มีอาการร้อนที่ปลายเท้าถึงโคนขา ขาหนัก ก้าวไม่ออก หลังจากหยุดวิ่งไปสองเดือน

ผมเคยวิ่ง 5-6 กิโลเมตรที่ เพช6-7 และเคยวิ่ง 10 กม. ที่เพชเดียวกัน แต่มีการหยุดเดินประมาณ 2-3 ครั้ง ยังไม่สามารถวิ่งยาวต่อเนื่องได้
เมื่อประมาณ เดือน พ.ย.ปี 61 ผมวิ่ง 10 กม. เพื่อเทสเวลา ปรากฏว่า วันต่อมา ผมมีอาการวิ่งขัดๆ ที่เข่าข้างซ้ายและเจ็บกล้ามเนื่อแปลบๆ เวลาที่ลงน้ำหนัก
จึงตัดสินใจหยุดพัก ปรากฏว่าพักได้หนึ่งสัปดาห์มีอาการเก๊าท์กำเริบ ปวดข้อนิ้วโป้งเท้าซ้าย ต้องพักยาวไป รวมระยะเวลาสองเดือน ระหว่างพักก็ทานยาแก้ปวด และมีดื่มแอลกอฮอล์บ้าง หลังจากอาการเก๊าท์ทุเลาลง ยังมีอาการปวดนิดๆ ที่นิ้วเท้า ผมก็กลับมาวิ่งอีกครั้ง คราวนี้ปรากฏว่าวิ่งได้เพียง หนี่งกิโลเมตร
ก็เกิดอาการร้อนขา ตั้งแต่ปลายเท้าจรดโคนขา ขาหนักมาก ก้าวขาไม่ออก ต้องหยุดวิ่งแล้วใช้วิธีเดินต่อไป ซึ่งใช้ระยะทางในการเดินประมาณหนึ่งกิโลเมตร
อาการขาหนักและร้อนจึงเบาลง แล้วเริ่มวิ่งต่อ แต่พอวิ่งได้ประมาณร้อยถึงสองร้อยเมตร ก็มีอาการเหมือนเดิมอีก ผมก็ต้องเดินสลับวิ่งแบบนี้ ไปเรื่อยๆ แต่พอได้ระยะซักประมาณ 5 กม. สังเกตุว่าวิ่งได้ต่อเนื่องนานขึ้นเป็นกิโล.........เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่วิ่งหลังจากหยุดพักไปสองเดือน ซึ่งผมก็ได้พยายามวิ่งมาแล้ว 7-8 ครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น ผมไม่มีอาการปวดขา...ก่อนวิ่งมีการวอร์มและยืดกล้ามเนื้อก่อนทุกครั้บ อยากถามเพื่อนๆ หรือคุณหมอ ว่า
   1.อาการที่ผมเป็นอยู่นี้ เป็นอาการปกติ ที่เกิดจากการหยุดพักนานใช่หรือไม่
   2.ก่อนหน้าที่จะเกิดการหยุดพักยาว ก็เคยมีการหยุดพักมาก่อนเป็นสัปดาห์ในบางครั้งแล้วกลับมาวิ่งใหม่แต่ก็ไม่เคยมีอาการร้อนขา ขาไม่มีแรงแบบนี้
   3. ขอคำแนะนำด้วยครับว่าควรแก้ไขปรับปรุงอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่