*****กระทู้นี้ให้สนว่าเราเป็นคนนึงที่มาเล่า เราจะเล่าเรื่องที่เป็นความจริงจากคนที่มีใจและเป็นผู้หญิงคนนึงก็พอ*****
เราเป็นคนที่โตมากับครอบครัวที่แม่ชอบคิตตี้ เราก็ซึมซับแล้วโตมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างจะน่ารัก หวานๆ แต่คุณแม่เป็นคนที่ดุแต่จริงใจเด็ดขาด
เราก็โตมาเป็นคนที่ใสๆ หวานเพราะอาจจะชินกับที่ครอบครัวเป็น และตัวเราชอบสีชมพู เราเป็นคนแต่งหน้าน้อยไม่ชอบอะไรโบกหน้าเยอะ เรียบร้อย เหมือนคุณแม่ตรงนี้ แต่สิ่ที่ไม่เหมือนคุณแม่เลยคือ แต่เราจะเป็นคนที่อ่อนแอ เซนซิทีฟ แคร์คนอื่นมากไป บุคลิคคือวางตัวกับทุกคนคือ สดใส ไม่ค่อยชัดเจนในตัวเองกับคนอื่นมากนัก จะเป็นอารมณ์ฟุ้งๆ น่าจะเดาคาแรคเตอร์เราออกนะค้ะ ไม่เที่ยวกลางคืนเลย ย้ำว่าเลย อาจทำให้อ่อนต่อโลกไปหรือเปล่า ตอนเรียนมัธยมก็ไม่เท่าไหร่หรอกแค่ปรับตัวเราให้สังคมยอมรับและเป็นที่รักใคร่ของทุกคนก็พอแล้ว
พอเข้าช่วงมหาลัยจากที่เคยคาดหวังไว้ว่าอะไรมันคงจะสวยงามเหมือนในนิยายสินะ เราเป็นคนที่
ชอบอะไรที่เป็นนิยาย อยู่ๆไปก็เริ่มรับรู้ความจริงว่าอะไรมันก็ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น มันทำให้เรารู้สึกผิดหวัง ทั้งๆที่เราชอบตั้งความหวังเกือบจะทุกเรื่อง
มันทำให้เรามีโลกที่ดารค์ขึ้น จากแต่ก่อนจะไว้ใจใครง่ายมาก สนิทกับคใรเร็ว เจอด่านแรกเลยคือ เพื่อนนินทาลับหลัง พอเราไม่อยู่ก็แอบนินทาเรา พอเรารู้ก็เสียใจมากนะไม่คิดว่าเพื่อนที่ตีหน้าซื่อขำๆเล่นๆกับเราจะคิดกับเราแบบนี้ทั้งๆที่เราไม่เคยไปทำร้ายเขา นินทาไม่พอใส่ไฟให้เราดูแย่ในสายตาคนอื่นต้อง
ไปเล่าไปขยายความเรื่องของเรา ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากนักหรอก แต่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญของผู้หญิง เช่น เออเราไปนินทาว่าไม่ชอบคนนู้นคนนี้
เออมันเสียใจนะ แล้วโชคร้ายของเราที่ไปอยู่ในกลุ่มที่มีเรื่องหมาดหมางกับอีกกลุ่มทั้งๆที่เราไม่ใช่คนก่อเรื่อง เพื่อนในกลุ่มมีปัญหากับอีกกลุ่ม เราดัยซวยพาโดนเขาจะมาตบ แต่ก็เคลียร์กันได้น่ะนะ แต่มันไม่จบแค่นั้นผู้หญิงมันไม่จบแบบ จบคือจบ แบบผู้ชายไม่ใช่ ทำให่เราโดนคนอื่นเกลียดไปเลยเพราะเราเหมือนเรียบร้อยไป น่ารักไปหรือเปล่าอันนี้ไม่ได้คิดไปเอง มีคนบอกเราว่าเรียบร้อยจัง คือเราโดนเกลียดจากคำพูดของคนอื่นบ่อยมาก โดนมองจากคนที่ไม่รู้จัก
โดนตัดสินไปแล้วว่าเป็นคนยังไง ทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้จักกันเลยว่าเราเป็นคนยังไง เสียใจมาก เราคาดหวังกับความรักไว้ว่า จะเจอคนที่ให้เกียรติเรา รักเรา
คนเดียวอะไรๆคงจะสวยงามและน่ารักเหมือนในหนังในละครแต่เรากลับได้รับอะไรที่เราคิดว่ามันทำให้เราเกือบจะ "ฆ่าตัวตาย" เพราะไม่รู้ว่าเราดูใสๆซื่อๆหรือเปล่า วางตัวผิดหรือเปล่า ผู้ชายที่เข้ามาจีบหรือมาคุยคือ ตอนแรกเทคแคร์ดีมาก มุ้งมิ้งกัน เราก็ดีใจที่ได้เจอคนที่เราหวังไว้ แต่สักพักเซนต์ของคนเราอ่ะเนอะมันมี มันดูออกว่าผู้ชายเป็นยังไง ไปสืบหรือมันต้องมีอะไรมาบอกแหละว่าเขาไม่ได้คุยกับแค่เราคนเดียว ตอนที่รู้ความจริงว่า คนที่คุยแต่ละคนคือ คุยหลายคน หรือ มีแฟนแล้วคือโลกที่หวังไว้พัง เกือบจะไปเป็นมือที่สาม แต่เราดีตรงที่แม่สอนมา เราเชื่อในเรื่องเวรกรรมมาก เลยถอยออกมาตั้งหลักเลิกคุยกัน ตอนคุยกันนี่แหละ เลยไม่ถึงขั้นมีแค่เราสองคนนะ หรือมีอะไรกันก่อน สิ่งนี้เราภูมิใจมากที่เราไม่เคยไปเป็นมือที่สามของใคร
พอรู้โลกแห่งความจริงว่า ผู้ชายแทบจะทุกคนคือเจ้าชู้ อ่านจากเฟสบุ๊ค "รักกันอยู่ดีๆสามีก็ไปมีบ้านเล็ก" คือทำให้เราผิดหวังกับอนาคตที่วาดไว้ เราเจอเรื่องร้ายจนเริ่มเฉยชาลง จากสดใจกลายเป็ยไว้ใจใครยาก กลัวความรักไปเลยกลัวว่าสักวันถ้ารักกันมากแล้วต้องมาเสียไปมันจะแย่กว่าตอนที่เราเพิ่งจะคุยกัน มันทำให้เราเกลียดตัวเองนะ แบบทำไมสิ่งที่เราเป็นคนใสๆ เรียบร้อยไม่ใช่แรง ชอบที่จะเป็นแบบนี้ และมองว่าผู้หญิงแบบนี้มักจะเจอความรักที่ดี แบบ "พิมฐา" ไม่รู้สิเรามองแบบนั้น มองว่าผู้หญิงพิมพ์นิยมมักเจอความรักที่สวยงาม ซึ่งอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ความคิดเราเป็นแบบนี้ แต่ของเรากลับไม่ใช่เลย ถ้าสักวันต้องไปเป็นมือที่สามเรารับไม่ได้อ่ะ เรายิ่งแคร์คนอื่นมากอยู่เดี๋ยวจะโดนตราหน้าหนักกว่าเดิม สิ่งเดียวที่เรามีตอนนี้คือ "แม่" แม่ให้เราได้ทุกอย่าง เราเจออะไรมาแม่จะเป็นคนที่ทำให้เรายิ้มและอุ่นใจเกือบทุกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะมีเรื่องให้เราผิดใจกับแม่บ้าง แต่แม่คือคนเดียวที่เราไว้ใจมากที่สุด เราทำอะไรให้แม่ตอบแทนแม่ แม่คือคนเดียวที่เห็นเรา เราอยากให้แม่อยู่กับเราตลอดไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องมีพบมีจาก เราอ่อนแอถึงขั้นที่ว่า เราอยากตายก่อนแม่ เพราะทนอยู่คนเดียวโดยไม่มีแม่ไม่ได้แน่ พี่น้องเราก็มีแต่นิสัยต่างกันต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว เราคนเดียวที่โสดและไม่กล้ามีความรัก บางทีก็คิดนะว่า ตอนนี้เราใช้ชีวิตคนเดียวมันก็ดีนะ มีอิสระ อยากไปไหนไป มีแค่แม่เรา กับแมวที่บ้านก็โอเคแล้ว ถึงจะเหงาบ้างเห็นคนคู่กัน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ยังดีซะกว่าเจอคนร้ายๆทำลายความรู้สึกเราจนเราอาจจะทำร้ายตัวเองอีก ไม่อยากได้แล้ว ถึงจะใช้ชีวิตคนเดียวแต่ก็สบายใจเก็บเงินให้พอตัวเราตอบแทนสังคมแค่นี้เราก็พอใจแล้ว
บุคลิกใสๆ หวาน ใจดีไนช์ กับชีวิตได้รับอะไรที่ตรงกันข้าม
เราเป็นคนที่โตมากับครอบครัวที่แม่ชอบคิตตี้ เราก็ซึมซับแล้วโตมาในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างจะน่ารัก หวานๆ แต่คุณแม่เป็นคนที่ดุแต่จริงใจเด็ดขาด
เราก็โตมาเป็นคนที่ใสๆ หวานเพราะอาจจะชินกับที่ครอบครัวเป็น และตัวเราชอบสีชมพู เราเป็นคนแต่งหน้าน้อยไม่ชอบอะไรโบกหน้าเยอะ เรียบร้อย เหมือนคุณแม่ตรงนี้ แต่สิ่ที่ไม่เหมือนคุณแม่เลยคือ แต่เราจะเป็นคนที่อ่อนแอ เซนซิทีฟ แคร์คนอื่นมากไป บุคลิคคือวางตัวกับทุกคนคือ สดใส ไม่ค่อยชัดเจนในตัวเองกับคนอื่นมากนัก จะเป็นอารมณ์ฟุ้งๆ น่าจะเดาคาแรคเตอร์เราออกนะค้ะ ไม่เที่ยวกลางคืนเลย ย้ำว่าเลย อาจทำให้อ่อนต่อโลกไปหรือเปล่า ตอนเรียนมัธยมก็ไม่เท่าไหร่หรอกแค่ปรับตัวเราให้สังคมยอมรับและเป็นที่รักใคร่ของทุกคนก็พอแล้ว
พอเข้าช่วงมหาลัยจากที่เคยคาดหวังไว้ว่าอะไรมันคงจะสวยงามเหมือนในนิยายสินะ เราเป็นคนที่
ชอบอะไรที่เป็นนิยาย อยู่ๆไปก็เริ่มรับรู้ความจริงว่าอะไรมันก็ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น มันทำให้เรารู้สึกผิดหวัง ทั้งๆที่เราชอบตั้งความหวังเกือบจะทุกเรื่อง
มันทำให้เรามีโลกที่ดารค์ขึ้น จากแต่ก่อนจะไว้ใจใครง่ายมาก สนิทกับคใรเร็ว เจอด่านแรกเลยคือ เพื่อนนินทาลับหลัง พอเราไม่อยู่ก็แอบนินทาเรา พอเรารู้ก็เสียใจมากนะไม่คิดว่าเพื่อนที่ตีหน้าซื่อขำๆเล่นๆกับเราจะคิดกับเราแบบนี้ทั้งๆที่เราไม่เคยไปทำร้ายเขา นินทาไม่พอใส่ไฟให้เราดูแย่ในสายตาคนอื่นต้อง
ไปเล่าไปขยายความเรื่องของเรา ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมากนักหรอก แต่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญของผู้หญิง เช่น เออเราไปนินทาว่าไม่ชอบคนนู้นคนนี้
เออมันเสียใจนะ แล้วโชคร้ายของเราที่ไปอยู่ในกลุ่มที่มีเรื่องหมาดหมางกับอีกกลุ่มทั้งๆที่เราไม่ใช่คนก่อเรื่อง เพื่อนในกลุ่มมีปัญหากับอีกกลุ่ม เราดัยซวยพาโดนเขาจะมาตบ แต่ก็เคลียร์กันได้น่ะนะ แต่มันไม่จบแค่นั้นผู้หญิงมันไม่จบแบบ จบคือจบ แบบผู้ชายไม่ใช่ ทำให่เราโดนคนอื่นเกลียดไปเลยเพราะเราเหมือนเรียบร้อยไป น่ารักไปหรือเปล่าอันนี้ไม่ได้คิดไปเอง มีคนบอกเราว่าเรียบร้อยจัง คือเราโดนเกลียดจากคำพูดของคนอื่นบ่อยมาก โดนมองจากคนที่ไม่รู้จัก
โดนตัดสินไปแล้วว่าเป็นคนยังไง ทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้จักกันเลยว่าเราเป็นคนยังไง เสียใจมาก เราคาดหวังกับความรักไว้ว่า จะเจอคนที่ให้เกียรติเรา รักเรา
คนเดียวอะไรๆคงจะสวยงามและน่ารักเหมือนในหนังในละครแต่เรากลับได้รับอะไรที่เราคิดว่ามันทำให้เราเกือบจะ "ฆ่าตัวตาย" เพราะไม่รู้ว่าเราดูใสๆซื่อๆหรือเปล่า วางตัวผิดหรือเปล่า ผู้ชายที่เข้ามาจีบหรือมาคุยคือ ตอนแรกเทคแคร์ดีมาก มุ้งมิ้งกัน เราก็ดีใจที่ได้เจอคนที่เราหวังไว้ แต่สักพักเซนต์ของคนเราอ่ะเนอะมันมี มันดูออกว่าผู้ชายเป็นยังไง ไปสืบหรือมันต้องมีอะไรมาบอกแหละว่าเขาไม่ได้คุยกับแค่เราคนเดียว ตอนที่รู้ความจริงว่า คนที่คุยแต่ละคนคือ คุยหลายคน หรือ มีแฟนแล้วคือโลกที่หวังไว้พัง เกือบจะไปเป็นมือที่สาม แต่เราดีตรงที่แม่สอนมา เราเชื่อในเรื่องเวรกรรมมาก เลยถอยออกมาตั้งหลักเลิกคุยกัน ตอนคุยกันนี่แหละ เลยไม่ถึงขั้นมีแค่เราสองคนนะ หรือมีอะไรกันก่อน สิ่งนี้เราภูมิใจมากที่เราไม่เคยไปเป็นมือที่สามของใคร
พอรู้โลกแห่งความจริงว่า ผู้ชายแทบจะทุกคนคือเจ้าชู้ อ่านจากเฟสบุ๊ค "รักกันอยู่ดีๆสามีก็ไปมีบ้านเล็ก" คือทำให้เราผิดหวังกับอนาคตที่วาดไว้ เราเจอเรื่องร้ายจนเริ่มเฉยชาลง จากสดใจกลายเป็ยไว้ใจใครยาก กลัวความรักไปเลยกลัวว่าสักวันถ้ารักกันมากแล้วต้องมาเสียไปมันจะแย่กว่าตอนที่เราเพิ่งจะคุยกัน มันทำให้เราเกลียดตัวเองนะ แบบทำไมสิ่งที่เราเป็นคนใสๆ เรียบร้อยไม่ใช่แรง ชอบที่จะเป็นแบบนี้ และมองว่าผู้หญิงแบบนี้มักจะเจอความรักที่ดี แบบ "พิมฐา" ไม่รู้สิเรามองแบบนั้น มองว่าผู้หญิงพิมพ์นิยมมักเจอความรักที่สวยงาม ซึ่งอาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ความคิดเราเป็นแบบนี้ แต่ของเรากลับไม่ใช่เลย ถ้าสักวันต้องไปเป็นมือที่สามเรารับไม่ได้อ่ะ เรายิ่งแคร์คนอื่นมากอยู่เดี๋ยวจะโดนตราหน้าหนักกว่าเดิม สิ่งเดียวที่เรามีตอนนี้คือ "แม่" แม่ให้เราได้ทุกอย่าง เราเจออะไรมาแม่จะเป็นคนที่ทำให้เรายิ้มและอุ่นใจเกือบทุกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะมีเรื่องให้เราผิดใจกับแม่บ้าง แต่แม่คือคนเดียวที่เราไว้ใจมากที่สุด เราทำอะไรให้แม่ตอบแทนแม่ แม่คือคนเดียวที่เห็นเรา เราอยากให้แม่อยู่กับเราตลอดไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องมีพบมีจาก เราอ่อนแอถึงขั้นที่ว่า เราอยากตายก่อนแม่ เพราะทนอยู่คนเดียวโดยไม่มีแม่ไม่ได้แน่ พี่น้องเราก็มีแต่นิสัยต่างกันต่างคนต่างมีครอบครัวแล้ว เราคนเดียวที่โสดและไม่กล้ามีความรัก บางทีก็คิดนะว่า ตอนนี้เราใช้ชีวิตคนเดียวมันก็ดีนะ มีอิสระ อยากไปไหนไป มีแค่แม่เรา กับแมวที่บ้านก็โอเคแล้ว ถึงจะเหงาบ้างเห็นคนคู่กัน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ยังดีซะกว่าเจอคนร้ายๆทำลายความรู้สึกเราจนเราอาจจะทำร้ายตัวเองอีก ไม่อยากได้แล้ว ถึงจะใช้ชีวิตคนเดียวแต่ก็สบายใจเก็บเงินให้พอตัวเราตอบแทนสังคมแค่นี้เราก็พอใจแล้ว