27.11.2567
การเดินทางที่สุดโหด สุดมันส์ สำหรับการเดินทางของเราทั้ง 2 คนที่ขับรถเที่ยวกันเองเส้นทางนี้น่าจะเป็นที่สุดในการเดินทางของเราแล้ว
เราออกเดินทางจากอุทยานแห่งชาติแม่เมยช่วงสายๆ มุ่งหน้าสู่กลอเซโล และตั้งใจจะแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มหนึ่งก่อน เพราะดูตามแผนที่ และคำบอกเล่าของคนที่เคยไปมาแล้ว บอกว่าต่อจากตรงนี้ไปมีปั๊มแล้ว เราเลยแวะเข้าไป เอาจริงๆ ก็เป็นปั๊มค่อนข้างใหญ่นะ สบายใจละมีน้ำมันพร้อมเดินทางต่อ วันนี้การขับรถก็เหมือนกับทุกๆ วัน โค้งไปโค้งมาอยู่ในภูเขา ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และถนนก็ไม่ค่อยมีรถวิ่งสักเท่าไร นานๆ จะผ่านหมู่บ้าน และในที่สุดเราก็เจอร้านอาหาร เลยแวะเติมพลังกันซะหน่อย
เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมออกเดินทางกันต่อ
เมื่อเดินทางต่อมาเรื่อยๆ เราก็พบกับตลาดเล็กๆ แห่งหนึ่ง เลยแวะหาของสดไว้ประกอบอาหาร และก็ขนมติดไม้ติดมือไปอีกนิดหน่อย เราได้ถามทางไปยังกลอเซโล กับพนักงานร้านสะดวกซื้อที่นี่ พี่พนักงานเค้าบอกทางได้เป็นอย่างดีเลยครับ และเค้าก็แนะนำว่าให้ไปถามคนแถวนั้นอีกที ว่ารถเราจะขึ้นไปไหวไหม (ก็แอบหวั่นๆ อยู่เหมือนกันครับ แต่ก็อยากลอง)
เดินทางต่อมาเรื่อยๆ ก็เข้าสู่เขตแม่สามแลบ ถนนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นถนนลูกลัง สลับกับคอนกรีต และยางมะตอยบ้าง ขับมาสักพักก็เข้าสู่ทางลูกลังที่เป็นหลุ่มเป็นบ่อ 100%
เราเห็นท่าไม่ดี เลยจอดรถคลุมเต็นท์ก่อน
ทางขึ้นที่นี่มี 2 ทางครับ คือทาง 18 กม. และ 22 กม. ก็ตามชื่อเลยครับ มันคือความยาวของระยะทาง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ความยากย่ายต่างกันมากๆ ครับ ทาง 22 โล จะไกลกว่าหน่อย แต่สะดวกมากกว่า แต่ช่วงที่เราไป เส้นทางยังไม่แห้งจากฝนทำให้ทางเละมาก ต้องเป็นรถขับสี่และยกสูงเท่านั้นครับ ที่ไปได้ ส่วนทาง 18 กม. จะค่อนข้างชัน (ผมว่าชันมากเลยแหละ) และเส้นทางก็แคบ เราเลือกไปทาง 18 กม. ครับ ซึ่ง 18 กม. เราใช้เวลาในการขับรถไปประมาณ 90 นาที โดยไม่ได้แวะพักเลยครับ
เห็นป้ายแล้วก็เลี้ยวตามป้ายได้เลยครับ ลุยยยย
เสียดายครับ ไม่มีรูปเส้นทางมาให้ดู เพราะแฟนผมได้แต่เอามือเกาะที่จับไว้แน่นมาก ไม่สามารถทำอะไรได้เลย 555+ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ต้องขับรถผ่านลำน้ำที่ไหลผ่านถนน เราติดหล่มอยู่นิดหน่อย ยังโชคดีที่ขึ้นมาได้ และขับมาเรื่อยๆ หลังจากนี้จะเป็นทางที่ชันมาก และเป็นลูกลัง ทำให้ล้อรถไม่เกาะถนน มีลื่นแฉลบอยู่บ้าง ซึ่งเราต้องพยามขึ้นครั้งเดียวให้ผ่าน เพราะถ้าไปอยู่กลางเนิน นั้นเท่ากับว่าเราต้องถอยหลังกลับมาตั้งหลัก แล้วส่งตัวขึ้นไปใหม่ ซึ่งการถอยในทางที่ชันและแคบเป็นเรื่องที่ยาก คงจบไม่สวยแน่ครับ ด้านซ้ายของเราเป็นภูเขา และด้านขวามก็เห็นเหมือนเหวลงไป โชคดีมากครับที่หนูดำใจสู้สุดๆ ผ่านไปได้ทุกเนิน แม้ว่าทางเนินจะต้องสู้ และลุ้นกันสุดๆ ที่เห็นได้ชัดเลย คือระบบควบคุมล้อ ที่มีไฟเตือนว่าระบบทำงาน ติดขึ้นมาแทบจะตลอดเวลา (ตั้งแต่ขับมาไม่เคยใช้งานเลยครับ) บางช่วงทางก็ยังมีความชื้นอยู่กลับ ยังไม่แห้งดี ทำให้เป็นล่องลึกตามรอยล้อรถที่เค้าวิ่งกันไว้ ถ้าเราวิ่งตามรอยเค้า ความสูงของรถเราจะไม่ผ่านๆ แน่ๆ ทำให้เราต้องพยายามไปตามสัน ซึ่งมันยังไม่แห้ง ทำให้มีบางช่วงมันแฉลบให้ใจหายอยู่เหมือนกัน
ตรงนี้เป็นช่วงนึงสั้นๆ ที่ถนนค่อนข้างดีครับ ถึงได้ปล่อยมือจากที่จับมาถ่ายรูปได้ 555+
ขับมาเรื่อยๆ จนผ่านลานกางเต็นท์ลานแรก นั่นก็คือม่อนภพฟ้า มองด้วยสายตาแล้ว มีคนมากางกันเยอะอยู่ครับ เราเลยไปก่อน คิดว่าจะไปยังลานต่อไป ขับไปอีกสักหน่อยฝนก็เริ่มลงเม็ด ไม่แรงมาก แต่ว่าเรากลัวสุดๆ เพราะว่าถ้าฝนตกลงมานั่นหมายถึงว่าพรุ่งนี้เราจะไม่สามารถลงกลับไปได้ และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะลงได้ด้วย เพราะต้องรอจนทางแห้ง เราตัดสินในวนรถกลับมานอนที่ลานแรกที่เราเห็นครับ 555+ (ตอนนั้นคือกลัวมาก)
แสงแดดกำลังส่องทะลุก้อนเมฆลงมา
ฝุ่นหนาๆ กับฝนปรอยๆ เดี๋ยวพอแห้งแล้วไม่อยากจะนึกถึงสภาพเลยครับ
โชคดีที่ฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม แต่ดูจากท้องฟ้าแล้วก็ยังหวั่นๆ อยู่
เห็นแดดแล้วดีใจมากกก
มุมนี้สวยมากเลยครับ
ฝนไปแล้ววว เย้
ผมว่าวันนี้อากาศกำลังดีเลยนะ เย็นสบาย ไม่หนาว ไม่ร้อน มีสายลมเบาๆ
ได้เวลาอาหารเย็นแล้วววว
น้องกินง่าย นุดกินอะไร น้องก็กินได้หมดทุกอย่าง
กลางคืนที่นี่ดาวสวยมากๆ ครับ เห็นชัดเจน และเต็มท้องฟ้าไปหมด คืนนี้หลับไปพร้อมกับแสงดาวเลยครับ
คืนนี้อากาศกำลังดี เราเปิดเต็นท์ตรงหัวนอนไว้นอนมองแสงดาว แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ สดุ้งตื่นมาอีกทีช่วงประมาณ 5 ทุ่ม มีมนุษย์ป้าที่แกมากับทัวร์ แกแพ้แอลกอฮอร์ที่ดื่มเข้าไปครับ แกเริ่มเสียงดัง ภาวนาให้ดาวตก และเริ่มเล่าเรื่องราวสมัยสาวๆ ครับ 555+ ทั้งลานแกดังอยู่คนเดียว แต่ก็มีหน่อยที่อายุแกไม่ค่อยเอื้ออำนวยทำให้แกหลับไปประมาณเที่ยงคืน เราจึงได้นอนกันต่อ
ตื่นมาน้องก็มารอรับอยู่หน้าเต็นท์แล้วครับ
เช้านี้เราได้เห็นทะเลหมอกแบบใกล้ชิดมากๆ
ระหว่างนี้เราก็นั่งดื่มด่ำกับชีวิต และก็จิบธรรมชาติ สูดอากาศไว้ให้เต็มปอด
จากนั้นก็ถึงเวลาที่เราต้องมาลุ้นกันอีกครั้ง นั่นก็คือตอนลง แต่พี่เต็นท์ข้างๆ ที่เคยมาบอกว่าตอนลงง่ายกว่าตอนขึ้น
ในที่สุดเราก็ลงมาได้แล้วววว
กลอเซโล นับว่าที่นี่คือสถานที่ที่ตราตรึงใจของเราอีกที่นึงเลยทีเดียว สวย สนุก ตื่นเต้น มีครบหมด และคิดว่าเราคงไม่ได้กลับไปอีกแล้ว เพราะในความรู้สึกของเราคือมันเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ แล้ว อยากจะเก็บมันไว้ตลอดไป ถ้าไปอีกก็ไม่รู้ว่าจะดีแบบนี้หรือป่าว มันอาจจะดีมากกว่า หรือน้อยกว่าก็ได้ แต่ในเมื่อเราได้สิ่งที่เราคิดว่าดีมากๆ สำหรับเรามาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาอันใหม่ ไว้ไปที่ใหม่ๆ ที่มีเรื่องราวใหม่ๆ ให้เราได้ค้นหาดีกว่า
แล้วพบกันในสถานที่ต่อไปครับ ไปดูดอกไม้สวยๆ กันบ้างดีกว่า แล้วมาร่วมเดินทางไปกับเราต่อนะครับ
[CR] บันทึกการเดินทาง EP.13-4 ณ กลอเซโล จ.แม่ฮ่องสอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้