อยากมาแชร์ประสบการณ์และความประทับใจในการเข้าไปรับบริการจาก ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ
เรื่องของเรื่องเกิดจาก เพื่อนร่วมงานของผมได้สั่งอาหารเสริมจากอเมริการจำนวน 6 กระปุกและได้รับใบจากทางไปรษณีย์ให้ไปรับสินค้าและชำระค่าภาษีที่ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ ...... แต่เค้าไม่ได้รับเอกสารฉบับนั้นจากไปรษณีย์ เพราะ เจ้าหน้าที่ที่รับจดหมายจำชื่อเค้าผิด ทำให้คลาดกันในที่สุด
ทางผมก็อยากจะประหยัดเวลา อยากจะไปรับของเลยจากทางศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ เลยโทรไปถามทาง Call Center ได้ความว่า
"จำเป็นต้องใช้เอกสารตัวจริงในการนำสินค้าออกมา" ผมจึงเดินทางไปที่ไปรษณีย์เจ้าของเรื่อง เพื่อไปติดต่อรับเอกสาร ซึ่งทางพี่บุรุษไปรษณีย์ก็ใจดีมาก เตรียมเอกสารไว้ให้เลย ไม่ต้องเข้าคิว
หลังจากได้เอกสารแล้วผมก็รีบเดินทางไป ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ ให้ทัน 16:30 แต่ด้วยความเป็นเมืองกรุง มันจะมาพร้อมรถติดเสมออออ
ทำให้ผมเดินทางไปถึงเวลา 16:28 และได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ เพราะ เสียเวลากับการไปรับเอกสารที่ไปรษณีย์ พี่ๆเค้าก็ใจดีและบริการด้วยใจ เร่งทำเรื่องขอทำเบิกให้ ----> ซึ่งตรงนี้ผมประทับใจมาก
แต่!!!!!!!!!!!!!!!!! พี่เจ้าหน้าที่ทิ้งท้ายว่า จริงๆมาขอปริ้นใหม่ที่นี่ได้เลย ไม่ต้องไปที่ไปรษณีย์ !!!! ผ่ามๆๆๆ!!!!!!! งงไปเลย และพี่เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า "ที่ไปรษณีย์ มันเป็นตัวสำเนา" (คิดในใจว่า ทำไม call center ไม่บอกซะหน่อยน้อออ เราก็ดั้นด้นไปเอาถึงที่)
***สรุปคือ ถ้าไม่มีเอกสารจากทางไปรษณีย์ (เป็นตัว copy) สามารถมาติดต่อปริ้นของจริงได้ที่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ
เนื่องจากเป็นสินค้าประเภทของกินได้ จึงต้องให้ทาง อ.ย. เป็นผู้ตรวจ และ โชคดีมากที่ซื้อแค่ 6 กระปุก ทำให้ผ่านได้เลย
(ถ้ามากกว่า 6 กระปุกจะเป็นเชิงพาณิชย์ ต้องเสียภาษีนำเข้า)
หลังจากนั้นก็มาจ่ายเงินค่าภาษี และ ค่านำสินค้าเข้า โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้มีดังต่อไปนี้
1. บัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต ที่สามารถยืนยันตัวตนของเราได้ (หากมารับด้วยตัวเอง กระบวนการจะไวมาก)
2. เอกสารตัวสำเนารับสินค้า (ถ้าไม่มีสามารถติดต่อขอปริ้นใหม่ได้)
3. เงินชำระ ค่าภาษี และ ค่านำเข้า เท่าที่ผมเคยเจอมาอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนของราคาสินค้านั้นๆ
4. หากไม่มารับสินค้าภายใน 7 วัน จะมีค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้า
แชร์ประสบการณ์ รับสินค้า ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ
เรื่องของเรื่องเกิดจาก เพื่อนร่วมงานของผมได้สั่งอาหารเสริมจากอเมริการจำนวน 6 กระปุกและได้รับใบจากทางไปรษณีย์ให้ไปรับสินค้าและชำระค่าภาษีที่ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ ...... แต่เค้าไม่ได้รับเอกสารฉบับนั้นจากไปรษณีย์ เพราะ เจ้าหน้าที่ที่รับจดหมายจำชื่อเค้าผิด ทำให้คลาดกันในที่สุด
ทางผมก็อยากจะประหยัดเวลา อยากจะไปรับของเลยจากทางศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ เลยโทรไปถามทาง Call Center ได้ความว่า
"จำเป็นต้องใช้เอกสารตัวจริงในการนำสินค้าออกมา" ผมจึงเดินทางไปที่ไปรษณีย์เจ้าของเรื่อง เพื่อไปติดต่อรับเอกสาร ซึ่งทางพี่บุรุษไปรษณีย์ก็ใจดีมาก เตรียมเอกสารไว้ให้เลย ไม่ต้องเข้าคิว
หลังจากได้เอกสารแล้วผมก็รีบเดินทางไป ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ ให้ทัน 16:30 แต่ด้วยความเป็นเมืองกรุง มันจะมาพร้อมรถติดเสมออออ
ทำให้ผมเดินทางไปถึงเวลา 16:28 และได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือ เพราะ เสียเวลากับการไปรับเอกสารที่ไปรษณีย์ พี่ๆเค้าก็ใจดีและบริการด้วยใจ เร่งทำเรื่องขอทำเบิกให้ ----> ซึ่งตรงนี้ผมประทับใจมาก
แต่!!!!!!!!!!!!!!!!! พี่เจ้าหน้าที่ทิ้งท้ายว่า จริงๆมาขอปริ้นใหม่ที่นี่ได้เลย ไม่ต้องไปที่ไปรษณีย์ !!!! ผ่ามๆๆๆ!!!!!!! งงไปเลย และพี่เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า "ที่ไปรษณีย์ มันเป็นตัวสำเนา" (คิดในใจว่า ทำไม call center ไม่บอกซะหน่อยน้อออ เราก็ดั้นด้นไปเอาถึงที่)
***สรุปคือ ถ้าไม่มีเอกสารจากทางไปรษณีย์ (เป็นตัว copy) สามารถมาติดต่อปริ้นของจริงได้ที่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ
เนื่องจากเป็นสินค้าประเภทของกินได้ จึงต้องให้ทาง อ.ย. เป็นผู้ตรวจ และ โชคดีมากที่ซื้อแค่ 6 กระปุก ทำให้ผ่านได้เลย
(ถ้ามากกว่า 6 กระปุกจะเป็นเชิงพาณิชย์ ต้องเสียภาษีนำเข้า)
หลังจากนั้นก็มาจ่ายเงินค่าภาษี และ ค่านำสินค้าเข้า โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้มีดังต่อไปนี้
1. บัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต ที่สามารถยืนยันตัวตนของเราได้ (หากมารับด้วยตัวเอง กระบวนการจะไวมาก)
2. เอกสารตัวสำเนารับสินค้า (ถ้าไม่มีสามารถติดต่อขอปริ้นใหม่ได้)
3. เงินชำระ ค่าภาษี และ ค่านำเข้า เท่าที่ผมเคยเจอมาอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนของราคาสินค้านั้นๆ
4. หากไม่มารับสินค้าภายใน 7 วัน จะมีค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้า