ขายออกแล้ว! “การบินไทย” จ่อจรดปากกาลงนาม MOU ซื้อขายเครื่องบินเก่า 8 ลำภายในเดือนนี้
รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้บรรลุข้อตกลงในการจำหน่ายเครื่องบิน แอร์บัส A340-500 จำนวน 2 ลำ และ A340-600 จำนวน 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 8 ลำ กับผู้ซื้อรายหนึ่งในเอเชียแล้ว ล่าสุดการบินไทยอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลง (MOU) การซื้อขายและคาดว่าจะลงนาม MOU ได้ภายในเดือนนี้ โดย MOU จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับราคา การส่งมอบ รูปแบบการชำระเงิน นอกจากนี้ MOU กำหนดให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินมัดจำ 70% ของมูลค่าสินค้าในวันที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามร่วมกัน เพื่อเป็นหลักประกันว่าการซื้อขายจะเกิดขึ้นจริง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการลงนามในสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการต่อไป โดยหากผู้ซื้อลงนามใน MOU แล้ว แต่ไม่มาลงนามในสัญญาซื้อขาย การบินไทยก็จะยึดมัดจำทันที
สำหรับเครื่องบินที่มีการซื้อขายทั้ง 8 ลำนั้น ได้หยุดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2555 หรือประมาณ 6 ปี ทำให้ไม่สามารถทำการบินได้ทันที ซึ่งตามข้อตกลงเบื้องต้นผู้ซื้อจะต้องรับภาระในการซ่อมบำรุงเครื่องบินให้ใช้งานได้เอง โดยการบินไทยจะทยอยส่งมอบเครื่องภายหลังซ่อมบำรุงเสร็จและผู้ซื้อจะต้องส่งนักบินมาขับเครื่องกลับไปยังปลายทางด้วย ส่วนราคาขายเครื่องบินทั้ง 8 ลำ ก็เป็นไปตามกรอบราคาที่คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยอนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม โดยภายหลังการทำสัญญาซื้อขายครั้งนี้แล้ว การบินไทยยังเหลือเครื่องบินแอร์บัส A340-500 ที่รอการจำหน่ายอีก 1 ลำซึ่งจะต้องเจรจาเพื่อจำหน่ายต่อไป
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า การขายเครื่องบิน A340-500 และ A340-600 ของการบินไทยครั้งนี้เป็นไปตามมติของบอร์ดการบินไทยเมื่อปี 2560 ที่ต้องการเร่งลดค่าใช้จ่ายขององค์กร เพราะปัจจุบันการบินไทยไม่ได้นำเครื่องดังกล่าวมาทำการบิน โดยจอดทิ้งไว้เฉยๆ ที่สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินดอนเมือง เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงมาก เพราะมี 4 เครื่องยนต์ ทำให้บริษัทต้องรับภาระค่าลานจอดเครื่องบินและค่าเสื่อมราคาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาการบินไทยได้พยายามเสนอขายเครื่องบินดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
https://www.thebangkokinsight.com/88294/
การบินไทยขายเครื่องบิน A340 8 ลำ
รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้บรรลุข้อตกลงในการจำหน่ายเครื่องบิน แอร์บัส A340-500 จำนวน 2 ลำ และ A340-600 จำนวน 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 8 ลำ กับผู้ซื้อรายหนึ่งในเอเชียแล้ว ล่าสุดการบินไทยอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลง (MOU) การซื้อขายและคาดว่าจะลงนาม MOU ได้ภายในเดือนนี้ โดย MOU จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับราคา การส่งมอบ รูปแบบการชำระเงิน นอกจากนี้ MOU กำหนดให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินมัดจำ 70% ของมูลค่าสินค้าในวันที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามร่วมกัน เพื่อเป็นหลักประกันว่าการซื้อขายจะเกิดขึ้นจริง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการลงนามในสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการต่อไป โดยหากผู้ซื้อลงนามใน MOU แล้ว แต่ไม่มาลงนามในสัญญาซื้อขาย การบินไทยก็จะยึดมัดจำทันที
สำหรับเครื่องบินที่มีการซื้อขายทั้ง 8 ลำนั้น ได้หยุดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2555 หรือประมาณ 6 ปี ทำให้ไม่สามารถทำการบินได้ทันที ซึ่งตามข้อตกลงเบื้องต้นผู้ซื้อจะต้องรับภาระในการซ่อมบำรุงเครื่องบินให้ใช้งานได้เอง โดยการบินไทยจะทยอยส่งมอบเครื่องภายหลังซ่อมบำรุงเสร็จและผู้ซื้อจะต้องส่งนักบินมาขับเครื่องกลับไปยังปลายทางด้วย ส่วนราคาขายเครื่องบินทั้ง 8 ลำ ก็เป็นไปตามกรอบราคาที่คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยอนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม โดยภายหลังการทำสัญญาซื้อขายครั้งนี้แล้ว การบินไทยยังเหลือเครื่องบินแอร์บัส A340-500 ที่รอการจำหน่ายอีก 1 ลำซึ่งจะต้องเจรจาเพื่อจำหน่ายต่อไป
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า การขายเครื่องบิน A340-500 และ A340-600 ของการบินไทยครั้งนี้เป็นไปตามมติของบอร์ดการบินไทยเมื่อปี 2560 ที่ต้องการเร่งลดค่าใช้จ่ายขององค์กร เพราะปัจจุบันการบินไทยไม่ได้นำเครื่องดังกล่าวมาทำการบิน โดยจอดทิ้งไว้เฉยๆ ที่สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินดอนเมือง เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงมาก เพราะมี 4 เครื่องยนต์ ทำให้บริษัทต้องรับภาระค่าลานจอดเครื่องบินและค่าเสื่อมราคาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาการบินไทยได้พยายามเสนอขายเครื่องบินดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
https://www.thebangkokinsight.com/88294/