บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️ : สะดุดนิดๆ แต่ก็ใกล้เข้าไปอีกหน่อย

เกมที่ไม่เข้าตา::
 
เรียกได้ว่าผิดหวังไปตามๆกันสำหรับสาวกหงส์แดงที่อุตส่าห์สะดุ้งตื่นกลางดึกเพื่อมาชมทีมรักบู๊กับจิ้งจอกแห่งสยาม ผลเสมอทำให้ลิเวอร์พูลฉีกหนีเรือใบไม่ขาด และทำให้การลุ้นแชมป์ก็ยังเข้มข้นและต้องซีเรียสกันไปอีกยาว 😅


วันที่เงียบๆ ก็ยังได้ 1 แต้มใหญ่ที่สำคัญ

สำหรับเกมที่เพิ่งจบลงไปก็เป็นการต่อสู้กันในสภาพสนามที่เดาว่าน่าจะแข็งโป๊กจนเกือบจะเป็นลานสเกตซ์ (มีเพจดังเพจนึงแคปเจอร์ภาพพื้นสนามในครึ่งหลังที่มีหิมะเกาะในแดนลิเวอร์พูล เพื่อให้แฟนบอลทีมอื่นคิดว่าหงส์แดงขี้โกงแบบอ้อมๆ .....แต่ว่าในครึ่งแรกสภาพสนามด้านนี้มันก็เป็นแบบนี้เหมือนกันเฟ้ยย ดังนั้นเคสนี้คือดิสเครดิตล้วนๆ นะไอ่...😡😥😮)

เกมนี้คลอปจัดทีมโดยส่งเฮนโดเป็นแบ็คขวา ขณะที่แดนกลางเน้นรุกเต็มพิกัด ดุมได้คู่ขาอย่างเกอิต้าที่ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับบอลอังกฤษได้ ส่วนเกมรุกก็จัด 4 ประสานลงพร้อมกันถ้วนหน้า ทำให้ฟาบินโญ่ที่คาดว่าอาจจะฟิตไม่เต็มถังต้องนั่งรอบนม้านั่งสำรองไปก่อน

เกมเริ่มขึ้นมาด้วยการต่อบอลอันสวยงามแบบเบ็ดเสร็จของลิเวอร์พูล จนหาช่องและได้ประตูขึ้นนำจากการยิงในจังหวะแรกเท่านั้น 😁 และก็ยังมีโอกาสได้ประตูเพิ่มจากฟีร์มิโน่ แต่ก็โดนชไมเคิลเซฟได้อย่างสวยงาม จากนั้นเมื่อจิ้งจอกสยามเริ่มตั้งเกมได้ ก็กลายเป็นหงส์แดงที่ได้แต่ถ่ายบอลไปๆมาๆ โดยหาจังหวะหวาดเสียวได้น้อยครั้งเหลือเกิน ในทางกลับกันทางเลสเตอร์สามารถโต้กลับสวยๆ โดยอาศัยการเจาะทางเฮนโด และปั่นปั่วนสมาธิกับแนวรับลิเวอร์พูลได้พอสมควร 

และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในช่วงที่แทบจะเป็นวินาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หลังจากที่ รบส ทะเล่อทะล่าไปทำฟาวล์เลสเตอร์ในจังหวะที่แทบจะไม่มีอะไร ลิเวอร์พูลก็ถูกเลสเตอร์ลงโทษด้วยการหลุดกับดับล้ำหน้าของยอดกองหน้าอย่างแมคไกวร์ ที่หลุดไปยิงจ่อๆแบบอลิสซอนหมดสิทธิ์ป้องกันประตู ทำให้ครึ่งแรกจบไปแบบช็อคๆด้วยสกอร์นี้ 😪

เริ่มครึ่งหลังเกมก็ยังคล้ายเดิม แต่ต่างตรงที่เลสเตอร์แก้เกมมาได้ดีเยี่ยม จนมีโอกาสบุกใส่ลิเวอร์พูลมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวะที่เจาะทางเฮนโด ซึ่งเป็นจุดอ่อนในเกมรับอย่างชัดเจน ทำให้เกมรับดูป้อแป้ทุกครั้งในจังหวะที่นักเตะทีมเยือนเลี้ยงบอลจี้เข้าหา

และทีเด็ดอีกอย่างของทีมเยือนก็คือทีเด็ดจากการเล่นและป้องกันลูกเซตพีซ ซึ่งทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะในจังหวะเกมบุก ซึ่งดูอันตรายทุกครั้งที่ได้โอกาส ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมาตรฐานเกมรับของหงส์แดงในเกมนี้มันต่ำลง หรือเพราะเลสเตอร์มาดีจริงๆ สุดท้ายแล้วหลังจากพลาดการได้จุดโทษจากเกอิต้า รวมถึงการปรับเกมโดยคลอปที่ไม่เป็นผล และการพยายามโหมบุกในช่วงท้าย ก็ไม่อาจทำให้หงส์แดงคว้าชัยในบ้านได้ 😥 โดยต้องเรียกว่าเป็นโชคดีด้วยซ้ำที่ไม่พ่ายคาบ้านจากจังหวะโต้กลับของดามาราย เกรย์ ที่ดันเห็นแก่ตัวและยิงแบบไม่คิดในจังหวะนั้น ทำให้เลสเตอร์พลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย

บทสรุปก็ต้องบอกว่า 1 แต้มที่ได้มาเป็นสิ่งเหมาะสมกับทั้งสองทีม เพราะทั้งคู่ก็มีโอกาสทำประตูขึ้นนำเหมือนกัน แต่ด้วยความละเอียด และปัจจัยบางอย่างทำให้เกมจบลงแบบนี้

บางทีการที่ร้างสนามไปนานๆ มันชัดเจนว่าทำให้จังหวะการเล่นของนักเตะดรอปลงพอสมควร เพราะถึงแม้ว่าจะซ้อมต่อเนื่องให้ใกล้เคียงกับเกมในสนามอย่างไร แต่มันก็เทียบไม่ได้กับการลงสนามจริง ส่วนการจัดตัวของคลอปในวันนี้ ไม่กล้าเรียกว่าติดประมาท เพราะเข้าใจว่าคงดูจากสภาพความฟิตของนักเตะมากกว่า เนื่องจากถ้าทุกคนในรายชื่อฟิตเต็มร้อย ฟาบินโญ่คงจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง และคงทำให้แผงกลางคุมเชิงและครองบอล รวมถึงผ่อนเกมรุกของเลสเตอร์ได้ดีกว่านี้
 


ฟอร์มนักเตะ:: 

อลิสซอน เกมนี้เกือบจะเป็นเดจาวูแบบที่เจอกันในเกมแรก เพราะอลิสซอนออกบอลพลาดจนเกือบจะโดนยิง แต่ดีที่ลูกโหม่งลูกนั้นไม่ตรงกรอบ แต่ก็ถือว่าพอชดเชยได้จากจังหวะเซฟบอลจากการยิงของหัวหอกเพื่อนร่วมชาติ (ถ้ายิงเข้าไปคงเรียก "ไอ้หอก" แทนนะฮะ 🤣😂) ส่วนการเปิดเกมรุก ก็ยังทำได้ตามมาตรฐาน เพียงแค่นักเตะในเกมรุกวันนี้ดูตื้อๆ และทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานกันเกือบทั้งทีม

ฟานไดจ์ เติมสูงพอสมควร ดูแล้วยังฟิตไม่เต็มร้อย แต่ยังไงก็เป็นหัวใจหลักจึงต้องเข็นลงทุกนัดมันไปแบบนี้นี่ล่ะ โชคดีที่จบเกมโดยไม่มีอาการบาดเจ็บ
 
มาติป เล่นแทบจะสไตล์เดียวกับฟานไดจ์ ทำให้ไม่มีตัวชน แลดูจับคู่กันเล่นเกมรับได้หลวมๆชอบกล ซึ่งแฟนหงส์แดงต้องลุ้นเหนียวทุกครั้งที่เลสเตอร์มาป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษ ส่วนในจังหวะเติมเกมต้องชมเลยว่าลุยขึ้นไปได้สวยๆหลายครั้ง ทำได้ดีมากๆ 😍

รบส เล่นได้ต่ำกว่าปกตินิดหน่อย แต่จังหวะที่ตัดฟาลว์จนเป็นที่มาของการเสียประตูนั้น มันน่าจับดีดมะกอกหนักๆ เพราะดุมก็ดูคุมทางบอลไว้ได้แล้ว พลาดนิดเดียวจริงๆ

เฮนโด ไม่ควรมาเล่นเป็นแบ็คขวาอีก เพราะไม่สามารถรับมือกับเกมรับด้านข้างได้เลย ทำให้เลสเตอร์แทบจะซ้ายผ่านตลอด และทั้งทีมต้องพะวงกับเกมรับมากกว่าปกติ แต่ก็โทษอะไรไม่ได้เพราะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวถนัด
 
ดุม เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน อาจจะเป็นเพราะต้องแบกแผงกลาง เนื่องจากยืนคู่กับเกอิต้าที่ยังปรับความเร็วกับบอลอังกฤษไม่ได้

เกอิต้า ครึ่งแรกคือตัวแถม แต่ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้ดี มีจังหวะลากลุยสวยๆ รวมถึงจังหวะที่พลาดการได้จุดโทษ น่าเสียดายที่คลอปรีบเปลี่ยนออก ซึ่งตอนโดนถอดออกไปนั้นเห็นได้เลยว่าเค้าไม่ค่อยสบอารมณ์ ซึ่งตรงนี้ก็เสียดายเหมือนกันที่คลอปเลือกที่จะถอดนักเตะคนนี่ที่กำลังไต่ฟอร์มได้ในครึ่งหลังออกไปกลางคัน


เกอิต้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น เสียดายที่ไม่ได้โอกาสครบ 90 นาที


ฟีร์มิโน่ เชื่อมเกมได้ดี เป็นเกมที่ดูโอเคเลย ขาดก็แต่ชื่อบนสกอร์บอร์ด ซึ่งถ้าไม่มีซุปเปอร์เซฟจองเดอะเกรทโกลคีปเปอร์ เค้าคงมีชื่อในสกอร์บอร์ดทั้ง 2 ฝั่ง 😂😂

ซากิรี่ เป็นอีกเกมที่เงียบมากเมื่อลงเล่นเป็นตัวจริง เกมรับเลสเตอร์เก็บได้อยู่หมัดจริงๆ

ซาลาห์ เงียบสุดๆ เอาชนะแมคไกวร์ไม่ได้เลย เป็นเกมที่ฟอร์มไม่ดีเลยสำหรับเจ้าตัว 😖

มาเน่ เล่นได้วูบวาบ และสามารถพลิกบอลจนยิงประตูขึ้นนำให้กับทีมได้ ถือว่าเป็นนักเตะเกมรุกที่เล่นได้ดีในวันนี้

ตัวสำรอง:

ฟาบินโญ่ ลงมาเพิ่มมิติกับทีมได้ทันที ทำให้ทีมสามารถขึ้นบอลจากเกมรับได้ดีขึ้น ตอนนี้น่าจะพูดได้เต็มปากว่าเค้าปรับตัวกับบอลอังกฤษได้แล้ว ถ้าฟิตเต็มร้อยเกมนี้คงไม่พลาดการเป็นตัวจริง

ลัลลาน่า + สเตอหริดจ์ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ยังยกระดับให้กับทีมไม่ได้เมื่อลงสนามในเกมนี้

 

1 แต้มสวยๆ ::

สำหรับเกมต่อไป แมนซิตี้จะได้ลงสนามเจอกับปืนใหญ่ก่อน ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าช่องว่างน่าจะหดลงเหลือแค่ 2 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลจะต้องไปเยือนขุนค้อน ซึ่งเรียกได้ว่ามีทีมที่ลงตัวและค่อนข้างน่ากังวลไม่น้อย ดังนั้นในเกมถัดไปลิเวอร์พูลต้องพยายามหาจังหวะเกมรุกของตัวเอง และเล่นเกมรับให้แน่นอนมากกว่า 2 เกมที่ผ่านมา เพราะตัวทีเด็ดของเวสต์แฮมนั้นมีเยอะเหลือเกิน และก็จำเป็นที่ลิเวอร์พูลจะต้องคว้าสามแต้มมาให้ได้ เพราะปลายเดือนกุมภาจะต้องไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดในสภาพที่เจ้าบ้านกำลังคึกอย่างมาก เพราะได้กุนซือที่มี passion เต็มพิกัดแบบน้าโอเล่ ซึ่งยังเดาไม่ออกว่ารูปเกมจะเป็นยังไง แต่ก็หวั่นใจแบบสุดๆเลยฮะ 🤔


ไม่มีการพักนานๆแล้ว หวังว่าจะกลับมาหาจังหวะการเล่นที่ดีเหมือนเดิมได้ในเร็ววัน


ณ ตอนนี้ ก็เหลือการแข่งขันอีก 14 นัด แมนซิตี้ต้องเจอเกมใหญ่ๆ สามเกมติด ซึ่งจากสถิติพวกเค้าชอบเอาชนะทีมใหญ่ได้เสมอ (ยกเว้นการแพ้ทีมของซาร์รี่เท่านั้น) ดังนั้นในส่วนของลิเวอร์พูลก็จำเป็นต้องกลับมาเก็บชัยชนะให้ต่อเนื่องที่สุด เพราะช่องว่างแค่ 4 คะแนนครึ่ง เผลอแปปเดียวก็อาจกลายเป็นผู้ตามก็ได้

ส่วนเกมล่าสุดที่เพิ่งจบไป ถึงจะทำให้ทุกๆคนที่มีใจรักลิเวอร์พูลผิดหวังที่ไม่สามารถฉีกหนีเป็น 7 คะแนนได้ แต่ก็อย่าลืมไปว่าในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์แย่ๆ ของคู่แข่งลุ้นแชมป์อีกทีมเช่นกัน เพราะจากที่แทบจะทุกคนคิดไว้ว่า เรือใบจะได้ 3 แต้มแบบสบายๆ และช่องว่างของทั้ง 2 ทีมคงเป็น 4 คะแนนเช่นเดิม แต่พอจบเกมเรือใบกลับมีแค่มือเปล่าๆ ส่วนลิเวอร์พูลถึงจะเอาชนะคู่แข่งไม่ได้ แต่ก็ยังได้เพิ่ม 1 คะแนน ทำให้ช่องว่างเพิ่มเป็น 5 คะแนน ซึ่งเรียกได้ว่าเกินความคาดหวังหลังจากจบเกมที่ 24 อยู่นะ 😘 ดังนั้นก็อย่าเพิ่งคอตกกันไป เพราะการเป็นผู้นำ มันก็ยังดีกว่าการไล่ตามนะฮะ และการได้แต้ม ในวันที่เล่นได้ไม่ดีมันก็ดีกว่าการไม่ได้อะไรเลยอยู่มากมายนัก

แต่ยังไงก็ตามจากความผิดหวังของแมนซิตี้ที่เพิ่งพ่ายแพ้ รวมถึงอาจจะใจเสียถ้าลิเวอร์พูลทิ้งเป็น 7 คะแนนได้ แต่เมื่อจบเกมช่องว่างกลับเพิ่มเป็นแค่ 5 คะแนน ดังนั้นมันก็คงทำให้สาวกเรือใบแอบยิ้มในใจได้นิดๆ เพราะแต้มไม่ได้โดนทิ้งแบบที่คาดไว้ 😋

สิ่งที่สำคัญที่คลอปต้องรีบกำชับลูกทีมก็คือ การสอนให้นักเตะเล่นอย่างละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม จริงอยู่ที่นักเตะของลิเวอร์พูลเป็นนักเตะที่ดีและกำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเพิ่มความละเอียดในเกม โดยเฉพาะการตัดสินใจในจังหวะสำคัญๆ ให้รอบคอบมากขึ้น เพราะจุดเล็กๆเหล่านี้มันจะเปลี่ยนโฉมชีวิตของนักเตะเหล่านั้นไปอีกทางหนึ่งได้เลย ถ้ามีการตัดสินใจไม่ถูกต้อง (เช่น กรณีของคาริอุส ไม่พูดเยอะ เจ็บหัวใจ 😂)

จากนั้นเราก็มาติดตามดูกันว่า 1 แต้มที่สำคัญที่ได้มาแบบ "เหมาะสม" ในสัปดาห์นี้มันจะส่งผลให้ลิเวอร์พูลวิ่งไปสู่เป้าหมายแบบที่ต้องการได้หรือเปล่า หรือมันจะกลับกลายเป็นการเสีย 2 แต้มที่ทำให้พลาดโอกาสที่รอคอยมา 29 ปีกันแน่

ก็หวังว่ารอยยิ้มนิดๆในใจของแมนซิตี้ในสัปดาห์นี้ มันไม่น่าจะเป็นรอยยิ้มชื่นบานบนใบหน้าเมื่อจบฤดูกาลนะฮะ เพราะ ณ ตอนนี้ ลิเวอร์พูลก็ยังมี 5 คะแนนที่ทำให้ทีมยังลอยต่ำๆ อยู่เหนือเรือใบ แค่หาจังหวะให้ดี มีนักเตะที่พอใช้ในทุกตำแหน่ง (จะยืมใครมาก็รีบๆนะป๋าคลอป 😅) บวกกับพลังในการต่อสู้ในจิตใจต่อไปแบบนี้ เป้าหมายมันก็ยังจับต้องได้เสมอฮะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่