▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ
สปา
ธุรกิจสปา
เที่ยวญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
[CR] Panpuri Onsen ออนเซนบรรยากาศสุดหรู น้ำแร่สะอาด บรรยากาศผ่อนคลาย ชมวิวรถไฟฟ้า ที่ ปัญญ์ปุริ เวลเนส Gaysorn
สวัสดีครับเมื่อวันก่อนผมเองได้ลองไปใช้บริการออนเซ็น รูปแบบญี่ปุ่น ซึ่งได้ข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า ดีที่สุด หรูที่สุด (และแอบแพงที่สุด) บอกก่อนว่าผมเองยังไม่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยสักครั้ง จึงยังไม่เคยได้สัมผัสออนเซนแท้ๆที่ญี่ปุ่นเลย เห็นที Panpuri มาเปิดบริการ onsen ที่อาคารเกษร วิลเลจ เลยต้องมาลองให้ได้สักครั้งหนึ่งครับ บอกเลยว่ามันยอดสมคำร่ำลือจริงๆ เป็นยังไงมาชมกันครับ
หมายเหตุ รีวิวนี้ผู้รีวิวไปใช้บริการโดยจ่ายค่าบริการตามปกติ ไม่ได้รับสปอนเซอร์มาจากร้านค้าแต่อย่างใดครับ จึงขอเขียนหัวข้อข้างบนว่า CR (Customer Review) นะครับและบอกเลยว่าไม่ได้ชมจนเกินจริงแน่นอน บรรยายตามความรู้สึกของตัวเองครับ รูปภาพใช้กล้องมือถือธรรมดา อาจจะไม่ชัดนักต้องขออภัยด้วยครับ
Panpuri Wellness ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของอาคาร Gaysorn Village ขึ้นลิฟท์มาก็ถึงเลยครับ ใครที่มาใช้บริการแนะนำให้ใช้รถไฟฟ้ามานะครับจะสะดวกมาก ลงสถานี BTS ชิดลม แล้วเดินผ่านทางเชื่อมเข้ามาที่อาคารได้เลยครับ (หากใช้รถยนต์ย่านใจกลางเมืองแบบนี้ต้องเผื่อระยะเวลาการเดินทางนิดนึงครับ)
Panpuri Wellness มีการให้บริการทั้งส่วนของสปารูปแบบต่างๆ โซนนวด โซนออกกำลังกาย(มีคลาสทุกวัน) โซนคาเฟ่ โซนพักผ่อนนอนชมวิว และโซนออนเซนครับ
สำหรับที่นี่พื้นที่ห้องรับรองจะค่อนข้างกว้างขวาง และสะอาด จะมาการให้เปลี่ยนมาใส่รอบเท้าแบบญี่ปุ่นตั้งแต่ทางเข้าเลยครับ และมีล๊อคเกอร์สำหรับเก็บรองเท้าให้โดยเฉพาะ
หลังจากเก็บรองเท้าแล้ว เราก็จะต้องมาที่เคาเตอร์ครับ มาเลือกว่าต้องการใช้บริการอะไร สำหรับการนวดก็จะมีให้เลือกหลายรูปแบบ รวมทั้งมีห้อง Private Onsen ให้จองได้ด้วย สำหรับวันนี้มาทดลองใช้บริการ Onsen แบบปกติครับ ซึ่งค่าใช้บริการอยู่ที่คนละ 750 บาท อยู่ได้ทั้งวัน (บางช่วงอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ) ซึ่งใครที่ต้องการใช้บ่อยๆก็มีแพ๊คเกจรายเดือนหรือรายปีให้เลือกสมัครกันด้วยนะครับ
หลังจากชำระค่าบริการแล้วก็จะได้ Wristband มาเส้นนึง ไว้สำหรับในการเข้าโซน Onsen ครับ ถ้าใครมาใช้ที่นี่ครั้งแรกก็จะมีให้กรอกประวัติลงทะเบียนเล็กน้อยกับทางระบบก่อนครับ
หลังจากนั้นเราก็จะเข้าไปเพื่อเก็บของและเปลี่ยนชุดกันครับ ที่นี่ในชุดจะให้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ผ้าผืนเล็ก น้ำดื่ม มาให้ในกระเป๋า และมีชุดแบบญี่ปุ่นให้เราใส่พักผ่อนครับ ล๊อคเกอร์แยกระหว่างหญิงและชายชัดเจน
สำหรับล๊อคเกอร์ที่นี่ก็บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลายครับ ใช้ระบบสแกนเพื่อล๊อคเช่นเดียวกัน ขนาดใหญ่กำลังดี เก็บกระเป๋าเป้ใบใหญ่ปานกลางลงได้พอดิบพอดี พร้อมทั้งแขวนเสื้อได้อยู่ครับ บริเวณล๊อคเกอร์จะมีในส่วนของไดรเป่าผม เครื่องบำรุงผิวต่างๆมาให้
ซึ่งบอกเลยว่าเครื่องบำรุงผิวที่นี่ดีมากๆครับ ใช้ของ Panpuri เองเลย เท่าที่ทราบมาเครื่องบำรุงผิวพวกนี้ก็ราคาสูงไม่เบาครับ มีทั้ง Lotion ทาตัว ทาขอบตา และสเปรย์คล้ายๆเซรั่มสำหรับบำรุงผิวหน้า (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะล๊อคเกอร์เค้าไม่ให้ถ่ายรูปละครับ)
หลังจากนั้นก็มาแช่ออนเซ็นกันครับ ที่นี่ก็จะสามารถเอาผ้าผืนเล็กนุ่งเข้าไปได้ แต่ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้เก็บไว้ที่ล๊อคเกอร์ครับ
(ภาพในโซนออนเซน จะเป็นภาพที่เอามาจาก Internet เพื่อประกอบรีวิวนะครับ ไม่ได้ถ่ายเอง เพราะโซนนี้จะเอากล้องเข้าไปไม่ได้ครับ)
อย่างแรกก็คือจะมีส่วนของที่อาบน้ำ สระผมให้ครับ มีทั้งครีมอาบน้ำและแชมพูของ Panpuri ให้อย่างดีทุกที่ หอมและสดชื่น เหมือนใช้เครื่องอาบน้ำราคาแพงๆเลยละครับ และตอนที่ผมไปยังมีโฟมล้างหน้าของ Panpuri ให้ด้วย ที่นี่บอกได้เลยว่าเป็นที่แรกที่ผมเห็นมีโฟมล้างหน้าให้บริการ (ที่อื่นไม่เคยเห็นว่ามีโฟมล้างหน้าให้ครับไม่ว่าจะ Fitness ชื่อดัง หรือตามโรงแรมหรูๆก็ไม่เคยเห็น) ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดดีมากครับ
รูปจาก Internet
ตัวอย่างครีมอาบน้ำและแชมพูครับ
อาบน้ำเสร็จก็แช่ออนเซนได้ ที่นี่มีหลายบ่อให้แช่ครับ และจะมีป้าย Guideline เขียนให้ เราจะแช่ตามป้ายที่เขียนหรือว่าแช่เองตามใจก็ได้ครับสิ่งที่น่าประทับใจคือ มีพนักงานคอยมาทำความสะอาดและดูคุณภาพน้ำในบ่ออย่างสม่ำเสมอครับ ทำให้พื้นที่ดูดีอยู่เสมอและเป็นระเบียบ
บ่อแช่จะมีหลายบ่อดังนี้
- Signature Kusatsu Onsen ความร้อนประมาณ 40 องศา
- Seasonal Bath ความร้อนประมาณ 41.5 องศา
- Soda Bath ความร้อนประมาณ 39 องศา
- Cold Plunge Pool ความเย็นประมาณ 17-18 องศา
- Vitality Pool ความร้อนประมาณ 39 องศา พร้อมน้ำวนเพื่อความผ่อนคลาย
รูปจาก Internet
และยังมีห้อง Sauna ที่มีส่วนประกอบของเกลือ Himalayan Salt Sauna
และห้อง Steam Room ที่มีสมุนไพรหอมให้ผ่อนคลายขณะนั่งด้วยครับ
รูปจาก Internet
หลังจากแช่ออนเซนเสร็จก็สามารถมานั่งพักผ่อน ชมวิว Central World ที่โซน Relax Room ได้ครับ ที่นี่ก็จะมีน้ำดื่มกลิ่นใบเตนให้บริการ มีผ้าเช็กตัวสำหรับรองนอน และมีโซฟาให้นอนเล่น รวมทั้งมีที่ชาร์ทมือถือให้ทุกที่นั่งด้วยครับ
รูปวิวที่ถ่ายเองช่วงกลางคืนจากห้อง Relax Room
ต่อไปมาดูในโซนคาเฟ่กันบ้างครับ หลายๆคนแช่น้ำเสร็จแล้วหิว ก็มาหาอะไรรับประทานที่นี่กันได้
พื้นที่ในส่วนของ Cafe จำหน่ายอาหาร Organic (อาหารที่ปราศจากการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง) มีทั้งเครื่องดื่ม สลัด และอาหารหลัก ซึ่งเท่าที่ดูก็อาจจะมีเมนูยังไม่ได้มากนักสำหรับในส่วนของเครื่องดื่มและอาหาร แต่ถ้าเป็นมื้อเบาๆก็เอาอยู่ครับ ค่าอาหารคร่าวๆก็จะอยู่ที่ประมาณจานละ 200 บาท แล้วแต่เมนูครับ
นั่งกินได้ตามสบายครับ พื้นที่กว้างขวางและคนไม่เยอะ
ใครที่อยากทำงานก็เอาโน้ตบุ๊คมานั่งใช้งานกันโซนนี้ได้ครับ จะมีส่วนของโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือนั่งทำงานได้ และข้างๆก็ยังมีชั้นโชว์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ Panpuri ให้เลือกซื้อกันได้ด้วยครับ
ใครที่มาช่วงเย็นๆและเตรียมชุดออกกำลังกายมา ที่นี่ก็มี Class ออกกำลังกายให้สามารถเข้าใช้บริการได้นะครับ ไม่ได้เสียเงินเพิ่ม แต่ละวันจะมีสอนอะไรบ้างต้องเช็คล่วงหน้าก่อนนะครับ ห้อง Class อยู่บริเวณข้างๆของโซนนั่งทำงานครับ
สุดท้ายนี้ผมขอสรุปจุดเด่น และสิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติมของ Panpuri Wellness ในส่วนของ Onsen และในภาพรวม ตามความเห็นของผมนะครับ
จุดเด่น
1.เป็น Onsen ที่หรูหราที่สุด พื้นที่กว้างขวางและทันสมัยที่สุด
2.ได้ชมวิวใจกลางเมืองด้วยตอนที่แช่น้ำ ถ้ามาใช้บริการช่วงกลางวัน (แต่ตอนค่ำจะปิดม่านครับ)
3.เจ้าหน้าที่ดูแลทำความสะอาดโซนออนเซน และห้อง Sauna รวมทั้งห้อง Steam อย่างสม่ำเสมอ ทุกๆประมาณ 15-20 นาที ทำให้ดูเป็นระเบียบและสะอาดตลอดเวลา น้ำไม่แฉะทางเดินระหว่างบ่อมากนัก
4.มีการตรวจคุณภาพของน้ำในบ่อ และรายงานสถานะเป็นตัวเลขอยู่ตรงทางเข้าออนเซน (ช่วงที่ผมไปใช้บริการเห็นเจ้าหน้าที่มาตักน้ำในบ่อ แยกใส่แก้วช่วงประมาณ 19.30น.) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความสะอาดและมาตรฐานของน้ำครับ
5.เดินทางสะดวก ใช้รถไฟฟ้า BTS ได้เลย
6.เครื่องบำรุงผิวที่มีให้ใช้ดีมาก ของแพงๆเกรดดีๆทั้งนั้นครับ ทั้งครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า Lotion และที่คล้ายๆเซรั่มสำหรับทาหน้า
สิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติม
1.ถ้ามีการทำแพ๊คเกจรายปีร่วมกับ Fitness ที่อยู่ข้างเคียง ให้คนที่เล่น Fitness เสร็จสามารถเดินมาแช่น้ำร้อนผ่อนคลายกล้ามเนื้อต่อได้เลยจะดีมากครับ
2.เมนูอาหารถ้าเพิ่มขึ้นอีกนิดน่าจะดีครับ
ขอจบรีวิวเท่านี้ครับ สุดท้ายนี้อยากบอกว่า หรูสุด ดีที่สุด ใครที่ไม่เคยแช่ออนเซน ไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่อยากลองสัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซน ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นเลยครับ มาที่ Panpuri ที่เดียวจบสำหรับที่นี่ผมให้เป็น The Best แล้วสำหรับ Onsen ในกรุงเทพครับ
และขอฝากกลุ่ม Japanese Club Thailand เพื่อนๆที่สนใจชอบท่องเทียวแบบญี่ปุ่นในไทย สามารถเข้ามาชมกลุ่มกันได้ครับ https://www.facebook.com/groups/onsenthailand
และสำหรับใครที่สนใจจองช่วงนี้มีโค้ดลดราคาจาก Gowabi ครับ
รหัส Coupon Code ส่วนลดพิเศษจาก Gowabi มาฝากกันครับ รีบใช้และจองกันเลยครับก่อนจะหมด ประหยัดไปได้เยอะครับ จองได้ทุกร้านบน App นี้
kckbuctj-3789050
กรอกรหัสตรงส่วนของ Coupon จะได้ลดพิเศษเพิ่มเติมจากเดิมที่ลดอยู่แล้วอีก 100 บาท จองผ่าน App หรือผ่านเว็บก็ได้ครับ
Panpuri Onsen ออนเซ็น จากราคาปกติ 750บาท ถ้ากรอกรหัสนี้ก็จะเหลือแค่ 550 บาท (แบบเข้าใช้ได้ทั้งวัน)
https://www.gowabi.com/en/provider/panpuri-wellness
Let's Relax Onsen ออนเซน จากราคาปกติ 700บาท ถ้ากรอกรหัสนี้ก็จะเหลือแค่ 500 บาท (แบบเข้าใช้ได้ทั้งวัน)
https://www.gowabi.com/en/provider/let-s-relax-onsen-thong-lor
จองร้านอื่นๆใน App ก็ใช้รหัสนี้ได้เช่นกันครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น