ตอนที่ 1 : 15 วันเที่ยว Kanto 2018 : https://ppantip.com/topic/38483119

เที่ยวภูมิภาคคันโต (Kanto) 15 วัน (วันที่ 27 เมษายน 61 บินเที่ยงคืน ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 61)
(100 เยน = 30 บาท ราคา ณ เดือน เม.ย.-พ.ค. 2561)  

ในที่สุดก็ได้มาเที่ยวตลาดปลาสึกิจิแล้วค่า

หาข้อมูลมาอย่างแน่น แผนที่ตลาดปลาก็มี แต่พอเดินไปจริงๆ งง เราเลยเดินเข้าตรอก ซอกซอยแบบมั่วๆ เพราะคิดว่ามันคงทะลุถึงกันได้หมดละ ผ่านไปซอยแรก (ใกล้ร้านข้าวหน้าไก่ ซึ่งจะรีวิวร้านนี้ตอนต่อๆไป) จะเจอร้านขายของทะเลสด แบบสั่งปิ้งย่างกินได้เลย

แต่ละอย่างน่าทานมาก

เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอร้านขายแบบเสียบไม้ย่าง ในราคาไม้ละ 1,000 เยน (300 บาท) ราคา ณ เดือน พ.ค. 61 (100 เยน = 30 บาท)

เดินมาเจอร้านนี้ ปูเยอะมาก น่ากินทุกชนิด แต่ราคาแอบแรง

อย่างกล่องนี้ 3,500 เยน = 1,050 บาท ได้แค่ขาเดียว

ความฝันว่าจะมากินปูทาระบะแบบนี้ เก็บโครงการไปก่อนค่ะ แพงเกิน

ไม่รู้จานนี้ใช่ปลาหมึกหิ่งห้อย (โฮตารุอิกะ) หรือปล่า ตัวอ้วนมาก

ชิมไป 5 ตัวได้ หวาน กรอบ สด ไม่คาว อยากซื้อกลับไปกินโรงแรม เห็นราคากล่องละ 600 บาท (2,000 เยน) มีไม่ถึง 20 ตัว เอิ่ม....จบเลิกซื้อ

มากินหอยนางรมดีกว่า อยากชิม ติดใจเลย ไม่ขม หวาน หอม เราเลือกที่ราคาตัวละ 500-600 เยน จัดกันไปคนละ 2 ตัว

เราเลือกไปลองชิมไข่หอยเม่นที่ร้านนี้ เพราะเห็นเขาแกะขายสดๆ

มีหลายไซส์ หลายสีให้เลือก

เลือกตัวละ 1,000 เยน (300 บาท) มาชิม หอมกลิ่นทะเล ไม่ขม ไม่คาว แต่...เหมือนมีกลิ่นสาปๆ ขึ้นจมูก (อาจเป็นกลิ่นเฉพาะของหอยเม่น) สรุปกันว่ากินได้แต่ไม่ใช่แนวที่โปรดปราน

เดินไปเจอครีบปลาปักเป้าตากแห้ง ห่อละ 500 เยน

ปลาฉลามก็มี

ทะเลรวมย่างฝาละ 1,000 เยน (300 บาท) อร่อย แต่แพงไป

หน้าร้านทะเลย่างก็จะมีลุงขายปูนึ่ง ขาละ 1,000 เยน (300 บาท) แต่เราก็ไม่ได้กิน

มาแวะชิมไข่หวานร้านนี้ คนต่อคิวยาวมาก

ไม้ละ 100 เยน

กินไปมันก็คือไข่หวานละ ไม่ได้ปลื้มมาก แต่มาแล้วมันต้องชิมปะ

เดินไปเจอร้านขายปลาทูน่าแบบแล่สดๆ

โอ้ววววว .... ดูลายบนเนื้อปลาสิ สวยงาม

สั่งกินกันสดๆ หน้าร้าน

เราเลือกซูชิส่วนของโอโทโร่ เนื่อส่วนที่ติดมันเยอะและแพงที่สุดของปลาทูน่ามาชิมเลยจ้า อีกชามเป็นข้าวหน้าโอโทโร่+อากามิ (เนื้อแดงของปลาทูน่าแบบไร้ไขมัน)

ซูชิ 3 คำ ราคา 1,500 เยน (450 บาท)

ถ้วยนี้ 1,800 เยน (540 บาท) เวลาจะกินอะไรที่ญี่ปุ่นไม่อยากจะคิดเป็นเงินไทย น้ำตาจะไหลโดยไม่รู้ตัว ฮ่าๆๆ

ที่เดินไปกินไปเมื่อกี้ยังไม่อิ่ม เลยแวะเข้าร้านนี้ต่อ เพราะอยากลองชิม

ชื่อร้าน ITADORI

รูปที่โชว์หน้าร้านแต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้น

จัดข้าวหน้าอาหารทะเลสดมา

ของคุณแฟนก็เช่นกัน แต่เป็นแบบย่างสุก รสชาติอาหารใช้ได้ ไม่ถึงกับอร่อยว้าว

หมดไป 7,084 เยน (2,125 บาท)

ขากลับเดินไปเจอขนมร้านนี้ เลยแวะซื้อกลับไปกินที่โรงแรม กินทุกอย่างที่เจอว่างั้น

สตอเบอร์รี่อมเปรี้ยว อมหวาน ตัวโมจิเหนียว นุ่ม ครีมไส้ข้างในก็อร่อย กินลูกเดียวอิ่มเลย มีหลายไส้ให้เลือก

วันนี้เที่ยวแบบชิวๆ เช้าไปตลาดสึกิจิเสร็จก็กลับโรงแรมมาซักผ้า ปั่นผ้า นอนคร๊อก ตกเย็นก็ไปถ่ายรูปที่ 5 แยกชิบุยะ และแวะกินมิโดริ ซูซิอีก (ทริปนี้มาเพื่อกิน และกินจริงๆ)

ร้านมิโดริ ซูชิ ตั้งอยู่ชั้น 4 ของห้าง Mark City

วันนี้เราเลือกที่นั่งแบบเคาเตอร์ รอคิวนานมาก..กกก รอตั้งแต่ 18.00 น. กว่าจะได้เข้าไปกิน 21.00 น. หิวตาลาย

จัดสลัดมันปูจานใหญ่ ขนาดจริงก็ไม่ได้ใหญ่มาก

น้ำซุปผสมเนื้อปลามาด้วย

ไม่รู้หัวปลาอะไร อร่อยดี

Set ปลาทูน่า (เราไม่ชอบ 6 ชิ้นที่มีต้นหอมโรยเลย มันเป็นเนื้อปลาทูน่าบด ) ไม่อร่อย จืด เย็น นอกนั้นอร่อยมากจ้า โอโทโร่นี้อย่างฟิน

Set สารพัดหอย อร่อยมาก เราชอบ หอยแต่ละอย่างกรุบกรอบ หวาน สด ไม่คาว

ติดใจหอยชนิดนี้ ไม่รู้ว่าใช่หอยแครงรึเปล่า รสชาติอร่อย หวาน กรอบ เคี้ยวแล้วยังกับกระดูกอ่อน

ยังไม่พอ ยังตะกละสั่งจานนี้มาอีก ข้าวหน้าทะเลรวมแบบสด คือสรุปกินกันไม่หมดชามใหญ่มาก กินแต่กับ ข้าวเหลือทิ้ง โคตรเกรงใจเซฟ

เซฟถามว่าพวกเราไปหิวโหยจากไหนมา ฮ่าๆๆ ค่าเสียหายมื้อนี้ 9,396 เยน (ประมาณ 2,649 บาท) โอ๊ยถูกและคุ้มมาก กินที่ไทยจะหาราคาแบบนี้ได้ที่ไหน