MGR Online -อัยการยื่นถอนฟ้อง "ฮาคีม" อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนเเล้วรอศาลอาญาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องและออกหมายปล่อยตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.20 น. น.ส.เสฎฐา เธียรพิลากุล พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอถอนฟ้องคดีส่งผู้ร้ายข้ามเเดน คดีดำหมายเลข ผด.6/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำฟ้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Al Oraibi) หรือ “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อไลราบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Alaraibi) อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ตามคำขอของทางการบาห์เรน ซึ่ง สำนักงานต่างประเทศได้ยื่นคำฟ้องไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องระบุว่า หลังจากที่อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง โดยพนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นฟ้องนายฮาคีมแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นคดีหมายเลขดำ ผด.2/2562 ซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยยื่นคำคัดค้านภายในวันที่ 5 เม.ย. นี้ และนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 22 เม.ย. นี้ แต่ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่าคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประเทศต่างๆ รวมทั้งองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในวงกว้าง ประกอบกับเมื่อวันที่ 4 ก.พ. อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ม.ค. แจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือจาก รมว.มหาดไทย ออสเตรเลีย เกี่ยวกับจำเลย และขอให้ทางการไทยพิจารณาเรื่องการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนอีกครั้ง ซึ่งอัยการสูงสุดก็ได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเด็นอื่นๆ ที่อาจจะเป็นเหตุผลที่จะไม่ดำเนินการให้ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 มาตรา 17
กระทั่งกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือแจ้งวันนี้ (11 ก.พ.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าการดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าว มีผลกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่ามีเหตุผลที่จะไม่ดำเนินการต่อไป จึงขอให้อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง พิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ มาตรา 17
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังแจ้งว่า ทางการบาห์เรนได้ตัดสินใจขอยกเลิกหรือขอถอนคำร้องขอตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากไทย โดยอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจำเลยต่อไป ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัย หรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัย หรือความมั่นคง หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ พ.ศ.2554 ข้อ 5, 6 กับ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 21 วรรคสอง พนักงานอัยการจึงมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องต่ออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งไม่ฟ้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2562 และขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับทางการบาห์เรนขอถอนคำร้องขอตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดน อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้องนายฮาคีม โดยให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยต่อไป
ล่าสุดเวลา 14.40 น.ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามโจทก์แล้วยืนยันขอถอนฟ้อง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องและจำเลยไม่ยื่นคำคัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยได้ และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ พร้อมออกหมายปล่อยจำเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องดังกล่าวที่อัยการสำนักงานต่างประเทศได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนระบุว่า ประเทศบาห์เรนและประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน โดยพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 กำหนดให้รัฐบาลต่างประเทศสามารถร้องขอ ต่อรัฐบาลไทยให้ส่งตัวบุคคลที่กระทำผิดตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอแม้ว่าประเทศนั้นไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย โดยให้รัฐบาลประเทศผู้ร้องขอนั้นทำคำรับรอง ที่จะปฏิบัติต่างตอบแทนกับรัฐบาลไทย โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรนได้ให้คำรับรองดังกล่าวแล้ว ขณะที่การกระทำความผิดซึ่งมีการร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นจะต้องเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายไทย และความผิดดังกล่าวจะต้องเป็นความผิดกำหนดโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปีและไม่เป็นความผิดที่มีลักษณะทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร
โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรน ได้มีหนังสือลงวันที่ 3 ธ.ค. 2561 และเอกสารและเอกสารประกอบคำร้องขอ พร้อมคำแปลภาษาไทยส่งผ่านวิถีทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยจับกุมและคุ้มขังชั่วคราว "นายฮาคีม" สัญชาติบาห์เรนซึ่งถือหนังสือเดินทางบาห์เรน เพื่อดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน ในความผิดฐาน 1.ลอบวางเพลิง สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน 2. ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คนในที่สาธารณะ และใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน 3.ครอบครองวัตถุไวไฟ ซึ่งเป็นระเบิดขวด เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4.ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลของผู้อื่นเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญาบาห์เรน มาตรา 178 , 179 , 277/1 , 277/2 , 277 ทวิ , 409/1 , 414/1 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 1 ปีขึ้นไป และคดียังไม่ขาดอายุความ โดย "นายฮาคีม" นั้นเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีอาญาดังกล่าวซึ่งศาลได้พิจารณาลับหลังและพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี แต่ "นายฮาคีม" หลบหนี สำนักงานอัยการบาห์เรน จึงได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2554
https://mgronline.com/crime/detail/9620000014618
ศาลถอนคำร้อง"ฮาคีม"ส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ออกหมายปล่อยตัวแล้ว
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.20 น. น.ส.เสฎฐา เธียรพิลากุล พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอถอนฟ้องคดีส่งผู้ร้ายข้ามเเดน คดีดำหมายเลข ผด.6/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำฟ้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Al Oraibi) หรือ “นายฮาคีม อาลี โมฮัมเหม็ด อาลี อไลราบี” (Hakeem Ali Mohamed Ali Alaraibi) อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน ตามคำขอของทางการบาห์เรน ซึ่ง สำนักงานต่างประเทศได้ยื่นคำฟ้องไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องระบุว่า หลังจากที่อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง โดยพนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นฟ้องนายฮาคีมแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นคดีหมายเลขดำ ผด.2/2562 ซึ่งศาลกำหนดให้จำเลยยื่นคำคัดค้านภายในวันที่ 5 เม.ย. นี้ และนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 22 เม.ย. นี้ แต่ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่าคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประเทศต่างๆ รวมทั้งองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในวงกว้าง ประกอบกับเมื่อวันที่ 4 ก.พ. อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ม.ค. แจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือจาก รมว.มหาดไทย ออสเตรเลีย เกี่ยวกับจำเลย และขอให้ทางการไทยพิจารณาเรื่องการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนอีกครั้ง ซึ่งอัยการสูงสุดก็ได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเด็นอื่นๆ ที่อาจจะเป็นเหตุผลที่จะไม่ดำเนินการให้ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 มาตรา 17
กระทั่งกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือแจ้งวันนี้ (11 ก.พ.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าการดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าว มีผลกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระดับประชาชนต่อประชาชน กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่ามีเหตุผลที่จะไม่ดำเนินการต่อไป จึงขอให้อัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง พิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ มาตรา 17
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังแจ้งว่า ทางการบาห์เรนได้ตัดสินใจขอยกเลิกหรือขอถอนคำร้องขอตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากไทย โดยอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจำเลยต่อไป ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัย หรือความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน หรือจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัย หรือความมั่นคง หรือต่อผลประโยชน์อันสำคัญของประเทศ พ.ศ.2554 ข้อ 5, 6 กับ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 21 วรรคสอง พนักงานอัยการจึงมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องต่ออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดมีอำนาจสั่งไม่ฟ้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2562 และขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นในประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับทางการบาห์เรนขอถอนคำร้องขอตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดน อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้องนายฮาคีม โดยให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยต่อไป
ล่าสุดเวลา 14.40 น.ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามโจทก์แล้วยืนยันขอถอนฟ้อง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องและจำเลยไม่ยื่นคำคัดค้าน จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยได้ และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ พร้อมออกหมายปล่อยจำเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องดังกล่าวที่อัยการสำนักงานต่างประเทศได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนระบุว่า ประเทศบาห์เรนและประเทศไทย ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน โดยพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 กำหนดให้รัฐบาลต่างประเทศสามารถร้องขอ ต่อรัฐบาลไทยให้ส่งตัวบุคคลที่กระทำผิดตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอแม้ว่าประเทศนั้นไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย โดยให้รัฐบาลประเทศผู้ร้องขอนั้นทำคำรับรอง ที่จะปฏิบัติต่างตอบแทนกับรัฐบาลไทย โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรนได้ให้คำรับรองดังกล่าวแล้ว ขณะที่การกระทำความผิดซึ่งมีการร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นจะต้องเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายไทย และความผิดดังกล่าวจะต้องเป็นความผิดกำหนดโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปีและไม่เป็นความผิดที่มีลักษณะทางการเมือง หรือเป็นความผิดทางทหาร
โดยคดีนี้รัฐบาลบาห์เรน ได้มีหนังสือลงวันที่ 3 ธ.ค. 2561 และเอกสารและเอกสารประกอบคำร้องขอ พร้อมคำแปลภาษาไทยส่งผ่านวิถีทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยจับกุมและคุ้มขังชั่วคราว "นายฮาคีม" สัญชาติบาห์เรนซึ่งถือหนังสือเดินทางบาห์เรน เพื่อดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน ในความผิดฐาน 1.ลอบวางเพลิง สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน 2. ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คนในที่สาธารณะ และใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน 3.ครอบครองวัตถุไวไฟ ซึ่งเป็นระเบิดขวด เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 4.ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลของผู้อื่นเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญาบาห์เรน มาตรา 178 , 179 , 277/1 , 277/2 , 277 ทวิ , 409/1 , 414/1 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 1 ปีขึ้นไป และคดียังไม่ขาดอายุความ โดย "นายฮาคีม" นั้นเป็นจำเลยที่ 4 ในคดีอาญาดังกล่าวซึ่งศาลได้พิจารณาลับหลังและพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 4 ให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี แต่ "นายฮาคีม" หลบหนี สำนักงานอัยการบาห์เรน จึงได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2554
https://mgronline.com/crime/detail/9620000014618