ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
สรุป
1.คุณแม่ จขกท ตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้งสองข้าง เมื่อ 3 ปี ผ่านมา( ตัดออกตอนอายุ 47 เพราะตอนนี้อายุ 50)
2.มีอาการของวัยทองตั้งแต่ หลังผ่าตัด ระยะนี้เป็นหนักมาก
3.จขกท ไม่ได้เล่าว่าคุณแม่ได้รับฮอร์โมนทดแทนหรือไม่ เข้าใจว่าน่าจะไม่ได้รับ เพราะเกิดอาการตั้งแต่หลังผ่าตัด
คำแนะนำ
อาการที่เกิดขึ้น เป็นอาการของการขากฮอร์โมนจากรังไข่
หลังตัดรังไข่ออกไปในช่วงที่รังไข่ยังทำงานอยู่ (ยังมีประจำเดือนอยู่) อาการจะรุนแรงและชัดเจนกว่าผู้ที่เข้าวัยทองตามธรรมชาติ
ประมาณ 75 % ของผู้ขาดฮอร์โมน อาการจะค่อยๆน้อยลง บางคนหายไปเลยเมื่อขาดฮอร์โมนไป 3-5 ปี
แต่คุณแม่ จขกท อาการไม่หายไป กลับรุนแรงมากขึ้น จนคนรอบข้างสังเกตเห็น ควรพาคุณแม่ไปพบสูตินรีแพทย์ด้านฮอร์โมนสตรี ค่ะ
นอกจากเกิดอาการที่บั่นทอนสุขภาพแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็น ไม่เกิดอาการ แต่อันตรายมากถ้าปล่อยไว้
คือ 1. กระดูกบางลงเรื่อยๆ จนเกิดกระดูกพรุนในที่สุด 2. ไขมันในเลือดสูงโดยเฉพาะไขมันเลว
จึงควรพาคุณแม่ไปพบสูตินรีแพทย์ดังกล่าว เป็นอย่างยิ่ง ค่ะ
1.คุณแม่ จขกท ตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้งสองข้าง เมื่อ 3 ปี ผ่านมา( ตัดออกตอนอายุ 47 เพราะตอนนี้อายุ 50)
2.มีอาการของวัยทองตั้งแต่ หลังผ่าตัด ระยะนี้เป็นหนักมาก
3.จขกท ไม่ได้เล่าว่าคุณแม่ได้รับฮอร์โมนทดแทนหรือไม่ เข้าใจว่าน่าจะไม่ได้รับ เพราะเกิดอาการตั้งแต่หลังผ่าตัด
คำแนะนำ
อาการที่เกิดขึ้น เป็นอาการของการขากฮอร์โมนจากรังไข่
หลังตัดรังไข่ออกไปในช่วงที่รังไข่ยังทำงานอยู่ (ยังมีประจำเดือนอยู่) อาการจะรุนแรงและชัดเจนกว่าผู้ที่เข้าวัยทองตามธรรมชาติ
ประมาณ 75 % ของผู้ขาดฮอร์โมน อาการจะค่อยๆน้อยลง บางคนหายไปเลยเมื่อขาดฮอร์โมนไป 3-5 ปี
แต่คุณแม่ จขกท อาการไม่หายไป กลับรุนแรงมากขึ้น จนคนรอบข้างสังเกตเห็น ควรพาคุณแม่ไปพบสูตินรีแพทย์ด้านฮอร์โมนสตรี ค่ะ
นอกจากเกิดอาการที่บั่นทอนสุขภาพแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็น ไม่เกิดอาการ แต่อันตรายมากถ้าปล่อยไว้
คือ 1. กระดูกบางลงเรื่อยๆ จนเกิดกระดูกพรุนในที่สุด 2. ไขมันในเลือดสูงโดยเฉพาะไขมันเลว
จึงควรพาคุณแม่ไปพบสูตินรีแพทย์ดังกล่าว เป็นอย่างยิ่ง ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับฮอร์โมนหน่อยครับ วัยทอง