ฝันบอกเหตุ (Original : 26-08-2007)

กระทู้สนทนา
ฝันบอกเหตุ (เรื่องที่สอง : เขียนวันที่ 26-08-2007 อ้างอิงจากวันที่เซฟไฟล์)


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก..................กกกกกกกกกก”

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากที่นอน.......อีกแล้วเหรอเนี่ย.......ผมฝันแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว......!!

    ในความฝัน...ผมเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังเดินข้ามถนนด้วยท่าทางค่อนข้างจะเหม่อลอย....แล้วทันใดนั้น....

    ......แปร๊นๆๆๆๆ......เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด........โครมมมมม.................................มม!!

    สิ้นเสียง ผมก็จะสะดุ้งตื่นทุกครั้ง........


    ความฝันนี้ฉายซ้ำๆ จนผมมีอาการนอนไม่หลับในช่วงเดือนที่ผ่านมาพร้อมกับคำถามในใจและความกังวลที่เริ่มมีมากขึ้น.....ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร......มันมีความหมายอะไร.....หรือมันเป็นลางบอกเหตุ........!!


    ผมต้องพึ่งยาระงับประสาทและยานอนหลับเพื่อช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน ยาหมดไปเกือบสัปดาห์แล้ว ผมยังไม่มีเวลาไปซื้อ ก็เนื่องด้วยงานของผมซึ่งเป็นนักเขียนประจำของนิตยาสารรายเดือนฉบับหนี่ง ทำให้ช่วงนี้ผมต้องเร่งเขียนงานไปส่งเพื่อให้ทันปิดต้นฉบับ ซึ่งวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับเดือนนี้กับวงจรชีวิตที่เร่งรีบแบบนี้ ผมเหลือแค่เก็บงานอีกนิดหน่อย แล้วก็จะไปส่งต้นฉบับช่วงเย็นๆ หลังจากนั้นก็จะแวะไปซื้อยาที่ร้านขายยาหน้าสำนักพิมพ์ก่อนกลับบ้าน จะว่าไปแล้วหลังจากส่งต้นฉบับเมื่อเดือนที่แล้ว ผมยังไม่ได้ก้าวออกจากตัวบ้านเลยด้วยซ้ำ


    ผมลุกจากที่นอนไปที่โต๊ะทำงานทันที วันนี้อากาศข้างนอกดูขมุกขมัวพิกล ไม่ปลอดโปร่งเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตั้งเค้ามา ผมคงต้องรีบปิดตอนงานของผมซะแล้ว คงไม่เข้าท่าแน่ถ้าต้องหอบต้นฉบับไปส่งท่ามกลางสายฝน


    .....ให้ตายเหอะ ทำไมฝนจะต้องทำท่าจะตกวันนี้ด้วยเนี่ย....!!!

    พอคิดอย่างนี้ หัวผมก็เริ่มปวด ตุ๊บ..ตุ๊บ ขึ้นมา.......

    ......ช่างเหอะ.....รีบทำงานต่อดีกว่า.....ช่วงนี้เราคงเครียดเกินไป.....


    ผมเริ่มทำงานด้วยความยากลำบาก ก็ด้วยอาการปวดหัวที่มีอยู่ เรื่องความฝันแปลกๆ ที่เห็นมาเป็นเดือน แล้วก็การที่ต้องเร่งเขียนงานจนกลายเป็นลนลาน จนเวลาล่วงเลยไปถึงบ่ายแก่ๆ ผมจึงเขียนเสร็จ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวทันทีเพื่อให้ทันส่งต้นฉบับ และก็ก่อนฝนจะตกด้วย


    ผมหยิบต้นฉบับจากโต๊ะทำงาน และเตรียมตัวออกจากบ้าน ลังเลนิดหนึ่งว่าจะหยิบร่มไปด้วยดีหรือไม่ ดูท้องฟ้าแล้วก็น่าจะทัน.......ไม่เป็นไร ไม่เอาไปดีกว่า.......ผมเดินออกจากบ้านไปที่ป้ายรถประจำทาง และนั่งรออยู่ที่ป้ายจนเริ่มหงุดหงิดว่าทำไมรถถึงได้มาช้านัก....การรอคอยนี่มันทรมานจริงๆ....ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มลงเรื่อยๆ


    เปรี้ยงงงง......งง............ครืนนนนนน......!!!!

    แสงสีขาวพาดผ่านจากท้องฟ้าลงสู่เบื้องล่าง และตามด้วยเสียงร้องราวอสูรกายที่ฟังกี่ครั้งก็ยังรู้สึกขนลุก

    .....ฝนทำท่าจะตกแล้ว ลมก็กรรโชกแรง......ผมคิด.....ไม่รอแล้ว....


    ผมตัดสินใจเดินเท้าไปส่งต้นฉบับ.....เพราะถึงแม้สำนักพิมพ์จะไม่ได้อยู่ใกล้บ้านผม แต่ก็ถือได้ว่าไม่ไกลมากนัก และก็น่าจะดีกว่าถ้าผมจะรีบวิ่งไป ดีกว่าต้องมารอรถประจำทางที่ไม่มีทีท่าว่าจะมาเลยแม้แต่คันเดียว


    ผมมาลองนึกๆ ดูแล้ว ทำไมวันนี้รู้สึกว่าคนเดินถนน หรือแม้แต่รถราเองจะน้อยผิดปกติ....หรืออาจเป็นเพราะเมฆฝนตั้งเค้าว่าจะเกิดฝนตกใหญ่ จึงทำให้ผู้คนหลบตัวอยู่ในบ้าน....ดูหนังฟังเพลงกันในบ้านก็ยังดีกว่าต้องมาเดินหรือทำธุระท่ามกลางสายฝนนี่นะ


    ผมวิ่งมาถึงป้ายรถประจำทางที่หมาย...เดินเข้าซอยอีกนิดหน่อยก็ถึงสำนักพิมพ์แล้ว....ผมหยุดหายใจหอบอยู่ที่ป้ายรถประจำทาง....จนถึงขณะนี้ดูเหมือนว่าลมแรงจะพัดพาเมฆฝนไปจนเกือบหมด แสงเริ่มส่องผ่านท้องฟ้ามายังพื้นโลกได้บ้าง

    หลังจากความเหนื่อยทุเลาลงบ้างแล้ว ผมเริ่มสังเกตสิ่งรอบตัว

    ....ที่นี่นี่เอง.....ที่ในความฝันของผม....ที่ป้ายรถประจำทางแห่งนี้.....ทำไมผมถึงนึกไม่ถึงมาก่อนว่ามันเป็นสถานที่ๆ ผมต้องเดินทางมาทุกเดือน.....

    ....ทันใดนั้นเอง.....!!!

    สายตาผมเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง......ใช่แล้ว....ชายในความฝันคนนั้นนั่นเอง.....เค้ายืนห่างจากผมออกไปประมาณสามสิบเมตร

    ถ้าเหตุการณ์ต่อจากนี้เป็นอย่างในความฝันล่ะ.......ถ้าเป็นอย่างในฝันล่ะก็.....ผมคิด.....ผมควรจะเข้าไปช่วยเค้ารึเปล่า...หรือผมควรจะไปทำธุระของผมให้เสร็จและกลับไปนอนใต้ผ้าห่มอุ่นๆ ดีกว่า.....

    ในระหว่างที่ผมกำลังคิด ผมเห็นเท้าของเค้ากำลังก้าวออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และเหม่อลอย....เหมือนในความฝัน......ผมค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปหาเค้าอย่างลังเล....และ....เลยจากเค้าไป....แสงไฟของรถบรรทุกกำลังสาดส่องมาตามถนน.....

    .....ใช่.....รถบรรทุกคันนั้น.....

    ไวกว่าความคิด ผมเหวี่ยงต้นฉบับทิ้ง และวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ชายคนนั้นก็ก้าวเท้าลงสู่ถนนเบื้องล่างเช่นกัน

    หัวใจผมเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก.....รถบรรทุกใกล้เข้ามาแล้ว....!!!

    “ระวังงงงงงง.......งงงง” ผมตะโกนพร้อมกระโดดตัวลอยเพื่อจะผลักเค้าให้ออกจากวิถีของรถบรรทุก


    .....เค้าเอามือมาจับแขนผม หันมามองและ....แสยะยิ้ม.....ผมตกตะลึง.....แสงจ้าจากรถบรรทุกสาดมากระทบตาผมจนพร่าเลือน.....ดวงตาเบิกโพลง.....ผมเหลือบมองต้นฉบับของผมที่ปลิวว่อนตามพื้นถนน.......

    มันเป็นต้นฉบับของเดือนที่แล้ว....ผมนึกออกแล้ว....ความฝันนั้น.....!! วันนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ผมพยายามช่วยชายผู้นี้จากรถบรรทุก....แต่.....เราทั้งคู่หลบไม่พ้น....

    ......แปร๊นๆๆๆๆ......เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด........โครมมมมม.................................มม!!

    รถบรรทุกบดขยี้ร่างของผมและชายผู้นี้จนแหลกละเอียด

    มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและชายผู้นี้ เมื่อเดือนที่แล้ว.......ชายผู้นี้คงกำลังรอผมอยู่....กำลังรอให้ผมรู้ตัวว่าผมไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้วเช่นเดียวกับเค้า......

    แสงสาดส่องเต็มท้องฟ้า การรอคอยที่แสนทรมานของเค้าจบลงแล้ว......และ....จากวันนี้ผมคงหลับอย่างมีความสุขได้ซะที ความฝันซ้ำซากของผมคงก็คงจบลงในวันนี้เช่นเดียวกัน......!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่