เรียนรู้จากจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ประจำปี 2019
เป็นประจำทุกๆปีที่วอร์เรน บัฟเฟตต์จะต้องเขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเพื่ออัพเดทผลประกอบการ กลยุทธ์การลงทุน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือแนวคิดการลงทุนที่เปรียบเสมือนเป็นเนื้อหาจากอาจารย์การลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่เก่งที่สุดในโลก ให้นักลงทุนทั่วโลกได้ประยุกต์และนำไปใช้งานจริง
ปีที่ผ่านมาผลประกอบการของ Berkshire Hathaway (BRK) ได้รับผลกระทบจากระบบบัญชีแบบใหม่ที่ให้นำมูลค่าลงทุนในสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมาคิดผลกำไรด้วย
ซึ่งปีที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างเยอะ จึงกระทบต่อผลดำเนินงานของ BRK อย่างมาก
BRK มีผลประกอบการดังนี้
กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income) ทำได้ $24.8 พันล้าน
มียอดบวกจากการลงทุนในสินทรัพย์ $2.8 พันล้าน
แต่มียอดติดลบจากการลงทุนในสินทรัพย์อยู่ที่ $20.6 พันล้าน และยอดติดลบอีก $3.0 พันล้านจากบันทึกด้อยค่าในสินทรัพย์ของ Kraft Heinz
กำไรสุทธิจึงลดลงเหลือแค่ $4 พันล้าน จาก $44.9 พันล้านเมื่อปี 2017
ในส่วนของแนวคิดการลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ให้ความรู้กับนักลงทุนดังนี้
1. ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตตฺ์และชาร์ลี มังเกอร์ ไม่รู้หรอกว่าราคาหุ้นในสัปดาห์นี้หรือในปีหน้าจะเป็นอย่างไร และก็ไม่เคยคิดที่จะทำนายราคาหุ้นระยะสั้นด้วย
แต่บุคคลทั้งสองเน้นการหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคาพื้นฐานและรอจังหวะในการลงทุนแบบโฟกัส
2. ในปีนี้น่าจะหาหุ้นที่เข้าลงทุนได้ยากเพราะราคาได้ขึ้นไปสูงมากแล้ว ใจจริงทั้งคู่อยากจะซื้อธุรกิจขนาดใหญ่และอยากที่จะเป็นเจ้าของทั้งหมดถ้าได้เจอธุรกิจที่ใช่ แต่ตอนนี้ยังหาไม่เจอ
3. บัฟเฟตต์ได้บ่นมาตรฐานบัญชีแบบใหม่ที่ให้นำเอามูลค่าสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนในช่วงไตรมาสนั้นๆมาคิดคำนวณกำไร
จึงทำให้กำไรสุทธิติดลบมากถึง $25.4 พันล้านในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วเพราะหุ้นตกเยอะมากในช่วงปลายปี เเนะนำให้นักลงทุนดูที่กำไรจากดำเนินงานเป็นหลักจะดีกว่า
4. ได้ผู้บริหารมือดีทั้งนาย Ajit Jain and Greg Abel ที่มีเลือดของ BRK มาบริหารในหน่วยงานประกันภัยและดูภาพรวมธุรกิจ
บัฟเฟตต์บอกว่าตลอด 54 ปีที่ทำงานมีความสุขทุกวันเพราะได้ทำงานกับคนที่ไว้ใจได้ และยังพูดว่ายิ่งสองคนนี้เข้ามายิ่งทำให้มีความสุขมากขึ้นอีก
5. ทั้งคู่ชื่นชอบการซื้อหุ้นคืนถ้าบริษัทมีเงินสดเหลือเยอะๆจนไม่รู้เอาไปขยายงานอะไร การซื้อหุ้นคืนทำให้ BRK มีสัดส่วนการถือหุ้นใน American Express เพิ่มขึ้นจาก 12.6% เป็น 17.9% โดยไม่ได้ลงทุนเพิ่มเลย
คุณปู่ยังปิดท้ายด้วยว่าตลอดเวลา 77 ปีที่ลงทุน ตลาดหุ้นอเมริกาได้ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองและผู้ถือหุ้นหลายหมื่นเท่าตัว
นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าในอีก 77 ปีข้างหน้าตลาดหุ้นอเมริกาก็น่าจะสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนจำนวนมากเหมือนอย่างที่แล้วมาครับ
เรียนรู้จากจดหมายถึงผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ประจำปี 2019 by Billionaire VI
เป็นประจำทุกๆปีที่วอร์เรน บัฟเฟตต์จะต้องเขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเพื่ออัพเดทผลประกอบการ กลยุทธ์การลงทุน และที่สำคัญอย่างยิ่งคือแนวคิดการลงทุนที่เปรียบเสมือนเป็นเนื้อหาจากอาจารย์การลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่เก่งที่สุดในโลก ให้นักลงทุนทั่วโลกได้ประยุกต์และนำไปใช้งานจริง
ปีที่ผ่านมาผลประกอบการของ Berkshire Hathaway (BRK) ได้รับผลกระทบจากระบบบัญชีแบบใหม่ที่ให้นำมูลค่าลงทุนในสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมาคิดผลกำไรด้วย
ซึ่งปีที่ผ่านมาราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างเยอะ จึงกระทบต่อผลดำเนินงานของ BRK อย่างมาก
BRK มีผลประกอบการดังนี้
กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income) ทำได้ $24.8 พันล้าน
มียอดบวกจากการลงทุนในสินทรัพย์ $2.8 พันล้าน
แต่มียอดติดลบจากการลงทุนในสินทรัพย์อยู่ที่ $20.6 พันล้าน และยอดติดลบอีก $3.0 พันล้านจากบันทึกด้อยค่าในสินทรัพย์ของ Kraft Heinz
กำไรสุทธิจึงลดลงเหลือแค่ $4 พันล้าน จาก $44.9 พันล้านเมื่อปี 2017
ในส่วนของแนวคิดการลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ให้ความรู้กับนักลงทุนดังนี้
1. ทั้งวอร์เรน บัฟเฟตตฺ์และชาร์ลี มังเกอร์ ไม่รู้หรอกว่าราคาหุ้นในสัปดาห์นี้หรือในปีหน้าจะเป็นอย่างไร และก็ไม่เคยคิดที่จะทำนายราคาหุ้นระยะสั้นด้วย
แต่บุคคลทั้งสองเน้นการหาหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคาพื้นฐานและรอจังหวะในการลงทุนแบบโฟกัส
2. ในปีนี้น่าจะหาหุ้นที่เข้าลงทุนได้ยากเพราะราคาได้ขึ้นไปสูงมากแล้ว ใจจริงทั้งคู่อยากจะซื้อธุรกิจขนาดใหญ่และอยากที่จะเป็นเจ้าของทั้งหมดถ้าได้เจอธุรกิจที่ใช่ แต่ตอนนี้ยังหาไม่เจอ
3. บัฟเฟตต์ได้บ่นมาตรฐานบัญชีแบบใหม่ที่ให้นำเอามูลค่าสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนในช่วงไตรมาสนั้นๆมาคิดคำนวณกำไร
จึงทำให้กำไรสุทธิติดลบมากถึง $25.4 พันล้านในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วเพราะหุ้นตกเยอะมากในช่วงปลายปี เเนะนำให้นักลงทุนดูที่กำไรจากดำเนินงานเป็นหลักจะดีกว่า
4. ได้ผู้บริหารมือดีทั้งนาย Ajit Jain and Greg Abel ที่มีเลือดของ BRK มาบริหารในหน่วยงานประกันภัยและดูภาพรวมธุรกิจ
บัฟเฟตต์บอกว่าตลอด 54 ปีที่ทำงานมีความสุขทุกวันเพราะได้ทำงานกับคนที่ไว้ใจได้ และยังพูดว่ายิ่งสองคนนี้เข้ามายิ่งทำให้มีความสุขมากขึ้นอีก
5. ทั้งคู่ชื่นชอบการซื้อหุ้นคืนถ้าบริษัทมีเงินสดเหลือเยอะๆจนไม่รู้เอาไปขยายงานอะไร การซื้อหุ้นคืนทำให้ BRK มีสัดส่วนการถือหุ้นใน American Express เพิ่มขึ้นจาก 12.6% เป็น 17.9% โดยไม่ได้ลงทุนเพิ่มเลย
คุณปู่ยังปิดท้ายด้วยว่าตลอดเวลา 77 ปีที่ลงทุน ตลาดหุ้นอเมริกาได้ช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองและผู้ถือหุ้นหลายหมื่นเท่าตัว
นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าในอีก 77 ปีข้างหน้าตลาดหุ้นอเมริกาก็น่าจะสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนจำนวนมากเหมือนอย่างที่แล้วมาครับ