@@@ สองฝั่งโขง - ความต่างขั้วของระบอบและอุดมการณ์ที่ต้องเปลี่ยนแปลง @@@

ลาวและไทยผูกพันกันมาตั้งแต่โบราณกาล ทั้งสายเลือด ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา  และ ชีวิตความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน   แต่ภายหลังด้วยลัทธิการปกครอง  ทำให้บ้านทั้งสองหลังถูกกีดกันออกจนห่างไกล  

     แต่เมื่อโลกเปิดกว้างขึ้น  สื่อต่าง ๆ และโลกโซเชียลได้ไหลเวียนแลกเปลี่ยน  อีกทั้งคนลาวได้หลั่งไหลเข้ามาเรียนและทำงานในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก   ทำให้วัฒนธรรมใหม่  ภาษา  สินค้า และสื่อต่าง ๆ จากไทยไหลวนกลับเข้าไปในลาวอีกครั้ง  

        การพัฒนาประเทศ  เศรษฐกิจ  สังคม  การเมือง  สิทธิและเสรีภาพของคนในประเทศ   ถูกยกขึ้นมาพูดกันอย่างกว้างขวาง   ได้มีการเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะบ้านใกล้เรือนเคียงที่ทั้งรักและเกลียดกันมานานอย่างไทย

       พร้อมกับกระแสอันเชี่ยวกรากของทุนนิยมและข้อมูลข่าวสาร  ประเทศลาวซึ่งเคยปิดกั้นไว้  และแนบแน่นอยู่แต่กับเวียดนาม  จะปรับตัวอย่างไร  


                  ..............................................................


..............................................................

     แสงอาทิตย์ก่อนตกดินสาดสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับ   สีสันบรรยากาศแห่งนครเวียงจันทร์ในฤดูหนาวยามใกล้ค่ำ   ทำให้ภายในร้านอาหารริมโขงแห่งนี้  แน่นไปด้วยด้วยผู้คนที่มานั่งดื่มและทานอาหารมื้อเย็น

     โต๊ะริมสุดระเบียงที่ยื่นออกไปชมวิวแม่น้ำ    แสนภูเอนร่างพิงพนักด้านหลังจิบเบียร์ด้วยท่าทางสบายอารมณ์  สายตาจับจ้องสาวสวยเบื้องหน้าที่กำลังไล่ชิมอาหารไปทีละอย่าง   เธอละเลียดกินไปอย่างช้า ๆ พร้อมเอียงคอพิจารณารสชาติไปพลาง  บางครั้งก็พยักหน้าอย่างพอใจ  หรือบางขณะก็สั่นศีรษะมุ่นหัวคิ้วชนกัน

     สตรีสาวบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามโต๊ะนับเป็นหญิงงามได้คนหนึ่ง  แม้การแต่งกายและท่าทางของเธอจะแฝงความเป็นนักธุรกิจอยู่บ้าง  แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าดูนั้นลดลง  กลับเป็นเสริมบุคลิกของเธอให้สง่างามยิ่งขึ้น

     ขณะกำลังเพลิดเพลินกับภาพเบื้องหน้า  แสนภูก็ต้องถูกขัดจังหวะ  เมื่อเก้าอี้ตัวด้านข้างถูกกระชากออก  จากนั้นก็มีร่างหนึ่งกระแทกก้นลงนั่งโดยแรง  

     “แกไปบอกให้ไอ้แสงมันหยุดเลยนะ  ก่อนที่จะถูกตามล่าจนไม่มีแม้กระทั่งแผ่นดินจะอยู่   ..”

    ผู้ที่กำลังคำรามออกมานั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด  แต่งกายในชุดเจ้าหน้าที่ของรัฐ   พูดพลางก็ยื่นส่งโทรศัพท์มือถือซึ่งกำลังเปิดคลิปในยูทูปค้างไว้อยู่     แสนภูต้องเบี่ยงศีรษะหลบเมื่อโทรศัพท์นั้นแทบจะทิ่มเข้ากับใบหน้า

    “ใจเย็น ๆ เพื่อน  ... “  แสนภูหัวเราะอย่างอารมณ์ดี   รับโทรศัพท์เครื่องนั้นมากดคลิปค้างไว้แล้ววางบนโต๊ะ  จากนั้นคว้าแก้วเปล่าอีกใบรินเบียร์ส่งให้ผู้มาใหม่  

    “เอ้า !! ดื่มเบียร์ลาวของเราดับโมโหไปก่อนสักแก้ว  แล้วค่อยพูดค่อยจากัน  ..”

    เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือที่เรียกกันว่ารัฐกรคนนั้นรับเบียร์มาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว  เหมือนกับจะอาศัยเป็นเครื่องดับอารมณ์ร้อนอันคุกรุ่นอยู่ภายใน   จากนั้นถือวิสาสะคว้าขวดเบียร์มารินต่อให้ตนเอง   คราวนี้ค่อย ๆ จิบ  พลางพยักหน้าไปทางโทรศัพท์คล้ายบอกแสนภูให้เปิดดูคลิป

    แสนภูกดดูคลิปที่ตนหยุดค้างไว้    ภายในเป็นภาพของพื้นที่ชนบทยากไร้   ทุ่งนาแห้งกรอบ ชาวนาในชุดยากไร้   รูปน้ำท่วมมิดหลังคา   ถนนที่เต็มไปด้วยโคลนตมและมีรถโดยสารติดอยู่    อาคารที่มีเด็กกำลังเรียนหนังสือ  แต่อยู่ในสภาพหลังคาโหว่ ขาดฝาผนังและเป็นพื้นดิน

    ภาพเหล่านั้นเลื่อนผ่านไป   สักครู่ก็ตัดภาพมาที่ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งพรางใบหน้าด้วยแว่นสีดำขนาดใหญ่และกำลังบริภาษรัฐบาลอย่างดุเดือด  

    “เห็นไหม .. “   รัฐกรหนุ่มบอกด้วยอาการหงุดหงิด  หลังนิ่งฟังด้วยกันไปได้สักครู่

        “... ไอ้แสงมันหนักข้อขึ้นทุกวัน  ถึงกับร่วมจัดตั้งองค์กรต่อต้านรัฐบาล   หาเรื่องภายในขุดคุ้ยแล้วทำตัวเป็นโฆษกออกคลิปด่าเป็นรายวัน  ตอนนี้ก็ถึงขั้นถูกผู้ใหญ่หมายหัว  ถึงแม้มันจะพรางหน้าพรางตัว แต่มีหรือที่ฉันจะจำไม่ได้.. “

      แสนภูกดหยุดคลิป  ยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้เพื่อน  เค้าหน้าส่อแววหนักใจ   กล่าวต่อมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมลง

      “ คลิปนี้ฉันเห็นแล้วและก็ดูตั้งหลายรอบ  ฉันเคยคุยกับแสงตะวันแล้วนะรังสี  แต่แกก็รู้ว่าเพื่อนเรามันหัวแข็งและดื้อขนาดไหน  ลองแบบนี้แสดงว่ามันตั้งใจชนเต็มที่   เห็นทีจะเตือนได้ยาก  เป็น เพราะเรื่องนี้ทะเลาะกันมาไม่รู้เท่าไหร่ ..”

    “.. ถึงอย่างไรก็ต้องทะเลาะกับมันอีก  จะปล่อยให้เจ้าแสงทำปานนั้นไม่ได้  ต้องเป็นแกแหละที่ไปพูด  เพราะมันไม่ยอมพบกับฉัน. .. “  
รัฐกรหนุ่มหรือรังสีโต้กลับ   น้ำเสียงยังแฝงความขุ่นมัวอยู่เช่นนั้น

    “... แรก ๆ ยังแค่เอารูปภาพของบ้านเมืองไปประจานให้ชาวโลกดูก็ยังพอทน   ก็ทำใจอยู่ว่าประเทศเรามันกำลังพัฒนา  จะโมโหก็มีพวกคนไทยออกมาหัวเราะดูถูก ซ้ำเติม  ถ้าเป็นคลิปประเทศลาวออกมาเมื่อไหร่  ทำโผล่มาสอดรู้อวดรู้สลอน   ทีของมันล่ะใครแตะไม่ได้   คนอื่นเขาว่าหน่อย ก็ ดิ้นกันเป็นฟืนเป็นไฟ  ... “

    แสนภูทำหน้าพิกล  ทำท่าจะกล่าวอะไร  แต่รังสียกมื้อห้าม

    “แกอย่าเพิ่งขัด  ขอฉันระบายหน่อย  เห็นไหมคลิปนี้มันด่ารัฐบาลเสียไม่มีดี  ทั้งว่าคอรับชั่นทั้งไม่มีความสามารถ  แล้วเรียกร้องให้ชาติลาวเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยทันที  .. พวกคนไทยก็แห่มาคอมเมนต์  ทำเป็นสอนโน่นนี่  ไอ้ที่น่าโมโหคือมาด่าว่าคนลาวโง่  คนลาวขี้ขลาด    คนลาวเป็นขี้ข้าเวียดนาม  ไอ้พวกนี้ก็เข้ามาด่าแล้วก็หายหัว  มันน่าเจ็บใจ .. “

       “ .. หยุดก่อน   ฉันว่า ... “  แสนภูพูดขึ้นอีกครั้ง   แต่รังสีสวนกลับด้วยอารมณ์ยังเดือด

       “.. เดี๋ยว !!  อย่าเพิ่ง..  ยังไม่หยุด   อย่างกับว่าประชาธิปไตยมันวิเศษนัก  ไทยเองก็ลองผิดลองถูกมาตั้งเท่าไหร่  ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งมาไม่รู้กี่ฉบับ   ตอนนี้ถือเป็นประชาธิปไตยอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้   ถามชาวบ้านคนไทยเหอะ   จะมีใครรู้จักประชาธิปไตยอยู่จริง ๆ สักกี่คน  แม้แต่ตัวไอ้คนคอมเมนต์เคยไปเลือกตั้งหรือเปล่าเหอะ  เห็นมีแต่พวกเกรียนหยาบคาย.. ”

      รังสีตบโต๊ะพูดระบายต่ออย่างอัดอั้น

     “คิดหรือว่าถ้าลาวเปลี่ยนมาใช้ทันทีแล้วมันจะดี   ชาวบ้านยังไม่รู้เลยว่าประชาธิปไตยมันเป็นตัวอะไร   เดี๋ยวก็ถูกนักการเมืองหลอกซื้อเสียงแบบไทย   แล้วก็เปลี่ยนหน้ากันมารุมกินประเทศ    ไอ้แสงมันก็คิดไปได้โง่ ๆ  อยู่ใกล้ ๆ จะเตะให้สลบคาเท้า .. “

      รังสีคว้าแก้วเบียร์มาดื่มรวดเดียวหมดอีกครั้ง  คราวนี้เหมือนจะอารมณ์เย็นลงบ้าง    พยักหน้าให้แสนภู

      “  .. เอ้า !!  .. เมื่อกี้แกจะว่าอะไร  ..”

      แสนภูยิ้มแห้ง ๆ   ชำเลืองไปทางหญิงสาวฝั่งตรงกันข้ามที่นั่งยิ้มฟังอยู่   พลางพูดอ้อมแอ้ม


      “.. ไม่ทันแล้วเพื่อน  ฉันกำลังจะบอกแกว่าในโต๊ะมีคนไทยนั่งอยู่ด้วย   .. เท่านั้นแหละ”



....   ต่อด้านล่าง ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่