เชื่อว่าหลายๆ คน ก็อยากมีโอกาสไปสัมผัสความรู้สึกในการแช่ Onsen ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อตัดภาพมาที่กระเป๋าตังค์ใบน้อยๆ ถึงกับต้องถอนหายใจกันไปยาวๆ ว่า เฮ้ออออออออออออออออออ..... ไม่มีเงินนนนนน T___T แต่วันนี้... ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปค่ะ!! (นึกถึงเสียง ซาร่า กับ จอร์จ ณ ช่องทีวีขายสินค้า ช่องหนึ่ง 5555555) เพียงแค่คุณมีเงินในกระเป๋า 450 บาท ก็ได้ฟินกับ Onsen แล้วววว!! อันแหนะ!! เด็ดใช่ป่ะละ!?  อิอิ  เห็นไหมบอกแล้ว ยูวว์หริ่งแนะนำแต่อะไรที่คุ้ม!!! ถูกและดีมีที่ประเทศเรานะ รู้ยัง?!! แถมยังประหยัดเงินค่าตั๋ว ค่าที่พัก ค่ากิน ไว้ฟินๆ ในไทยแลนด์อีกด้วยยยยย เย้!!!!  ไปค่ะ เข้าเรื่องกัน 55555

ยูโนะโมริ ออนเซน เดินทางสะดวกมากๆค่ะ นั่งรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีพร้อมพงษ์ ออกที่ ทางออก 4 (ซอย สุขุมวิท 26) หรือ ทางออก 2 (ซอย สุขุมวิท 24) ก็ได้นะคะ จากนั้นก็ต่อรถไปยัง A Square นั่งแท๊กซี่หรือ มอไซด์รับจ้าง หรือ ถ้าหากมีรถยนต์ท่านสามารถขับไปได้เลยค่ะ เพราะ Yunomori Onsen  อยู่ในโครงการ A Square สะดวกสบายมีที่จอดรถแน่นอนค่ะ!!!

เมื่อเรามาถึงบริเวณโดยรอบของ Yunomori จะห้อมล้อมด้วยงานไม้ไผ่ ในส่วนนี้ยูวว์หริ่งลืมถ่ายเก็บภาพบรรยากาศด้านนอกมาฝากลูกเพจต้องขออภัยด้วยค่ะ... เนื่องจากว่าวันที่ไปทำรีวิวนั้น ฝนเกิดตกหนักมากค่ะ.. Sorry จริงๆนะคะพวกยูววว์....

เมื่อเดินเข้ามาด้านในของ Yunomori ก็จะเริ่มมม!!!ได้กลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นนนน... ซึ่งทำให้ยูวว์หริ่งรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากค่ะ  และเมื่อเข้ามาด้านในแล้วยูวว์หริ่งก็ไม่พลาดที่จะเก็บบรรยากาศ บริเวณโดยรอบๆ ของ Lobby ที่ Yunomori Onsen  มาฝากค่ะ


เห็นไหมคะว่า บรรยากาศโดยรอบของ Lobby มีกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย เมื่อเราเข้ามาด้านในแล้วให้เราทำการติดต่อ Check in เพื่อใช้บริการออนเซนที่ตรงเค้าเตอร์นี้เล้ยยยยยย......


ค่าบริการในการแช่ออนเซนจะอยู่ที่ 450 บาท โดยสามารถแช่ได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 9.00 – 24.00 ของทุกวันเลยค่ะ เห็นไหมคุ้มสุดๆ!! หลังจากที่เราชำระค่าบริการเรียบร้อย พนักงานจะแจก Hand band แบบนี้ให้เราค่ะ


ใน Hand band จะมีเลขระบุ!! ซึ่งเลขนั้นก็คือตู้ locker ของเราในห้องแต่งตัวค่ะ หลังจากที่เราได้รับ Hand band แล้ว เราจะได้ใบเสร็จเล็กๆ มา ให้นำใบเสร็จไปยื่นที่ห้องเก็บรองเท้า ทางซ้ายมือของเค้าเตอร์ ไม่ต้องกังวลว่าจะงงนะคะ พนักงานจะคอยแนะนำเราตลอดเลยค่ะ


เมื่อเข้ามาในห้องเก็บรองเท้า พนักงานจะให้เรานั่งรอที่บริเวณนี้ค่ะ จากนั้น พนักงานจะนำรองเท้ามาให้เราเปลี่ยนและจะสอบถามว่า locker เบอร์อะไรคะ เราก็แจ้งพนักงานไปเพียงเท่านี้ ก็เรียบร้อยค่ะ ถือว่าเป็นมาตรการที่ดีในการรักษาความปลอดภัย หมดกังวลเรื่องรองเท้าหายไปได้เลยค่ะ  หลังจากที่เราเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อยแล้วเราก็เดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลยค่ะ อย่าลืมนะคะต้องเก็บใบเสร็จเล็กๆ หน้าตาแบบนี้ไว้ให้ดีๆ ก่อนนะคะ


จากนั้นนำใบเสร็จใบเล็กๆ ไปยื่นที่เค้าเตอร์ตรงนี้เพื่อรับชุด Yukata ผ้าเช็ดตัว ผืนเล็ก ผืนใหญ่ และอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการแช่ออนเซนกันค่ะ


เมื่อรับชุด Yukata และอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วนะคะ เราก็เข้าไปที่ห้องแต่งตัวได้เล้ยยยย หลังจากที่เราเข้าห้องแต่งตัวแล้ว เค้าจะไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์และกล้องถ่ายรูปแล้วนะคะ เนื่องเป็นพื้นที่ส่วนตัว ลูกค้าบางท่านก็ได้ทำการเปลืองผ้าเรียบร้อยค่ะ ยูวว์หริ่งจึงขออนุญาตนำภาพถ่ายอ้างอิงจาก Yunomori Onsen เพื่อมาอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ ก่อนจะเข้าห้องแต่งตัวจะมีชั้นให้เราถอดรองเท้า อย่าลืมถอดรองเท้ากันก่อนนะคะ เพื่อความปลอดภัยจะได้ไม่ลื่นหกล้มค่ะ เมื่อเข้ามาถึงห้องแต่งตัว บรรยากาศในห้องแต่งตัวก็จะหน้าตาประมาณนี้เลยค่า


จะมี Locker ให้เราแบบนี้เลยค่ะ ให้เราเอา Hand band ของเราไปทาบที่ปุ่มหน้าตู้ตามหมายเลขของเรา เพื่อเอาของเข้าไปเก็บในตู้หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จค่ะ จะบอกว่าเจ้า Hand band ของเราเนี๊ยะ!! ช่างสารพัดประโยชน์จริงๆนะคะ สามารถลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อน Onsen ที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 39 องศาขึ้นไปได้ด้วยยยย... ดีงามพระราม 8 ไหมละคะคู๊ณณณณณณ หลังจากที่เราเปลี่ยนชุด Yukata เรียบร้อยก็ตามทำเนียมค่ะ เราก็ต้องออกไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึกกันสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะพอได้ไหมนะคะ?!! ยูวว์หริ่งขอบอกเลยว่า!!! นี่เป็นการใส่ชุด Yukata  ครั้งแรกของยูวว์หริ่งค่ะ ทั้งตื่นเต้น!! ทั้งดีใจ!! และมีความสุขมากๆ กับการมาแช่ออนเซนในครั้งนี้....


หน้าตาตนได้ใส่ชุด Yukata ครั้งแรกก็จะเบิกบาน เบิกบาน เหมือนดอกไม้ในรูปแรกหน่อยๆค่ะ 555555  บรรยากาศโดยรอบของบริเวณด้านหน้าของห้องแช่ออนเซนก็จะมีความญี่ปุ่นสู๊งสูง..ประมาณนี้ค่ะ


หลังจากที่เราถ่ายรูปกับชุด Yukata เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเติมพลังด้วยการ “กินนนนน” กันก่อนเลยค่ะ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ!! ที่ Yunomori นั้นก็จะมีคาเฟ่และร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นให้เราได้เข้าไปใช้บริการค่ะ


ไปแต่ตัวกับ Hand Band และกล้องคู่ใจเท่านั้นก็พอนะคะ เพราะสามารถรวมยอดค่าบริการส่วนเกินในส่วนที่รับประทานอาหาร หรือ ดื่มกาแฟใน Yunomori Onsen ได้ด้วยการแจ้งเบอร์ Locker กับพนังงานหลังจากที่เราทำการสั่งอาหารแล้วค่ะ สะดวก!!! สบายยยยยยย!!! ไม่วุ่นวาย!!! เรื่องพกกระเป๋าเงินนนนน เริศไปอี๊กกกก!!!  

ในวันนี้ยูวว์หริ่งก็ได้เลือกทานอาหารที่คาเฟ่ค่ะ หน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้นะคะ!! โดยส่วนตัวเนี๊ยะ!! Yuling เป็นคนชอบทานอาหารญี่ปุ่น ถ้าจะให้คะแนนสำหรับอาหารมื้อนี้ในวันนี้ก็ขอให้คะแนน 6/10 นะคะ เนื่องจากรสชาติอาหารถือว่าอยู่ในระดับปกติ ไม่ได้ดีหรือไม่ได้แย่ แต่วาซาบิ บอกเลยว่าอ่อนมาก 555555 มันไม่จี๊ดดดด อ่ะ แต่ก็ถือว่าอาหารอร่อยได้อยู่น๊า ถ้าวาซาบิจี๊ดกว่านี้คะแนนสำหรับสายกินอย่างยูวว์หริ่งคงให้มากกว่านี้ค่ะ


หลังจากที่เราทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็เดินถ่ายรูปเล่นรอบๆ Yunomori Onsen เพื่อค่าเวลารออาหารย่อย!! ก่อนที่จะไปแช่ออนเซนกันค่ะ เราสามารถถ่ายรูปได้ทุกที่ในบริเวณที่เขาอนุญาตให้เราใช้กล้องได้นะคะ ถามว่าได้รูปเยอะไหม ก็ไม่รู้สินะ!! ก็ได้มาแค่ไม่กี่ใบเองงงงงงงง.... ไม่เชื่อก็ลองไปชมดูค่ะ!! พวกยูวว์ ยูวว์หริ่งไม่ได้โม้!! จริงๆน๊า  ;P


ก็ไม่ค่อยได้รูปเท่าไหร่เลยเน๊อะ ว่าป่ะ 555555555555555555555555555 ไม่ได้โม้จริงๆ เชื่อยางงงงงงง อิอิ พอหลังจากที่เราอิ่มเอมกับการถ่ายรูปในชุด Yukata แล้วก็ถึงเวลาที่เราลอยคอ เอ้ย!! รอคอย!!! นั้นก็ คืออออออออ ไปแช่ “ออนเซนกันนนนน” เมื่อเข้ามาถึงด้านในห้องเปลี่ยนชุด ก็ทำการเปลืองผ้า สำหรับคนที่อาย!!! เขินว่าจะโป้ไหม?! ไม่ห่วงเลยค่ะ ตอนที่เรารับอุปกรณ์ก่อนเข้ามาในห้องเปลี่ยนชุดพนักงานได้แจกผ้าผืนเล็กๆ สีดำ แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ เสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในสำหรับคุณผู้หญิง ให้ไว้ปิดอำพรางส่วนบนและล่าง ถามว่าพอจะพรางได้ไหม ก็สามารถพรางได้ในระดับนึงค่ะ แต่ก็ไม่ได้ 100% ประหนึ่งหลอกๆให้เรารู้สึกดีว่าไม่โป้แล้วเนอะ อะไรทำนองนี้ค่ะ 555555 ในระหว่างที่แช่ในห้องออนเซนสามารถนำผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเข้าไปไว้สำหรับเช็ดเหงื่อในขณะที่แช่ออนเซนค่ะ ก่อนที่จะแช่ออนเซน เราต้องทำการชำระล่างกายที่บริเวณนี้กันก่อนเลยค่ะ


ต้องอาบน้ำอุ่นและชำระร่างให้ร่างกายสะอาด ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเนื่องจาก ก่อนจะแช่ออนเซน เราต้องปรับอุณหภูมิร่างกายของเราให้พร้อมเสียก่อน เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ทัน จะได้ไม่ป่วยหลังจากทำการแช่ออนเซนค่ะ