ลดน้ำหนักทำไม ?
ออกกำลังกายทำไม ?
...
So I can eat more cake

ไม่มีแรงบันดาลใจใดที่จะสู้ใจของเราได้
เคยลองลดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะกับตัวเองมาเยอะมาก
และทุกๆครั้งก็ไม่ได้ผล ...

เมื่อก่อนน้ำหนักของเมย์จะอยู่ที่ประมาณ 43-45kg ตลอด
แต่ล่าสุดที่น้ำหนัก 45kg ก็เมื่อปี 58’
* เมย์สูง 160cm
เมย์มีโรคประจำตัวนิดหน่อยค่ะ
เป็นพาหะเลือดจาง เป้นภูมิแพ้ เหนื่อยง่าย เหนื่อยแล้วหน้ามืดหูอื้อ ไม่สบายบ่อยมาก
หัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง เลือดน้อย ปวดหัวบ่อย ขี้หนาวมากกกก
ต้องพึ่งพวกวิตามินบำรุงหัวใจ บำรุงร่างกาย
และต้องพกยาแก้ปวดและยาแก้ภูมิแพ้ติดตัวอยู่เสมอ

ถึงแม้ตอนนั้นเมย์จะผอม
แต่ก็มักจะกังวลเรื่องขนาดขาของตัวเองเสมอ
เลยมีอยู่ช่วงนึงที่เมย์ไปกินยาลดไขมันของ รพ. นึง
และมันก็ลดได้ดีจริง แต่ประเด็นคือเมย์เป็นคนชอบทานของหวาน
พอหยุดกินยา มันก็โยโย่แบบรุนแรงเลย
จากคนเคยหนัก 40กว่าๆ ขึ้นมาเป็น 53 ภายในไม่กี่เดือนอ่ะคิดดู
จากคนเคยใส่แต่เสื้อผ้า size S ต้องเปลี่ยนเป็น M หมดเลย

แต่คือช่วงที่น้ำหนักเมย์ขึ้น เมย์รับงานพิธีกรทางการเป็นหลัก
เราก็เลยไม่ได้ใส่ใจที่จะดูแลหุ่นเลย
ตามใจปากตัวเอง กินไม่เป็นเวลา ยิ่งเรื่องออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึง


พอมาถึงช่วงเดือนสิงหาคม ปี 61’
เมย์สังเกตเห็นว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นตลอดเลย
แน่นพุง แน่นขา แน่นแขนมาก มองในกระจกแล้วเริ่มรับตัวเองไม่ได้
เพราะเคยเป็นคนผอม พอมาเห็นตัวเองแบบนี้ก็ช็อคนิดนึง
และหากต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็น size L อีกคงไม่ไหว เปลืองตัง


ช่วงประมาณวันที่ 20 ของเดือนสิงหาปีนั้น
เมย์ก็เลยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองซะใหม่
จุดประสงค์ก็เพื่อลดน้ำหนักให้เหลือ 44kg แต่ต้องไม่ลดอาหารที่เมย์โปรดปราน
เมย์ชอบเค้ก ชอบขนม ชอบน้ำอัดลมน้ำหวานเอามากๆ
ชีวิตนี้ถ้าไม่ได้กินของโปรดมันไม่ใช่ชีวิต!
เพราะฉะนั้นเราต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับเรา
ที่สำคัญต้องเป็นวิธีที่เรา enjoy และสามารถทำได้ทุกวัน
เพราะเราเน้นค่อยๆลด ทำให้เป็นนิสัย ไม่ใช่แค่ระยะสั้น


วิธีของเมย์ง่ายมาก
อยากกินอะไร กิน!
แต่! หลัง 6 โมงเย็นเป็นต้นไป งดทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นน้ำเปล่า

ถ้าทนไม่ไหว ให้รีบนอน จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
หรือถ้าทนไม่ไหวอีก ให้ทานแตงโม

และต้องออกกำลังกายทุกวัน! วันละ 30นาที ถึง 1 ชั่วโมง

ให้เลือกกีฬาที่เราทำได้เรื่อยๆ อย่างเมย์บางวันก็ขี่จักรยาน
บางวันก็ว่ายน้ำระยะทาง 2km ต่อวัน

ถ้าวันไหนรู้ตัวว่าไม่ค่อยทานของอ้วน ก็ 30 นาทีก็พอ
แต่ถ้าวันไหนทานของอ้วนเยอะๆ จัดไปเลย 1 ชั่วโมง

เทคนิคในการออกกำลังกายให้ได้นานขึ้นของเมย์คือ เล่น ROV
หรือไม่ก็นั่งดูหนังระหว่างขี่จักรยานในห้องค่ะ ^^

ตอนนี้ก็เป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนแล้วที่เมย์เปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง
จากน้ำหนัก 53 ลดเหลือ 47 แล้วค่ะ
แต่ยังต้องลดอีก 3 โล เพราะฉะนั้นก็สู้กันต่อไป
หากลดสำเร็จแล้ว เมย์ก็จะยังทำต่อไป
แต่คงลดเวลาการออกกำลังกายลง หรือไม่ก็กินเพิ่ม 555!
เพื่อไม่ให้น้ำหนักลดไปมากกว่าที่ต้องการ

ปัจจุบันเมย์สุขภาพดีขึ้นมากกกกกก
มากจริงๆ คือไม่ต้องพึ่งวิตามินอะไรแล้ว
หัวใจแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ปวดหัวน้อยลงมาก
นอนน้อยลงแต่มีกำลังมากขึ้น รู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก


ติดตามผลงานเมย์ได้ผ่าน
www.youtube.com/c/chadaniskhamnuan

* ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเมย์ก็แอบมี moment ที่โกง
ทานหลัง 6 โมงเย็นเหมือนกันค่ะ แต่รู้สึกผิดมากๆ
อย่าโกงบ่อยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี ^^

ป.ล. ค่อยๆลด หาวิธีที่เหมาะกับเรา อย่าทำเพียงระยะสั้น
แต่ให้เลือกวิธีที่จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของเราได้แบบถาวร
ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เราดูดีขึ้น แต่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยค่ะ