นิ่วในถุงน้ำดี ห้ามกินอะไร

หากละเลยไม่ใส่ใจเรื่องโภชนาการ เลือกรับประทานอาหารที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงพลังงาน โซเดียม ไขมัน น้ำตาล สารอื่น ๆ ที่ได้รับในแต่ละวัน จะก่อให้เกิดโรคเรื้อรังในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิ่วในถุงน้ำดี ที่ดูเหมือนไม่อันตราย แต่ถ้าประสบกับภาวะแทรกซ้อนจะทำให้ร่างกายเจ็บป่วย เสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะอนามัย เพื่อป้องกันรวมทั้งแนวทางดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย
 

าหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

เนื้อสัตว์

- ติดมัน

- บริเวณหนัง

- เครื่องใน

- เนื้อที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอก แหนม เบคอน

อาหารทะเล

- หมึก

- กุ้ง

- หอย

ของที่ผ่านกรรมวิธีการทอด

- ขนมขบเคี้ยวที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ

- ปาท่องโก๋

- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

- ผัดซีอิ๊ว

- เฟรนช์ฟรายส์

อาหารที่มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอลสูง

- ไข่แดง

- ชีส

- เนย

- พิซซ่า

- วิปปิ้งครีม

- ซอสมายองเนส

- ไอศกรีม

- กะทิ

เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และคาเฟอีน

- น้ำอัดลม

- ชา

- กาแฟ

- เครื่องดื่มชูกำลัง
 

อาหารที่ควรรับประทานสำหรับผู้ป่วยนิ่วในถุงน้ำดี

จากกรรมวิธี

- ต้ม

- ยำ

- ตุ๋น

- นึ่ง

- อบ

มีโปรตีนสูง

- ปลา

- อกไก่

- เต้าหู้

- ไข่ขาว

ธัญพืชไม่ขัดสี

- ข้าวกล้อง

- ขนมปังโฮลวีท

- ซีเรียลโฮลเกรน

- ถั่วลิสง

- เมล็ดทานตะวัน

- อัลมอนด์

ผัก ผลไม้ ที่มีกากใยสูง รสหวานน้อย

- แครอท

- ข้าวโพด

- บรอกโคลี

- ผักโขม

- แอปเปิล

- อะโวคาโด

- ฝรั่ง

- มะม่วงมัน

ไขมันชนิดไม่อิ่มตัว

- ควรบริโภคไม่เกิน 3 กรัมต่อ 1 หน่วยบริโภค

 
ปัจจัยเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี

นอกจากการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและคอเลสเตอรอลแล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน

- บุคคลในครอบครัวมีประวัติป่วยหรือได้รับการรักษาจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี

- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง น้ำดีจะลดการบีบตัวลง

- การลดน้ำหนักให้ลงอย่างรวดเร็วแบบผิดวิธี ตับหลั่งคอเลสเตอรอลมากขึ้น การบีบตัวของน้ำดีก็จะลดตาม มีความเสี่ยงเกิดก้อนนิ่ว

- ไม่บริโภคผัก ผลไม้ ที่มีกากใยสูง
 

อาการเสี่ยงที่ควรมาพบแพทย์

- ปวดหรือแน่นท้อง

- ท้องอืด เฟ้อ

- แสบร้อนกลางอก

- ปวดจุกใต้ลิ้นปี่ หลังรับประทานอาหารไขมันสูง

- คลื่นไส้

- ตาหรือสีผิวเหลืองมากขึ้น

- หนาวสั่น

- มีไข้ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป

- อาเจียน
 

หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร แต่มีอาการเหมือนในหัวข้อดังกล่าวข้างต้นควรมาทำการพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเพชรเวช มีเทคโนโลยีการผ่าตัดเล็ก เจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นสั้น ๆ สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้เร็วกว่าปกติ รวมทั้งมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดพร้อมดูแลและให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่