ช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 กำลังมาแรงมากๆ มองหาเครื่องฟอกอากาศตามห้างก็หมด ตามร้านข้างนอกก็อัพขึ้นไปอีก 2-3 เท่า ไม่ไหวจะเครียร ขอรอหลังตรุจจีน โรงงานที่จีนกลับมาทำงานก่อนละกัน เดี๋ยวกองทัพเครื่องฟอกอากาศก็จะแห่เข้ามาล้นตลาดกันเองครับ

แล้วระหว่างนี้เราทำอะไรได้บ้าง นอกจากจะนั่งดมฝุ่นในบ้าน อยากจะบรรเทาให้ดีขึ้นกว่านี้ เลยเกิดไอเดียที่จะทำที่กรองอากาศใช้เองขึ้นมา จากไส้กรองอากาศรถยนต์  จึงจัดหาอุปกรณ์มาตามภาพข้างล่างครับ

ชิ้นแรกก็คือไส้กรองอากาศรถยนตร์ หาซื้อจากร้านอะไหล่รถยนต์ทั่วไป ราคาไม่เกิน 200 บาท
ไส้กรองมีขนาด ฟิลเตอร์เล็กถึง 0.6 ไมครอน ดังนั้น ฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.6 ไมครอนขึ้นไปจะถูกกรองได้ครับ



ชิ้นที่สองก็คือ พัดลม
อาจจะใช้พัดลมดูดอากาศ พัดลมระบายความร้อนอะไรก็ที่มีขนาดพอเหมาะกับตัวฟิลเตอร์ของเราครับ ซึ่งผมบังเอินมี พัดลมหอยโข่ง ที่เคยซื้อจากร้านอมร ในราคาน่าจะประมาณ 300-400 บาท ที่มีขนาดประมาณ 12cm พอๆกับ ขนาดของ ฟิลเตอร์พอดี
ข้อดีของพัดลมหอยโข่งก็คือ มีแรงดูดเยอะกว่าพัดลมแบบใบพัดนั่นเอง .... แต่ผมว่าแบบใบพัดก็ใช้ได้นะ เงียบกว่าด้วย


สายรัดกระเป๋าเดินทางจากลาซานด้าน 90 บาท


หลังจากนั้น เราก็แค่ประกบมันเข้าด้วยกันครับ


เนื่องจากไส้กรองอากาศรถยนต์ตัวมันเองทำมาจากวัสดุที่เป็นโฟมยางนิ่มๆอยู่แล้ว เวลาประกบกับพัดลม จึนไม่ต้องมียางซีลใดๆอีกครับ ถ้าหน้าสัมผัสของพัดลมเรียบพอ

แล้วเราก็ใช้สายรัดกระเป๋าเดินทาง หรือจะใช้เข็มขัดอะไรก็ได้ครับ รัดพัดลมกับไว้กรองเข้าด้วยกัน เป็นอันเสร็จ
ตามภาพ พัดลมผมใช้ไฟ DC24V จึงต้องมีตัวแปลงครับ ถ้าท่านไหนหาแบบ 220VAC ได้ก็เสียบไฟบ้านได้เลย ไม่ต้องยุ่งยาก



เสร็จแล้วครับ เครื่องฟอกอากาศแบบบ้านๆ ที่หาวัสดุมาทำเองได้ง่ายๆ ช่วยลดฝุ่นภายในบ้านได้ในระดับนึง
ต้นทุนทั้งหมด คือ

ไส้กรอง 160 บาท
พัดลม  400 บาท (แล้วแต่ว่าจะหาแบบไหนมาได้ในราคาเท่าไหร่นะครับ)
สายรัดกระเป๋า 90 บาท

รวมเบ็ดเสร็จ  650 บาท พอใช้ไปพลางก่อนได้ไม่น่าเกลียดครับ ราคาเท่านี้

จากการใช้งาน ผม**รู้สึก**ได้ว่าอากาศในบ้านดีขึ้นหลังจากเปิดทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง (จริงๆขึ้นอยู่กับขนาดของห้องที่นำไปใช้) ต้องขออภัยที่ตอนนี้ยังไม่มี เครื่องวัด PM2.5 ณ ตอนนี้ ถ้าใครมีลองไปทำและวัดดูนะครับ ไว้ผมได้เครื่องวัดมาแล้วจะลองวัดให้ดูอีกที

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดนะครับ
Filter เครื่องกรองอากาศทั่วไปจะมีขนาด 0.1 ไมครอน และเสริมชั้น คาร์บอนเพื่อดักกลิ่นและเชื้อโรค
แต่ Filter กรองอากาศรถยนต์ จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 0.5 - 0.6 ไมครอน ดังนั้นประสิทธิภาพการกรองจริงๆจะสู้เครื่องกรองอากาศจริงๆไม่ได้ครับ
และเสียงการทำงาน ก็จะขึ้นอยู่กับการเลือกพัดลมที่ใช้ อย่างของผมใช้ปั้มหอยโข่ง แม้จะมีประสิทธิภาพในการดูดที่ดี แต่ก็มีเสียงดังประมาณนึง อาจจะไม่เหมาะในการเปิดทิ้งไว้ขณะที่เรานอนครับ

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า Filter นี้น่าจะสามารถลดฝุ่นละออง PM2.5 ได้ดีกว่าการ Spray น้ำรอบบ้าน ที่ต้องใช้อุปกรณ์และพลังงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเครื่องกรองแบบนี้ครับ

จบแล้วครับ
หากมีสิ่งใดเสนอแนะ หรือข้อมูลทางวิชาการใดๆแนะนำมา ผมยินดีครับ
ขอบคุณครับ