เราได้มีโอกาสไปบวชเนกขัมมะ ปฏิบัติธรรมที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี2คืน3วัน(เป็นครั้งที่2ในชีวิต ครั้งแรกช่วงเวลานี้ของปีที่แล้วซึ่งเป็นวันพระ) เป็นประสบการณ์ที่ดี สงบ ร่มเย็นทางกายและทางใจอย่างมาก
เริ่มแรกสำหรับผู้ที่อยากไปถือศีลปฏิบัติธรรม ถ้าไปหลังเที่ยงเหมือนเรา(ไปถึงบ่าย2) เริ่มแรกคือไปกรอกประวัติ สำหรับนักบวชใหม่ต้องกรอกประวัติและถ่ายภาพ สำหรับนักบวชเก่าที่เคยบวชมาแล้วแค่ลงชื่อและรับบัตร แลกบัตรประชาชน จากนั้นเอากระเป๋าไปเก็บที่ตึกนอนซึ่งมีหลายตึก เรานอนตึกแรก ที่เป็นตึกให้เช่าชุดบวชกระเป๋าสะพายใส่ของจุกจิก ราคาค่าเช่าต่อชุดน่าจะ80นะถ้าจำไม่ผิด จากนั้นเข้าห้องพักที่เป็นห้องนอนรวม บริเวณที่ไม่มีเสื่อคือว่างสามารถจับจองวางสัมภาระได้เลย ก็มีเสื่อหมอนให้บริการฟรี แต่ผ้าห่มเสียค่าเช่า จากนั้นก้อต้องเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อผ้าถุงสไบสีขาว(ที่นี่มีผ้าซับในให้กันผ้าถุงบาง)จากนั้นช่วง4โมงเย็นก้อไปเดินจงกลมที่ลานปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นลานที่ร่มรื่นมีต้นไม้ปกคลุมโดยรอบอากาศเย็นสบาย เราเดินจงกลมกันเป็นเวลา1ชม. สำหรับนักบวชใหม่ต้องเข้าพิธีรับศีลเป็นเวลา2ชม. สำหรับนักบวชเก่ามีรับน้ำปาณะและเวลา1ทุ่มนักบวชทั้งหมดทำวัตรเย็นและนั่งสมาธิ หากไม่ใช่วันพระจะเลิกกิจกรรมประมาณ3ทุ่ม15 และปล่อยกลับตึกนอน แต่หากเป็นวันพระจะมีหลวงพ่อมาเทศนาธรรมถึงเช้าหากใครต้องการอยู่ฟังก้อได้
ในวันต่อมาตอนเช้าต้องตื่นจัดการธุระส่วนตัวอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้เสร็จก่อนตี3ครึ่ง (ห้องน้ำมี ประมาณ15ห้อง กรณีนักบวชไม่มาก พอให้บริการอยู่ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดี) และเวลาตี4 ก้อมาทำวัตรเช้าสวดมนต์ที่โดมแก้ว สำหรับใครที่จะกลับบ้านเช้านั้นก้ออยู่ลาศีล และหากลาศีลแล้วใครจะกลับบ้านเลยก็ได้หรือใครจะอยู่ร่วมกิจกรรมเช่นเดินจงกลมก่อนก้อได้ และที่โรงทานยังมีอาหารบริการให้เช่นพวกข้ามต้ม ซึ่งหากลาศีลแล้วควรเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอกก่อนรับประทาน หรือ ชุดนักบวชก้อให้ถอดสไบออกก่อนค่อยรับประทาน ถ้าใครยังไม่ได้กลับก้อไปกวาดลานวัดและบริเวณโดยรอบซึ่งใบไม้จะร่วงหล่นให้กวาดตลอดทุกวัน
เวลา6.30น ก้อถึงเวลารับน้ำปาณะ ที่ทางวัดจัดไว้ให้ มีน้ำฟักทอง,น้ำขิง,น้ำมะขาม,น้ำใบเตย ที่วัดมีมินิมาร์ท สำหรับซื้อสินค้าที่ใช้เช่นสบู่แชมพูยา และอื่นๆที่ใช้ในวัดถือว่าสะดวกใช้ได้เลยและป้าคนที่นั่งเก็บเงินจะคอยบอกตลอดว่าอันนี้ทานเวลานี้ได้อันนี้มานยังไม่ได้นะ ต่อมานักบวชจะต้องเดินไปรับกะละมังและช้อนและมานั่งสำรวมที่ศาลาบริเวณลานปฏิบัติธรรมเพื่อรอเวลาอาหารและเวลา9.30น ถึงเวลารับประทานอาหารซึ่งนักบวชที่นี่จะทานวันละ1มื้อเท่านั้น นักบวชทุกคนจะเดินต่อคิวตักอาหารต่อจากพระสงฆ์และแม่ชีแล้วต้องมานั่งทานรวมกันที่ศาลาบริเวณลานปฏิบัติธรรมซึ่งการตักอาหารต้องตักแต่พอดีและเมื่อเริ่มลงมือทานแล้วนักบวช พระสงฆ์และแม่ชีจะไม่สามารถลุกออกไปไหนได้จนกว่าจะทานเสร็จเพราะหากลุกไปคือจะไม่สามารถกลับมาทานต่อได้อีก เพราะหากกลับมาทานต่อจะถือเป็นมื้อที่2ของวัน ซึ่งที่วัดนี้ทานแค่วันละมื้อเท่านั้นเมื่อทานเสร็จล้างกะละมังและช้อนเสร็จก้อนำไปคว่ำคืนไว้จากที่หยิบมา อ่อ!!ลืมบอกการตักอาหารเราจะไม่สามารถเดินย้อนแถวกลับมาตักได้อีกคืออาหารข้าวขนมทั้งหมดจะวางเป็นแถวยาวบนโต๊ะไม้ เมื่อเดินต่อคิวไปถึงให้ตักมาพอดีกับที่ทานหมดตักเผื่อไช่วงต้นๆแถวไว้คือพูดง่ายๆอย่าเลือกกินหรือหวังน้ำบ่อหน้าอ่ะ
หลังทานอาหารเสร็จจะปล่อยให้กลับไปพักตามอัธยาศัยจนเวลา12.15 ทุกคนต้องกลับมาทำวัตรกลางวัน ฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อและยืนสมาธิ บางคนเพิ่งกินอิ่มๆมายืนหลับโงนเงนไปมาก็มี หลวงพ่อท่านจะสอนให้รู้สติ รู้ตัวเองอยู่ตลอดว่าตอนนี้ยืนอยู่นั่งอยู่ร้อนอยู่และให้ปล่อยวาง และเมื่อยืนสมาธิเสร็จหลวงพ่อจะพาไปเดินเวียนรอบต้นโพธิ์(จำไม่ได้ว่าเรียกบริเวณนั้นว่าอะไร) จากนั้นจะปล่อยให้พักผ่อนอีกรอบ สามารถกลับมาพัก อาบน้ำหรือนอนได้ และต้องกลับมาเดินจงกลมอีกรอบเวลา4โมงเย็น วนไปแบบนี้ทุกวัน ยกเว้นวันพระที่จะมีธรรมเทศนาจากหลวงพ่อถึงเช้า
สำหรับเราการไปบวชถือว่าดีมากเป็นการฝึกจิต ฝึกสมาธิ ความอดทน และการอยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือกัน เราชอบการเดินจงกลมการค่อยๆก้าวมีสติไม่รีบไม่ด่วนรู้ตัวอยู่ตลอดเวลากำลังก้าวเท้าไหนและชอบการกวาดลานวัดและบริเวณต่างๆรอบวัด ซึ่งวัดนี้มีบริเวณกว้างมากแต่นักบวชทุกคนก็ช่วยกันคนละไม้ละมือจนสะอาดคนไม่รู้จักกันเห็นใครกวาดบริเวณไหนก้อจะเดินมาช่วยกันมันเป็นความรู้สึกที่ดีให้เห็นถึงการช่วยเหลือกันมุ่งมันทำในสิ่งเดียวกันแม้จะมาจากต่างที่มาแต่จุดมุ่งหมายในจิตใจอยู่ในสถานที่เดียวกันอย่างเดียวกัน หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลองไปบวชถือศีลสัก2-3วันหรือไม่เกิน7วัน ลองไปวัดสังฆทานดูนะดีๆมากๆเลย
*** อ่อ เราต้องแลกบัตรประชาชนคืนก่อนล่วงหน้าวันกลับ1วันนะ***
ประสบการณ์จากการไปบวชเนกขัมมะที่วัดสังฆทาน จ.นนทบุรี
เริ่มแรกสำหรับผู้ที่อยากไปถือศีลปฏิบัติธรรม ถ้าไปหลังเที่ยงเหมือนเรา(ไปถึงบ่าย2) เริ่มแรกคือไปกรอกประวัติ สำหรับนักบวชใหม่ต้องกรอกประวัติและถ่ายภาพ สำหรับนักบวชเก่าที่เคยบวชมาแล้วแค่ลงชื่อและรับบัตร แลกบัตรประชาชน จากนั้นเอากระเป๋าไปเก็บที่ตึกนอนซึ่งมีหลายตึก เรานอนตึกแรก ที่เป็นตึกให้เช่าชุดบวชกระเป๋าสะพายใส่ของจุกจิก ราคาค่าเช่าต่อชุดน่าจะ80นะถ้าจำไม่ผิด จากนั้นเข้าห้องพักที่เป็นห้องนอนรวม บริเวณที่ไม่มีเสื่อคือว่างสามารถจับจองวางสัมภาระได้เลย ก็มีเสื่อหมอนให้บริการฟรี แต่ผ้าห่มเสียค่าเช่า จากนั้นก้อต้องเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อผ้าถุงสไบสีขาว(ที่นี่มีผ้าซับในให้กันผ้าถุงบาง)จากนั้นช่วง4โมงเย็นก้อไปเดินจงกลมที่ลานปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นลานที่ร่มรื่นมีต้นไม้ปกคลุมโดยรอบอากาศเย็นสบาย เราเดินจงกลมกันเป็นเวลา1ชม. สำหรับนักบวชใหม่ต้องเข้าพิธีรับศีลเป็นเวลา2ชม. สำหรับนักบวชเก่ามีรับน้ำปาณะและเวลา1ทุ่มนักบวชทั้งหมดทำวัตรเย็นและนั่งสมาธิ หากไม่ใช่วันพระจะเลิกกิจกรรมประมาณ3ทุ่ม15 และปล่อยกลับตึกนอน แต่หากเป็นวันพระจะมีหลวงพ่อมาเทศนาธรรมถึงเช้าหากใครต้องการอยู่ฟังก้อได้
ในวันต่อมาตอนเช้าต้องตื่นจัดการธุระส่วนตัวอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้เสร็จก่อนตี3ครึ่ง (ห้องน้ำมี ประมาณ15ห้อง กรณีนักบวชไม่มาก พอให้บริการอยู่ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดี) และเวลาตี4 ก้อมาทำวัตรเช้าสวดมนต์ที่โดมแก้ว สำหรับใครที่จะกลับบ้านเช้านั้นก้ออยู่ลาศีล และหากลาศีลแล้วใครจะกลับบ้านเลยก็ได้หรือใครจะอยู่ร่วมกิจกรรมเช่นเดินจงกลมก่อนก้อได้ และที่โรงทานยังมีอาหารบริการให้เช่นพวกข้ามต้ม ซึ่งหากลาศีลแล้วควรเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอกก่อนรับประทาน หรือ ชุดนักบวชก้อให้ถอดสไบออกก่อนค่อยรับประทาน ถ้าใครยังไม่ได้กลับก้อไปกวาดลานวัดและบริเวณโดยรอบซึ่งใบไม้จะร่วงหล่นให้กวาดตลอดทุกวัน
เวลา6.30น ก้อถึงเวลารับน้ำปาณะ ที่ทางวัดจัดไว้ให้ มีน้ำฟักทอง,น้ำขิง,น้ำมะขาม,น้ำใบเตย ที่วัดมีมินิมาร์ท สำหรับซื้อสินค้าที่ใช้เช่นสบู่แชมพูยา และอื่นๆที่ใช้ในวัดถือว่าสะดวกใช้ได้เลยและป้าคนที่นั่งเก็บเงินจะคอยบอกตลอดว่าอันนี้ทานเวลานี้ได้อันนี้มานยังไม่ได้นะ ต่อมานักบวชจะต้องเดินไปรับกะละมังและช้อนและมานั่งสำรวมที่ศาลาบริเวณลานปฏิบัติธรรมเพื่อรอเวลาอาหารและเวลา9.30น ถึงเวลารับประทานอาหารซึ่งนักบวชที่นี่จะทานวันละ1มื้อเท่านั้น นักบวชทุกคนจะเดินต่อคิวตักอาหารต่อจากพระสงฆ์และแม่ชีแล้วต้องมานั่งทานรวมกันที่ศาลาบริเวณลานปฏิบัติธรรมซึ่งการตักอาหารต้องตักแต่พอดีและเมื่อเริ่มลงมือทานแล้วนักบวช พระสงฆ์และแม่ชีจะไม่สามารถลุกออกไปไหนได้จนกว่าจะทานเสร็จเพราะหากลุกไปคือจะไม่สามารถกลับมาทานต่อได้อีก เพราะหากกลับมาทานต่อจะถือเป็นมื้อที่2ของวัน ซึ่งที่วัดนี้ทานแค่วันละมื้อเท่านั้นเมื่อทานเสร็จล้างกะละมังและช้อนเสร็จก้อนำไปคว่ำคืนไว้จากที่หยิบมา อ่อ!!ลืมบอกการตักอาหารเราจะไม่สามารถเดินย้อนแถวกลับมาตักได้อีกคืออาหารข้าวขนมทั้งหมดจะวางเป็นแถวยาวบนโต๊ะไม้ เมื่อเดินต่อคิวไปถึงให้ตักมาพอดีกับที่ทานหมดตักเผื่อไช่วงต้นๆแถวไว้คือพูดง่ายๆอย่าเลือกกินหรือหวังน้ำบ่อหน้าอ่ะ
หลังทานอาหารเสร็จจะปล่อยให้กลับไปพักตามอัธยาศัยจนเวลา12.15 ทุกคนต้องกลับมาทำวัตรกลางวัน ฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อและยืนสมาธิ บางคนเพิ่งกินอิ่มๆมายืนหลับโงนเงนไปมาก็มี หลวงพ่อท่านจะสอนให้รู้สติ รู้ตัวเองอยู่ตลอดว่าตอนนี้ยืนอยู่นั่งอยู่ร้อนอยู่และให้ปล่อยวาง และเมื่อยืนสมาธิเสร็จหลวงพ่อจะพาไปเดินเวียนรอบต้นโพธิ์(จำไม่ได้ว่าเรียกบริเวณนั้นว่าอะไร) จากนั้นจะปล่อยให้พักผ่อนอีกรอบ สามารถกลับมาพัก อาบน้ำหรือนอนได้ และต้องกลับมาเดินจงกลมอีกรอบเวลา4โมงเย็น วนไปแบบนี้ทุกวัน ยกเว้นวันพระที่จะมีธรรมเทศนาจากหลวงพ่อถึงเช้า
สำหรับเราการไปบวชถือว่าดีมากเป็นการฝึกจิต ฝึกสมาธิ ความอดทน และการอยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือกัน เราชอบการเดินจงกลมการค่อยๆก้าวมีสติไม่รีบไม่ด่วนรู้ตัวอยู่ตลอดเวลากำลังก้าวเท้าไหนและชอบการกวาดลานวัดและบริเวณต่างๆรอบวัด ซึ่งวัดนี้มีบริเวณกว้างมากแต่นักบวชทุกคนก็ช่วยกันคนละไม้ละมือจนสะอาดคนไม่รู้จักกันเห็นใครกวาดบริเวณไหนก้อจะเดินมาช่วยกันมันเป็นความรู้สึกที่ดีให้เห็นถึงการช่วยเหลือกันมุ่งมันทำในสิ่งเดียวกันแม้จะมาจากต่างที่มาแต่จุดมุ่งหมายในจิตใจอยู่ในสถานที่เดียวกันอย่างเดียวกัน หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลองไปบวชถือศีลสัก2-3วันหรือไม่เกิน7วัน ลองไปวัดสังฆทานดูนะดีๆมากๆเลย
*** อ่อ เราต้องแลกบัตรประชาชนคืนก่อนล่วงหน้าวันกลับ1วันนะ***