หายไปหลายวัน งานเข้าค่ะ ยังมีคนอ่านอยู่มั้ยเนี่ย555
ต่อจากกระทู้แรก
https://ppantip.com/topic/38533874
เราเดินทางจาก JAIPUR>----->JAISALMER 12ชม. ด้วยรถไฟ AC1(FirstClass)
เป็นรถนอนห้องส่วนตัวไม่ต้องไปปะปนกะใคร หมดไปคนละพันสอง สบายใจแระ555
กว่าจะถึงรร.ก็เที่ยง ตั้งใจว่าวันนี้มีเวลาแค่ครึ่งวัน จะเดินเล่นๆรอบเมือง ทำความคุ้นเคยก่อน
แต่แผนก็ถูกเปลี่ยน เมื่อเจ้าของโรงแรมเสนอขายทัวร์น้องอูฐ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เราได้เจอ...
"อีเปรม"
แขกขับรถจี๊ปตัวแสบของเรา กับน้องๆเด็กเลี้ยงวัวหนุ่มน้อยที่ทำให้เรา
รักอินเดียขึ้นมาบ้าง ราคาทัวร์ 1,800 ต่อคนสิ่งที่ได้คือ City View Point/Bada Bagh/ขี่อูฐ
ชม Sunset ที่ทะเลทราย/ชา+ขนม ไม่รู้ถูกหรือแพงนะคะเราไม่ได้เช็คที่อื่นเลยใครซื้อแพงกว่า
มา comment ได้แต่ใครถูกกว่าไม่ต้องนะคะ555 รถจี๊ปมารับเราตอนบ่ายสองโมงครึ่งเพื่อไปแวะ
ถ่ายรูปจุดแรกที่ City View Point ก็จะได้มุมนี้นะคะ
จากนั้นขับรถไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านทุ่งกังหันลมและลมฝุ่น ไปเจอกับสวนกลางทะเลทราย
ซึ่งจุดนี้เองที่อิเปรมเริ่มออกฤทธิ์ คือค่าทัวร์รวมค่าเข้าสวนไปแล้ว 400 รูปี(คนละ 200 รูปี)แต่ค่ากล้อง
ต้องจ่ายเพิ่มทีหลัง 50 รูปี ตามที่เราตกลงกันไว้กับเจ้าของโรงแรม แต่อิเปรม มาขอเงินเรา 100 รูปีค่ากล้อง
แล้วไม่ยอมจ่ายค่าเข้าสวนให้เด็กเก็บตั๋ว เราฟังไม่ออกแต่เห็นจากท่าทางก็รู้เลยว่าแค่หน้าด้านไม่จ่าย
เด็กเก็บตั๋วก็งงๆ ยืนเหวอ อีเปรมก็ขับรถไปเลยจ้า ฟิ้วววว
แผ่นหลังของอิปลวกเปรม
ที่นี่ ไกด์ผีเยอะนะ บอกแค่ 30 รูปีไม่รู้เชื่อได้ไหม ไม่ไว้ใจแขกค่ะ แต่ไม่เอาเขาก็ไม่ได้เซ้าซี้นะคะ
ทำใจแข็งไว้ไม่ต้องสบตา
เวลาเห็นนักท่องเที่ยวแล้วดีใจราวกับมาด้วยกัน เพื่อนนนนน
เรามีไกด์พกพามาจากไทย ชื่อ Google ก็ได้ทราบประวัติที่นี่ว่า พระราชาของเมืองต้องการสร้าง
อ่างเก็บน้ำเพราะที่นี่แห้งแล้งเป็นทะเลทราย แต่ยังทำไม่สำเร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน ลูกชาย..
ด้วยความอาลัยพ่อจึงสร้างอนุสรณ์สถานรำลึกถึงพ่อไว้ที่นี่ และอ่างเก็บน้ำนี้ก็กลายเป็นเพียงพื้นที่ชุ่มน้ำ
สำหรับเพาะปลูกไปค่ะ มีความเขียวแบบพรม ซึ่งหามิได้แถวนี้
จากนั้นพอมีใครในราชวงศ์ ตายไปก็จะเป็นประเพณีที่มีการสร้างอนุสรณ์สถานมาเรื่อยๆ
จนเยอะแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ
ผู้ชายที่มีอำนาจ ก็จะมีเมียได้หลายคน พอเขาตายไปบรรดาเมียก็จะต้องสังเวยชีวิต
ตัวเองโดยการกระโดดเข้ากองไฟ ตายตามสามี ที่เรียกว่าพิธีสตี
เช่น ผู้ชายคนนี้ มีเมียถึง8คน น่าเศร้ามากที่มีความเชื่อแบบนี้
จากสถานที่น่าหดหู่ใจนี้ เราขับรถออกไปไกลถึง 1 ชั่วโมง สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
เพื่อไปรอพบน้องอูฐ ที่นี่คือบ้านคนเลี้ยงอูฐและครอบครัวของลุงค่ะ
พอถ่ายเสร็จ....Money money โว๊ะ!!!แค่นี้ก็อาววว ไม่เลยตรู555
รอไม่นาน หนุ่มน้อยก็จูงน้องอูฐมา พร้อมทักทายเราแบบแว้นซ์ๆ
น้อง: "พี่ๆ ผมจูงมาจากปากีสถานเลยนะ"
เรา: (-*- จ่ะ!
ลุงเจ้าของอูฐกำลังบรีฟน้อง และช่วยเตรียมอูฐ
น้องสองคนนี้จะดูแลเราค่ะ ตั้งกะเจอคนอินเดียมาหลายวัน น้องสองคนนี้ คือคนที่เราคุยด้วย
แล้วผ่อนคลายที่สุด ไม่รู้สึกระแวงว่าจะโดนเอาเปรียบ น้องมันซื่อๆภาษาอังกฤษก็ดีมากค่ะ
ดีกว่าพนักงานโรงแรมเสียอีก
เจ้า ROMEYO อูฐเพื่อนเราหน้าตาดูมีความสุข ยิ้มตลอด
แต่อิเฟอรารี่ อูฐของเรา อินดี้มากกก กล้องอยู่ไหน นางก็จะหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามทันที
ชื่อเฟอรารี่ พี่ก็เครียดนะ เปลี่ยนเป็นSnail ได้มั้ย เราไม่ใช่อูฐแข่งเนอะ ค่อยๆเดินพอจ้า
น้องจะทำอาหารให้เรา ส่วนเราก็ไปเล่นตามอัธยาศัย ดูพระอาทิตย์ตกวิวทะเลทราย ฟินนน
พอทำอาหารเสร็จ น้องก็เรียกพวกเรามาทาน...
เพื่อนเรา: อย่าเพิ่งหยิบค่ะ ให้น้องตักเศษออกก่อน
น้อง: (ช้อนเศษที่ว่านั่นลงกล่องลัง) ....ห้าวิผ่านไป
น้อง: Try try
เรา: ให้พี่ Try อาราย อย่าบอกนะ.....
555ตามนั้นเลยค่ะ เราแบบ..ไอ้ในกล่องนี้ของพวกพี่หรอ ของที่แกใส่ขวดน้ำขวดน้ำมัน
และของทั้งหมดนั่นน่ะนะ โอ๊ยอินเดีย เรากับเพื่อนมองหน้ากันขำก๊าก กลัวน้องเสียใจก็
หยิบมากินชิ้นที่ 1 2 3 กินได้นี่ไม่เห็นตาย อร่อยด้วย ฮ่าๆๆ น้องน่ารักบริการดีมีมารยาท
ไม่เหมือนแขกทั่วๆไปที่ทะเล่อทะล่า Hard sale ขี้โกง เราจึงได้คุยกันหลายๆเรื่อง
จบวันแบบประทับใจ
หนุ่มน้อย Santos และ Lucky เชฟกะทะเล็ก ใบเดียวทั้งชา ทั้งทอด โอ้ยยยย55
แม้น้องไม่ได้เรียกร้อง แต่เราก็ให้ทิปไปเยอะพอสมควร คือเท่ากับที่น้องต้องทำงาน 1
อาทิตย์เลยทีเดียว อีเปรมตาลุกวาว เห็นมันคุยกับน้อง คงอยากได้บ้าง ขากลับ เลยบริการ
เราใหญ่เลย ทั้งชวนคุยทั้งเสนอผ้าพันคอให้เราห่ม พูดเยอะต่างกับขามามาก
พอส่งเราถึงโรงแรม เราไม่ให้จ้า เดินหนี นางรีบๆมายกมืออ้อนวอน บรรยายสารพัดว่าบ้านจน
มีลูกชายนู่นนี่นั่น เรารำคาญเลยให้ไปร้อยเดียว อยากจะฟ้องเจ้านายมันมากเลย
India12วัน4เมือง...อินเดียนี่มัน...อินเดียจริงๆนะ_JAISALMER
ต่อจากกระทู้แรก https://ppantip.com/topic/38533874
เราเดินทางจาก JAIPUR>----->JAISALMER 12ชม. ด้วยรถไฟ AC1(FirstClass)
เป็นรถนอนห้องส่วนตัวไม่ต้องไปปะปนกะใคร หมดไปคนละพันสอง สบายใจแระ555
กว่าจะถึงรร.ก็เที่ยง ตั้งใจว่าวันนี้มีเวลาแค่ครึ่งวัน จะเดินเล่นๆรอบเมือง ทำความคุ้นเคยก่อน
แต่แผนก็ถูกเปลี่ยน เมื่อเจ้าของโรงแรมเสนอขายทัวร์น้องอูฐ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เราได้เจอ...
"อีเปรม" แขกขับรถจี๊ปตัวแสบของเรา กับน้องๆเด็กเลี้ยงวัวหนุ่มน้อยที่ทำให้เรา
รักอินเดียขึ้นมาบ้าง ราคาทัวร์ 1,800 ต่อคนสิ่งที่ได้คือ City View Point/Bada Bagh/ขี่อูฐ
ชม Sunset ที่ทะเลทราย/ชา+ขนม ไม่รู้ถูกหรือแพงนะคะเราไม่ได้เช็คที่อื่นเลยใครซื้อแพงกว่า
มา comment ได้แต่ใครถูกกว่าไม่ต้องนะคะ555 รถจี๊ปมารับเราตอนบ่ายสองโมงครึ่งเพื่อไปแวะ
ถ่ายรูปจุดแรกที่ City View Point ก็จะได้มุมนี้นะคะ
จากนั้นขับรถไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านทุ่งกังหันลมและลมฝุ่น ไปเจอกับสวนกลางทะเลทราย
ซึ่งจุดนี้เองที่อิเปรมเริ่มออกฤทธิ์ คือค่าทัวร์รวมค่าเข้าสวนไปแล้ว 400 รูปี(คนละ 200 รูปี)แต่ค่ากล้อง
ต้องจ่ายเพิ่มทีหลัง 50 รูปี ตามที่เราตกลงกันไว้กับเจ้าของโรงแรม แต่อิเปรม มาขอเงินเรา 100 รูปีค่ากล้อง
แล้วไม่ยอมจ่ายค่าเข้าสวนให้เด็กเก็บตั๋ว เราฟังไม่ออกแต่เห็นจากท่าทางก็รู้เลยว่าแค่หน้าด้านไม่จ่าย
เด็กเก็บตั๋วก็งงๆ ยืนเหวอ อีเปรมก็ขับรถไปเลยจ้า ฟิ้วววว
แผ่นหลังของอิปลวกเปรม
ที่นี่ ไกด์ผีเยอะนะ บอกแค่ 30 รูปีไม่รู้เชื่อได้ไหม ไม่ไว้ใจแขกค่ะ แต่ไม่เอาเขาก็ไม่ได้เซ้าซี้นะคะ
ทำใจแข็งไว้ไม่ต้องสบตา
เวลาเห็นนักท่องเที่ยวแล้วดีใจราวกับมาด้วยกัน เพื่อนนนนน
เรามีไกด์พกพามาจากไทย ชื่อ Google ก็ได้ทราบประวัติที่นี่ว่า พระราชาของเมืองต้องการสร้าง
อ่างเก็บน้ำเพราะที่นี่แห้งแล้งเป็นทะเลทราย แต่ยังทำไม่สำเร็จก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน ลูกชาย..
ด้วยความอาลัยพ่อจึงสร้างอนุสรณ์สถานรำลึกถึงพ่อไว้ที่นี่ และอ่างเก็บน้ำนี้ก็กลายเป็นเพียงพื้นที่ชุ่มน้ำ
สำหรับเพาะปลูกไปค่ะ มีความเขียวแบบพรม ซึ่งหามิได้แถวนี้
จากนั้นพอมีใครในราชวงศ์ ตายไปก็จะเป็นประเพณีที่มีการสร้างอนุสรณ์สถานมาเรื่อยๆ
จนเยอะแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ
ผู้ชายที่มีอำนาจ ก็จะมีเมียได้หลายคน พอเขาตายไปบรรดาเมียก็จะต้องสังเวยชีวิต
ตัวเองโดยการกระโดดเข้ากองไฟ ตายตามสามี ที่เรียกว่าพิธีสตี
เช่น ผู้ชายคนนี้ มีเมียถึง8คน น่าเศร้ามากที่มีความเชื่อแบบนี้
จากสถานที่น่าหดหู่ใจนี้ เราขับรถออกไปไกลถึง 1 ชั่วโมง สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
เพื่อไปรอพบน้องอูฐ ที่นี่คือบ้านคนเลี้ยงอูฐและครอบครัวของลุงค่ะ
พอถ่ายเสร็จ....Money money โว๊ะ!!!แค่นี้ก็อาววว ไม่เลยตรู555
รอไม่นาน หนุ่มน้อยก็จูงน้องอูฐมา พร้อมทักทายเราแบบแว้นซ์ๆ
น้อง: "พี่ๆ ผมจูงมาจากปากีสถานเลยนะ"
เรา: (-*- จ่ะ!
ลุงเจ้าของอูฐกำลังบรีฟน้อง และช่วยเตรียมอูฐ
น้องสองคนนี้จะดูแลเราค่ะ ตั้งกะเจอคนอินเดียมาหลายวัน น้องสองคนนี้ คือคนที่เราคุยด้วย
แล้วผ่อนคลายที่สุด ไม่รู้สึกระแวงว่าจะโดนเอาเปรียบ น้องมันซื่อๆภาษาอังกฤษก็ดีมากค่ะ
ดีกว่าพนักงานโรงแรมเสียอีก
เจ้า ROMEYO อูฐเพื่อนเราหน้าตาดูมีความสุข ยิ้มตลอด
แต่อิเฟอรารี่ อูฐของเรา อินดี้มากกก กล้องอยู่ไหน นางก็จะหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามทันที
ชื่อเฟอรารี่ พี่ก็เครียดนะ เปลี่ยนเป็นSnail ได้มั้ย เราไม่ใช่อูฐแข่งเนอะ ค่อยๆเดินพอจ้า
น้องจะทำอาหารให้เรา ส่วนเราก็ไปเล่นตามอัธยาศัย ดูพระอาทิตย์ตกวิวทะเลทราย ฟินนน
พอทำอาหารเสร็จ น้องก็เรียกพวกเรามาทาน...
เพื่อนเรา: อย่าเพิ่งหยิบค่ะ ให้น้องตักเศษออกก่อน
น้อง: (ช้อนเศษที่ว่านั่นลงกล่องลัง) ....ห้าวิผ่านไป
น้อง: Try try
เรา: ให้พี่ Try อาราย อย่าบอกนะ.....
555ตามนั้นเลยค่ะ เราแบบ..ไอ้ในกล่องนี้ของพวกพี่หรอ ของที่แกใส่ขวดน้ำขวดน้ำมัน
และของทั้งหมดนั่นน่ะนะ โอ๊ยอินเดีย เรากับเพื่อนมองหน้ากันขำก๊าก กลัวน้องเสียใจก็
หยิบมากินชิ้นที่ 1 2 3 กินได้นี่ไม่เห็นตาย อร่อยด้วย ฮ่าๆๆ น้องน่ารักบริการดีมีมารยาท
ไม่เหมือนแขกทั่วๆไปที่ทะเล่อทะล่า Hard sale ขี้โกง เราจึงได้คุยกันหลายๆเรื่อง
จบวันแบบประทับใจ
หนุ่มน้อย Santos และ Lucky เชฟกะทะเล็ก ใบเดียวทั้งชา ทั้งทอด โอ้ยยยย55
แม้น้องไม่ได้เรียกร้อง แต่เราก็ให้ทิปไปเยอะพอสมควร คือเท่ากับที่น้องต้องทำงาน 1
อาทิตย์เลยทีเดียว อีเปรมตาลุกวาว เห็นมันคุยกับน้อง คงอยากได้บ้าง ขากลับ เลยบริการ
เราใหญ่เลย ทั้งชวนคุยทั้งเสนอผ้าพันคอให้เราห่ม พูดเยอะต่างกับขามามาก
พอส่งเราถึงโรงแรม เราไม่ให้จ้า เดินหนี นางรีบๆมายกมืออ้อนวอน บรรยายสารพัดว่าบ้านจน
มีลูกชายนู่นนี่นั่น เรารำคาญเลยให้ไปร้อยเดียว อยากจะฟ้องเจ้านายมันมากเลย