green lake
ขากลับ บินจากคุนหมิง วันที่ 16 เวลา 02:55 ---- ถึงกทม 04:30
บินกับแอร์เอเชีย เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของทริปเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานและมีวันหยุดจำกัดกันมากจึงต้องประหยัดเวลาด้วยการบินออกจากกรุงเทพเลยเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ข้อดีคือไฟลท์พวกนี้มักจะถูกค่ะ ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะอยู่เลย แถมถึงเช้า งีบซีกครู่ แล้วเที่ยวได้เลยด้วยอันนี้เป็นความชอบส่วนตัว แต่ข้อเสียมันก็มีคือต้องบินไฟลท์ดึก ค่อนข้างทรหดไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ
ปล.ลืมบอกไป สมาชิกในทริปเป็นคนในบ้าน ประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่ วัยประมาณห้าสิบกว่ากับคุณพี่และตัวเรา วัยยี่สิบต้นๆ เนื่องด้วยที่พักตั้งอยู่ในตัวเมืองเก่าพื้นหินค่อนข้างขรุขระแล้วต้องเดินทางย้ายที่หลายเมือง อาจทำให้ล้อกระเป๋าลากพังได้และไม่สะดวกเท่าไหร่เราเลยใช้วิธีเดอะแบกกัน สัมภาระทั้งหมดจึงเป็นกระเป๋าแบคแพค ช่วยๆกันแบกไปคนละใบกระจายน้ำหนักกันค่ะ ในกรุ๊ปมีตัวเราพออ่านป้ายต่างๆได้+ฟังและพูดจีนได้นิดหน่อย(นิดจริงๆ นอกจากประโยคสั้นๆแล้วถ้ารัวจีนมาก็คือเป็นอึ้งเหมือนกันค่ะ) ซึ่งตรงนี้ไม่เป็นปัญหาเพราะเรามีสิ่งที่เรียกว่าแอพแปลภาษาและภาษามือค่ะไม่ต้องกลัว
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย วิธีการยื่นขอวีซ่าจีน เรากับแม่ช่วยกันหาข้อมูลจากพันทิปนี่ล่ะเกี่ยวกับการขอวีซ่าด้วยตนเองจะได้ไม่ต้องไปเสียตังค่ายื่นวีซ่าให้กับเอเจนซี่ต่างๆ โดยเรากับพี่จะเป็นคนรับมอบอำนาจไปยื่นแทนพ่อแม่ที่ติดทำงานค่ะ
การยื่นวีซ่าท่องเที่ยว
ของที่ต้องใช้
-passport เล่มจริงที่มีอายุเหลือเกิน 6 เดือน
-สำเนาpassport เซนต์รับรองสำเนาให้เรียบร้อย
-สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ(คนที่มายื่นแทน) อันนี้ห้ามลืมเลยเพราะค่าซีรอกซ์ที่นั่นหน้าละสามบาทแน่ะ
-เอกสารเซนต์รับมอบอำนาจ หาดูตัวอย่างได้จากในเว็บ
-รูปถ่าย พื้นหลังขาว ขนาด 1.5"x2" อันนี้เราไปถ่ายร้านมาโหลนึง 150 บาท บอกร้านว่าจะเอาไปทำวีซ่าจีนเค้าจะรู้ขนาดต่างๆและจัดการให้
-ข้อมูลไฟล์ทบิน ตั๋วรถไฟระหว่างเมือง และข้อมูลการจองที่พัก (อันนี้เราจองผ่าน Trip.com แบบยกเลิกได้เอาไว้ก่อน)
-แบบฟอร์มขอวีซ่าจีน เรากรอกข้อมูลผ่านทางออนไลน์ไปค่ะจะได้ไม่เสียเวลาหรือจะไปกรอกที่นั่นได้เหมือนกัน โดยเข้าไปกรอกได้ที่เว็บไซด์นี้
https://www.visaforchina.org/BKK_TH/howtogetavisa/quickaccess/index.shtml
กรอกเสร็จก็ปริ้นออกมาใส่กระดาษหนีบไว้เป็นชุดๆ เตรียมตัวไปยื่นกันเลยย
สถานที่ยื่นคือที่อาคาร ธนภูมิ นั่ง MRT ลงสถานีเพชรบุรี เดินออกมาทางออก 2 หันหน้าออกเลี้ยวซ้ายไปทางคอนโดQ Asok เดินตรงมาเรื่อยๆ ผ่านรร เซนดอมินิก แสดงว่าถูกทางแล้ว มาถึงแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 ตรงไปเอาบัตรคิวเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนั้นเรากับพี่รีบไปเพราะกลัวคนเยอะ ถึงประมาณ 9:00นิดๆ ยื่นเอกสารให้พี่ที่เคาท์เตอร์คัดกรองตรวจ เค้าให้บัตรคิวมา รอเรียกแล้วไปยื่นที่ช่อง จ่ายเงินสด 1,650 /เล่ม สิริเวลารวมแล้วประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็เก็บพาสปอร์ตเราไปแจ้งวันที่นัดรับอีก 4 วันให้หลังเป็นอันเรียบร้อย แนะนำให้รีบไปกันแต่เช้าไม่งั้นคิวจะเยอะแล้วนาน
การเตรียมตัว
-เช็คอุณหภูมิ สภาพอากาศ
ขั้นแรกของการเตรียมตัวเลย เนื่องจากเดือนมกราคม ยังอยู่ในช่วงหน้าหนาว ต้องเตรียมตัวมากหน่อยสำหรับมนุษย์เมืองร้อนอย่างพวกเรา โดยเราหาอ่านจากกระทู้ก่อนๆของคนที่ไปช่วงเดียวกันและดูสภาพอากาศปีก่อน ก็จะรู้ว่า ช่วงที่ไปอุณหภูมิจะแตกต่างกันตามแต่ละเมืองค่ะ โดยประมาณ
คุนหมิง = 15-17 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน 3-5
ลี่เจียง = 10-13 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน 4-5
แชงกรีล่า = 2 องศา ตอนกลางวัน กลางคืน-10
เรียกได้ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวเลยทีเดียว ใดๆก็แล้วแต่ อากาศดีมากค่ะ สะอาดบริสุทธิ์ สดชื่นมากๆ ต่างจากกรุงเทพเมืองฝุ่น pm2.5 ลิบลับเลย แต่เมื่อวันใกล้ๆควรจะเช็คสภาพอากาศเรื่อยๆนะคะเผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะได้เตรียมตัวทัน โดยเราเช็คจากเว็บ weather.com ได้ล่วงหน้า 10 วัน ซึ่งก็ตรงและเชื่อถือได้อยู่
-เสื้อผ้า
หลังยื่นวีซ่าเสร็จยังเห็นว่าเหลือเวลา เราจึงเดินย้อนกลับไปที่สถานี mrt เพชรบุรี เดินไปทางขวา (ดูแผนที่ที่แนบไว้ข้างบนได้) จะไปเจอท่าเรือคลองแสนแสบค่ะ ท่าชื่ออโศก เราจะนั่งเรือนี้ไปยัง platinum เพื่อหาซื้อและสำรวจราคาเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวกันค่ะ ที่ต้องบอกว่าสำรวจราคาเพราะว่าบางอย่างเราจะไม่ได้ซื้อจากแพลตินั่มเลยทันที แต่อาศัยการเดินดูเนื้อผ้า ยี่ห้อ เทียบราคาดูกับใน shopee ถ้าใช่อันเดียวกันเราจะกดสั่งจากในแอพแทน ต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าไม่นับของที่มียี่ห้อแบรนด์ดัง ของพวกนี้ส่วนใหญ่ผลิตมาจากจีนทั้งนั้น ถ้าไม่เร่งด่วนแบบอีก 2-3 วันบิน กดสั่งแล้วรอมาส่งดีกว่า จะได้ราคาถูกกว่าครึ่งเลยค่ะ
ตัวอย่างเช่น เสื้อลองจอน 500 แต่ในแอพสั่งจากจีน รอประมาณ 7-20 วัน หรืออาจจะเร็วกว่า ราคา300 เอง
แต่บางอย่างเราก็ซื้อจากแพลตินั่มเลยเพราะร้านยอมให้ลองได้ เจ๊เจ้าของร้านน่ารักมากๆ ซื้อเสื้อไปเผื่อพ่อแต่ใส่ไม่พอดีก็ยอมให้เอากลับมาเปลี่ยนด้วย ซึ่งแหล่งซื้อเสื้อจะอยู่บริเวณชั้นใต้ดินตึกเก่าค่ะ รู้สึกถูกกว่าร้านข้างบน ไม่รู้คิดไปเองไหม 555555 ลองเดินหาเลือกเอาที่ถูกใจ
เสื้อผ้าเน้นอุ่นแต่ไม่เอาไปเยอะเพราะ
1 ขี้เกียจแบกเยอะหนัก
2 มันหนาวไม่มีเหงื่อเลยไม่ค่อยสกปรก แต่ยังไงก็แล้วแต่เรื่องเสื้อผ้านี่ก็ตามศรัทธาเลยค่ะ ใครสายไอจีเสื้อไม่ซ้ำ สายเรียบง่ายก็ตามสะดวกเลย
นิดนึงตรงการแพคของเราใช้ถุงสูญญากาศสูบเสื้อหนาวขนเป็ดและของพองๆออกให้แบนแต๋ แล้วจัดเซทไว้ เวลาหยิบออกมาใช้จะได้ง่ายไม่ต้องรื้อมากจนของเละด้วย ราคาถุงก็ไม่แพงและเอากลับมาใช้ซ้ำได้ ซื้อจากแอพสีส้มอีกเช่นกัน
-ยาต่างๆ
คนไทยหลายๆท่านจะมีอาการแพ้ที่สูงคือจะหน้ามืด วิงเวียน เพราะฉะนั้นควรเตรียมยาไปให้พร้อมค่ะ ในตัวเมืองเก่าลี่เจียงเท่าที่เดินมาไม่เจอร้านยาเลย หรือจะทานสมุนไพรก็ได้มีขายในเมืองทั้งลี่เจียง แชงกรีล่า เป็นขวดเล็กๆมาพร้อมหลอดดูด แต่ส่วนตัวบ้านเราไม่ได้กินอะไรทั้งนั้นค่ะอาศัยเตรียมร่างกายให้พร้อมเอา พอถึงเวลาเริ่มรู้สึกไม่ดีก็จะสูด ออกซิเจนกระป๋องกันเอา ซึ่งมีขายทั้งก่อนขึ้นและข้างบนภูเขาหิมะค่ะแต่แพงมากกระป๋องละ 60 元 ซึ่งทัวร์ส่วนใหญ่จะแถมมาอยู่แล้วแต่เป็ฯไซด์เล็ก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปซื้อเพิ่มเลยละกัน
-อาหาร
ที่คุนหมิง ลี่เจียง แชงกรีล่า อาหารจะเป็นสไตล์ยุนนานค่ะ เป็นปิ้งย่างหม่าล่า เนื้อเสียบไม้ เส้น/ข้าวผัดมันๆ แรกๆก็อร่อย หลายๆมื้อเข้าก็ต้องวิ่งเข้าร้านฟาสฟูดเหมือนกันเพราะเลี่ยน555 ที่เจอก็จะเป็นทั่วไปเลยค่ะ Mcdonal Kfc dicos แต่พวกก๋วยเตี๋ยวก็มีนะ แต่เราไม่ชอบรสชาติมันต่างจากไทยแล้วก็ค่อนข้างจืด ส่วนอาหารสำเร็จรูปที่นั่นมีขายไม่ต้องขนไป ราคาไม่แพงมาก
อย่างมาม่า เราทานยี่ห้อ 康师傅 (KangShiFu) มีขายทุกหนทุกแห่งตั้งแต่คุนหมิงยันแชงกรีล่า สีที่รู้สึกว่าอร่อยและไม่เผ็ดคือสีเหลืองที่มีรูปเห็ดหอมกับน้ำเงิน 2อันนี้รสชาติจะไทยหน่อย ราคาประมาณ 4.5 元 อีกอย่างคือไข่ต้มสำเร็จ 蛋定卤鸡蛋 ราคาฟองละ 1-3 元 แล้วแต่ที่ เจ้าไข่ต้มดำๆนี่ล่ะคืออาหารช่วยชีวิตที่ซื้อติดไว้เลย หิวก็หยิบมาแกะทานได้สะดวก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกจากนั้นเวลาขึ้นภูเขาหิมะ เราจะเตรียมช๊อคโกแล็ตและเอเนอจี้บาร์ ยี่ห้อต่างๆติดไม้ติดมือขึ้นไปด้วย เพราะของหวานช่วยเราได้มากทีเดียวเวลาเริ่มรู้สึกไม่ดี
-การจองที่พัก
ในลี่เจียงเราจองผ่าน Trip.com ค่ะ ส่วนในแชงกรีล่าเราจองผ่าน booking.com สองเว็บนี้ต่างกันยังไง?
Trip.com เป็นเว็บจีนจะมีที่พักที่เป็น local เยอะกว่ามากๆซึ่งราคาถูกกว่าที่พักใน Booking.com ด้วย แต่ต้องระวังให้ดี ที่พักบางที่ไม่สามารถรับลูกค้าที่เป็นต่างชาติได้มันจะไม่ยอมให้เราจอง หรือจะดูจากรีวิวก็ได้ว่ามีผู้เข้าพักเป็นชาวต่างชาติบ้างหรือเปล่า
โดยในลี่เจียงเราพักที่พักชื่อ Xinlinju Inn ตั้งอยู่ใน old town ราคาถูกดีมี facility ครบแม้จะแอบเก่าไปหน่อย แต่สต๊าฟน่ารักมากช่วยเหลือเราทุกอย่างผ่านแอพแปลภาษา เดินเข้าประตูมาเจอกันทีไรก็เชิญเรานั่งกินชาแบ่งขนมให้กิน ตอนเย็นมีเพื่อนบ้านทั้งป้าทั้งสาวๆมานั่งกินนั่งคุยด้วยอีก555แถมยังพูดอิ้งได้ช่วงนี้เลยมีคนคอยทรานภาษาให้เลยคุยสนุกนับว่าครึกครื้นมาก นอกจากนี้ขอเช็คเอ้าท์ก่อนเวลาที่ระบุไว้ได้ สำหรับเราให้คะแนนการบริการ 10/10 ส่วนสถานที่ 7/10 ทำเล 9/10 อยู่ในซอยเงียบสงบแต่ไม่ไกลถนนสายหลัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนในแชงกรีล่าเราพักที่พักชื่อ yi's hostel ที่นี่คนไทยมาพักเยอะมาก เราจองห้องแฟมมิลี่ใต้หลังคา ข้อดีคือมีช่องแสงด้วย ตอนเช้าเลยอุ่นมากติดที่หลังคาเตี้ยไปหน่อย ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือสต๊าฟสื่อสารอิ้งคล่องช่วยเราได้มากทีเดียว มีบริการรับส่งจากสถานีรถบัสฟรี สำคัญคือทำเลสุดยอด ห่างจากวัดต้าฝอแค่ 5 นาที น้องแมวอ้วนน่ารักมาก ติดตรงที่ส่วนกลางเหม็นบุหรี่จัดๆ (ที่แชงสูบบุหรี่กันหนักมาก สูบในร้านข้าว ในห้องปิด ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ) สำหรับเราให้คะแนนการบริการ 10/10 ส่วนสถานที่ 8/10 ทำเล 10/10
ที่พักทั้งหมดจัดการจองเสร็จก็เมลกลับไปที่เว็บเพื่อขอ we chat ของโรงแรมเวลาหลงทางไปไม่ถูก จะได้ให้เขาแชร์โลเคชั่นในวีแชทมาได้ ซึ่งแมพโลเคชั่นในวีแชทเนี่ย ทั้งเวิร์ค ทั้งละเอียด และตรงกับเมืองเก่าลี่เจียงและแชงที่สุดแล้ว มีไว้ไม่หลงแน่นอนจ้า
เดี๋ยวจะมาต่อเรื่องการจองรถไฟ การแลกเงิน ของที่ต้องเตรียมอีกนิดหน่อย และราคาค่าใช้จ่ายตลอดทริปนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้