จากที่ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ผ่าน ของมติ สนช. โดยอ้างอิงความมั่นคง และความปลอดภัยของการใช้ข้อมูล ในความคิดเห็นส่วนตัว พรบ ฉบับนี้ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไปไหม เช่น
กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ยึด-ค้น-เจาะ-ทำสำเนาคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์
หากคิดว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง เมื่อมีภัยคุกคามไซเบอร์ร้ายแรงขึ้นไป
เจ้าหน้าที่รัฐสามารถสอดส่องข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจได้ โดยไม่ต้องขอหมายศาล เป็นต้น ซึ่งเหมือนกำลังมีใครสอดส่องพฤติกรรมเราอยู่ตลอดเวลา
ความเป็นตส่วนตัวอยู่ไหน รัฐบาลกำลังกลัวหรือหวาดระแวงอะไรอยู่หรือป่าว ทำให้รู้สึกคล้ายๆกับ Social Credit ของประเทศจีนที่บางคนบอกว่านี่คือการสร้างคุณภาพของประชาชนคนจีนอย่างเป็นระบบและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างภาพลักษณะจีนที่ดีขึ้น แต่อีกบางคนบอกว่านี่คือสัญญาณอันตราย ว่ารัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังต้องการจะควบคุมพฤติกรรมของคนจีนอย่างน่ากลัว เพราะจะสามารถตรวจสอบประชาชนทุกคนทุกเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง
คำถามคือ เพื่อนๆ คิดว่า พรบ ไซเบอร จะเป็นรากฐานสู่ Social Credit ได้ไหม และ ถ้านำ Social Credit เข้ามาใช้กับไทยจะเกิดอะไรขึ้น
พรบ ไซเบอร์ อาจกลายเป็น Social Credit แบบจีน
กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ยึด-ค้น-เจาะ-ทำสำเนาคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์
หากคิดว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง เมื่อมีภัยคุกคามไซเบอร์ร้ายแรงขึ้นไป
เจ้าหน้าที่รัฐสามารถสอดส่องข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจได้ โดยไม่ต้องขอหมายศาล เป็นต้น ซึ่งเหมือนกำลังมีใครสอดส่องพฤติกรรมเราอยู่ตลอดเวลา
ความเป็นตส่วนตัวอยู่ไหน รัฐบาลกำลังกลัวหรือหวาดระแวงอะไรอยู่หรือป่าว ทำให้รู้สึกคล้ายๆกับ Social Credit ของประเทศจีนที่บางคนบอกว่านี่คือการสร้างคุณภาพของประชาชนคนจีนอย่างเป็นระบบและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างภาพลักษณะจีนที่ดีขึ้น แต่อีกบางคนบอกว่านี่คือสัญญาณอันตราย ว่ารัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังต้องการจะควบคุมพฤติกรรมของคนจีนอย่างน่ากลัว เพราะจะสามารถตรวจสอบประชาชนทุกคนทุกเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง
คำถามคือ เพื่อนๆ คิดว่า พรบ ไซเบอร จะเป็นรากฐานสู่ Social Credit ได้ไหม และ ถ้านำ Social Credit เข้ามาใช้กับไทยจะเกิดอะไรขึ้น