ขอบคุณข้อมูลจาก facebook คุณ nat thanaphon
https://www.facebook.com/685476852/posts/10156444771116853/?d=n
ที่อธิบายไว้ละเอียดมาก ดังนี้
วิธีการดัดแปลงและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi เพื่อทำเป็นระบบ Positive Pressure (คำอธิบายวิธีการทำอยู่ใต้รูป)
ในสภาวะฝุ่น pm2.5 ของประเทศไทยในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้หากเราต้องการคุมค่าฝุ่นในบ้านให้อยู่ในระดับต่ำ เราจำเป็นต้องซีลบ้านใ้ห้ดีไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลเข้ามา
เมื่อเราซีลบ้านได้ดี ปัญหาที่ตามมาคือ ออกซิเจนก็เข้ามาได้น้อยลง คาร์บอนไดออกไซด์ที่เราหายใจออกมาก็ไม่สามารถระบายออกไปได้ (เครื่องฟอกอากาศกรอง CO2 ไม่ได้)
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาคุณภาพอากาศในบ้านคือการใช้ OAU (Outside Air Unit) อัดอากาศที่ผ่านการกรองแล้วเข้าไปในบ้านเพื่อสร้างแรงดัน (Possitive Pressure) อากาศที่ดันเข้าตัวบ้านจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน เจือจางคาร์บอนไดออกไซด์ลง และกันไม่ให้ฝุ่นจากภายนอกแพร่เข้ามาในบ้านได้
เราสามารถคุมค่าฝุ่นในบ้านให้อยู่ในระดับ ดีมาก ได้โดยใช้เครื่องฟอกอากาศเพียงเครื่องเดียว (สำหรับบ้านขนาด 300 ตรม ที่ซีลอากาศได้ดี)
ผลพลอยได้คือ ลดการใช้แอร์ในเวลากลางคืนลง เนื่องจากเราเอาอากาศเย็นจากภายนอกเป่าเข้าบ้านตลอด
ได้ความรู้สึกสดชื่น ไม่อึดอัด ลดการใช้เครื่องฟอกอากาศหลายเครื่องได้
ข้อเสียคือ ด้วยระบบนี้ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศต้องรับภาระฝุ่นภายนอกตลอดเวลา ทำให้อายุการใช้งานไส้กรองสั้นลง (จากการทดลองไส้กรองอยู่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เมื่อเปิดวันละ 16 ชม ในสภาพอากาศ US AQI มากกว่า 120 ตลอด)
ด้วยต้นทุนหลักของระบบนี้มาจากราคาไส้กรอง ผมจึงเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศ Mi มาทำเนื่องจากไส้กรองหาง่าย ราคาถูก และยังสามารถสั่งการผ่านอินเตอร์เน็ต หรือตั้งเวลาเปิดปิดได้อีกด้วย
หากท่านใดมีทุนทรัพย์เยอะ สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศระบบ OAU แท้จากโรงงานได้ ต้นทุนประมาณเครื่องละ 10000-25000 บาท แต่ต้องคำนึงถึงราคาไส้กรองด้วย
สำหรับฝาครอบเครื่องฟอกอากาศ หากท่านไม่สะดวกซื้อแบบสำเร็จรูป ผมได้ออกแบบแม่แบบไว้ให้แล้ว ปรินท์ตามแบบมาทำเองได้เลยครับ
https://www.facebook.com/685476852/posts/10155790517376853/?d=n
การควบคุมการไหลของอากาศภายในบ้านให้ไหลทางเดียว (Unidirectional air flow)
จากรูปตัวอย่าง OAU (Outside air unit) วางอยู่ด้านซ้ายของภาพ เราซีลหน้าต่างทุกบานให้รั่วน้อยที่สุด โดยเฉพาะใกล้ๆ OAU
แล้วเราไปแง้มหน้าต่างที่ห้องน้ำ เพื่อคุมให้อากาศไหลออกตรงห้องน้ำ นำความชื้นออก ในขณะเดียวกัน เมื่ออากาศไหลออก ก็จะมีอากาศใหม่ไหลเข้ามาแทนที่ด้วย อากาศที่ไหลเข้ามาจะต้องผ่านห้องนอน เราจึงได้เติมออกซิเจนให้กับห้องนอนไปในตัว
ทำไมถึงต้องแยกห้องครัวออกจากระบบนี้หละ?
ปัญหาหลักมาจากฮูดดูดควันในห้องครัว เราไม่สามารถปิดรูได้ ถ้าเราไม่ปิด อากาศส่วนใหญ่จะไหลออกทางนี้หมด เพราะมันรูใหญ่ ออกง่าย แทนที่อากาศบริสุทธิ์จะไหลเข้าไปเติมในห้องนอนแทน เราจึงจำเป็นต้องตัดโซนนี้ทิ้งไป ด้วยการปิดประตูห้องครัว
สรุป
จินตนาการว่าอากาศในบ้านเราคือน้ำแดง
เราขังน้ำแดงไว้ในบ้านจนท่วมเพดาน
เราเปิดน้ำใสๆเข้าตรง OAU
ถ้าเราอยากให้ห้องไหนมีน้ำใสเข้า เราก็ต้องเปิดรูให้นำ้แดงไหลออกได้ น้ำใสถึงจะเติมเข้าไปได้ ใช่ไหมครับ?
และถ้าเรามีรูรั่วใกล้ๆ OAU เยอะ แทนที่น้ำใสจะไหลทั่วบ้าน เปิดน้ำเข้ามาน้ำใสๆก็ไหลออกเลย
ลองเอาหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ เพื่อทำให้ระบบ positive pressure ทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีก
มีคำถามมากันนะครับ ว่าเครื่อง mi 2s ตัวเดียวทำ positive pressure กับบ้าน 2 ชั้นจะพอไหม?
***********
ตอบสั้นๆ
บ้านจัดสรรทั่วไปเอาอยู่แน่ครับ แค่ปิดประตูหน้าต่างให้หมด เท่าที่ทำมาบ้านขนาด 400 ตร.ม ก็เอาอยู่
***********
ตอบยาวๆ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจเรื่องของแรงดันก่อนนะครับ
สมมุติเรามีกล่องขนาดใหญ่ ใหญ่มากเท่ากับหอประชุมเลย กล่องนี้ซีลดีมาก ไม่รั่วเลย
เราเอาเครื่อง mi ดันอากาศเข้าไป สมมุติว่า mi ดันอากาศได้เท่ากับ 100 ยังไงแรงดันภายในก็มากกว่าข้างนอกแน่นอน เรียกว่า positive pressure
ที่นี้เราแอบเอามีดไปจิ้มกล่องให้เป็นรูเล็กๆลมเลยรั่วออก
แต่รูมันเล็กมาก สมมุติว่าลมออกที่ 50
นั้นแสดงว่าในกล่องเรา แรงดันก็ยังคงมีมากกว่าภายนอกใช่ไหมครับ?
เอาใหม่ เราเอามีดไปกรีดกล่องให้รูใหญ่เท่ากับช่องประตูเลย ลมออกเยอะมาก mi อัดเข้า 100 ลมก็ไหลออก 100 เลย ทีนี้ แรงดันในกล่องก็จะเท่ากับภายนอกและ ไม่สามารถรักษา positivity pressure ไว้ได้
สรุปได้ว่า จริงๆแล้ว ในระบบ positive pressure เราไม่ได้สนว่าบ้านเราจะใหญ่แค่ไหน เราสนจริงๆว่าบ้านเราซีลอากาศได้ดีแค่ไหนต่างหาก
ซึ่งในความเป็นจริง บ้านยิ่งใหญ่ หน้าต่างก็ยิ่งเยอะ รอยรั่วก็เยอะตาม
หรือ บ้านยิ่งเก่า หน้าต่างเป็นบานเกร็ด รอยรั่วก็จะเยอะเป็นธรรมดา
จริงๆระบบนี้มันไม่สามารถฟันธงได้ว่าต้องใช้กี่เครื่องครับ แต่อยากให้ลองติดตั้งดูซักเครื่องนึงก่อน
ถ้าลองทำแล้วค่ายังไม่ 0 เราก็แก้ได้ 2 ทางคือ
1 เพิ่มแรงลมเข้าโดยการเพิ่มเครื่อง
หรือ
2 ควบคุมการรั่วให้ดียิ่งขึ้นโดยการเอาเทปกาวมาซีลตามรอยรั่ว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ค่าฝุ่นจะ 0 หรือไม่ สิ่งที่คุณได้เลยคือออกซิเจน
ถ้าฝุ่นไม่ 0 แล้วขี้เกียจแก้ ก็เปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ภายในบ้านตามปกติ ช่วยอีกแรงก็ได้ครับ
----------------------
อ่านของคุณ Nat Thanaphon จบแล้วปิ๊งมาก เพราะเป็นจริงที่ตอนปิดบ้านในหน้าร้อน เพื่อเปิดเครื่องฟอกอากาศในบ้านชั้นล่างที่ไม่มีแอร์ คือเหมือนอยู่ในตู้อบดีๆนี่เอง และยิ่งนานจะยิ่งรู้สึกอึดอัดมากเพราะเราหายใจออกก็มี คาบอนไดออกไซด์เยอะขึ้นในห้องปิดที่ระบายไม่ได้ ที่เชียงใหม่ ค่าฝุ่นคือโหดมาก ช่วง มีนา เมษา นี่สูง 300-500 ได้เลย ก็ติดอันดับ 1 ของโลกมาหลายวัน ปัญหาหลักของฝุ่นภาคเหนือมาจากการเผาในที่โล่ง คงต้องอาศัยการแก้ไขแบบบูรณาการ อย่างที่เถื่อนทราเวลของคุณวรรณสิงห์ได้มาถ่ายไว้ วอนหน่วยงานใดหรือเอกชนใด ช่วยด้วยคนเชียงใหม่และภาคเหนือจะแย่แล้ว จะเข้ารพ.กันเยอะด้วยโรคปอด เพราะสูดแต่ฝุ่นมรณะ อยากให้แก้ปัญหากันแบบยั่งยืน ไม่ใช่ต้องให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยไปคอยดับไฟบนดอยกันทุกปี
https://www.youtube.com/watch?v=OgpjDWSVbaM
https://www.youtube.com/watch?v=bjuP0S5N6Ak&feature=youtu.be
https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=XSO2twXxZ50&app=desktop
https://www.youtube.com/watch?v=tY4WrkGml1s&feature=youtu.be
คอนเซปของคุณ Nat Thanaphon ตรงกับที่ต้องการทุกอย่าง คือ เครื่องเดียวใช้ได้ทั้งบ้าน เพิ่มออกซิเจนในบ้าน ไม่อึดอัดเหมือนตอนเอาเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้านแต่คาบอนไดออกไซออกไปไม่ได้ ไส้กรองหาซื้อง่าย หาซื้อได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งบริษัทติดตั้งแพงๆ2-3 หมื่น แถมค่าไส้กรองบริษัทก็คงแพงอีกต่างหากแล้วต้องเรียกเขามาเปลี่ยนให้ตลอด
ต่อๆๆ ด้วยความที่เครื่องต้องวางไว้นอกบ้าน และต้องการประหยัดงบ จึงได้ทดลองโดยใช้เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY ทำแบบคลิปคุณหนูดี คลิปนี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=QPW0qEDNUmY
อันนี้ตรงกับคอนเซปที่ต้องการ คือ
ถูก (ราคาประหยัด)
ดี (ใช้งานได้ดี)
ง่าย (ทำ DIY ได้เองแบบบ้านๆ)
สะดวก (อุปกรณ์หาง่ายตามเน็ต ไม่ต้องพึ่งบริษัทราคาแพง ติดตั้งเองไม่ได้)
เริ่มต้นที่อุปกรณ์
1 เครื่องฟอกอากาศ DIY (พัดลมระบายอากาศฮาตาริ 8 นิ้ว + ไส้กรองเสี่ยวมี่ + กะละมัง + ตะกร้าพลาสติก)
หน้าตาจะออกมาคล้ายๆกับคลิปคุณหนูดี แต่ดูโลโซกว่า
2 หน้ากากกันแมลง 6” 359 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
3 ท่อลม 6” ยาว 5 เมตร 499 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
4 ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6” 89 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
5 เทปกาว 2 หน้า
6 ฟิวเจอร์บอร์ดสีตามชอบ
การจัดการหน้าต่าง (ดูละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ค คุณ Nat Thanaphon)
ก่อนอื่น ถ้ามีหน้าต่างที่เป็นบานเกล็ดจะดีมาก เพราะแค่ถอดบานเกล็ดแค่ 1-2 บานก็ สามารถต่อท่อลมเข้าบ้านได้สบาย
เราก็ถอดมุ้งลวดออก แล้ววัดฟิวเจอบอดให้พอดีหน้าต่าง และเอา หน้ากากกันแมลง 6” ทาบ เพื่อ เจาะรูวงกลม เพื่อใส่ หน้ากากกันแมลงนี่เข้าไปแบบนี้
การประกอบท่อลม กับ เครื่องฟอกอากาศ DIY
ตัดฟิวเจอบอดเพื่อใช้ครอบพัดลมก่อน
แล้วเอา ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6” มาวางบนฟิวเจอบอด เพื่อขีดเส้นไว้เจาะรูวงกลมให้พอดีกับขนาดข้อต่อท่อระบายอากาศ
แล้วเอามาโปะบนพัดลมที่ทำโครงฟิวเจอบอดไว้เมื่อกี้
แล้วเราก็จะเอาท่อลม 6” (สีเงิน) มาต่อเข้ากับ ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6
จากนั้น ค่อยเอามาประกบกับหน้าต่างที่เตรียมไว้ เครื่องฟอกอากาศ DIY ต้องเอาไว้นอกบ้านนะคะ
เป็นไงบ้าง ดูบ้านๆ DIY สุดๆ
ทดลองแล้วผลคือ
หัวค่ำ
PM2.5 นอกบ้าน = 101
PM2.5 ในบ้านชั้นล่าง = 45
PM2.5 ในบ้านชั้นบน = 60
กลางวัน
PM2.5 นอกบ้าน = 193
PM2.5 ในบ้านชั้นล่าง = 101
ถ้าเอาเครื่องฟอกไว้ในบ้าน PM2.5 ในบ้านช่วงกลางวันจะประมาณ 40-50 ไม่เคยฟอกได้ 0 เลย
ได้ถามคุณ Nat Thanaphon แล้วว่าทำไมมันลดค่า pm 2.5 ไม่ได้ใกล้ 0 เหมือนเขา เขาบอกว่าน่าจะเป็นเพราะลมอ่อนไป เพราะพัดลมนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อดูจากไส้กรองอากาศ
และในส่วนตัวบ้านก็ปิดหน้าต่างประตูหมด จะมีช่องลมออกได้แค่หน้าต่างห้องน้ำ กับตามซอกประตู เลยไม่แน่ใจว่าต้องซีลหน้าต่างบานเลื่อนด้วยไหม
ได้ลองดูสเปกเครื่องฟอกอากาศ เสี่ยวมี่ 2s ค่าลมดูด = 310 ลบ.ม./ชม.
พัดลมฮาตาริ VW20M9 (N) ค่าลมดูด = 538 ลบ.ม./ชม. (สเปคระบุไว้ 0.39 ลบ.ม./นาที/วัตต์ ตัวเครื่อง 23 วัตต์)
หากใครมีประสบการ์กับเครื่องฟอกอากาศ DIY รบกวนแนะนำด้วยค่ะ กำลังคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นพัดลม มิตซูบิชิ ค่าลมดูด = 580 ลบ.ม./ชม. จะดีขึ้นไหม
ยังไม่สะดวกซื้อ เครื่องฟอกเสี่ยวมี่ 2s เพราะต้องวางไว้นอกบ้านตรงสวนค่ะ โจรเข้ามาก็ยกไปสบายเลยค่ะ
DIY ระบบ positive air pressure ที่บ้าน กรองฝุ่น pm 2.5 ก่อนเข้าบ้าน เพิ่มออกซิเจนในบ้าน
https://www.facebook.com/685476852/posts/10156444771116853/?d=n
ที่อธิบายไว้ละเอียดมาก ดังนี้
วิธีการดัดแปลงและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi เพื่อทำเป็นระบบ Positive Pressure (คำอธิบายวิธีการทำอยู่ใต้รูป)
ในสภาวะฝุ่น pm2.5 ของประเทศไทยในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้หากเราต้องการคุมค่าฝุ่นในบ้านให้อยู่ในระดับต่ำ เราจำเป็นต้องซีลบ้านใ้ห้ดีไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลเข้ามา
เมื่อเราซีลบ้านได้ดี ปัญหาที่ตามมาคือ ออกซิเจนก็เข้ามาได้น้อยลง คาร์บอนไดออกไซด์ที่เราหายใจออกมาก็ไม่สามารถระบายออกไปได้ (เครื่องฟอกอากาศกรอง CO2 ไม่ได้)
วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาคุณภาพอากาศในบ้านคือการใช้ OAU (Outside Air Unit) อัดอากาศที่ผ่านการกรองแล้วเข้าไปในบ้านเพื่อสร้างแรงดัน (Possitive Pressure) อากาศที่ดันเข้าตัวบ้านจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน เจือจางคาร์บอนไดออกไซด์ลง และกันไม่ให้ฝุ่นจากภายนอกแพร่เข้ามาในบ้านได้
เราสามารถคุมค่าฝุ่นในบ้านให้อยู่ในระดับ ดีมาก ได้โดยใช้เครื่องฟอกอากาศเพียงเครื่องเดียว (สำหรับบ้านขนาด 300 ตรม ที่ซีลอากาศได้ดี)
ผลพลอยได้คือ ลดการใช้แอร์ในเวลากลางคืนลง เนื่องจากเราเอาอากาศเย็นจากภายนอกเป่าเข้าบ้านตลอด
ได้ความรู้สึกสดชื่น ไม่อึดอัด ลดการใช้เครื่องฟอกอากาศหลายเครื่องได้
ข้อเสียคือ ด้วยระบบนี้ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศต้องรับภาระฝุ่นภายนอกตลอดเวลา ทำให้อายุการใช้งานไส้กรองสั้นลง (จากการทดลองไส้กรองอยู่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ เมื่อเปิดวันละ 16 ชม ในสภาพอากาศ US AQI มากกว่า 120 ตลอด)
ด้วยต้นทุนหลักของระบบนี้มาจากราคาไส้กรอง ผมจึงเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศ Mi มาทำเนื่องจากไส้กรองหาง่าย ราคาถูก และยังสามารถสั่งการผ่านอินเตอร์เน็ต หรือตั้งเวลาเปิดปิดได้อีกด้วย
หากท่านใดมีทุนทรัพย์เยอะ สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศระบบ OAU แท้จากโรงงานได้ ต้นทุนประมาณเครื่องละ 10000-25000 บาท แต่ต้องคำนึงถึงราคาไส้กรองด้วย
สำหรับฝาครอบเครื่องฟอกอากาศ หากท่านไม่สะดวกซื้อแบบสำเร็จรูป ผมได้ออกแบบแม่แบบไว้ให้แล้ว ปรินท์ตามแบบมาทำเองได้เลยครับ
https://www.facebook.com/685476852/posts/10155790517376853/?d=n
การควบคุมการไหลของอากาศภายในบ้านให้ไหลทางเดียว (Unidirectional air flow)
จากรูปตัวอย่าง OAU (Outside air unit) วางอยู่ด้านซ้ายของภาพ เราซีลหน้าต่างทุกบานให้รั่วน้อยที่สุด โดยเฉพาะใกล้ๆ OAU
แล้วเราไปแง้มหน้าต่างที่ห้องน้ำ เพื่อคุมให้อากาศไหลออกตรงห้องน้ำ นำความชื้นออก ในขณะเดียวกัน เมื่ออากาศไหลออก ก็จะมีอากาศใหม่ไหลเข้ามาแทนที่ด้วย อากาศที่ไหลเข้ามาจะต้องผ่านห้องนอน เราจึงได้เติมออกซิเจนให้กับห้องนอนไปในตัว
ทำไมถึงต้องแยกห้องครัวออกจากระบบนี้หละ?
ปัญหาหลักมาจากฮูดดูดควันในห้องครัว เราไม่สามารถปิดรูได้ ถ้าเราไม่ปิด อากาศส่วนใหญ่จะไหลออกทางนี้หมด เพราะมันรูใหญ่ ออกง่าย แทนที่อากาศบริสุทธิ์จะไหลเข้าไปเติมในห้องนอนแทน เราจึงจำเป็นต้องตัดโซนนี้ทิ้งไป ด้วยการปิดประตูห้องครัว
สรุป
จินตนาการว่าอากาศในบ้านเราคือน้ำแดง
เราขังน้ำแดงไว้ในบ้านจนท่วมเพดาน
เราเปิดน้ำใสๆเข้าตรง OAU
ถ้าเราอยากให้ห้องไหนมีน้ำใสเข้า เราก็ต้องเปิดรูให้นำ้แดงไหลออกได้ น้ำใสถึงจะเติมเข้าไปได้ ใช่ไหมครับ?
และถ้าเรามีรูรั่วใกล้ๆ OAU เยอะ แทนที่น้ำใสจะไหลทั่วบ้าน เปิดน้ำเข้ามาน้ำใสๆก็ไหลออกเลย
ลองเอาหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ เพื่อทำให้ระบบ positive pressure ทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีก
มีคำถามมากันนะครับ ว่าเครื่อง mi 2s ตัวเดียวทำ positive pressure กับบ้าน 2 ชั้นจะพอไหม?
***********
ตอบสั้นๆ
บ้านจัดสรรทั่วไปเอาอยู่แน่ครับ แค่ปิดประตูหน้าต่างให้หมด เท่าที่ทำมาบ้านขนาด 400 ตร.ม ก็เอาอยู่
***********
ตอบยาวๆ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจเรื่องของแรงดันก่อนนะครับ
สมมุติเรามีกล่องขนาดใหญ่ ใหญ่มากเท่ากับหอประชุมเลย กล่องนี้ซีลดีมาก ไม่รั่วเลย
เราเอาเครื่อง mi ดันอากาศเข้าไป สมมุติว่า mi ดันอากาศได้เท่ากับ 100 ยังไงแรงดันภายในก็มากกว่าข้างนอกแน่นอน เรียกว่า positive pressure
ที่นี้เราแอบเอามีดไปจิ้มกล่องให้เป็นรูเล็กๆลมเลยรั่วออก
แต่รูมันเล็กมาก สมมุติว่าลมออกที่ 50
นั้นแสดงว่าในกล่องเรา แรงดันก็ยังคงมีมากกว่าภายนอกใช่ไหมครับ?
เอาใหม่ เราเอามีดไปกรีดกล่องให้รูใหญ่เท่ากับช่องประตูเลย ลมออกเยอะมาก mi อัดเข้า 100 ลมก็ไหลออก 100 เลย ทีนี้ แรงดันในกล่องก็จะเท่ากับภายนอกและ ไม่สามารถรักษา positivity pressure ไว้ได้
สรุปได้ว่า จริงๆแล้ว ในระบบ positive pressure เราไม่ได้สนว่าบ้านเราจะใหญ่แค่ไหน เราสนจริงๆว่าบ้านเราซีลอากาศได้ดีแค่ไหนต่างหาก
ซึ่งในความเป็นจริง บ้านยิ่งใหญ่ หน้าต่างก็ยิ่งเยอะ รอยรั่วก็เยอะตาม
หรือ บ้านยิ่งเก่า หน้าต่างเป็นบานเกร็ด รอยรั่วก็จะเยอะเป็นธรรมดา
จริงๆระบบนี้มันไม่สามารถฟันธงได้ว่าต้องใช้กี่เครื่องครับ แต่อยากให้ลองติดตั้งดูซักเครื่องนึงก่อน
ถ้าลองทำแล้วค่ายังไม่ 0 เราก็แก้ได้ 2 ทางคือ
1 เพิ่มแรงลมเข้าโดยการเพิ่มเครื่อง
หรือ
2 ควบคุมการรั่วให้ดียิ่งขึ้นโดยการเอาเทปกาวมาซีลตามรอยรั่ว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ค่าฝุ่นจะ 0 หรือไม่ สิ่งที่คุณได้เลยคือออกซิเจน
ถ้าฝุ่นไม่ 0 แล้วขี้เกียจแก้ ก็เปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ภายในบ้านตามปกติ ช่วยอีกแรงก็ได้ครับ
----------------------
อ่านของคุณ Nat Thanaphon จบแล้วปิ๊งมาก เพราะเป็นจริงที่ตอนปิดบ้านในหน้าร้อน เพื่อเปิดเครื่องฟอกอากาศในบ้านชั้นล่างที่ไม่มีแอร์ คือเหมือนอยู่ในตู้อบดีๆนี่เอง และยิ่งนานจะยิ่งรู้สึกอึดอัดมากเพราะเราหายใจออกก็มี คาบอนไดออกไซด์เยอะขึ้นในห้องปิดที่ระบายไม่ได้ ที่เชียงใหม่ ค่าฝุ่นคือโหดมาก ช่วง มีนา เมษา นี่สูง 300-500 ได้เลย ก็ติดอันดับ 1 ของโลกมาหลายวัน ปัญหาหลักของฝุ่นภาคเหนือมาจากการเผาในที่โล่ง คงต้องอาศัยการแก้ไขแบบบูรณาการ อย่างที่เถื่อนทราเวลของคุณวรรณสิงห์ได้มาถ่ายไว้ วอนหน่วยงานใดหรือเอกชนใด ช่วยด้วยคนเชียงใหม่และภาคเหนือจะแย่แล้ว จะเข้ารพ.กันเยอะด้วยโรคปอด เพราะสูดแต่ฝุ่นมรณะ อยากให้แก้ปัญหากันแบบยั่งยืน ไม่ใช่ต้องให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยไปคอยดับไฟบนดอยกันทุกปี
https://www.youtube.com/watch?v=OgpjDWSVbaM
https://www.youtube.com/watch?v=bjuP0S5N6Ak&feature=youtu.be
https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=XSO2twXxZ50&app=desktop
https://www.youtube.com/watch?v=tY4WrkGml1s&feature=youtu.be
คอนเซปของคุณ Nat Thanaphon ตรงกับที่ต้องการทุกอย่าง คือ เครื่องเดียวใช้ได้ทั้งบ้าน เพิ่มออกซิเจนในบ้าน ไม่อึดอัดเหมือนตอนเอาเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้านแต่คาบอนไดออกไซออกไปไม่ได้ ไส้กรองหาซื้อง่าย หาซื้อได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งบริษัทติดตั้งแพงๆ2-3 หมื่น แถมค่าไส้กรองบริษัทก็คงแพงอีกต่างหากแล้วต้องเรียกเขามาเปลี่ยนให้ตลอด
ต่อๆๆ ด้วยความที่เครื่องต้องวางไว้นอกบ้าน และต้องการประหยัดงบ จึงได้ทดลองโดยใช้เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY ทำแบบคลิปคุณหนูดี คลิปนี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=QPW0qEDNUmY
อันนี้ตรงกับคอนเซปที่ต้องการ คือ
ถูก (ราคาประหยัด)
ดี (ใช้งานได้ดี)
ง่าย (ทำ DIY ได้เองแบบบ้านๆ)
สะดวก (อุปกรณ์หาง่ายตามเน็ต ไม่ต้องพึ่งบริษัทราคาแพง ติดตั้งเองไม่ได้)
เริ่มต้นที่อุปกรณ์
1 เครื่องฟอกอากาศ DIY (พัดลมระบายอากาศฮาตาริ 8 นิ้ว + ไส้กรองเสี่ยวมี่ + กะละมัง + ตะกร้าพลาสติก)
หน้าตาจะออกมาคล้ายๆกับคลิปคุณหนูดี แต่ดูโลโซกว่า
2 หน้ากากกันแมลง 6” 359 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
3 ท่อลม 6” ยาว 5 เมตร 499 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
4 ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6” 89 บาท ซื้อได้ที่ Homepro, Global House หรือ ไทวัสดุ
5 เทปกาว 2 หน้า
6 ฟิวเจอร์บอร์ดสีตามชอบ
การจัดการหน้าต่าง (ดูละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ค คุณ Nat Thanaphon)
ก่อนอื่น ถ้ามีหน้าต่างที่เป็นบานเกล็ดจะดีมาก เพราะแค่ถอดบานเกล็ดแค่ 1-2 บานก็ สามารถต่อท่อลมเข้าบ้านได้สบาย
เราก็ถอดมุ้งลวดออก แล้ววัดฟิวเจอบอดให้พอดีหน้าต่าง และเอา หน้ากากกันแมลง 6” ทาบ เพื่อ เจาะรูวงกลม เพื่อใส่ หน้ากากกันแมลงนี่เข้าไปแบบนี้
การประกอบท่อลม กับ เครื่องฟอกอากาศ DIY
ตัดฟิวเจอบอดเพื่อใช้ครอบพัดลมก่อน
แล้วเอา ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6” มาวางบนฟิวเจอบอด เพื่อขีดเส้นไว้เจาะรูวงกลมให้พอดีกับขนาดข้อต่อท่อระบายอากาศ
แล้วเอามาโปะบนพัดลมที่ทำโครงฟิวเจอบอดไว้เมื่อกี้
แล้วเราก็จะเอาท่อลม 6” (สีเงิน) มาต่อเข้ากับ ข้อต่อท่อระบายอากาศ 6
จากนั้น ค่อยเอามาประกบกับหน้าต่างที่เตรียมไว้ เครื่องฟอกอากาศ DIY ต้องเอาไว้นอกบ้านนะคะ
เป็นไงบ้าง ดูบ้านๆ DIY สุดๆ
ทดลองแล้วผลคือ
หัวค่ำ
PM2.5 นอกบ้าน = 101
PM2.5 ในบ้านชั้นล่าง = 45
PM2.5 ในบ้านชั้นบน = 60
กลางวัน
PM2.5 นอกบ้าน = 193
PM2.5 ในบ้านชั้นล่าง = 101
ถ้าเอาเครื่องฟอกไว้ในบ้าน PM2.5 ในบ้านช่วงกลางวันจะประมาณ 40-50 ไม่เคยฟอกได้ 0 เลย
ได้ถามคุณ Nat Thanaphon แล้วว่าทำไมมันลดค่า pm 2.5 ไม่ได้ใกล้ 0 เหมือนเขา เขาบอกว่าน่าจะเป็นเพราะลมอ่อนไป เพราะพัดลมนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อดูจากไส้กรองอากาศ
และในส่วนตัวบ้านก็ปิดหน้าต่างประตูหมด จะมีช่องลมออกได้แค่หน้าต่างห้องน้ำ กับตามซอกประตู เลยไม่แน่ใจว่าต้องซีลหน้าต่างบานเลื่อนด้วยไหม
ได้ลองดูสเปกเครื่องฟอกอากาศ เสี่ยวมี่ 2s ค่าลมดูด = 310 ลบ.ม./ชม.
พัดลมฮาตาริ VW20M9 (N) ค่าลมดูด = 538 ลบ.ม./ชม. (สเปคระบุไว้ 0.39 ลบ.ม./นาที/วัตต์ ตัวเครื่อง 23 วัตต์)
หากใครมีประสบการ์กับเครื่องฟอกอากาศ DIY รบกวนแนะนำด้วยค่ะ กำลังคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นพัดลม มิตซูบิชิ ค่าลมดูด = 580 ลบ.ม./ชม. จะดีขึ้นไหม
ยังไม่สะดวกซื้อ เครื่องฟอกเสี่ยวมี่ 2s เพราะต้องวางไว้นอกบ้านตรงสวนค่ะ โจรเข้ามาก็ยกไปสบายเลยค่ะ