[SR] รีวิว Let’s Relax Onsen ออนเซน หรูสไตล์ญี่ปุ่น ที่ให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆใจกลางกรุงเทพ เดินทางได้ด้วย BTS ทองหล่อ

รีวิว Let’s Relax Onsen ออนเซน หรูสไตล์ญี่ปุ่น ที่ให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆใจกลางกรุงเทพ เดินทางได้ด้วย BTS ทองหล่อ

ขณะนี้มีอัพเดทรีวิวในปี 2023 ครับ https://ppantip.com/topic/42279023



สวัสดีครับ หลายๆคนน่าจะเคยฝันอยากไปแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่น แต่ในตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลถึงญี่ปุ่นก็สามารถสัมผัสออนเซ็นแบบแท้ๆได้แล้ว ซึ่งผงน้ำแร่ของที่นี่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ซึ่งอยู่ย่านทองหล่อนี่เอง เดินทางสะดวกใช้รถไฟฟ้าได้ วันนี้จะมารีวิวสถานที่พร้อมรูปภาพให้เพื่อนๆชมกันครับ

หมายเหตุ Review นี้ได้รับการสนับสนุนค่าเข้าใช้บริการจากทางสถานที่ (แต่ค่าอาหารและค่าเดินทางทางผมจ่ายเอง) จึงขอกำหนดหัวข้อเป็น SR นะครับ รวมทั้งขอฝากกลุ่ม Japanese Club Thailand เพื่อนๆที่สนใจชอบท่องเทียวแบบญี่ปุ่นในไทย สามารถเข้ามาชมกลุ่มกันได้ครับ https://www.facebook.com/groups/onsenthailand

Let’s Relax ปกติแล้วจะทำธุรกิจอยู่ในกลุ่มของสปา เป็นแบรนภายใต้เครือ Siam Wellness Group ซึ่งเด่นด้านการให้บริการสปาต่างๆโดยเฉพาะครับ ไม่นานมานี้ได้เปิดสาขาพิเศษซึ่งมีส่วนของ Onsen ให้ใช้บริการด้วย สาขานี้จะตั้งอยู่ที่โรงแรม grande centrepoint sukhumvit55 (สาขาอื่นยังไม่มีออนเซนให้บริการนะครับ)





สำหรับการเดินทางสามารถใช้รถยนต์มาจอดที่โรงแรมได้เลย อยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 55 หากใครไม่ใช้รถยนต์ก็เดินทางใช้รถไฟฟ้า ลงสถานี BTS ทองหล่อ แล้วนั่ง Shuttle Bus ของโรงแรมเข้ามาได้ครับ ซึ่งรถของโรงแรมจะวิ่งรับทุกๆ 20 นาที





รูปรถ Shuttle Bus ของโรงแรม ใช้รถยนต์ Suzuki Carry ดัดแปลงที่นั่งด้านหลังครับนั่งได้หลายคนอยู่ ถึงไม่มีแอร์แต่ก็นั่งได้โดยไม่ร้อนจนเกินไปครับเพราะระยะทางไม่ไกลมากนัก แค่ประมาณ 800 เมตรถึงรถไฟฟ้า สำหรับรถจะจอดรับอยู่บริเวณ 7-11 ตรงใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าครับทุกๆ 20 นาที



ตารางเวลาของรถดูได้จากรูปนี้ครับแนะนำมาก่อนซัก 5 นาทีครับ สำหรับใครที่ไม่อยากรอหรือกลัวร้อนก็สามารถเรียกแท๊กซี่เข้ามาได้เช่นกัน



โรงแรมนี้ถือว่าหรูหราอลังการมากครับ อันนี้เป็นบริเวณโถงชั้นล่างของโรงแรม มีร้านบุ๊ปเฟ่ข้าวต้มอยู่ด้วย ส่วน Let’s Relax อยู่บริเวณชั้น5ครับ



กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 5 ก็จะถึงเลยครับ บรรยากาศที่นี่จะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆเลย เน้นวัสดุพวกไม้ และใช้โทนสี Warm ให้ดูผ่อนคลายเมื่อมาใช้บริการ สมชื่อของแบรนครับ มีป้ายเขียนชัดเจนว่า Let’s Relax Onsen





เมื่อมาถึงแล้วเราก็ต้องมา Check In ที่หน้าเคาเตอร์ก่อนครับ โดยระบุว่าต้องการใช้บริการอะไรบ้าง พนักงานที่นี่สามารถพูดภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นได้ด้วยนะครับ ถ้ามีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติก็มาใช้บริการสื่อสารกันได้โดยไม่ลำบากแต่อย่างใด





สำหรับราคาเข้าใช้บริการที่นี่แบบ One Day Pass จะอยู่ที่คนละ 700 บาท ใช้บริการได้ครบถ้วน
Onsen Zone: บ่อออนเซ็น 5 บ่อ , ห้องสตรีมและซาวน่า , ห้องหินร้อนและห้องคูลดาวน์ และโซนพักผ่อน
ส่วนใครอยากซื้อแพ๊คเกจร่วมกับนวดหรือสปาก็มีให้เลือกซื้อเช่นกันครับ



นอกจากนี้ยังมีแพ๊คเกจแบบราย 6 เดือนและแบบรายปีให้เลือกครับ ใครที่คำนวณแล้วคิดว่ามาใช้บ่อยๆเกินกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็สามารถซื้อแพ๊คเกจรายปีได้เช่นกัน ซึ่งถ้าใช้เกินกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้งคำนวณแล้วก็คุ้มอยู่ครับ
พิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ระดับสูง SCB First (ต้องมีเงินฝากหรือเงินลงทุนรวมเกินกว่า 10ล้าน) เพื่อนคนไหนที่มีบัตรนี้จะได้รับสิทธ์ใช้บริการฟรี เดือนละ 1 ครั้ง และมีส่วนลดพิเศษ (ลองสอบถามกับพนักงานครับว่าลดเท่าไหร่) ใครมีบัตร First ก็อย่าลืมมาใช้สิทธ์กันนะครับ ผมละอิจฉาคนที่มีบัตรนี้จริงๆ55



หลังจากที่เรา Check In แล้ว ก็จะได้รับสายรัดข้อมือ ซึ่งผู้ชายจะได้สีฟ้า และผู้หญิงจะได้สีแดงออกส้มๆครับ สายรัดข้อมืออันนี้จะทำหน้าที่สแกนเข้าโซนออนเซน และแสกนเข้าใช้ล๊อคเกอร์ครับ (หากเราเผลอเอาสายข้อมือใส่ไปในล๊อคเกอร์และเปิดล๊อคไม่ได้สามารถแจ้งพนักงานได้ครับเค้าจะมีตัวปลดล๊อคให้) สายรัดนี้สามารถใส่ไปแช่น้ำได้เลยครับไม่ต้องถอด น้ำหนักเบา ไม่รำคาญแน่นอนครับ



หลังจาก Check In แล้ว ทางพนักงานจะมี Welcome Drink มาให้ครับ เป็นน้ำใบเตย พร้อมผ้าเย็น น้ำใบเตยหอมแบบธรรมชาติ หวานอ่อนๆ ดื่มแล้วสดชื่นดีครับ พร้อมกับผ้าเย็น 1 ชุด



ในปี 2019 นี้ทาง Let’s Relax Onsen มีบริการทองม้วนให้รับประทานเป็นอาหารว่างด้วยครับ ซึ่งมีหลายรสชาติ สลับให้บริการไปในแต่ละวัน วันที่ผมไปมีรสมะพร้าว และรสกาแฟให้ครับ ชิมแล้วอร่อยมาก กรอบกำลังดี หวานปานกลาง ถามกับทางผู้จัดการบอกว่าเป็นทองม้วนที่ผลิตโดยบริษัทในเครือ Siam Wellness เองเลยครับ ถือว่าอร่อยเกินคาดสำหรับขนมครับ



โบรชัวร์ที่นี่นอกจากแบบภาษาไทย อังกฤษ ก็ยังมีภาษาญี่ปุ่นให้อ่านด้วยครับ ใครที่เพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นชวนมาใช้บริการได้สบายๆไม่ต้องกังวล ที่สำคัญคือพนักงานส่วนใหญ่พูดภาษาญี่ปุ่นได้ครับ ดังนั้นสื่อสารกันได้สบายๆ



ต่อไปขอข้ามไปรีวิวในส่วนออนเซนต่อเลยนะครับ สำหรับโซนพักผ่อน และโซนรับประทานอาหารหลังจากแช่ออนเซนเสร็จจะมารีวิวให้ชมต่อครับ สำหรับขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนแช่น้ำแร่ออนเซน ระหว่างแช่ และหลังแช่น้ำเสร็จควรทำอย่างไรบ้าง ที่นี่จะมีป้ายอธิบายอยู่ครับ ใครที่ไม่เคยแช่ Onsen ก็สามารถมาอ่านทำความเข้าใจก่อนแช่ได้เลย



ก่อนเข้าไปซนออนเซนและโซนพักผ่อนจะมีให้เราเปลี่ยนรองเท้าก่อนครับ มีพนักงานคอยให้บริการเก็บรองเท้าตามหมายเลขสายรัดข้อมือที่เราได้รับมา โดยรองเท้าที่ให้เปลี่ยนจะเป็นรองเท้าสาน ทำจากวัสดุธรรมชาติ หลังจากเปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็เดินต่อไปได้เลย



ต่อไปก็จะมีเคาท์เตอร์สำหรับรับชุดกระเป๋าสำหรับผ้าเช็ดตัว ผ้าผืนเล็ก และชุด Jinbei สำหรับใส่ในโซนพักผ่อนครับ ชุดจะมีให้เราเลือกทั้งขนาด S M L XL 2XL ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆในกระเป๋าเราจะต้องนำมาคืนก่อนการเช็คเอ้าท์ออกนะครับ ผ้าที่เราสามารถนำเข้าไปในโซนออนเซนได้จะมีเฉพาะผ้าผืนเล็กสีขาวเท่านั้นครับ ซึ่งขนาดปานกลาง ไม่ถึงกับเล็กมาก คลุมรอบเอวได้พอดิบพอดี









โซนพักผ่อนจะมี Wifi ให้ใช้ด้วยนะครับ รหัสก็ตามรูปนี้เลย สัญญาณจะอยู่เฉพาะในโซนเท่านั้นนะครับ นอกร้านมาแอบใช้ไม่ได้นะ55



และที่บริเวณเคาท์เตอร์รับกระเป๋าผ้า ก็จะมีการอธิบายขั้นตอนเป็น Guideline สำหรับการแช้ออนเซ็นให้ด้วยครับ เราสามารถแช่ตามขั้นตอนได้ หรือจะแช่ตามใจก็ไม่มีใครว่าครับ แต่สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์ออนเซนแท้ๆ ก็ลองดูตาม Guideline นี้เลย



ก่อนแช่อยากให้เพื่อนๆลองอ่านคำเตือนเกี่ยวกับสุขภาพสักนิดครับ ว่าใครที่ไม่ควรแช่ออนเซนบ้าง หลักๆก็เกี่ยวกับสุขภาพเช่น ความดันสูง มีไข้ มีประจำเดือน(ห้ามแช่เด็ดขาด) มึนเมา ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังก็ไม่ควรแช่ครับ และใครที่ทำศัลยกรรมมาก็ไม่ควรแช่ (ซึ่งผมก็ได้ลองถามผู้จัดการดูเค้าแจ้งว่าเพื่อป้องกันความร้อนไปทำลายซิลิโคนหรือสารต่างๆที่ทำศัลยกรรมมา)



บริเวณโซนล๊อคเกอร์และออนเซนจะแยกชายหญิงครับ สีน้ำเงินคือผู้ชาย สีส้มๆแดงๆคือผู้หญิง อย่าเข้าผิดเด็ดขาดนะครับ สำหรับโซนนี้ก็จะแยกพนักงานดูแลและทำความสะอาดอย่างชัดเจน คือฝั่งผู้ชายก็จะใช้พนักงานผู้ชาย ฝั่งผู้หญิงก็จะใช้พนักงานผู้หญิงครับ



บริเวณโซนล๊อคเกอร์แบ่งเป็นตู้ๆ ขนาดมาตรฐานเหมือนที่ใช้กันตาม Fitness Center ครับ ตกแต่งด้วยวัสดุแบบไม้ธรรมชาติ ดูผ่อนคลายและสบายตาครับ ในล๊อคเกอร์มีไม้แขวนเสื้อให้ มีชั้นกั้นบริเวณส่วนล่างให้ 1 ขั้นในตู้ ซึ่ง Locker สามารถใส่กระเป๋าเป้ใบใหญ่ๆลงได้พอดีครับ
สำหรับโซนแต่งตัวจะมีกระจกบานใหญ่ให้ พร้อมทั้งอ่างล้างมือ กระดาษทิชชู่ ไดรเป่าผม หวี และ Body Lotion ครบครันตามมาตรฐานเหมือนล๊อคเกอร์ตาม Fitness ในโรงแรมชั้นนำทั่วไปครับ





ต่อไปก็จะมารีวิวในส่วนของออนเซนกันนะครับ ซึ่งโซนนี้จะไม่สามารถใช้กล้องถ่ายรูป ดังนั้นทางผมได้ขอรูปจากทาง Let’s Relax เพื่อมาประกอบการรีวิวโดยไม่ได้ถ่ายในโซนนี้เองครับ
บริเวณ Onsen จะมีประตูเลื่อนไฟฟ้าให้กดเข้าไป เมื่อเข้าไปแล้วก็จะมาถึงส่วนที่เราต้องอาบน้ำชำระร่างกายก่อนครับ แนะนำให้อาบน้ำ ถูสบู่ ล้างครีมบำรุงผิวทั้งหมดออก ล้างเครื่องสำอางค์ทั้งหมดออก และสระผมให้สะอาดก่อนแช่ Onsen ครับ ที่นี่จะมีทั้งที่อาบน้ำแบบนั่งเหมือนญี่ปุ่น หรือใครไม่สะดวกแบบนั่งก็จะมีแบบยืนให้อาบเช่นกัน ในโซนยืนอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower ให้ใช้ด้วยครับ น้ำสามารถปรับระดับความอุ่นหรือเย็นได้ที่บริเวณหัวก๊อกด้านซ้าย อาบได้อย่างสบายมีน้ำอุ่นให้ไม่ต้องกลัวหนาวครับ





เครื่องอาบน้ำที่มีให้จะประกอบด้วย สบู่เหลว แชมพูสระผม และครีมนวดผม ทั้งหมดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สั่งผลิตจากเครือ Siam Wellness คุณภาพใช้ได้เลยครับ ทั้งหมดจะใช้กลิ่น Jasmine หรือกลิ่นมะลิ ซึ่งผู้จัดการได้บอกผมว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่คนส่วนใหญ่ชอบกันครับจึงได้เลือกใช้



ต่อที่ความเห็นถัดไป
ชื่อสินค้า:   Let’s Relax Onsen and Spa
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง โดยได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากเจ้าของสินค้าเพื่อแลกกับการรีวิว
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้เข้าใช้บริการฟรี 1 ครั้ง แต่อาหารและค่าเดินทางจ่ายเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่