วิกฤติซํ้า! บินไทยซื้อแอร์บัส 340 จอดทิ้งอู่ตะเภาเจ๊ง 1.4 หมื่นล้าน
http://www.thansettakij.com/2017/01/25/127034 (ฐานเศรษฐกิจ จิงจกหน้าหอก ห้องราชชอบเอาข่าวมาวาง)
วันที่ 25 ม.ค.60 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สื่อในเครือสปริงกรุ๊ป ระบุว่า “ฉาวกระฉ่อนไปทั่วโลก งามหน้าบรรษัทภิบาลแห่งชาติไทย กรณีถูกแฉสินบนข้ามชาติ 1,300 ล้านบาท ที่ “โรลส์-รอยซ์” จ่ายให้นายหน้าจัดซื้อเครื่องยนต์ให้กับการบินไทย ผงะ! คำฟ้องเอสเอฟโอระบุชัด”
3 สัญญาฟันกำไรมากกว่า 118 ล้านปอนด์ หรือราว 7,000 ล้านบาท
เรื่องฉาวโฉ่ข้ามชาติของ การบินไทยยังไม่ได้จบ แค่เพียงเท่านี้ ยังมีซากเครื่องบิน แอร์บัส เอ 340-500 จำนวน 3 ลำ ที่จอดนิ่งสนิท อยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา ประจานความล้มเหลวและไม่โปร่งใสของการบริหารจัดการในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะปลดระวาง โดยกองทัพอากาศ ช่วยซื้อไปแล้ว 1 ลำ จากทั้งหมด 4 ลำ แต่อีก 3 ลำนั้น ยังไม่มีท่าทีว่าจะขายได้
ต้นเหตุมาจากการวางแผนที่ผิดพลาดซื้อเครื่องบินพิสัยไกล และใช้เชื้อเพลิงมาก เพื่อมาให้บริการในเส้นทางบินตรง (นอนสต็อป) กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก จะด้วยตั้งใจหรือรู้อยู่แก่ใจ แต่หลังจากเปิดบริการได้เพียง 3 ปี ตัวเลขการขาดทุนเส้นทางนี้ก็ทะลุไปถึง 7,000 ล้านบาท กระทั่งบอร์ดต้องยกเลิก เส้นทางบินดังกล่าวไปเมื่อปี 2551 ตอกยํ้าถึงขบวนการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ในสายการบินแห่งชาติ และกลายเป็นต้นทุนระยะยาวในการบริหารจัดการและเป็นสาเหตุหลักทำให้การบินไทยขาดทุนจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างทุกวันนี้
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจ่ายค่านายหน้าเพื่อผลักดันให้การบินไทยซื้อเครื่องยนต์เทรนท์ 500 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 จำนวน 4 ลำ
และแอร์บัสเอ 340-600 จำนวน 6 ลำ ในช่วงรัฐบาลไทยรักไทยทักษิณ 1 เมื่อปี 2546 ซึ่งอยู่ในแผนจัดหาเครื่องบินปี 2545-2547 จำนวน 39 ลำ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
(ห๊า ไอยะ ไอยะลังกะ คุณพระคุณเจ้า เจ้าประคุณรุนช่อง) อันนี้ไม่มีในข่าว ผมอุทานเอง
ทั้งนี้เครื่องบินแอร์บัสเอ 340-500 ซึ่งเป็นการสั่งซื้อเครื่องบินพิสัยไกลพิเศษ สำหรับทำการบินข้ามทวีปแบบไม่ต้องแวะพัก (Ultra Long Range) ระยะเวลาบิน 18 ชั่วโมง เพื่อมาทำการบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2548 และทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลีส เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปีเดียวกัน
“
การสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ ถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ ที่เกิดขึ้นจากการเขียนแผนตามใบสั่งออร์เดอร์เครื่องบินจากฝ่ายการเมือง ทำให้การบินไทยต้องประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนักจนทนแบกรับภาระการขาดทุนไม่ไหวต้องหยุดบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 แล้วนำเครื่องบินรุ่นนี้ ไปบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสเองเจลีสแทน”
แต่หลังจากเปิดบริการได้ไม่นานก็ต้องหยุดบินตรงกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลีส ในวันที่ 29 เมษายน 2555 และเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ER แทน โดยปรับเส้นทางบินใหม่เป็นกรุงเทพฯ-โซล-ลอสแองเจลีส เช่นเดียวกับการใช้แอร์บัสเอ 340-500 บินในเส้นทางกรุงเทพฯ-โตเกียว (ฮาเนดะ) ก็ได้ถูกเปลี่ยนไปใช้โบอิ้ง 777-300 ER แทน
#########################################################################
อ่านเพิ่มเติมในข่าวเองนะครับ
http://www.thansettakij.com/2017/01/25/127034
ในข่าวบางตอนมีเขียนไว้อีกเรื่องขาดทุนของการบบินไทย
"ส่งผลให้การบินไทยต้องทยอยรับรู้ผลการขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินทุกปี จนปี 2558 เครื่องบิน เอ 340-600 จำนวน 6 ลำ ได้ทำด้อยค่าในวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 มีการทำอีกกว่าพันล้าน ปัจจุบันฝูงบินเอ 340 มีมูลค่าเหลือ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะลดขาดทุนของบริษัทและทำให้เครื่องบินขายได้ง่ายขึ้น"
"สุดท้ายการซื้อฝูงบินดังกล่าว กลายเป็นซากเครื่องที่ประจานความล้มเหลว จอดนิ่งอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภาตั้งแต่ปี 2551 นับถึงปัจจุบันค่าเสื่อมพุ่งไปแตะ 6.8 พันล้านบาท เมื่อรวมกับผลการขาดทุนจากการบินตรงเส้นทางกรุงเทพ-นิวยอร์ก 3 ปีแล้วเลิก 7 พันล้านบาท แล้วส่งผลให้ยอดความเสียหายร่วม 1.4 หมื่นล้านบาท"
เห้อบางครั้งบางครา พวกบางพวกอาจรับไม่ได้ก็ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เห็น สาย ข จะด่าว่า นักการเมืองที่ตัวเองเชียร์เลย เรื่องต่างๆ วิสัยทัศน์แบบนี้ ว่าไง มีนักการเมืองที่โดนจับบ่อยๆออกมาดิ้นจัง มีเอี่ยวอะเป่า
อ่อการบินไทย ขาดทุนสะสมเนื่องจากมีต้นทุนจากเครื่องบินที่รวมอยู่ที่อู่ตะเภานี่เอง ใครสั่งซื้อมาวะ (By Identity Idea)
http://www.thansettakij.com/2017/01/25/127034 (ฐานเศรษฐกิจ จิงจกหน้าหอก ห้องราชชอบเอาข่าวมาวาง)
วันที่ 25 ม.ค.60 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สื่อในเครือสปริงกรุ๊ป ระบุว่า “ฉาวกระฉ่อนไปทั่วโลก งามหน้าบรรษัทภิบาลแห่งชาติไทย กรณีถูกแฉสินบนข้ามชาติ 1,300 ล้านบาท ที่ “โรลส์-รอยซ์” จ่ายให้นายหน้าจัดซื้อเครื่องยนต์ให้กับการบินไทย ผงะ! คำฟ้องเอสเอฟโอระบุชัด”
3 สัญญาฟันกำไรมากกว่า 118 ล้านปอนด์ หรือราว 7,000 ล้านบาท
เรื่องฉาวโฉ่ข้ามชาติของ การบินไทยยังไม่ได้จบ แค่เพียงเท่านี้ ยังมีซากเครื่องบิน แอร์บัส เอ 340-500 จำนวน 3 ลำ ที่จอดนิ่งสนิท อยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา ประจานความล้มเหลวและไม่โปร่งใสของการบริหารจัดการในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะปลดระวาง โดยกองทัพอากาศ ช่วยซื้อไปแล้ว 1 ลำ จากทั้งหมด 4 ลำ แต่อีก 3 ลำนั้น ยังไม่มีท่าทีว่าจะขายได้
ต้นเหตุมาจากการวางแผนที่ผิดพลาดซื้อเครื่องบินพิสัยไกล และใช้เชื้อเพลิงมาก เพื่อมาให้บริการในเส้นทางบินตรง (นอนสต็อป) กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก จะด้วยตั้งใจหรือรู้อยู่แก่ใจ แต่หลังจากเปิดบริการได้เพียง 3 ปี ตัวเลขการขาดทุนเส้นทางนี้ก็ทะลุไปถึง 7,000 ล้านบาท กระทั่งบอร์ดต้องยกเลิก เส้นทางบินดังกล่าวไปเมื่อปี 2551 ตอกยํ้าถึงขบวนการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ในสายการบินแห่งชาติ และกลายเป็นต้นทุนระยะยาวในการบริหารจัดการและเป็นสาเหตุหลักทำให้การบินไทยขาดทุนจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างทุกวันนี้
แหล่งข่าวระดับสูงจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจ่ายค่านายหน้าเพื่อผลักดันให้การบินไทยซื้อเครื่องยนต์เทรนท์ 500 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดหาเครื่องบินแอร์บัส เอ 340-500 จำนวน 4 ลำ และแอร์บัสเอ 340-600 จำนวน 6 ลำ ในช่วงรัฐบาลไทยรักไทยทักษิณ 1 เมื่อปี 2546 ซึ่งอยู่ในแผนจัดหาเครื่องบินปี 2545-2547 จำนวน 39 ลำ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท
(ห๊า ไอยะ ไอยะลังกะ คุณพระคุณเจ้า เจ้าประคุณรุนช่อง) อันนี้ไม่มีในข่าว ผมอุทานเอง
ทั้งนี้เครื่องบินแอร์บัสเอ 340-500 ซึ่งเป็นการสั่งซื้อเครื่องบินพิสัยไกลพิเศษ สำหรับทำการบินข้ามทวีปแบบไม่ต้องแวะพัก (Ultra Long Range) ระยะเวลาบิน 18 ชั่วโมง เพื่อมาทำการบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2548 และทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลีส เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปีเดียวกัน
“การสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ ถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ ที่เกิดขึ้นจากการเขียนแผนตามใบสั่งออร์เดอร์เครื่องบินจากฝ่ายการเมือง ทำให้การบินไทยต้องประสบปัญหาการขาดทุนอย่างหนักจนทนแบกรับภาระการขาดทุนไม่ไหวต้องหยุดบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 แล้วนำเครื่องบินรุ่นนี้ ไปบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสเองเจลีสแทน”
แต่หลังจากเปิดบริการได้ไม่นานก็ต้องหยุดบินตรงกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลีส ในวันที่ 29 เมษายน 2555 และเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ER แทน โดยปรับเส้นทางบินใหม่เป็นกรุงเทพฯ-โซล-ลอสแองเจลีส เช่นเดียวกับการใช้แอร์บัสเอ 340-500 บินในเส้นทางกรุงเทพฯ-โตเกียว (ฮาเนดะ) ก็ได้ถูกเปลี่ยนไปใช้โบอิ้ง 777-300 ER แทน
#########################################################################
อ่านเพิ่มเติมในข่าวเองนะครับ http://www.thansettakij.com/2017/01/25/127034
ในข่าวบางตอนมีเขียนไว้อีกเรื่องขาดทุนของการบบินไทย
"ส่งผลให้การบินไทยต้องทยอยรับรู้ผลการขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องบินทุกปี จนปี 2558 เครื่องบิน เอ 340-600 จำนวน 6 ลำ ได้ทำด้อยค่าในวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกของปี 2559 มีการทำอีกกว่าพันล้าน ปัจจุบันฝูงบินเอ 340 มีมูลค่าเหลือ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะลดขาดทุนของบริษัทและทำให้เครื่องบินขายได้ง่ายขึ้น"
"สุดท้ายการซื้อฝูงบินดังกล่าว กลายเป็นซากเครื่องที่ประจานความล้มเหลว จอดนิ่งอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภาตั้งแต่ปี 2551 นับถึงปัจจุบันค่าเสื่อมพุ่งไปแตะ 6.8 พันล้านบาท เมื่อรวมกับผลการขาดทุนจากการบินตรงเส้นทางกรุงเทพ-นิวยอร์ก 3 ปีแล้วเลิก 7 พันล้านบาท แล้วส่งผลให้ยอดความเสียหายร่วม 1.4 หมื่นล้านบาท"
เห้อบางครั้งบางครา พวกบางพวกอาจรับไม่ได้ก็ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เห็น สาย ข จะด่าว่า นักการเมืองที่ตัวเองเชียร์เลย เรื่องต่างๆ วิสัยทัศน์แบบนี้ ว่าไง มีนักการเมืองที่โดนจับบ่อยๆออกมาดิ้นจัง มีเอี่ยวอะเป่า