ประสบการณ์ใน *** ห้างดังที่ดีกับลูกค้าเฉพาะเวลาเปิดทำการ

สวัสดีค่ะ 😊 เพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกท่าน
เราชื่อ “เพียว” นะคะ ขอชวนทุกคนมาใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยกันค่ะ
ปกติแล้วเราชอบเข้ามาอ่านเรื่องราวต่าง ๆ และอ่านความคิดเห็นจากกระทู้ Pantip อยู่เป็นประจำ แต่ตัวเราก็ยังไม่เคยออกมาตั้งกระทู้อะไรที่เป็นเรื่องราวของตัวเองเลยสักครั้งเดียว แต่วันนี้เราแค่อยากมาแชร์เรื่องราวของเรากับอาม่าให้เพื่อน ๆ ทุกคนใส่ใจไปด้วยกันค่ะ ^^
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์หรือไม่กี่วันนี้เองค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นพนักงานบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมฯ แห่งหนึ่งในจ.ชลบุรีที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานหลายสถานที่ด้วยกัน (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทราและกรุงเทพฯ) แต่ที่พักอาศัยหลัก ๆ ของเราเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลจาก ห้างดังที่ดีกับลูกค้าเฉพาะเวลาเปิดทำการ จ.ชลบุรี
ช่วงเดือนเมษายนเราจะมีวันหยุด+วันลาพักร้อนค่อนข้างเยอะ อาม่าของเราจึงมักจะมาอยู่กับเราในช่วงนี้เป็นประจำทุกปี เพราะมันเป็นช่วงที่อาเจ็ก อาแปะ อาซิ้มของเรามักจะพาลูกหลานไปเที่ยวครั้งละนาน ๆ อาม่าปีนี้อายุ 91 ปีบอกว่าแกแก่แล้วไม่มีเรี่ยวแรงจะไปเที่ยวแบบนั้นแล้วอาม่าจึงขอมาอยู่กับเราที่ไม่ค่อยได้ไปไหน ส่วนใหญ่อาม่าจะลงไปนั่งเล่นรับลมใต้คอนโดบ้างหรือไม่ก็ขอให้เราพาข้ามถนนไปหาอะไรกินหรือตากแอร์ที่ ห้างดังที่ดีกับลูกค้าเฉพาะเวลาเปิดทำการ บ้าง บังเอิญว่าอาม่าของเราเป็นคนชอบใส่ใจผู้คนเสียยิ่งกว่าเราแกจึงจะรู้จักคนนั้นคนนี้อยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะกับคุณยายและลูกสาวลูกเขยเพื่อนข้างห้องของเราด้วยแล้ว
เมื่อวันไหลบางแสนที่ผ่านมาเพื่อน ๆ ที่บริษัทขับรถมารับเรากับอาม่าออกไปหาอะไรกินที่บางแสนด้วยกัน เพราะรถติดมากพวกเราจึงแวะร้านอาหารคาเฟ่เพื่อถ่ายรูปเล่นกับอาม่ามาตลอดทาง จนถึงตอนเย็นพวกเราพาอาม่าไปกิน MK ใน ห้างดังที่ดีกับลูกค้าเฉพาะเวลาเปิดทำการ เป็นการปิดท้าย อาม่ายิ้มตลอดเวลาและพูดว่าคิดถึงอากงและพ่อกับแม่ของเราอยู่บ่อย ๆ
4 วันต่อมาอาการของอาม่าไม่ค่อยจะดีนัก ตอนเช้า ๆ แกมีอาการเวียนหัว ท้องเสียและอาเจียน...อาการคล้ายกับอาหารเป็นพิษ เราก็เลยโทรไปลางานกับหัวหน้าแล้วรีบพาอาม่าไปหาหมอค่ะ แต่อาม่าเราดื้อมากบอกแต่ว่าไม่อยากไปโรงพยาบาล...กลัวว่าจะไม่ได้กลับมาเหมือนกับอากง...เราต้องปลอบและเกลี้ยกล่อมอาม่าอยู่ตั้งนาน
คุณยายข้างห้องได้ยินก็แวะมาดูพร้อมกับบอกเราว่าชั้นใต้ดินของ  ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐมาเปิดให้บริการอยู่ให้ลองพาอาม่าไปตรวจก่อนดีไหม ? เขามีหมอมาตรวจอาการด้วยและถ้าอาการไม่ดียังไงหมอจะได้ช่วยพูดให้แกยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ว่า  ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ  เราจึงพาอาม่าเดินข้ามถนนเล็ก ๆ มาที่จุดบริการของโรงพยาบาลรัฐฯ โดยมีคุณยายข้างห้องตามมาเป็นเพื่อนด้วย
ที่จุดบริการของโรงพยาบาลมีคนมารอคิวอยู่เยอะมาก ๆ มีทั้งนั่งรถเข็นและนอนบนเตียง มีทั้งคนไข้ที่มีรถพยาบาลเข้ามารับและมาส่ง ตอนที่เราไปกดบัตรคิวเป็นเวลา 9.25 นาที แต่ทั้งหมอและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 2-3 คนเข้ามาช่วยกันดูอาการของอาม่าก่อนแล้วเพราะแกหน้าซีดและมือสั่น ใจเต้นเร็วและแรง (แต่อันที่จริงอาม่าเรากลัวหมอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) โดยรวมแล้วหมอบอกว่าอาม่าอาหารเป็นพิษและคงต้องส่งไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลแต่อาการไม่รุนแรงนักเพราะอาเจียนออกไปบ้างแล้ว หมอบอกเราว่าวันนี้วันจันทร์เปิดทำการวันแรกโรงพยาบาลรัฐคนค่อนข้างจะเยอะมาก ๆ และอาจจะต้องรอคิวนานหมอถามเราว่าอาม่ามีประกันสุขภาพอยู่ที่ไหนหรือเปล่า เราบอกว่ามีและคิดที่จะพาอาม่าไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้ ๆ ตอนแรกหมอจะเรียกรถพยาบาลมารับแต่ต้องรอคิว เราเลยบอกว่าเดี๋ยวเรากลับไปเอารถที่คอนโดมารับอาม่าเองดีกว่า ตอนนั้นเราถามพี่รปภ. (จุดที่ 2) พี่เขาใจดีมาก ๆ พี่เขาแนะนำว่าให้บอกรปภ.ว่าจะเอารถเข้ามารับผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวเขาจะให้เอารถเข้ามาเอง เรารีบวิ่งข้ามไปเอารถที่คอนโดและบังเอิญเจอกับลูกสาวกับลูกเขยของคุณยายข้างห้อง พอพี่ ๆ เขารู้เรื่องก็เลยขับรถตามเรามาด้วยแต่ว่ามันมีปัญหาอีกนิดหน่อย เพราะรปภ.แต่ละจุดไม่ได้ใจดีเหมือนกันหมดอีกทั้งรถของพนักงานห้าง รถของร้านค้าเช่าและรถขนส่งต้องได้เข้าก่อน !! (เราแนบภาพวาดมาให้ด้วยค่ะ)

รปภ. (จุดที่ 1) เข้มงวดเสียเหลือเกินแถมยังบอกเส้นทางที่ปิดให้กับเราเสียอีก พอจะย้อนกลับไปเข้าอีกทางก็มีรถบรรทุกขวางอยู่อีกหลายคัน ลูกเขยของคุณยายจึงบอกให้เราวนรถกลับไปเข้าถนนสุขุมวิท-หน้า  ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ แทน เราก็วนมาถึง...
รปภ. (จุดที่ 3) คราวนี้เราบอกรายละเอียดทุกอย่างจนครบถ้วนเลยแถมยังถามก่อนด้วยว่า...รับแล้ววนรถกลับมาทางออกนี้ได้เลยหรือเปล่า ? พี่เขาบอกว่าได้แต่ให้ระวังรถมอเตอร์ไซค์กับรถขนส่งที่วิ่งย้อนศรหน่อยก็พอ รถของเรา 2 คันขับลงมารับอาม่าและคุณยายที่ชั้นใต้ดินโดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ และพี่รปภ. (ใจดี) ช่วยกันส่งอาม่าขึ้นรถ พี่รปภ. (ใจดี) บอกกับเราว่าให้ขับตรงไปตามลูกศรแล้วขับขึ้นเนินออกไปถนนสุขุมวิทได้เลย เราขอบคุณพี่เขาและขับรถไปตามเส้นทางที่พี่เขาบอกเพราะมันเป็นเส้นทางที่เราซึ่งเป็นลูกค้าปกติจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เราลืมไปว่าที่นี่คือ  ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ ที่รถของพนักงาน รถส่วนตัวของรปภ.บางคนและรถขนส่งที่มาส่งของอยู่บ่อย ๆ ต้องได้เข้าก่อน....คำที่มักจะได้ยินพวกเขาพูดกันอยู่เป็นประจำคือ ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ... ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ... ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ... ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ
ตอนที่รถของเรากำลังจะผ่านรปภ. (จุดที่ 4) ก่อนที่จะเลี้ยวขึ้นเนินเพื่อออกสู่ถนนสุขุมวิท รถยนต์สีขาวคันหนึ่งขับย้อนศรเข้ามาและบีบแตรตบไฟสูงใส่รถของเรา แต่รถของเราอยู่คันแรก รถลูกเขยคุณยายอยู่คันต่อมาและยังมีรถกระบะตามเรามาอีก 1 คัน รปภ. (จุดที่ 4) บอกว่า ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ (ห้ามเลี้ยวขวา) ให้เลี้ยวซ้ายไปออกจุดที่ 1 แล้วเดินหนีเราไปโบกมือเรียกให้รถยนต์คันขาวเข้ามาเลย แต่ไอ้รถคันขาวน่ะนะข้างหลังโคตรจะโล่งมากและถอยได้สบาย ๆ เพราะไม่มีรถตามมาเลยสักคัน เสียงบีบแตรจากรถกระบะทางด้านหลังดังอยู่หลายครั้ง รปภ. (จุดที่ 4) เดินไปคุยข้าง ๆ กระจกรถยนต์คันขาวหัวเราะกัน รถคันขาวเดินหน้าเข้ามาใกล้รถของเรามากขึ้น ตอนนั้นมีผู้ชายที่มาส่งของ 2 คนเดินไปหารปภ. (จุดที่ 4) และทำมือชี้ให้รถคันขาวถอยหลังไป
จนกระทั่งพี่รปภ. (ใจดี) วิ่งมาและตะโกนบอกว่ารถเรากำลังจะส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล รปภ. (จุดที่ 4) รีบหันหลังและเดินหนีเข้าไปในช่องด้านข้างแล้วมันก็ไม่ได้โผล่หน้าออกมาอีกเลย พี่ผู้ชายที่มาส่งของบอกรถคันขาวให้ถอยไปเพื่อที่รถของเราจะได้ออกถนนสุขุมวิทได้ ตอนนั้นเราได้ยินเสียงลูกเขยของคุณยายลงมาจากรถและตะโกนพูดอะไรบางอย่างแต่เราไม่ได้ยิน คุณยายที่นั่งมากับเราบอกว่าสงสัยจะเจอเพื่อนหรืออะไรหรือเปล่าเดี๋ยวคงตามมาเอง เราจึงพาอาม่าไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและก็เหมือนเดิมที่ต้องมีหมอและพยาบาลมาเกลี้ยกล่อมแกอยู่นานกว่าที่อาม่าจะยอมให้น้ำเกลือได้ โชคดีที่อาการของอาม่าไม่ได้มากมายอะไร 
หลังจากเสร็จธุระที่โรงพยาบาลลูกสาวและลูกเขยของคุณยายก็แวะมารับคุณยายที่โรงพยาบาล เราจึงพาอาม่า คุณยายและพวกพี่ ๆ ไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารแถวนั้น ตอนนั้นถึงได้รู้จากลูกเขยคุณยายว่าเจ้าของรถคันขาวเป็นผู้ชายและเป็นพนักงานของ  ห้างยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ เพราะใส่เสื้อโปโลสีกรมท่าที่หน้าอกปักคำว่า “C-N—TR-- -ATT-N-” เรารีบขอบคุณลูกเขยคุณยายที่ช่วยต่อว่าเขาแทนหนู....และหนูก็ต้องขอโทษพี่รปภ. (จุดที่ 4) ด้วยที่หนูไม่รู้จักกาลเทศะ และควรจะมีกาแฟกระป๋องหรือเอ็มร้อยติดไม้ติดมือมาฝากพี่รปภ. (จุดที่ 4) เหมือนกับพนักงานขับรถคันขาวคันนั้น อยากให้พี่รปภ.กับพี่เจ้าของรถคันขาวรู้ว่าหนูโกรธตัวเองมากค่ะที่เข้ามาวุ่นวายกับ ห้างดังที่ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ ของพี่ ๆ หนูควรจะตัดสินใจพาอาม่าไปส่งโรงพยาบาลตั้งแต่แรก หนูไม่โทษความเคยชินกับคำพูดติดปากของพี่ ๆ หรอกค่ะ
สุดท้ายนี้หนูขอบคุณความใจดีและความมีน้ำใจของพี่รปภ. (จุดที่ 2) พี่ใจดีกับหนูและอาม่ามาก ๆ จริง ๆ ค่ะ
และสุดท้ายของสุดท้ายเราหวังว่าเรื่องราวของเราจะทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจกับมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาใส่ใจเรื่องราวของเราค่ะ
เพียว & อาม่าเง็ก (สาวสวยวัย 91 ปีที่ยังแข็งแรงและอยู่กับหนูได้อีกนาน) ค่ะ
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่