pm 2.5 ไม่ได้อยู่แค่ในรถดีเซล แต่อยู่ในทุกที่ pm 2.5 อยู่ในฝุ่น ก่อสร้าง ฝุ่นถนน การเปิดหน้าดิน ในรถเบนซิลเช่นกัน
มีการทดลองใน ปักกิ่งพบว่า รถเบนซิล ปล่อย pm 2.5 มากกว่ารถยนต์ดีเซล
นั่นคือ ทุกกิจกรรมของมนุษย์ ล้วนก่อให้เกิด pm 2.5 ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะการเปิดหน้าดิน ถางพื้นที่ ขุดดิน ก่อสร้าง ขับขี่ยานยนต์
เรียกว่าได้ว่าทุกกิจการพัฒนาของสังคมเลยทีเดียว
เพียงแต่ในแต่ละประเทศนั้นต่างกัน
เช่น ประเทศไทยมีรายงานจากทางการว่า รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้อากาศสกปรก?
ในขณะที่ประเทศทางEU นั้นการใช้น้ำมันดีเซลครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั้งประเทศนั้นไม่ได้ทำให้เกิดปัญหานี้
ในประเทศจีนซึ่งใช้น้ำมันเบนซิลทั้งประเทศนั้นก็มีปัญหา pm 2.5เช่นกัน
แล้วอะไรกันแน่ที่จะพอคาดการ์ณปัญหาที่มาของฝุ่นได้
ตัวแปรที่น่าสนใจ สองตัวแปรหลัก หนึ่งตัวแปรรอง ที่ทำให้พอคาดเดาปัญหาฝุ่นได้ คือ
ความหนาแน่นประชากร ระดับการพัฒนาของประเทศ (ไม่ใช่น้ำมันดีเซล)
และ ภูมิประเทศ
ภาพแสดงความหนาแน่นของประชากร
ภาพแสดงปริมาณ pm2.5
1 นั่นคือประเทศไหนที่
กำลังพัฒนา ประชากรมาก จะมีปัญหาฝุ่นในระดับสูง
2 ในขณะทีป่ระเทศไหน
ที่พัฒนาแล้ว ประชากรมาก จะไม่มีปัญหาฝุ่น หรือมีปัญหาน้อยกว่ามาก แม้จะใช้นำ้มันดีเซลก็ตาม
สิ่งที่ต่างกันระหว่างสองประเทศนี้คือ
การบังคับใช้กฏหมาย และคุณภาพของกฏหมาย
ตัวอย่างเช่นประเทศไทยเรา ในตลอดปีที่ผ่านมาข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ มีการ
ห้ามรถควันดำขับขี่ชั่วคราวเพียงสองคันเท่านั้น
การเปิดโอกาสให้มีการเปิดหน้าดินจำนวนมหาศาล รอบพื้นที่ชุมชน
ภาพแสดงการเปิดหน้าดินรอบถนนหน้าพระลาน
คุณคิดว่าฝุ่นดินที่มี pm2.5 ถึง 10% เหล่านี้ไปไหน
สาเหตุสำคัญของการเก็บฝุ่นในพื้นที่คือ ภูมิประเทศด้วย ประเทศที่เป็นเกาะจะสามารถปล่อยฝุ่นลอยไปในทะเล
และไม่รับฝุ่นเข้ามาในทางกลับกันประเทศที่เป็นผืนดินต่อเนื่องกัน เราสามารถส่งต่อฝุ่นตามทิศทางลมด้วย
แลวคิดว่า ฝุ่นจากสระบุรีไปไหน
คำตอบคือ กรุงเทพ วิ่งจากสระบุรี แวะพักอยุธยา แล้วมาเที่ยวปอดคนกรุงเทพก่อนลงทะเล และเดินทางไปหลายพันกิโล
เหมือนโชคร้าย กทม นอกจากจะเป็นทางออกของน้ำเหนือแล้ว ยังเป็นทางออกของลมด้วย
กรุงเทพรับลมจากปริมณมลฑลรอบๆทั้งหมด ก่อนปล่อยลมลงสุ่อ่าวไทย
ในขณะที่ ระยอง จันท ตราด ได้รับมลพิษที่พัดมาจาก ปอยเปต และเสียมราฐด้วย
เชียงใหม่เราเองก็ส่งต่อไปยัง พม่า จะเป็นอย่างนี้จนทิศทางเปลี่ยนในช่วงเดือน พค
สิ่งที่เราทำต่างกระทบกันไม่จบไม่สิ้น
มลพิษไม่แบ่งเขตแดน ไม่แบ่งภูมิภาค สิ่งทีเ่กิดขึ้นที่โรงงานรอบๆกรุงเทพ ล้วนผ่านปอดคนกรุงเทพทุกคนไม่เว้นกัน
แล้วเราจะแก้ได้ยังไง?
[1]
https://docksci.com/pm-emissions-from-light-duty-gasoline-vehicles-in-beijing-china_5ade5101d64ab204788b9488.html
[2]https://www.airvisual.com/earth
[3]http://infofile.pcd.go.th/air/PM2.5.pdf?CFID=1996536&CFTOKEN=22269896
pm 2.5 จะไม่สามารถแก้ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
มีการทดลองใน ปักกิ่งพบว่า รถเบนซิล ปล่อย pm 2.5 มากกว่ารถยนต์ดีเซล
นั่นคือ ทุกกิจกรรมของมนุษย์ ล้วนก่อให้เกิด pm 2.5 ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะการเปิดหน้าดิน ถางพื้นที่ ขุดดิน ก่อสร้าง ขับขี่ยานยนต์
เรียกว่าได้ว่าทุกกิจการพัฒนาของสังคมเลยทีเดียว
เพียงแต่ในแต่ละประเทศนั้นต่างกัน
เช่น ประเทศไทยมีรายงานจากทางการว่า รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้อากาศสกปรก?
ในขณะที่ประเทศทางEU นั้นการใช้น้ำมันดีเซลครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั้งประเทศนั้นไม่ได้ทำให้เกิดปัญหานี้
ในประเทศจีนซึ่งใช้น้ำมันเบนซิลทั้งประเทศนั้นก็มีปัญหา pm 2.5เช่นกัน
แล้วอะไรกันแน่ที่จะพอคาดการ์ณปัญหาที่มาของฝุ่นได้
ตัวแปรที่น่าสนใจ สองตัวแปรหลัก หนึ่งตัวแปรรอง ที่ทำให้พอคาดเดาปัญหาฝุ่นได้ คือ
ความหนาแน่นประชากร ระดับการพัฒนาของประเทศ (ไม่ใช่น้ำมันดีเซล)
และ ภูมิประเทศ
ภาพแสดงความหนาแน่นของประชากร
ภาพแสดงปริมาณ pm2.5
1 นั่นคือประเทศไหนที่กำลังพัฒนา ประชากรมาก จะมีปัญหาฝุ่นในระดับสูง
2 ในขณะทีป่ระเทศไหนที่พัฒนาแล้ว ประชากรมาก จะไม่มีปัญหาฝุ่น หรือมีปัญหาน้อยกว่ามาก แม้จะใช้นำ้มันดีเซลก็ตาม
สิ่งที่ต่างกันระหว่างสองประเทศนี้คือ การบังคับใช้กฏหมาย และคุณภาพของกฏหมาย
ตัวอย่างเช่นประเทศไทยเรา ในตลอดปีที่ผ่านมาข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ มีการห้ามรถควันดำขับขี่ชั่วคราวเพียงสองคันเท่านั้น
การเปิดโอกาสให้มีการเปิดหน้าดินจำนวนมหาศาล รอบพื้นที่ชุมชน
ภาพแสดงการเปิดหน้าดินรอบถนนหน้าพระลาน
คุณคิดว่าฝุ่นดินที่มี pm2.5 ถึง 10% เหล่านี้ไปไหน
สาเหตุสำคัญของการเก็บฝุ่นในพื้นที่คือ ภูมิประเทศด้วย ประเทศที่เป็นเกาะจะสามารถปล่อยฝุ่นลอยไปในทะเล
และไม่รับฝุ่นเข้ามาในทางกลับกันประเทศที่เป็นผืนดินต่อเนื่องกัน เราสามารถส่งต่อฝุ่นตามทิศทางลมด้วย
แลวคิดว่า ฝุ่นจากสระบุรีไปไหน
คำตอบคือ กรุงเทพ วิ่งจากสระบุรี แวะพักอยุธยา แล้วมาเที่ยวปอดคนกรุงเทพก่อนลงทะเล และเดินทางไปหลายพันกิโล
เหมือนโชคร้าย กทม นอกจากจะเป็นทางออกของน้ำเหนือแล้ว ยังเป็นทางออกของลมด้วย
กรุงเทพรับลมจากปริมณมลฑลรอบๆทั้งหมด ก่อนปล่อยลมลงสุ่อ่าวไทย
ในขณะที่ ระยอง จันท ตราด ได้รับมลพิษที่พัดมาจาก ปอยเปต และเสียมราฐด้วย
เชียงใหม่เราเองก็ส่งต่อไปยัง พม่า จะเป็นอย่างนี้จนทิศทางเปลี่ยนในช่วงเดือน พค
สิ่งที่เราทำต่างกระทบกันไม่จบไม่สิ้น
มลพิษไม่แบ่งเขตแดน ไม่แบ่งภูมิภาค สิ่งทีเ่กิดขึ้นที่โรงงานรอบๆกรุงเทพ ล้วนผ่านปอดคนกรุงเทพทุกคนไม่เว้นกัน
แล้วเราจะแก้ได้ยังไง?
[1] https://docksci.com/pm-emissions-from-light-duty-gasoline-vehicles-in-beijing-china_5ade5101d64ab204788b9488.html
[2]https://www.airvisual.com/earth
[3]http://infofile.pcd.go.th/air/PM2.5.pdf?CFID=1996536&CFTOKEN=22269896