เหตุการณ์เน่าๆในชีวิต เอามาเล่าในรูปของนิยาย แต่เอามาจากเรื่องจริงของฉันเอง

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ฉันชื่อเร ฉันเป็นแค่เด็กสาวม.ปลายธรรมดาๆ ทั่วไป ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนอย่างสงบสุขอย่างที่เด็กมัธยมควรจะเป็น ฉันมีเพื่อน มีแฟน แต่หลังจากวันนี้มันคงไม่คงปกติอีกต่อไปแล้ว เมื่อสามวันก่อนฉันกับเพื่อนๆ จัดปาร์ตี้วันศุกร์เหมือนทุกครั้ง แต่ที่ไม่เหมือนทุกครั้งคือ อยู่ดีๆ บอสแฟนที่ฉันรักมากกับเจนเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันมีท่าทีแปลกๆ ไป ทั้งคู่ไม่ค่อยพูดจากันเหมือนเคย ทั้งๆ ที่ปกติทั้งคู่ดูเข้ากันได้ดีแม้จะชอบเถียงกันบ่อยก็เถอะ ฉันเองก็เบาใจที่จะไม่มีปัญหาแฟนกับเพื่อนเธอจะเลือกใครมาให้คิดหนัก แต่วันนี้เหมือนเจนกับบอสจะทะเลาะอะไรกันมาก่อนหน้านี้ ฉันเห็นเจนดึงมือแขนบอสเข้าไปคุยอะไรกันที่หลังบ้าน ด้วยความที่ไว้ใจและเห็นว่าทั้งคู่สนิทกันอยู่แล้วฉันก็ไม่ได้เอ่ะใจอะไร จนเวลาผ่านไปหลายนาทีบอสก็เดินฉับๆออกไปจากงานด้วยท่าทางอารมณ์เสีย เสียงเจนตะโกนไล่หลังตามมา
“เออ ไปเลยนะ กูจะได้จำไว้ว่ามันชอบหนีปัญหา”
ฉันจึงวิ่งเข้าไปหาเจน
“เจน แกเป็นไรวะ ช่วงนี้ฉันเห็นแกสองคนเถียงกันบ่อยๆ มีไรป่าววะ ฉันไม่อยากให้แกสองคนมีปัญหากันนะเว้ย”
“แกก็ไปถามมันสิวะ” เป็นครั้งแรกที่เจนสะบัดแขนใส่ฉัน ฉันจึงตัดสินใจวิ่งตามบอสไป
“บอส ๆ หยุดก่อน เฮ้ยบอส เราบอกให้รอก่อนไง เป็นอะไรทำไมจู่ๆถึงเดินออกมาไม่บอกเราสักคำเลยอ่ะ”
บอสหยุดแล้วหันมายิ้มให้ ซึ่งใครก็ดูออกว่ามันดูฝืนมากขนาดไหน
บอส : “เปล่า ไม่ได้เป็นไรนี่แค่อยากกลับบ้านน่ะ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก”
ฉัน : “บอส เราคบกันมานานแล้วนะเว้ย แกมีปัญหาหรือไม่มีทำไมเราจะดูไม่ออกวะ นี่ยังรักกันอยู่บ้างมั้ย เราไม่มีค่าพอที่จะรับรู้อะไรเลยใช่ป่ะ ทำแกสองคนต้องทำเหมือนเราเป็นคนอื่นวะ แกเห็นเราเป็นอะไรอ่ะบอส”
บอส : “พอเถอะเร เราบอกไม่มีอะไรก็คือไม่มี อย่าเซ้าซี้น่ารำคาญ” เป็นอีกครั้งที่คนที่ฉันรักสะบัดแขนใส่ฉัน
ฉันเดินกลับเข้ามาหาเจนในบ้านด้วยความโมโห
ฉัน : “เจน แกบอกฉันได้มั้ยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน แกสองคนเป็นอะไรกันวะ ทำไมต้องทำเหมือนฉันเป็นคนอื่น มีปัญหาอะไรกันก็บอกดิวะ ทำแบบนี้มันอึดอัดนะเว้ย”
เจน : “แกคิดว่าแกอึดอัดยุคนเดียววะ รู้ไว้ด้วยนะเว้ย ว่ากูอึดอัดกว่าเยอะ” เจนเริ่มใช้คำหยาบและกระดกแก้วเหล้าตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ฉัน : “ก็บอกกูมาดิวะ พูดแบบนี้กูจะไปตรัสรู้ได้มั้ย ว่าอึดอัดหรือไม่อึดอัดเรื่องอะไรอ่ะ” ฉันเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น
เจน : “แน่ใจจนะว่าอยากรู้จริงๆ”
ฉัน : “เออ พูดมาดิวะ กูอยากรู้”
เจน : “กูมีอะไรกับบอสแล้ว”
ฉันนิ่งแล้วนั่งหันหลังให้กับเจน ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัด ฉันไม่สามารถบอกความรู้สึกตอนนี้ได้ว่าฉันรู้สึกยังไง เพราะฉันพูดอะไรไม่ออก แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า
“เร เร เงียบทำไมวะ พูดอะไรบ้างดิ ด่ากู ตบกูก็ได้” เสียงของเจนปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“นานแล้ว หลายเดือน ตอนนั้นแกกลับต่างจังหวัด ฉันไปกินเหล้ากับพวกไอ้อัน วันนั้นไอ้บอสมันอยู่ด้วย แล้วฉันกับมันก็เมามาก ฉันไม่ได้ตั้งใจนะเว้ยเร แต่มันบอกว่ามันรักฉัน มันจะเลิกกับแก” ความจริงที่ออกจากปากเพื่อนที่ฉันรักมันทำให้ฉันหมดแรง
“กี่ครั้งแล้ว กี่ครั้งแล้วที่พวกแกทำกับฉันแบบนี้” ฉันถามพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม
“หลายครั้งแล้ว มันมาหาฉันที่หอ มันบอกว่ามันรักฉันมันจริงจังกับฉัน ฉันขอโทษจริงนะเร ฉันไม่กล้าบอกแก ฉันกลัวแกเสียใจ”
“กลัวฉันเสียใจ แกก็ไม่ควรทำแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วป่าววะ ทำไมวะกูเป็นอะไรอ่ะ พวกสองคนปล่อยให้กูเป็นควายอยู่คนเดียว ถ้าบอกกูเร็วกว่านี้ กูคงไม่ต้องเป็นควายนานขนาดนี้ ยิ้มบอส ไอ้สารเลว โทรเรียกมันมาเคลียร์เดี่ยวนี้เลยว่ามันจะเอายังไง”
“เฮ้ย พี่ใจเย็นเดี๋ยวผมตามให้” อัน รุ่นน้องที่ยืนดูอยู่นานแล้วรีบเข้ามาจับฉันให้นั่งลง ฉันคว้าขวดเหล้าที่มีเหล้าเหลืออยู่เกือบครึ่งมากระดกรวดเดียวหมด จนรู้สึกร้อนไปทั้งตัว ฉันเอนตัวนอนลงบนโซฟาเพราะรู้สึกหนักหัวมาก ฉันหายใจไม่ออก เพราะตอนนี้หน้าฉันทั้งบวมและเต็มไปด้วยน้ำมูกน้ำตา
“ฮึก ฮือๆๆ อัน แกจะไม่ทรยศพี่อีกคนใช่มั้ย บอกมาสิ แกจะไม่หักหลังพี่แบบนี้อ่ะอัน” ฉันเริ่มพูดไม่รู้เรื่องและเริ่มโทษตัวเองต่าง ๆ นานา แล้วตัวต้นเหตุก็เดินเข้ามา ภาพแรกที่ฉันเห็นคือ เจนเดินเข้าตบบอสจนหน้าสั่น
“สารเลว ดูซิคราวนี้จะหนีปัญหาได้อีกมั้ย” เจนด่าพลางจะเข้าไปกระทืบบอสซ้ำ จนน้องอีกคนต้องเข้ามาห้าม บอสได้แต่เงียบไม่ตอบโต้ ไม่พูดอะไร ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีเดินเป๋ไปตรงหน้าบอสที่คุกเข่าอยู่กับพื้นหลังจากโดนเจนตบ
ยิ้ม หลอกกู” พลางถีบบอสด้วยแรงที่เหลือจนตัวฉันเองก็ล้มลงไปกองที่พื้น ฉันคลานตามเข้าไปกระชากคอบอสขึ้นมาถามด้วยน้ำตา “ทำไมต้องหลอกกู ทำไมไม่บอกกู ปิดกูทำไม กับกูกับเพื่อนกูแบบนี้หรอ ไอ้สัส ไอ้ยิ้ม สารเลว” ฉันทั้งด่าและจับตัวบอสเขย่าๆ บอสผลักฉันออกจนฉันกระเด็นออกมาหัวเกือบฟาดพื้น ดีที่อันเข้ามาประคองฉันไว้ก่อน
“เฮ้ย พี่บอสใจเย็นดิพี่ แค่นี้พี่เรก็เจ็บมากเกินไปแล้วนะเว้ย” อันพูดกับบอสพร้อมกับประคองฉันไว้
“อยากรู้มั้ยทำไมกูไม่บอก เพราะกูรู้ไงว่าถ้ารู้สภาพจะเหมือนหมาแบบนี้ มันรักโง่ๆ รักแต่คนอื่น เคยรักตัวเองบ้างมั้ย กูไม่อยากจะพูด อะไรก็เอาแต่ร้องไห้ น่ารำคาญ” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นบอสด่าฉัน
“เออ กูมันโง่แล้วจะเอาไงวะ เลือกมาซิว่าจะเอายังไง”
“กูไม่รู้ กูไม่เลือก กูก็รัก เจนกูก็รักเหมือนกัน กูเลือกไม่ได้” โครม เสียงบอสเซไปชนโต๊ะเสียงสนั่นเพราะฝีมือเจนถีบอย่างแรง ทำให้บอสโมโหเดินเข้าใส่เจน
“โว้ย จะเอายังไงวะกูไม่ไหวแล้วนะโว้ย คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วกูไม่กล้าทำหรอ” บอสทำท่าเข้ามาจะตบเจน
“เข้ามาดิ ไอ้ชั่ว คิดว่ากูกลัวหรอ ไปเลยนะ ไม่ต้องเลือก เพราะกูสองคนคงไม่กลับไปเอาแล้วล่ะ ไป๊” เจนทั้งด่าทั้งไล่ จนอันและรุ่นน้องอีกคนต้องมาช่วยกันเกลี่ยกล่อมให้บอสออกไปก่อน
เจนเดินเข้ามากอดฉัน
“เร ฉันขอโทษนะเว้ยแก ฉันขอโทษ” เจนกล่าวโทษตัวเองซ้ำๆ พร้อมกับร้องไห้ออกมาไม่หยุด
“พอเถอะ เลิกโทษตัวเองได้แล้ว แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกรธแกเลยสักครั้ง จะโทษฉันคงต้องโทษไอ้สารเลวนั่น มันทำกับเราแบบนี้ ฉันสาบานเลยว่ามันจะไม่มีวันได้มีความสุขแน่ ๆ
“ขอบใจนะเว้ย เร ขอบใจแกจริง ๆ ฉันสัญญาฉันจะไม่ยุ่งกับมันอีก” เราสองคนนั่งกอดกันร้องไห้จนหลับไป โดยมีอันและรุ่นน้องอีกคนคอยอยู่ข้างๆ ถึงฉันจะเสียแฟนห่วยๆ ไป ก็ยังดีที่ฉันยังคงรักษาเพื่อนไว้ได้ แต่ต่อมาไม่กี่วันฉันก็ต้องผิดหวัง เมื่อคำสัญญาของเจนมันเป็นคำโกหกอีกครั้ง เจนกับบอสหันไปคบกันจริงจังอย่างเปิดเผย แล้วทั้งสองคนก็ไม่คุยกับฉันอีกเลย
ในโรงอาหารฉันนั่งมองทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันได้แต่มองเศร้าๆ
“เจ๊ เจ๊ เจ๊..!!”
“เฮ้ย เสียงดังทำไมวะ ตกใจหมด” ฉันสะดุ้งเพราะเสียงไอ้อันเรียกจนแสบแก้วหู
“โหย เจ๊ ผมกับไอ้ต้นเรียกเจ๊จนปากจะฉีกแล้วเนี่ย มัวแต่เหม่ออยู่ได้ ปล่อยควายกับแรดเขาไปผสมพันธ์กันน่ะดีแล้ว เจ๊มากินเด็กแบบผมดีกว่า เคี้ยวง่าย ซื่อสัตย์ รักจริง ไม่ทำให้เจ๊เสียใจ” อันหยอดพร้อมกับทำตาหวานจนน่าหมั่นไส้
“ทะลึ่ง เดี๋ยวศพเละหรอกแกไอ้อัน” ฉันด่ากลบความเขิน
เอาเถอะอย่างน้อยฉันก็ยังมีไอ้เด็กเปรตสองตัวนี้เป็นเพื่อน คงไม่เหงาเท่าไหร่หรอก
“เจ๊ พูดงี้คราวหน้าไม่เก็บอ้วกให้แล้วนะ คนบ้าอะไร-เหล้าทีเดียวครึ่งกลม ไม่ตายก้บุญแล้วเจ๊”
“เออ ขอบใจไอ้เด็กบังเกิดเกล้า” ฉันตบหัวอันเบา ๆ เป็นการขอบคุณ และแถมด้วยการเขกกะโหลกไปหนึ่งที
แต่มาคิดดูข้อเสนอของไอ้อันก็น่าสนดีนะว่ามั้ยคะคุณผู้อ่าน


จบไม่บริบูรณ์


หมายเห็ด* เรื่องนี้แต่งจากเค้าโครงเรื่องจริงของผู้แต่ง หากผู้เกี่ยวข้องในเรื่องได้มาพบเห็นบทความก็ขอแจ้งให้ทราบว่าได้มีการเพิ่มเติมสีสันเพื่ออรรถรสในเนื้อหา กรุณาอย่าถือสาหาความ เราได้ทำการเปลี่ยนเพียงชื่อของผู้อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น และเพิ่มเหตุการณ์ช่วงท้ายนิดหน่อยให้มันดูชีวิตกรูส์ไม่ได้รันทดจนเกินไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่