สวีสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกคน คือเรามีปัญหาหนักใจมากอยากจะปรึกษาทุกคน เราแต่งงานกับสามีมา 3 ปีแล้ว มีลูก 1 คน ครอบครัวของทางเราเป็นกงสี สามีและเราก็ช่วยทำงานอยู่กับครอบครัวเรา ตั้งแต่มีลูกค่าใช้จ่ายทางบ้านก็เยอะขึ้น สามีเราจะรับเงินเดือนจากกงสีและจะแอบตัดกิน % จากงานที่เค้าหามาได้ เนื่องจากไม่มีค่าคอม ลำพังแค่เงินเดือนมันไม่พอใช้จ่าย พักหลังมาเศรษฐกิจไม่ดี ทางกงสีก็คือทางบ้านพ่อแม่เราเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ต้องหมุนเงินหลายทาง สามีเราไปยืมเงินเพื่อนมาให้ แม่เราว่าจะคืนให้ภายใน 2 เดือน แต่ก็ลากยาวจน 4 เดือนกว่าจะคืนให้ ทำเค้าเสียเครดิตกับเพื่อนหลายครั้ง กงสีขาดสภาพคล่อง จนสามีเราไปได้งานมางานนึงจากคนรู้จักของเค้า ลูกค้าโอนเงินสดมาให้ก่อนก้อนใหญ่ก้อนนึง สามีเรากลัวแม่เราเอาเงินไปหมุนทางอื่น แล้วพอเวลาจะซื้อของให้ลูกค้าก็ไม่มี เลยไม่เอาก้อนนี้ให้แม่เรา เก็บไว้เอง เอาไว้โอนสั่งซื้อของให้ลูกค้า ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วย แต่ขัดสามีไม่ได้ เราก็กังวลเพราะแม่เราก็ทำแบบนั้นบ่อยจริงๆ และกะว่ารอจนงานเสร็จจะค่อยเคลียร์ให้แม่เราทีเดียว แม่เราก็ยังไม่รู้ว่ามีเงินก้อนนี้แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมาก ให้เราไปช่วยหายืมจากใครก็ได้ให้หน่อย เราก็เลยคุยกับสามีว่าโอนให้แม่ซักหน่อยแล้วบอกแม่ว่ายืมมาจากเพื่อนต้องคืนภายใน 1 เดือน (เพราะถ้ารู้ว่าจากลูกค้าโอนมา แม่เราก็จะไม่พยายามหามาคืน) แม่เราก็รับปาก พอครบ 1 เดือนแม่เราก็ยังไม่มีคืนให้ แต่เราต้องสั่งของให้ลูกค้าแล้วเงินมันไม่พอ สุดท้ายก็เรื่องแตก สามีกับแม่เราก็ทะเลาะกันใหญ่โต สุดท้ายสามีเราเลยบอกว่าเค้าจะออกจากกงสีและเอางานนี้ไปทำเอง เพราะมันเป็นงานที่เค้าหามาเอง เค้าพูดว่าลูกค้าให้งานนึ้เพราะรู้จักเค้า ไม่ได้ให้กงสี ฉะนั้นถ้าเค้าออกจากกงสีแล้ว เค้าก็จะทำงานนี้ต่อเอง และเค้าก็บอกเราว่าเค้าจำเป็นต้องทำแบบนี้เพราะเค้าอยู่ไม่ได้แล้ว เงินเดือนก็น้อย ค่าคอมก็ไม่ได้ ลูกก็มีค่าใช้จ่ายเยอะ บ้านเราจะอยู่ไม่ได้แล้ว เค้าต้องออกมาทำเอง ถ้าเค้าออกมาตัวเปล่าแล้วเค้าจะอยู่ยังงัย งานเค้าก็หามา เค้าก็ไม่ผิดที่จะเอาไปทำเอง แล้วก็ออกจากกงสีตั้งแต่นั้น ส่วนแม่เราก็โกรธมากบอกว่าเค้าทำอย่างนี้ได้ยังงัย ช่วงไปติดต่องานเค้าก็ยังรับเงินเดือนอยู่ ค่าใช้จ่ายไปติดต่องานก็เบิกกับกงสี ( ซึ่งสามีเราบอกว่าจะคืนให้ในส่วนนี้ ) และช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดกลับมาเหยียบย่ำซ้ำเติมด้วยการเอางานไปทำอีก แบบนี้มันแย่มาก หลังจากนั้นทั้ง 2 คนก็ไม่คุยกันอีกเลย แต่เรายังทำกับกงสีอยู่นะ เพราะเราทิ้งพ่อแม่เราไปไม่ได้ สามีเราเค้าหางานเก่ง เราก็เลยคุยกับเค้าว่าเอางี้มั๊ย เธอหางานมาให้บริษัท แต่แบ่ง % ไป กงสีได้ เธอก็ได้ win-win ทั้งคู่ และมีเราเป็นตัวกลางคอยสื่อสารเรื่องต่างๆ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายไม่คุยกัน ในตอนแรกพ่อแม่เราไม่เอา ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสามีเราอีก เราก็คุยไปมาให้เห็นแก่บริษัท ลูกน้องต้องกินอยู่ ถือซะว่าได้เซลล์มาคนนึง สุดท้ายก็เลยยอม แต่ด้วยความที่มีอคติต่อกันแล้วยังฝังใจ ทำให้มีปัญหามาเรื่อย เราเป็นคนกลางต้องคอยมารับอารมณ์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่เราก็อดทน เพราะคิดว่าซักวันก็ดีเอง แต่ปัญหาก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ด้วยคุยกันผลประโยชน์ไม่ลงตัวบ้าง สามีเรารู้สึกเสียเปรียบบ้าง ได้เงินมาไม่คืนให้กันบ้างเพราะแม่เราอยากแก้แค้นคืนบ้าง ไม่มีใครยอมให้ใคร สามีเราก็ว่าพ่อแม่เราผ่านทางเราด้วยคำที่ไม่ค่อยดี พ่อแม่เราก็ว่าสามีเราผ่านทางเรา จนเราเครียดมาก อยากจะเลิกกับสามีหลายรอบเพราะเค้าชอบใช้คำพูดแรงๆกับเรา แต่ก็ติดที่ลูก เราคนกลางเรารู้ว่าบางอย่างสามีก็ผิดบางอย่างพ่อแม่เราก็ผิด แต่พูดไปไม่มีใครฟังเราเลย เราแค่ไม่อยากให้เค้า 2 ฝ่ายตัดขาดกัน อยากให้สามีเรายังคอยช่วยกงสีบ้าง เมื่อซักวันพ้นวิกฤติเศรษฐกิจแล้วทั้ง 2 ฝ่ายจะใจเย็นและคุยกันได้อีกครั้ง แต่ดูแล้วจะยิ่งแย่ ตอนนี้เราทำงานไม่ได้เงินเดือน มาจะ 3 เดือนแล้ว เราต้องช่วยค่าใช้จ่ายบ้านสามีเราทุกเดือน พอเราไม่มีเงินเดือน สามีเราก็รับคนเดียวไม่ไหว ก็จะมาต่อว่าเราและว่าพ่อแม่เรา และกดดันให้เราออกจากกงสีมาช่วยเค้าแทน แต่ถ้าเราออกไปก็จะไม่มีคนช่วยพ่อแม่เรา เพราะเราลูกคนเดียว เราเครียดมาก เอาตรงๆเราค่อนข้างเข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายนะ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง แต่เราแค่ไม่ชอบที่เค้าทั้ง 2 ฝ่ายใช้แต่อารมณ์เข้าหากัน ถ้าต้องเลือกจริงๆเราก็คงเลือกพ่อแม่เรา เพราะสามีเราเค้าค่อนข้างเจ้าอารณ์ มีอะไรนิดหน่อยก็ด่าแต่เรา เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ด่าอยู่นั่นแหละ แต่เราสงสารลูก ลูกยังเล็ก ไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ แต่เค้าก็รักลูกมากนะ ถ้าเป็นเรื่องลูกเค้าได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องเมียนี่ไม่ไว้ก่อน เราควรทำอย่างไรดี เราเครียดมากเลย ไม่รู้จะเลือกเดินทางไหนดี ใครช่วยแนะนำหน่อย
เป็นคนกลางระหว่างความขัดแย้งของแม่และสามี