ประสบการณ์การลดน้ำหนักเริ่มต้นในวัย 23 ปีของเรา นน.อยู่ที่ 90 KG ส่วนสูง 160 CM.
เราจะแบ่งออกเป็นสัก 3 หัวข้อแล้วกัน
1. กว่าจะอ้วนมาถึงทุกวันนี้
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่อ้วนมาแต่ไหนแล้วล่ะ ที่จำได้ว่าเริ่มต้นชั่งน้ำหนักก็ตอน ม.5 ตอนนั้นน้ำหนักอยุ่ที่ 63 KG ถือว่าอ้วนในวัยนั้นนะ ที่ได้เริ่มชั่งน้ำหนักก็เพราะว่าเราจะบริจาคเลือดจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักถึงรู้ตัวว่าหนักเท่าไร ตอนนั้นเราไม่สนใจค่า Hb.15 ก็บริจาคได้ แถมเลือดไหลดีมากกกก นั้นคือการบริจาคเลือดครั้งแรกในชีวิตเรา แล้วมันก็มีครั้งสองสามถึงแปดตามมา จนกระทั่งเมื่อปลายปี 60 เราได้ทำการบริจาคเลือดที่มหาลัยก่อนกลับบ้านฝึกงาน ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 79 KG โอเววว!!! แต่ก็นะค่า Hb.14 กลัวไร ก็นอนบริจาคต่อไป พยาบาลที่ทำการเจาะเลือดเริ่มเตือนแล้วนะว่า อย่าปล่อยให้อ้วนมากนะคะ เริ่มมองไม่เห็นเส้นเลือดที่แขนละ 55555 ด้วยความที่บริจาคจนชินแล้วกลางปี 62 เราได้ทำการบริจาคอีกครั้งพีคสุดคือน้ำหนักคือ 89.7 KG OMG!!! ข้าทำอะไรลงไปกับร่างกาย แต่ก็นะค่า Hb.ยังสามารถบริจาคได้อยู่ เราเลือดบริจาคเลือดเป็นครั้งที่แปดตามปกติ พอช่วงปลายปีมีจดหมายจากสภากาชาดส่งมาถึงบ้าน บอกว่า "เลือดที่เราบริจาคไปกลางปี ใช้ไม่ได้เป็นบางส่วน เนื่องจากไขมันในเลือดของคุณสูงมีไขมันเป็นส่วนๆ" เราก็ใจไม่ดี เริ่มมองตัวเองที่แฟนก็ไม่มี อ้วนอย่างกะยัก โห!!!
เราเลยตัดสินใจเริ่มลดน้ำหนัก โดยมีแผนการกินให้น้อยกว่า 1000 กิโลแคลลอรี่ ทำแบบนี้ได้ประมาณ 2 เดือน มันลดจริง แต่สภาพร่างกายดูไม่ได้ ไม่มีแรงเลย ตื้นมาหน้ามืด ง่วงนอนไหวมาก หนักสุดคือแสบท้อง ถึงขั้นต้องไปหาหมอ...
2. อยากสวยเร็ว ลดความอ้วนแบบผิดๆ จนโรคภัยถามหา
เราไปหาหมอหลังจากที่แสบท้องอยู่ประมาณ 3 วัน หมอให้อัลตร้าซาวช่องท้อง ผลที่ได้คือ เราเป็นแผลในกระเพาะอาหาร และน่ากลัวสุดคือ เราเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เพียงเล็กน้อยยยยยย แค่เล็กน้อยก็ลำบากละ หลังจากนั้นเราได้ยามากินเพื่อรักษากะเพาะและยาสลายนิ่ว หมอได้สั่งสอนด้วยการด่าว่าถ้าถุงน้ำดีเสียดายต้องตัดมันออก แล้วอย่าหวังเลยว่าจะมีโอกาสที่จะผอม (ขอไม่เล่ารายละเอียดแล้วกัน) ด้วยความที่ยังอยากสวยเราเลยตัดสินใจลดน้ำหนักอีกรอบ ด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังการเบาๆ เพราะอาการปวดจากการที่ถุงน้ำดีมีนิ่วมันทรมานเลยออกได้แต่กีฬาเบาๆ เอาล่ะ หข.ต่อไปจะเริ่มต้นที่ถูกต้อง ปลอดภัย และได้ผลที่สุดดดดดด
3. กินมาเป็นชาติ จะให้ลดภายใน 1 สัปดาห์ก็คงเป็นไปไม่ได้
เราเริ่มทำการลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหาร มีแม่เป็นเทรนเนอร์ในการทำอาหาร เราทำอาหารกินเอง ให้ครบห้าหมู่ในแต่ล่ะวัน มีลดคาบลงไป 50 เปอร์เซ็น อาหารที่ทำก็ง่ายๆเลยนะ อกไก่นึงโลยกระเทียมพริกไทย ข้าวไรเบอร์รี่ ผักต้ม จำพวกข้าวโพด แครอท ส้ม ถั่วฟักยาว (ที่เราต้มเพราะเราย่อยไม่ดีเนื่องจากเป็นกะเพาะ) น้ำพริกไข่ต้ม ปลาเผา ทุกอย่างที่คิดว่าไขมันน้อยสุดมาๆๆๆๆ แต่อย่าให้อด ให้ขาด เดี๋ยวโยโย่ ดื่มน้ำให้ได้วันละ 3 ขวด (ขวด 1.5 ลิตรเด้อ) จิ้บน้ำทั้งวันแบบผู้ดีอังกฤษนั่งจิบชาริมระเบียง 55555 เดินให้ได้ 15000 ก้าวเดิน เริ่มที่ 9000 ก้าวเดินก่อนก็ได้ นอนนน นอน 3 - 5 ทุ่ม ไล่ไปให้ประมาณ 7-8 ชม. ก็จะดี ส่วนการออกกำลังการนะ เราเริ่มจากในห้องเลย เดินอยู่กับที่ ทำยังไงก็ได้ให้เท้ายก แล้วตูดส่าย 55555 เหงื่อมันจะออกเลยละ เปิดดู BlackPink ตั้งแต่ตีห้า แล้วมโนถ้าฉันผอมแล้วสุขภาพดี ฉันจะไปยื่นรอ EXO BTS GOT7 แบบไม่มีวันเหนื่อย ใครจะไปรู้จองกุก เซฮุน หรือแบมแบมของเค้าอาจหันมามองเราก็ได้ 555555555 #ออกทะเลไกลมากกกกก พอเริ่มกล้ามเนื้อแข็งแรงก็ทีบจักรยานแอโรบิคอยู่ที่บ้าน อออ!!! อย่าลืมเวทเด้อจะได้ไม่ย้อยยยย
4. สรุปผล
เราเริ่มลดแบบนี้มาตั้งแต่ ธันวาคมปี 2561 - 22/02/2562
นน.ชั่งได้ 90.1 KG จนถึงวันนี้ 78 KG
******
ขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน อยากจะเตือนทุกคนที่ได้อ่านว่า ชีวิตที่เราคิดว่าดีแข็งแรงอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้ พาตัวเอง คนในครอบครัวไปรับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยเทริญญญญญญญ
มาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนัก ที่มากกว่าการลดน้ำหนักกันเถอะ
เราจะแบ่งออกเป็นสัก 3 หัวข้อแล้วกัน
1. กว่าจะอ้วนมาถึงทุกวันนี้
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่อ้วนมาแต่ไหนแล้วล่ะ ที่จำได้ว่าเริ่มต้นชั่งน้ำหนักก็ตอน ม.5 ตอนนั้นน้ำหนักอยุ่ที่ 63 KG ถือว่าอ้วนในวัยนั้นนะ ที่ได้เริ่มชั่งน้ำหนักก็เพราะว่าเราจะบริจาคเลือดจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักถึงรู้ตัวว่าหนักเท่าไร ตอนนั้นเราไม่สนใจค่า Hb.15 ก็บริจาคได้ แถมเลือดไหลดีมากกกก นั้นคือการบริจาคเลือดครั้งแรกในชีวิตเรา แล้วมันก็มีครั้งสองสามถึงแปดตามมา จนกระทั่งเมื่อปลายปี 60 เราได้ทำการบริจาคเลือดที่มหาลัยก่อนกลับบ้านฝึกงาน ชั่งน้ำหนักอยู่ที่ 79 KG โอเววว!!! แต่ก็นะค่า Hb.14 กลัวไร ก็นอนบริจาคต่อไป พยาบาลที่ทำการเจาะเลือดเริ่มเตือนแล้วนะว่า อย่าปล่อยให้อ้วนมากนะคะ เริ่มมองไม่เห็นเส้นเลือดที่แขนละ 55555 ด้วยความที่บริจาคจนชินแล้วกลางปี 62 เราได้ทำการบริจาคอีกครั้งพีคสุดคือน้ำหนักคือ 89.7 KG OMG!!! ข้าทำอะไรลงไปกับร่างกาย แต่ก็นะค่า Hb.ยังสามารถบริจาคได้อยู่ เราเลือดบริจาคเลือดเป็นครั้งที่แปดตามปกติ พอช่วงปลายปีมีจดหมายจากสภากาชาดส่งมาถึงบ้าน บอกว่า "เลือดที่เราบริจาคไปกลางปี ใช้ไม่ได้เป็นบางส่วน เนื่องจากไขมันในเลือดของคุณสูงมีไขมันเป็นส่วนๆ" เราก็ใจไม่ดี เริ่มมองตัวเองที่แฟนก็ไม่มี อ้วนอย่างกะยัก โห!!!
2. อยากสวยเร็ว ลดความอ้วนแบบผิดๆ จนโรคภัยถามหา
เราไปหาหมอหลังจากที่แสบท้องอยู่ประมาณ 3 วัน หมอให้อัลตร้าซาวช่องท้อง ผลที่ได้คือ เราเป็นแผลในกระเพาะอาหาร และน่ากลัวสุดคือ เราเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เพียงเล็กน้อยยยยยย แค่เล็กน้อยก็ลำบากละ หลังจากนั้นเราได้ยามากินเพื่อรักษากะเพาะและยาสลายนิ่ว หมอได้สั่งสอนด้วยการด่าว่าถ้าถุงน้ำดีเสียดายต้องตัดมันออก แล้วอย่าหวังเลยว่าจะมีโอกาสที่จะผอม (ขอไม่เล่ารายละเอียดแล้วกัน) ด้วยความที่ยังอยากสวยเราเลยตัดสินใจลดน้ำหนักอีกรอบ ด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังการเบาๆ เพราะอาการปวดจากการที่ถุงน้ำดีมีนิ่วมันทรมานเลยออกได้แต่กีฬาเบาๆ เอาล่ะ หข.ต่อไปจะเริ่มต้นที่ถูกต้อง ปลอดภัย และได้ผลที่สุดดดดดด
3. กินมาเป็นชาติ จะให้ลดภายใน 1 สัปดาห์ก็คงเป็นไปไม่ได้
เราเริ่มทำการลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหาร มีแม่เป็นเทรนเนอร์ในการทำอาหาร เราทำอาหารกินเอง ให้ครบห้าหมู่ในแต่ล่ะวัน มีลดคาบลงไป 50 เปอร์เซ็น อาหารที่ทำก็ง่ายๆเลยนะ อกไก่นึงโลยกระเทียมพริกไทย ข้าวไรเบอร์รี่ ผักต้ม จำพวกข้าวโพด แครอท ส้ม ถั่วฟักยาว (ที่เราต้มเพราะเราย่อยไม่ดีเนื่องจากเป็นกะเพาะ) น้ำพริกไข่ต้ม ปลาเผา ทุกอย่างที่คิดว่าไขมันน้อยสุดมาๆๆๆๆ แต่อย่าให้อด ให้ขาด เดี๋ยวโยโย่ ดื่มน้ำให้ได้วันละ 3 ขวด (ขวด 1.5 ลิตรเด้อ) จิ้บน้ำทั้งวันแบบผู้ดีอังกฤษนั่งจิบชาริมระเบียง 55555 เดินให้ได้ 15000 ก้าวเดิน เริ่มที่ 9000 ก้าวเดินก่อนก็ได้ นอนนน นอน 3 - 5 ทุ่ม ไล่ไปให้ประมาณ 7-8 ชม. ก็จะดี ส่วนการออกกำลังการนะ เราเริ่มจากในห้องเลย เดินอยู่กับที่ ทำยังไงก็ได้ให้เท้ายก แล้วตูดส่าย 55555 เหงื่อมันจะออกเลยละ เปิดดู BlackPink ตั้งแต่ตีห้า แล้วมโนถ้าฉันผอมแล้วสุขภาพดี ฉันจะไปยื่นรอ EXO BTS GOT7 แบบไม่มีวันเหนื่อย ใครจะไปรู้จองกุก เซฮุน หรือแบมแบมของเค้าอาจหันมามองเราก็ได้ 555555555 #ออกทะเลไกลมากกกกก พอเริ่มกล้ามเนื้อแข็งแรงก็ทีบจักรยานแอโรบิคอยู่ที่บ้าน อออ!!! อย่าลืมเวทเด้อจะได้ไม่ย้อยยยย
4. สรุปผล
เราเริ่มลดแบบนี้มาตั้งแต่ ธันวาคมปี 2561 - 22/02/2562
นน.ชั่งได้ 90.1 KG จนถึงวันนี้ 78 KG
******
ขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน อยากจะเตือนทุกคนที่ได้อ่านว่า ชีวิตที่เราคิดว่าดีแข็งแรงอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นไปได้ พาตัวเอง คนในครอบครัวไปรับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยเทริญญญญญญญ