เพราะมียูตู๊ป จึงทำให้ไม่ยากในการที่จะศึกษาให้เข้าใจ และกระทู้ถามท่านที่ศึกษาพระอภิธรรมในนี้จึงเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ
เดิม ฟังพระอภิธรรม แต่ละประเด็นให้เข้าใจแล้วจึงผ่าน หากไม่เข้าใจก็จะฟังซ้ำจนกระทั่งเข้าใจ ก็จบปริจเฉทที่ ๑ จนถึงปริจเฉทที่ ๙
ปัจจุบัน กำลังบันทึกคำสอน คงเหลือ ปริจเฉทที่ ๘ บทที่ ๑๔-๑๗ และ ปริจเฉทที่ ๗ สำหรับไว้ทบทวนเมื่อหลงลืม และสำหรับไล่เรียงสาธยายให้ได้ต่อไป
และตามคำแนะนำ ผมได้หาเอ็มพี๓ เรื่องปฏิสัมภิทามรรค มาฟัง โดยตั้งใจจะฟังให้เข้าใจแต่จะไม่บันทึก แต่เนื่องจากฟังแล้วน่าสนใจอาจจะบันทึกต่อไป
ความคิดความเห็นที่เปลี่ยนไปสำหรับผม
-เดิมคิดว่าเข้าวัดบริจาคเงิน ไหว้พระประธาน ถวายสังฆทาน รับพร รับน้ำมนต์ ไถ่ชีวิตโค เป็นการทำบุญ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
-ตักบาตรพระแต่ไม่ขอรับพร เว้นแต่ว่าพระท่านจะให้พร ก็ไม่ขัด
-ไม่เชื่อในวัตถุมงคลอีกต่อไป
-ไม่ฟังหมอดู
-เมื่อเห็นพระพุทธรูป ก็จะระลึกนึกถึงคุณพระรัตนไตร พุทธคุณ ๙ บท ธรรมคุณ ๖ บท และสังฆคุณ ๙ บท
-และเห็นว่าเหตุที่คนหลงใหลเชื่ออย่างงมงายเพราะสื่อตั้งแต่ตื่นสื่อสารไปตามเรื่องตามราว ซึ่งเมื่อก่อนก็เป็นแบบคนที่เชื่องมงายเหมือนกะเขาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่เชื่อแล้ว
-ไม่กลัว
ปัจจุบัน รักษาศีล๕ นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานบ้างเล็กน้อย
และมีความสุขกับการศึกษาพระอภิธรรม แม้ว่านิวรณ์กวนใจ แต่ก็พยายามศึกษาไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายในขั้นต้นครับ
สรุปว่า ชีวิตมีความสุขและคุ้มค่ากับที่ได้เกิดมาเป้นมนุษย์เมื่อได้ศึกษาเข้าใจและปฏิบัติธรรม ที่เกิดจากความเข้าใจในการศึกษาพระอภิธรรมนี่เองอย่างที่สุด