สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องกลุ้มใจค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่สาวของเราค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ต้นเดือน ก.ค 59 ที่ผ่านมา พี่สาวได้ผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกค่ะ เนื้องอกที่พี่สาวเป็นไม่แสดงอาการอะไร แต่เนื่องจากไปตรวจสุขภาพที่กรุงเทพและเจอก้อนเนื้องอกและมาบอกเราซึ่งเป็นน้องสาวอยู่เชียงใหม่ จึงแนะนำให้พี่สาวมาทำการผ่าตัดรักษาตัวที่เชียงใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายน่าจะถูกกว่าที่ กทม.และจะได้มีคนเฝ้าค่ะ
เข้ารับการผ่าตัดโดยผ่าทางหน้าท้องที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ค่าใช้จ่ายตอนประเมินก่อนผ่า 80,000- 120,000 บาท หลังผ่าค่าใช้จ่ายจริงหมดไปสองแสนกว่าค่ะ หลังการผ่า ดูทรมานและเจ็บมาก แพ้มอฟีนและอยู่ ICU 1 คืนค่ะ เกล็ดเลือดต่ำ และมีเติมเลือด
>> นัดครั้งที่ 1. หลังการผ่าประมาณ 15 วัน คุณหมอนัดดูแผลด้านนอก และแนะนำให้ฉีดบอกว่าเป็นฮอร์โมนยับยั้งการทำงานของรังไข่ มีผลข้างเคียงคือทำให้อารมณ์แปรปรวน วูบวาบ หงุดหงิด ช่วยยับยั้งการเกิดเนื้องอกครั้งใหม่ (ฟังจากพี่สาวเล่ามาค่ะ) ราคา 20,000 กว่าบาท พี่สาวตัดสินใจฉีดค่ะ ไม่อยากเจ็บไม่อยากทรมานกับเจ้าเนื้องอกนี้อีกกลัวเป็นอีก
>> นัดครั้งที่ 2. หลังจากนัดแรก 3 เดือน อัลตร้าซาวน์ดูมดลูก ดูแผลด้านใน แจ้งว่าพบรอยเล็กๆไม่แน่ใจว่าคือรอยอะไร อาจเป็นรอยพับของมดลูกหรืออะไรยังไม่แน่ใจ นัดดูอีกที และแนะนำให้พี่สาวฉีดฮอร์โมนอีก ราคา 8,000 กว่าบาท ฉีดค่ะ
>> นัดครั้งที่ 3 หลังจากนัดที่ 2 อีก 1 เดือน แจ้งว่า ...พบเนื้องอก ขนาด 2.3x1.42 cm หมอแจ้งว่าเนื้องอกนี้เกิดขึ้นหลังจากหลังจากผ่าตัด เป็นเนื้องอกเกิดขึ้นใหม่ คุณหมอบอกถ้าไม่มีผลอะไรก็ไม่ต้องเอาออกปล่อยไว้แบบนั้น ถ้ามีผลต่อการตั้งครรภ์ใช้วิธีผ่าตัดผ่านกล้อง
พอกลับบ้านมาเล่าให้เราฟัง พี่สาวเครียดและไม่สบายใจ เราเองก็ไม่สบายใจค่ะ เลยสอบถามผู้รู้ว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ที่จะเกิดเนื้องอกใหม่รวดเร็วขนาดนั้นภายในเวลาประมาณ 3 เดือนและมีขนาด 2.3x1.42 cm เจ็บตัว เสียเงิน แต่เป็นแบบนี้อีก ยังสงสัยว่าหมอเอาออกไม่หมดหรือเปล่า เงินที่ผ่าตัดครั้งแรกจำนวนไม่น้อยเลย ที่เลือกโรงพยาบาลนี้เพราะค่อนข้างเชื่อใจในชื่อเสียงทางด้านต่างๆ แพทย์ผู้ผ่าตัดเป็นอาจารย์หมอ เกียรตินิยมอันดับสอง,สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา แต่ยังไงเราเองยังติดใจสงสัยค่ะ สงสารพี่สาว เพราะเค้ายังไม่มีลูกค่ะ ผ่าตัดครั้งนี้ผ่าโดยไม่ได้ตัดมดลูกทิ้งค่ะ
ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก ผ่านไป 3 เดือนหมอบอกพบเนื้องอกเกิดขึ้นใหม่ขนาด 2.3x1.42 cm เป็นไปได้มั๊ยคะ
เรื่องมีอยู่ว่า ต้นเดือน ก.ค 59 ที่ผ่านมา พี่สาวได้ผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกค่ะ เนื้องอกที่พี่สาวเป็นไม่แสดงอาการอะไร แต่เนื่องจากไปตรวจสุขภาพที่กรุงเทพและเจอก้อนเนื้องอกและมาบอกเราซึ่งเป็นน้องสาวอยู่เชียงใหม่ จึงแนะนำให้พี่สาวมาทำการผ่าตัดรักษาตัวที่เชียงใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายน่าจะถูกกว่าที่ กทม.และจะได้มีคนเฝ้าค่ะ
เข้ารับการผ่าตัดโดยผ่าทางหน้าท้องที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ค่าใช้จ่ายตอนประเมินก่อนผ่า 80,000- 120,000 บาท หลังผ่าค่าใช้จ่ายจริงหมดไปสองแสนกว่าค่ะ หลังการผ่า ดูทรมานและเจ็บมาก แพ้มอฟีนและอยู่ ICU 1 คืนค่ะ เกล็ดเลือดต่ำ และมีเติมเลือด
>> นัดครั้งที่ 1. หลังการผ่าประมาณ 15 วัน คุณหมอนัดดูแผลด้านนอก และแนะนำให้ฉีดบอกว่าเป็นฮอร์โมนยับยั้งการทำงานของรังไข่ มีผลข้างเคียงคือทำให้อารมณ์แปรปรวน วูบวาบ หงุดหงิด ช่วยยับยั้งการเกิดเนื้องอกครั้งใหม่ (ฟังจากพี่สาวเล่ามาค่ะ) ราคา 20,000 กว่าบาท พี่สาวตัดสินใจฉีดค่ะ ไม่อยากเจ็บไม่อยากทรมานกับเจ้าเนื้องอกนี้อีกกลัวเป็นอีก
>> นัดครั้งที่ 2. หลังจากนัดแรก 3 เดือน อัลตร้าซาวน์ดูมดลูก ดูแผลด้านใน แจ้งว่าพบรอยเล็กๆไม่แน่ใจว่าคือรอยอะไร อาจเป็นรอยพับของมดลูกหรืออะไรยังไม่แน่ใจ นัดดูอีกที และแนะนำให้พี่สาวฉีดฮอร์โมนอีก ราคา 8,000 กว่าบาท ฉีดค่ะ
>> นัดครั้งที่ 3 หลังจากนัดที่ 2 อีก 1 เดือน แจ้งว่า ...พบเนื้องอก ขนาด 2.3x1.42 cm หมอแจ้งว่าเนื้องอกนี้เกิดขึ้นหลังจากหลังจากผ่าตัด เป็นเนื้องอกเกิดขึ้นใหม่ คุณหมอบอกถ้าไม่มีผลอะไรก็ไม่ต้องเอาออกปล่อยไว้แบบนั้น ถ้ามีผลต่อการตั้งครรภ์ใช้วิธีผ่าตัดผ่านกล้อง
พอกลับบ้านมาเล่าให้เราฟัง พี่สาวเครียดและไม่สบายใจ เราเองก็ไม่สบายใจค่ะ เลยสอบถามผู้รู้ว่า เป็นไปได้มั๊ยคะ ที่จะเกิดเนื้องอกใหม่รวดเร็วขนาดนั้นภายในเวลาประมาณ 3 เดือนและมีขนาด 2.3x1.42 cm เจ็บตัว เสียเงิน แต่เป็นแบบนี้อีก ยังสงสัยว่าหมอเอาออกไม่หมดหรือเปล่า เงินที่ผ่าตัดครั้งแรกจำนวนไม่น้อยเลย ที่เลือกโรงพยาบาลนี้เพราะค่อนข้างเชื่อใจในชื่อเสียงทางด้านต่างๆ แพทย์ผู้ผ่าตัดเป็นอาจารย์หมอ เกียรตินิยมอันดับสอง,สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา แต่ยังไงเราเองยังติดใจสงสัยค่ะ สงสารพี่สาว เพราะเค้ายังไม่มีลูกค่ะ ผ่าตัดครั้งนี้ผ่าโดยไม่ได้ตัดมดลูกทิ้งค่ะ