สวัสดีค่ะทุกท่าน นี่เป็นกระทู้ที่ 4 ของเรา แต่เป็นกระทู้แรกที่เกี่ยวกับห้องศาสนา เรื่องมีอยู่ว่า เราห่างหายจากการไปปฏิบัติธรรมมา 2 ปีกว่าๆแล้วค่ะ  พอดีเดือนกุมภาพันธ์ 59 เราลาออกจากงาน เลยว่างเต็มๆเดือน จะเริ่มงานที่ใหม่ 1 มีนาคม นี้ ตั้งใจไว้แน่วแน่ ว่าอย่างไรก็ต้องขอใช้เวลาช่วงที่ว่างนี้มาปฏิบัติธรรม เราเคยปฏิบัติธรรมที่วัดสังฆทานค่ะ ไปมา 2-3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ อยากลองเปลี่ยนวัดดูบ้าง เราเลือกหาจากกูเกิลนี่แหละค่ะ เลือกในโซน จังหวัด นนทบุรี จริงๆต้องบอกว่าเราได้รู้จักชื่อวัดป่ามณีกาญจน์เพราะ น้องกร ( นาคน้อยจอมสัปหงกที่อยู่ในคลิปดังๆ) นี่แหละค่ะ ตามดูคลิปน้องกรอยู่ น่ารักน่าเอ็นดู     
    
ขอแจ้งเบื้องต้นก่อนนะคะว่า รูปถ่ายส่วนใหญ่จะมาจากวันแรกที่เราไปถึงวัด กับวันสุดท้ายที่ปฏิบัติธรรม เพราะตอนอยู่ช่วงปฏิบัติเราจะไม่ยุ่งกะโทรศัพท์เลยค่ะ ภาพเลยอาจจะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ภาพไม่ค่อยสวยด้วยค่ะ เราใช้กล้องมือถือธรรมดา     
    
เราขับรถไปดูสถานที่และสอบถามรายละเอียด เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ วันนั้นเราไปประมาณเกือบ 5 โมงเย็นค่ะ เป็นบุญของเรามากค่ะ ได้พบหลวงปู่ท่อน ญาณธโร พระเถราจารย์ผู้ใหญ่สายวิปัสสนาธุดงค์กัมมัฏฐาน เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนาธรรม และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ  ซึ่งท่านอาพาธเลยได้มาจำวัดอยู่ที่นี่ได้ซักพักใหญ่ๆ เจ้าหน้าที่วัดบอกกับเราว่า เป็นบุญมากนะ ปกติท่านไม่ออกมาข้างนอกเลย อยู่แต่ที่กุฏิ วันนั้นลูกศิษย์พาท่านมาสูดอากาศพอดี ยืมภาพมาจากกูเกิล เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ แค่นี้ก็เป็นบุญของเรามากๆแล้ว    
    
อ่อ ลืมบอกค่ะ วันนั้นหลานเราไปด้วย ท่านกวักมือเรียกหลานเราเข้าไปใกล้ๆแล้วลูบหัวหลานเราด้วยนะ อันนี้มีบุญยิ่งกว่าเราอีก 555+    
เราสอบถามรายละเอียดต่างๆจนเสร็จสิ้น ก็ขึ้นไปไหว้พระด้านบน แล้วก็ขอตัวกลับเนื่องจากเย็นมากแล้ว    
    
ถึงเวลาที่เราพร้อมทุกอย่างแล้วค่ะ เราตั้งใจจะมาปฏิบัติประมาณ 2-3 วัน มาวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2559    
ก่อนอื่นขอแจ้งรายละเอียดสิ่งที่ต้องเตรียมมาก่อนค่ะ    
1.ชุดขาวปฏิบัติธรรม (ที่นี่ไม่มีชุดให้เช่าค่ะ ต้องเตรียมมาเอง )    
2.สบู่+ยาสระผม    
3.แปรงสีฟัน + ยาสีฟัน    
4.ชุดชั้นใน+กางเกงใน (ควรเป็นสีเรียบๆ พยายามอย่ามีลวดลาย เกรงว่าจะไม่สุภาพค่ะ เพราะชุดเป็นสีขาว มองทะลุได้)    
5.เสื้อทับสีขาว+ กระโปรงซับในสีขาว (ควรใส่อย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงค่ะ )    
6.ขันน้ำ (หรือจะเป็นถุงไว้ใส่พวกแชมพู ยาสีฟัน ฯ เวลาไปอาบน้ำ)    
7.ผ้าขนหนูเช็ดตัว + เช็ดผม    
8.ชุดใส่วันกลับ (แนะนำ ควรเป็นสีเรียบๆ ชุดสุภาพ)    
9.ยา (สำหรับผู้มีโรคประจำตัว เช่นเรา เป็นต้น)    
10.สำเนาบัตรประชาชน (ใช้เป็นเอกสารในการสมัคร)    
นอกนั้น เสื่อ หมอน ผ้าห่ม ขวดน้ำ ทางวัดมีให้ค่ะ ไม่ต้องเตรียมมา แต่หากอยากเตรียมมาก็ได้ค่ะ    
    
  ตารางข้อปฏิบัติการถือศีล 8 ที่แตกต่างจากศีล 5     
    
    
ขออนุญาต อธิบายศีลข้อ 3 แบบเข้าใจง่ายๆ นะคะ    
ศีล 5 มี Sex กับ คู่ครองของตนเองได้ แต่ห้ามมี Sex กับผู้อื่น      
แต่ ศีล 8 คือ ห้ามถูกเนื้องต้องตัวเพศตรงข้าม ห้ามมี Sex ไม่มีว่ากับใครก็ตาม     
หรือแม้กระทั่งช่วยตัวเอง หรือให้ผู้อื่นสำเร็จความใคร่ให้ก็ไม่ได้    
    
ส่วนข้อ 6,7,8 ในศีล 5 จะไม่มี แต่ ศีล 8 เป็นข้อปฏิบัติ    
    
.............................................................................................................    
    
ถ่ายรูปจากใบจริงที่ทางวัดให้มาค่ะ ที่นี่จะได้ทั้งฝึกปฏิบัติและได้ช่วยงานในวัดด้วยค่ะ    
    
    
ขอแนะนำ พระอาจารย์อำนวย จิตฺตสัวโร ท่านเจ้าอาวาส ของวัด    
    
    
พุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559     
    
เราเดินทางมาถึงวัดประมาณเกือบๆ บ่ายสามโมงค่ะ พอมาถึงก็มาติดต่อกับ แม่ชีอ้อย เพื่อขอสมัครเป็นผู้ปฏิบัติธรรมถือศีล 8     
ใช้เวลาสมัคร 2 นาที เองค่ะ วันที่เราไปคนน้อยค่ะ นับทั้งแม่ชี และ ผู้ปฏิบัติธรรมรวมเราด้วย 8 คนค่ะ    
เข้ามาสมัครที่อาคารนี้ค่ะ    
    
    
จะเป็นอาคารกิจกรรมเลยก็ว่าได้ค่ะ ชั้นล่างสุด เป็นส่วนของผู้มาทำบุญถวายอาหารพระสงฆ์  ส่วนการเตรียมอาหาร     
ผู้ปฏิบัติธรรมก็รับประทานอาหารที่นี่เช่นกัน    
    
    
พอเราสมัครเป็นผู้ปฏิบัติธรรมเสร็จ เราก็ขอช่วยงานทางวัดทันที เวลานี้ช่วงของการเช็ดจานชามที่ล้างไว้ตอนเช้า เราไม่อยากอยู่เฉยๆ กว่าจะรับศีล ตั้งทุ่มครึ่งแน่ะ ได้ทำความรู้จักกับแม่ชี รูปอื่นด้วยค่ะ คนที่นี่เป็นมิตรและจิตใจดี เหมือนคำที่ว่า วัดคือแหล่งรวมนางฟ้า เทวดาเลย    
    
    
เสร็จจากการเช็ดจานชาม เราก็ไปไหว้พระที่ชั้น 2  ( ภาพนี้เราถ่ายวันเช้ามืด วันสุดท้ายตอนกลับค่ะ )    
ชั้นสอง จะใช้สำหรับสวดมนต์ เดินจงกรมช่วงเช้า หรือเวลาวัดมีงานบุญ เช่นวันพระใหญ่ ที่นี่ญาติโยมมากันเพียบ แต่วันธรรมดา     
จะสงบมากๆค่ะ เราเห็นมีคนประชาชนมานั่งสมาธิ มาฝึกเดินจงกรมด้วยค่ะ    
    
    
    
    
    
บันไดทางขึ้นชั้น 2     
    
    
จากนั้นเราก็ไปช่วยรดน้ำต้นไม้ แล้วก็กวาดลานวัดด้วยค่ะ     
    
    
    
    
    
    
พอ 5 โมงเย็นเป็นช่วงเวลาการเดินจงกรม เราก็ไปเดินด้วยเลย ไม่ได้ถ่ายภาพขณะเดินจงกรม หรือนั่งสมาธิไว้เลยค่ะ    
    
นี่คือลานด้านหน้าอาคารที่ใช้สวดมนต์ พื้นที่ตรงนี้ค่ะ ที่ใช้ในการเดินจงกรมตอน 5 โมงเย็น    
    
    
การเดินจงกรมที่นี่ จะเดินแบบปกติ เหมือนเราเดินในชีวิตจริงเลยค่ะ ไม่ได้เป็นการยกหนอ ย่างหนอ ปลายเท้าแตะพื้นหนอ แบบนั้น    
แต่ระหว่างเดิน เราต้องกำหนดจิต กำหนดใจ     มีสติรู้เท่าทันความคิด อารมณ์ของเราเอง โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่ถูกจริตกับการเดินจงกรมค่ะ จะแบบไหนก็ตาม เรารู้สึกว่าเรามีสมาธิ และมีสติมากๆ เวลาได้เดินจงกรม ที่นี่เดินจงกรม เย็น 1 ชม.ค่ะ
    
จบจากเดินจงกรมรอบเย็น ได้เวลาของการนำของใช้ไปเก็บที่ที่พัก ที่พักอยุ่ชั้น 3 ของอาคารสวดมนต์ค่ะ  แต่เราไม่ได้นอนตึกนั้น เนื่องจากว่า แม่ชีเล็ก หัวหน้าแม่ชีที่วัด ให้เรายืมชุดขาว (เราซื้อมาแค่ชุดเดียว ชุดอื่นเราเตรียมเป็นเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงขาว) แม่ชีเห็นว่า เราตัวพอๆที่จะใส่ชุดแม่ชีได้ ท่านเลยให้ยืม นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เรามานอนอีกตึกนึง เป็นตึกแม่ชี ตึกนี้จะสำหรับคนที่มาปฏิบัติธรรมหลายวันหรืออยู่นานๆ จนต้องมีการซักผ้าค่ะ เราต้องซักชุดคืนท่าน ที่ตากผ้า จะสะดวกกว่า    
    
ตึกนี้ค่ะ อยู่ใกล้ๆกับตึกสวดมนต์เลยค่ะ     
    
    
เราไม่ได้ถ่ายรูปที่พักด้านในไว้เลยนะคะ  พอทุ่มกว่าๆ ก็ไปรอที่ชั้น 2 อาคารอาจาราจริยานุสรณ์ ที่เราเรียกอาคารสวดมนต์แหละค่ะ    
    
นี่เราเอง หน้าสดแท้ๆ ไร้เครื่องสำอางค์ ไร้เครื่องประทินผิวใดๆ หน้าสดจนหาคิ้วไม่เจอ นี่ขนาดสักคิ้วไว้นะเนี่ยะ 555+    
    
    
ช่วงการสวดมนต์รอบทุ่มครึ่งนี่แหละค่ะ จะมีประชาชนที่เลิกงานมา หรือสะดวกที่จะมาปฏิบัติแบบไม่ค้างคืน ทยอยมากัน แต่เท่าที่เห็นไม่เยอะค่ะ พอมีบ้าง แม่ชีบอกว่า ถ้าเป็นวันพระใหญ่ คนแน่นศาลาค่ะ ที่จอดรถยังไม่พอเลย ตั้งแต่ทุ่มครึ่งถึง4ทุ่ม จะเป็นช่วงของการสวดมนต์รอบเย็น นั่งสมาธิและเดินจงกรมค่ะ  จะบอกว่า คนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่สวดมนต์จนชินกันแล้ว หนังสือไม่ต้อง แต่เราน้องใหม่ เปิดหน้าไหนบ้างก็ไม่รู้ มีผู้ปฏิบัติที่มาก่อน มาคอยแนะนำให้ว่าเปิดหน้าอะไรบ้าง     
    
เล่มนี้เลย    
    
    
จบจากสวดมนต์ เป็นเวลาของการนั่งสมาธิ เรายอมรับเลยว่า เราแทบคุมจิตให้อยู่นิ่งๆ ไม่วอกแวก เวลานั่งสมาธิไม่ได้เลย จิตมันลอยไปนู่นนี่ตลอด ฟุ้งซ่าน ภาพอะไรต่ออะไรเข้ามาในหัวเต็มไปหมด ขาก็ชา ตะคริวกิน สุดท้าย ผ่านไปไม่กี่นาที เราลืมตา และมองรอบๆตัว คนอื่นสงบนิ่งกันมาก  เราเคยทำได้นะคะ แต่พอไม่ได้ฝึกนานๆ จิตเตลิดไปหมดเลย จบจากนั่งสมาธิเสร็จ ถึงเวลาที่เราจะรับศีลแล้วค่ะ รับศีลกับพระอาจาร์อำนวย ท่านเจ้าอาวาสค่ะ    
แล้วเราก็ตามไปเดินจงกรมรอบดึก     
    
นี่คือจุดที่ใช้เดินจงกรมรอบดึกค่ะ เดินรอบสระบัวนี้ ใช้เวลา 1 ชม. ค่ะ    
    
    
จบจากการเดินจงกรม ก็แวะมาดื่มน้ำปานะ ที่แปลกสำหรับเราคือนี่ค่ะ ว่านหางจรเข้ คือ ปานะด้วย เราพึ่งรู้เลยค่ะ    
แม่ชีอ้อยบอกเราว่า ว่านหางจรเข้นับเป็น ปานะ-เภสัชชานิ  ประเภทยาเคลือบกระเพาะค่ะ     
    
    
จบไปแล้วสำหรับวันแรก ถึงเวลานอน ด้วยปกติเป็นคนที่นอนยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สรุปคือ เรานอนไม่หลับค่ะ พลิกตัวไปมา ได้แค่เคลิ้มๆ