สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ  กระทู้ที่   9 ของผม ครับ  “27”    ครั้งนี้ผมใช้ชื่อกระทู้ว่า  “ Sleep  on it " หนีความวุ่นวายไปหาที่นอนพักสมอง  ณ สายใต้  (ประจวบ   ชุมพร   ระนอง 2019) ”     ปีใหม่ที่ผ่านมาทุกท่านอาจจะขึ้นเหนือไปหาที่หนาวๆกัน  แต่สำหรับผม ปีนี้ผมขอลงใต้หาความสงบครับ    เพราะเมื่อเราโตขึ้น และสภาวะความเพลียที่สะสมมาตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี  ใจและสมองจึงต้องหาที่ๆสงบ  ไม่วุ่นวาย และเป็นที่ๆสามารถใช้ความคิดสำหรับ Plan ปีหน้า    และนี่คือ 7 สถานที่ๆ ผมว่ามันสงบ ไร้ความวุ่นวาย และนอนพักผ่อนได้เต็มที่  ไม่แย่งกันกิน ไม่แย่งกันเที่ยว  และ เป็นสถานที่ๆไม่ไกลจากเมืองหลวงของเรามาก เดินทาง 3-5 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

ฝากกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วยครับ
ขาค้อ ภูทับเบิก https://ppantip.com/topic/37059474
ดอยเสมอดาว - อ. ปัว – เมืองน่าน https://ppantip.com/topic/37202042
โตเกียว ญี่ปุ่น ตามล่าฟูจิซัง https://ppantip.com/topic/37386383
เขื่อเชี่ยวหลาน https://ppantip.com/topic/37453215
Street food ครั้งแรก กับความอร่อย 100 ปี ที่ ตลาดบ้านใหม่ 2018 https://ppantip.com/topic/37515467
Squirrel house บ้านกระรอกในป่าคอนกรีต https://ppantip.com/topic/37855022
Hatsukoi " รักรูปถ่ายที่ฉันไม่ได้ตั้งใจถ่าย "   https://ppantip.com/topic/38033898
ปล่อยใจที่ ภูกระดึง 2018 ( 3วัน 2 คืน)   https://ppantip.com/topic/38201429

9 สถานที่สงบพักสมองและ ของกิน  ( เพชรบุรี  ประจวบ    ชุมพร    ระนอง)
1.    Swiss sheep farm  อ.ชะอำ  จ. เพชรบุรี
2.    บึงบัว  อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด  อ. กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
3.    อ่าวมะนาว  จ.ประจวบคีรีขันธ์
4.    บ่อทองหลาง  อ.บางสะพาน    จ.ประจวบคีรีขันธ์
5.     ซาลาเปาทับหลี  , บ้านใหม่ครกลาว    อ.กระบุรี   จ.ระนอง
6.    แหลมแท่น   อ.ปะทิว  จ.ชุมพร
7.    สะพานไม้เกาะไข่   อ.ปะทิว    จ.ชุมพร
8.    อ่าวทุ่งซาง  อ.ปะทิว  จ.ชุมพร
9.    หลาดเล   อ. มาบอํามฤต   จ.ชุมพร

สถานที่ที่ผมกล่าวมานี้ ในกระทู้จะพาคุณชมสถานที่และแนะนำนะครับ   ไม่ได้บอก รายละเอียดเกี่ยวกับที่พัก เพราะครั้งนี้ ผมเน้นค่ำไหนนอนนั่น และส่วนมากจะเป็นบ้านพักส่วนตัว ครับ   จึงไม่ขอเปิดเผย ฉะนั้นแนะนำให้คุณศึกษาการเดินทางเส้นถนน และที่พักให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางครับ   ทริปนี้ผมกับเพื่อนสาวของผมออกเดินทางกัน 2 คนครับ ทริปนี้เริ่มออกเดินทางเมื่อวันที่   26 /12/18  - 30/12/18   โดยผมจะเริ่มเดินทางจาก  จ. เพชรบุรี >> จ.ประจวบคีรีขันธ์  >> จ.ระนอง และจึงวกกลับมา   จ.ชุมพรครับ   เป็นทริปที่อิ่มเอมใจและไม่แย่งกินเที่ยวกับใคร ได้ความคิดใหม่ๆ และความสงบมาเต็มๆ  มาครับ มาดูสถานที่ที่ผมคิดว่าเป็นช้างเผือก ในป่าใหญ่กันดีกว่า  










1.  Swiss sheep farm  อ.ชะอำ  จ. เพชรบุรี
เป็นสถานที่แรกที่เราแวะครับ ตั้งใจจะไปบึงบัวก่อนแต่ด้วยความ ที่อยู่ๆก็อยากให้อาหารสัตว์ เลยแวะ เมื่อแวะถึงก็มีรอยยิ้ม เพราะ น้องสัตว์ใน Swiss sheep farm น่ารักมาก และอีกอย่างนึงคือ ไม่ต้องไปแย่งให้อาหารกับใคร ไม่ต้องแย่งจุดถ่ายรูปกับใคร  ฟินไปเลยครับ   ที่นี่มีบริการให้อาหาร ม้า แกะ กระต่าย  และมีจุดถ่ายรูปอีกหลายมุมให้คุณได้ถ่าย เพราะที่นี่มีบรรยากาศ  คล้ายๆกับประเทศ สวิตเซอร์แลนด์  
และมีหลายๆจุดที่ตกแต่งเป็น สไตล์ยูโรคันทรี

การเดินทาง   :  ถ้าหาก มารถส่วนตัว  ให้คุณมุ่งหน้าไปใน เส้นเพชรเกษมมุ่งลงใต้ ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวเข้าชะอำ-หัวหิน จะเห็นชิงช้า Santorini อยู่ขวามือ เลยไปอีกหน่อย ก็จะเจอ Swiss Sheep Farm ซึ่งอยู่ติดกับปั้ม ปปท. ครับ

แต่ถ้าหากนั่งรถโดยสาร สามารถโดยทัวร์หรือรถตู้ที่จะเข้าตัวเมืองหัวหิน ชะอำ หรือเมืองเพชรบุรี แล้วลงระหว่างทางบอกคนขับลง Swiss Sheep Farm

ค่าเข้าชม  : ราคาปกติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท   แต่ช่วงนี้มีโปรโมชั่น ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
และด้านในจะมี ค่าให้อาหารสัตว์ นม 30 บาท   แครอทและขนมปังจะอยู่ที่ 20 บาทครับ

ช่วงเวลาเข้าชม : วันจันทร์ – ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30 – 18.00 น.























2. บึงบัว  อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด  อ. กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

บึงบัว เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด  เป็นสถานที่ๆมีภูมิศาสตร์หลากหลาย  และบึงบัวที่เราเห็นจะเป็นลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ที่มีบัวหลากหลายพันธ์  ให้เราได้เชยชม   แต่บัวจะขึ้นน้อยกว่าต้นกก  ธูปฤาษี ซึ่งมีจำนวนมากกว่า เนื่องจาก โดนน้ำเค็มรุกพื้นที่ จึงทำให้ต้นบัวทยอยตายไป และเป็นพวกต้นกก  ธูปฤาษี มีจำนวนเยอะกว่าเพราะทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่า   แต่โดยส่วนตัวผมชอบมากครับ  สงบ อากาศดี มาก   มองไปทางไหนก็เจอสีเขียว  รักที่นี่มาก ถ่ายรูปสวยมากครับ   มีศาลาให้เราได้นอนพักผ่อน อ่านหนังสือ ชิวๆ ได้สบาย   ที่นี่ยังมีบริการให้อาหารปลา และ บริการนั่งเรือชมบัวด้วยครับ   และยังเป็นสถานที่ๆใครหลายๆคนมาถ่ายรูปนกน้ำ สายพันธ์ ต่างๆ   เพราะจะมีบางเดือนจะมีนก อพยพมาอาศัยอยู่ที่นี่ครับ   เพราะเหตุนี้ผมจึงยกให้บึงบัวเป็นสถานที่ๆสงบครับ  สำหรับคนที่ไปแล้วเจอทางอุทยานปิดปรับปรุง ตอนนี้ก็เปิดให้บริการแล้วนะครับ

การเดินทาง   :  จากกรุงเทพฯ วิ่งไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี จนถึงอำเภอปราณบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายที่บริเวณสี่แยกปราณบุรีไปตามถนนสายปากน้ำปราณบุรี ประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วจึงเลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. อีก 31 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

อีกเส้นทางหนึ่ง จากกรุงเทพฯ วิ่งไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 286.5 ใกล้บ้านสำโรง ก่อนถึงอำเภอกุยบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีก 14 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ขอบคุณข้อมูลจาก   https://travel.mthai.com/blog/16365.html

ค่าเข้าชม  :  เป็นตั๋ว ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท  เด็กคนละ 20 บาท  
สำหรับชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท  และเด็ก 100 บาท   และค่านำรถเข้าคันละ 30 บาทครับ  มีอาหารปลาให้บริการชุดละ 20 บาท     มีบริการร่องเรือชมบึงบัวด้วยครับ

ช่วงเวลาเข้าชม :   เปิด 7.00 – 18.00 น. ทุกวัน  (แนะนำให้ไปช่วงเช้า กับช่วงเย็นครับ แสงจะสวยมากครับ เหมาะแก่การถ่ายรูป และได้เห็น พวกนกน้ำ ออกหากินด้วยครับ)








3.  อ่าวมะนาว  จ.ประจวบคีรีขันธ์
อ่าวมะนาว เป็นชายหาดยอดนิยมของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในเขตทหาร กองบิน 5 (ชื่อเดิมกองบิน 53) กองทัพอากาศ เป็นหาดสะอาด ธรรมชาติสวยงาม บรรยากาศสงบ เหมาะแก่การเล่นน้ำ ตรงข้ามกับหาดเป็นเขาล้อมหมวก ยามน้ำลดจะปรากฏสันทรายทอดยาวให้เดินไปเที่ยวชมได้  ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้น ไฮไลท์ของที่นี่คือ…. การกางเตียงผ้าเต้นนอน  เพราะชายหาดของที่นี่มีลมพัดตลอด ไม่ร้อน นอนสบาย  ถ้าคุณมาคุณต้องนอน เป็นการนอนกลางวันที่ฟินมากๆ  อีกที่นึงเลยครับ  และบริเวณชายหาดก็จะมีร้านอาหารรอการมาของคุณอีกหลายร้าน ส่วนร้านประจำของผมก็คือ ร้านค้าของ น้องทหารอากาศ ที่ตั้งอยู่เกือบสุดสายของหาดครับ   ซึ่งอาหารที่นี่จะเน้นเป็นอาหารทะเล  (มาทะเลก็ต้องอาหารทะเลซิ)  ข้าวผัดทะเล และปลากะพงทอดน้ำปลาที่นี่ถือว่าเด็ดมากครับ  เป็นอีกสถานที่ๆคนน้อยมากๆ  สงบมากๆ  ไม่มีทลพิษทางเสียงและอากาศ ครับ

การเดินทาง   :  รถยนต์ :    จากเทศบาลเมืองประจวบฯ ไปทางทิศใต้ตามถนนสละชีพ ถึงสามแยกเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3167 ผ่านสนามบินกองบิน 5 ถึงอ่าวมะนาว ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หรือ จากอ่าวประจวบใช้ถนนเลียบหาด
รถโดยสาร : นั่งรถตู้ที่สายใต้ใหม่ ค่ารถ 200 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 15นาที ลงรถที่ท่ารถประจวบคีรีขันธ์ แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างมายังอ่าวมะนาว ประมาณ 60 บาท

ช่วงเวลาเข้าชม :  ประตูภายในกอง บก 5 เปิดระหว่าง 05:00 – 23:00 ตอนเข้ามาคุณจะเจอด่านตรวจของ คุณทหารครับ
ค่าเข้าชม  : ไม่มีค่าเข้าครับเป็นที่ของ ทหารกองบิน 5 ครับ



ผ่านไป 3 สถานที่ที่เราเช็คอินกันไปแล้วเป้าหมายของเรา กับสถานที่ต่อไปคือ   อ่าวบ่อทองหลาง  อ.บางสะพาน    จ.ประจวบคีรีขันธ์   ซึ่งคืนนี้เราจะต้องพักนอนกันที่ อ.บางสะพาน  จ. ประจวบคีรีขันธ์ กันครับ เรามาชมความเป็นอยู่ของชาวบ้าน อำเภอ บางสะพานกันดีกว่าครับ ว่าที่มีอะไรเด็ด และอร่อย พอๆกับความฟินของทะเลกันบ้าง  


ตื่นเช้ามาคุณเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าถิ่นก็พาผมไปดื่มด่ำกับความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ พาไปตลาดบ้าง พาไปนั่งชิลๆร้านอาหารบ้าง ซึ่งผมก็ได้คัดกรองมาแล้วว่าจะพาทุกคนมา ริ้มรสกับมนต์เสน่ห์กับตำนานที่มีชีวิตของที่นี่กัน  ร้านแรกใกล้ๆตลาดบางสะพานมีร้านนึงที่ชาวบ้านรู้จักกันเป็นอย่างดี  นั่นก็คือ  “ร้านป้าแมวไส้ผัก”    ผมหันไปดูป้ายร้านผมก็งงว่าอะไรคือไส้ผัก   ที่จริงแล้วมันก็คือข้าวเกรียบปากหม้อไส้ผักนั่นเอง แต่คนที่ในพื้นที่จะเรียกกันว่า “ ไส้ผัก ”