11 มกราคม 2562 เวลา 12:30 น.
เขียนโดย ลดา ตรีศักดิ์ศรีสกุล สำนักข่าวอิศรา
"....ในส่วนความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาเฉินและบริษัทกับนักการเมืองและผู้ทรงอิทธิพลต่าง ๆ นั้น มีรายงานว่า APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบริจาคให้แก่กองทุนหาเสียงของนายเจบ บุช (ลูกชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช) ซึ่งเป็นน้องชายของนายเนล บุช หนึ่งในบอร์ดของ APIC นอกจากนี้ สองปีก่อนหน้าการบริจาคเงินดังกล่าว นางเฉิน ได้ซื้อบ้านของนายแกรี ล็อค ในรัฐแมรี่แลนด์ในขณะที่ล็อคยังเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งด้วย..."
"นาง Chen Huai Dan เคยเป็นพนักงานตุลาการในศาลเมือง Shantou ในช่วงปี 1995 ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้บริหารของบริษัทแปซิฟิก อินเตอร์เนชันแนล แคปิตัล ก็ยังนั่งบอร์ดบริหาบริษัท SingHaiyi group ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ พร้อมระบุว่า เธอและสามีมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์มาก ซึ่งนอกจากจะใส่ที่อยู่บริษัทพีทีคอร์เปอเรชันเป็นที่อยู่ของบริษัทนางเฉินแล้ว ที่อยู่อาศัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุในเอกสารตั้งบริษัทนี้ก็เป็นที่อยู่บ้านที่คู่สามีภรรยาเฉินเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน"
คือ ข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในรายงานข่าว หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ในประเทศฮ่องกง ที่นำเสนอข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ใช้พาสปอร์ตกัมพูชา เป็นหลักฐานในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในฮ่องกง ที่ปรากฎต่อสาธารณชนไปแล้ว (อ่านประกอบ: อ่านเต็มๆ ลีลานักข่าวฮ่องกง คุ้ยหลักฐาน 'ยิ่งลักษณ์' ใช้พาสปอร์ตกัมพูชาตั้งบ.ย่านจิมซาจุ่ย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.isranews.org/isranews/72754-report01-72754.html )
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบยืนยันข้อมูลบริษัท P.T.Coporation ในฮ่องกง ผ่านทางเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะบริษัทที่จดทะเบียนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พบเอกสารยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ชัดเจน และยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัท P.T.Corporation มีผู้ก่อตั้ง คือ บริษัท P.T. Corporation ซึ่งเป็นธุรกิจของคนในครอบครัวชินวัตร ในประเทศไทย และยังเป็นผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวของบริษัท นอกจากนี้ในเอกสารจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท P.T.Coporation ในฮ่องกง ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งที่อยู่ คือ บ้านเลขที่ 10 ถนน Severn 8 ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงด้วย (อ่านประกอบ : ใช้ บ.ลูกทักษิณก่อตั้ง! เปิดครบชุดเอกสาร'ปู' นั่งบริหารธุรกิจฮ่องกง แจ้งที่อยู่ 10 ถ.Severn8
https://www.isranews.org/isranews/72772-ptcorporation01.html )
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า The Intercept สำนักข่าวออนไลน์ของสหรัฐ เคยนำเรื่องข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นาง Chen Huai Dan และนาย Gordon Tang ผู้เป็นสามี ไว้ก่อนหน้านี้
โดยระบุว่า คู่สามีภรรยาเฉิน ผู้ทรงอิทธิพลวัย 40 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองอเมริกันและผู้มีอำนาจหลายคน เช่น นายเอ๊ด ลี (Ed Lee) นายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก, อดีตเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง รวมไปถึงเนล และ เจบ บุช (Neil, Jeb Bush)
ปัจจุบัน คู่สามีภรรยาเฉิน มีสัญชาติจีนแต่อาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทั้งคู่มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรอีกด้วย
หนึ่งในธุรกิจของคู่สามีภรรยาเฉินในวัย 40 นั้นคือ บริษัทสัญชาติอเมริกัน, แคลิฟอร์เนีย ชื่ออเมริกัน แฟซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล (American Pacific International Capital: APIC) ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักการเมืองอเมริกันหลายคน ในขณะที่บริษัทรวบรวมสะสมอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังโตไว้ตลอดมาเป็นระยะเวลา 7 ปี รวมไปถึงลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรัฐโอเรกอนจนถึงรัฐโอไฮโออันเป็นการช้อนโอกาสจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2551
ธุรกิจของนายทังเริ่มต้นในปี 2537 เมื่อเขาได้ลงทุนประมาณ 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อตั้งกลุ่มธุรกิจ Shantou Haiyi ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งเพื่อลงทุนในวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องปรับอากาศ และอื่น ๆ
หลังจากนั้นในปี 2538 นายทังได้ก่อตั้ง Tang Dynasty และก่อตั้ง Haiyi Holdings ในปี 2546 ซึ่งเข้าซื้อ SingExpress Land ในปี 2555 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น SingHaiyi ในเวลาต่อมา
ธุรกิจหลักของนายทังในสหรัฐฯ คือบริษัท APIC ซึ่งเป็นเจ้าของตึก KOIN ในเมืองพอร์ทแลนด์ มลรัฐโอเรกอน ซึ่งในปี 2552 รายงานว่ามีมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และต่อมาในปี 2558 APIC ได้ขายตึกดังกล่าวไปในราคา 88 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2556 SingHaiyi ได้ซื้อห้างสรรพสินค้าอเมริกัน 2 ห้าง และซื้อคอนโดมิเนียม Vietnam Town และพื้นที่ธุรกิจในเมืองซาน โฮเซ่ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในราคา 33.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2557 APIC ย้ายสำนักงานไปตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโกและทยอยซื้ออสังหาริมทรัพย์รวมทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากในสหรัฐอเมริกาแล้ว APIC ยังเป็นเจ้าของ 2 โรงแรมหรูในซัวเถาและโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยอีกหลายโครงการ
ในส่วนความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาเฉินและบริษัทกับนักการเมืองและผู้มีทรงอิทธิพลต่าง ๆ นั้น มีรายงานว่า APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบริจาคให้แก่กองทุนหาเสียงของนายเจบ บุช (ลูกชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช) ซึ่งเป็นน้องชายของนายเนล บุช หนึ่งในบอร์ดของ APIC นอกจากนี้ สองปีก่อนหน้าการบริจาคเงินดังกล่าว นางเฉิน ได้ซื้อบ้านของนายแกรี ล็อค ในรัฐแมรี่แลนด์ในขณะที่ล็อคยังเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งด้วย
ส่วนนายวิลสัน เฉิน (Wilson Chen) น้องชายของนางเฉินผู้ซึ่งมีสัญชาติอเมริกันและเป็นหนึ่งในบอร์ดของ APIC กล่าวว่า "ธุรกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความสัมพันธ์มิตรสหายของเรา นักการเมืองมักจะชอบขอความช่วยเหลือจากเรา นั่นเป็นธรรมชาติของพวกเขา"
นายเฉินให้ข้อมูลว่า บริษัทได้สนับสนุนนักการเมืองจากทั้งสองพรรคและมีความนับถือครอบครัวบุชมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศจีนในสมัยที่นายจอร์จ เอช ดับบลิว บุช (George H.W. Bush) ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักการทูตในกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงปี 2513
นายเฉินย้ำว่า การบริจาคทั้งหลายนั้นถูกต้องตามกฎหมายและมีนักกฎหมายคอยตรวจทานอยู่ ทั้งยังกล่าวว่าแม้นายเจบ บุช ไม่ได้รับเลือกจากพรรครีพับลิกัน แต่นายทังก็ไม่เคยเสียดายเงินบริจาคเลยเนื่องจากถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นายทังได้เปิดเผยความรู้สึกในทางเดียวกันระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ The Intercept โดยนักข่าวฮ่องกงชื่อ Elaine Yu ซึ่งนายทังยังได้เสนอเงินสดให้แก่เธอแลกกับการไม่รายงานข่าวลือในโลกออนไลน์ของนายทังเรื่องการสืบสวนสอบสวนในปี 2543 เกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสินค้าหนีภาษีในเมืองซัวเถา ประเทศจีน ซึ่งปัญหาในเรื่องดังกล่าวปรากฏอยู่ในเอกสารที่ยื่นโดยบริษัทสิงคโปร์ชื่อ SingHaiyi ซึ่งคู่สามีภรรยาเฉินเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจากกฎหมายสิงคโปร์กำหนดให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องรายงานว่าผู้บริหารหรือบอร์ดเคยบริหารบริษัทที่ถูกสืบสวนสอบสวนในประเทศใดว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่
ในปี 2556 SingHaiyi ประกาศว่าในปี 2544 และ 2545 ผู้นำเข้าทุกรายในเมืองซัวเถาได้ถูกสืบสวนสอบสวนเรื่องภาษีศุลกากรรวมถึงนายทังและบริษัทเก่าที่เขาเคยเป็นเจ้าของด้วย SingHaiyi ประกาศว่า หลายคนในเมืองซัวเถาโดนตัดสินว่าผิด รวมพนักงานหลายคนในส่วนนำเข้าส่งออก และทรัพย์สินทั้งหลายถูกยึด แต่ต่อมาศาลประเทศจีนก็ไม่ได้ลงโทษปรับหรือตัดสินว่านายทังเป็นผู้กระทำความผิดในฐานะส่วนตัว
เจมส์ เมย์ (James Mei) ทนายความสหรัฐอมเริกาของนายทัง ระบุว่า ข่าวลือทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริง นายทังผ่านการตรวจประวัติโดยสหรัฐอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ แผนกคนเข้าเมือง และ FBI
อย่างไรก็ตาม ได้มีการเปิดเผยว่า ต่อมานายทังยังได้โทรศัพท์หา Elaine Yu โดยตรงเพื่อโน้มน้าวและข่มขู่ให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวลือเรื่องดังกล่าวของนายทัง ทั้งยังเสนอเงินสดให้แก่ Elaine Yu เป็นจำนวน 200,000 เหรียญสหรัฐอีกด้วย
การไหลเวียนของเงินจากครอบครัวเฉินไปยังครอบครัวบุชนั้นไม่ได้มาจากการบริจาคให้แก่กองทุนเท่านั้น ในปี 2556 นายนาล บุช ยังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารและได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์บางส่วนจากหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ ประวัติของ SingHaiyi ได้แสดงว่านายบุชได้รับเงินจำนวน 17,000 เหรียญสหรัฐในปี 2556 เพื่อให้ในฐานะคณะบอร์ดของบริษัท
ในขณะเดียวกัน นางเฉินและผู้บริหารอีกสองคนจาก APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1,320 เหรียญสหรัฐเป็นค่าใช้จ่ายให้แก่นายกเทศมนตรีเมเยอร์ เอด ลี ในการเดินทางไปประเทศจีนเพื่อแลกกับการที่บริษัทจะมีสิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในพื้นที่ของเขา
นอกจากนี้ได้มีการค้นพบประวัติการเงินแคมเปญการเลือกตั้งของนายกเทศมนตรีชาลี เฮลส์ (Charlie Hales) ของเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ว่า APIC ได้บริจาคให้เงินให้แคมเปญจำนวน 2,500 เหรียญสหรัฐ และ 9,500 เหรียญสหรัฐให้แก่แคมเปญหาเสียงผู้ว่าฯ จอห์น คิตเซเบอร์ (John Kitzhaber) และบริษัทยังได้บริจาคให้ผู้หาเสียงท้องถิ่นอีกหลายคน
ผู้บริหารหลายคนของ APIC ยังได้สนับสนุนนายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก นายเมเยอร์ ลี เป็นการส่วนตัวและมอบเงินให้เป็นจำนวน 41,100 เหรียญสหรัฐให้แคมเปญระดับมลรัฐและระดับรัฐบาลกลาง รวมไปถึงการสนับสนุนสมาคมพรรครีพับลิกันในมลรัฐเคนตักกี และคณะกรรมการพรรคเดโมแครต นายวิลสัน เฉิน ยังได้เคยสนับสนุนเคมเปญหาเสียงของนางฮิลลารี คลินตัน อีกเป็นจำนวน2,700 เหรียญสหรัฐ
ในงานเปิดตัวธุรกิจต่าง ๆ ของนายทัง ก็ยังได้มีการเชิญนักการเมืองอเมริกันเชื้อสายจีนมาร่วมงาน ในปี 2551 ในงานเปิดตัวการก่อสร้างที่พักอาศัยและคอนโดมิเนียมในเมืองซัวเถา ก็ได้มีนางเอเลน เฉา (Elaine Chao) อดีตเลขาธิการกระทรวงแรงงานภรรยาของนายมิชท์ แมคคอร์แนล (Mitch McConnell) ผู้นำเสียงข้างมากในสภา
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ APIC หรือวิคตอเรีย ยู (Victoria Yu) กล่าวว่า APIC ปฏิบัติเหมือนกับบริษัททั่วไปที่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองเพื่อโน้มน้าวนโยบายที่ดีหรือแย่และสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำงาน
ในปัจจุบัน ธุรกิจของนางทังกำลังเดินไปข้างหน้า SingHaiyi สร้างรายได้มากถึง 226.5 เหรียญสหรัฐในการพัฒนาที่พักอาศัยระดับหรูในประเทศสิงคโปร์และเริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศมาเลเซียอีกด้วย
ในปี 2556 เวลาไม่นานหลังจากที่ APIC ประกาศให้นายเนล บุช ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการซึ่งไม่เป็นผู้บริหาร ได้กล่าวแก่ผู้ถือหุ้นว่า อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาได้ถูกลดทอนคุณค่าในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู และได้นำเสนออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาที่มีโอกาสสำหรับการลงทุน
ในปีที่ผ่านมา RHB Bank หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซียได้เพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนใน SingHaiyi (Buy Rating) โดยบริษัทไม่เพียงแต่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสสูงในราคาน่าดึงดูด แต่ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองอเมริกันหลายคน เช่น นายเนล บุช และนายแกรี ล็อค ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในบริษัทด้วย
สำหรับเว็บไซต์ของ SingHaiyi เองก็ได้ยืนยันความสำเร็จของธุรกิจด้วยรูปภาพอสังหาริมทรัพย์และโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่ประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เรื่อยมาจนถึงสหรัฐอเมริกา
(ที่มาเรื่อง/ภาพประกอบจาก :
https://theintercept.com/2016/08/03/chinese-couple-million-dollar-donation-jeb-bush-super-pac/?fbclid=IwAR2qb4gd648nV1QjeDEwj8-RGRzXHFn9IxAmxqdJXqdZeaHeqY7-qlb5K84)
https://www.isranews.org/isranews/72805-report01-72805.html
ตีแผ่ชีวิตสามีภรรยาจีนหมื่นล.! ให้ 'ปู' ใช้ที่อยู่ตั้งบ.ฮ่องกง-สนิทนักการเมืองมะกันเพียบ
เขียนโดย ลดา ตรีศักดิ์ศรีสกุล สำนักข่าวอิศรา
"....ในส่วนความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาเฉินและบริษัทกับนักการเมืองและผู้ทรงอิทธิพลต่าง ๆ นั้น มีรายงานว่า APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบริจาคให้แก่กองทุนหาเสียงของนายเจบ บุช (ลูกชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช) ซึ่งเป็นน้องชายของนายเนล บุช หนึ่งในบอร์ดของ APIC นอกจากนี้ สองปีก่อนหน้าการบริจาคเงินดังกล่าว นางเฉิน ได้ซื้อบ้านของนายแกรี ล็อค ในรัฐแมรี่แลนด์ในขณะที่ล็อคยังเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งด้วย..."
"นาง Chen Huai Dan เคยเป็นพนักงานตุลาการในศาลเมือง Shantou ในช่วงปี 1995 ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้บริหารของบริษัทแปซิฟิก อินเตอร์เนชันแนล แคปิตัล ก็ยังนั่งบอร์ดบริหาบริษัท SingHaiyi group ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ พร้อมระบุว่า เธอและสามีมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์มาก ซึ่งนอกจากจะใส่ที่อยู่บริษัทพีทีคอร์เปอเรชันเป็นที่อยู่ของบริษัทนางเฉินแล้ว ที่อยู่อาศัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุในเอกสารตั้งบริษัทนี้ก็เป็นที่อยู่บ้านที่คู่สามีภรรยาเฉินเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน"
คือ ข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในรายงานข่าว หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ในประเทศฮ่องกง ที่นำเสนอข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ใช้พาสปอร์ตกัมพูชา เป็นหลักฐานในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในฮ่องกง ที่ปรากฎต่อสาธารณชนไปแล้ว (อ่านประกอบ: อ่านเต็มๆ ลีลานักข่าวฮ่องกง คุ้ยหลักฐาน 'ยิ่งลักษณ์' ใช้พาสปอร์ตกัมพูชาตั้งบ.ย่านจิมซาจุ่ย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบยืนยันข้อมูลบริษัท P.T.Coporation ในฮ่องกง ผ่านทางเว็บไซต์ตรวจสอบสถานะบริษัทที่จดทะเบียนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง พบเอกสารยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ชัดเจน และยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัท P.T.Corporation มีผู้ก่อตั้ง คือ บริษัท P.T. Corporation ซึ่งเป็นธุรกิจของคนในครอบครัวชินวัตร ในประเทศไทย และยังเป็นผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวของบริษัท นอกจากนี้ในเอกสารจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท P.T.Coporation ในฮ่องกง ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งที่อยู่ คือ บ้านเลขที่ 10 ถนน Severn 8 ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงด้วย (อ่านประกอบ : ใช้ บ.ลูกทักษิณก่อตั้ง! เปิดครบชุดเอกสาร'ปู' นั่งบริหารธุรกิจฮ่องกง แจ้งที่อยู่ 10 ถ.Severn8 https://www.isranews.org/isranews/72772-ptcorporation01.html )
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า The Intercept สำนักข่าวออนไลน์ของสหรัฐ เคยนำเรื่องข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นาง Chen Huai Dan และนาย Gordon Tang ผู้เป็นสามี ไว้ก่อนหน้านี้
โดยระบุว่า คู่สามีภรรยาเฉิน ผู้ทรงอิทธิพลวัย 40 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองอเมริกันและผู้มีอำนาจหลายคน เช่น นายเอ๊ด ลี (Ed Lee) นายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก, อดีตเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง รวมไปถึงเนล และ เจบ บุช (Neil, Jeb Bush)
ปัจจุบัน คู่สามีภรรยาเฉิน มีสัญชาติจีนแต่อาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทั้งคู่มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรอีกด้วย
หนึ่งในธุรกิจของคู่สามีภรรยาเฉินในวัย 40 นั้นคือ บริษัทสัญชาติอเมริกัน, แคลิฟอร์เนีย ชื่ออเมริกัน แฟซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล (American Pacific International Capital: APIC) ซึ่งมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักการเมืองอเมริกันหลายคน ในขณะที่บริษัทรวบรวมสะสมอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังโตไว้ตลอดมาเป็นระยะเวลา 7 ปี รวมไปถึงลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรัฐโอเรกอนจนถึงรัฐโอไฮโออันเป็นการช้อนโอกาสจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2551
ธุรกิจของนายทังเริ่มต้นในปี 2537 เมื่อเขาได้ลงทุนประมาณ 16.5 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อตั้งกลุ่มธุรกิจ Shantou Haiyi ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งเพื่อลงทุนในวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องปรับอากาศ และอื่น ๆ
หลังจากนั้นในปี 2538 นายทังได้ก่อตั้ง Tang Dynasty และก่อตั้ง Haiyi Holdings ในปี 2546 ซึ่งเข้าซื้อ SingExpress Land ในปี 2555 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น SingHaiyi ในเวลาต่อมา
ธุรกิจหลักของนายทังในสหรัฐฯ คือบริษัท APIC ซึ่งเป็นเจ้าของตึก KOIN ในเมืองพอร์ทแลนด์ มลรัฐโอเรกอน ซึ่งในปี 2552 รายงานว่ามีมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และต่อมาในปี 2558 APIC ได้ขายตึกดังกล่าวไปในราคา 88 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2556 SingHaiyi ได้ซื้อห้างสรรพสินค้าอเมริกัน 2 ห้าง และซื้อคอนโดมิเนียม Vietnam Town และพื้นที่ธุรกิจในเมืองซาน โฮเซ่ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในราคา 33.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในปี 2557 APIC ย้ายสำนักงานไปตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโกและทยอยซื้ออสังหาริมทรัพย์รวมทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากในสหรัฐอเมริกาแล้ว APIC ยังเป็นเจ้าของ 2 โรงแรมหรูในซัวเถาและโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยอีกหลายโครงการ
ในส่วนความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาเฉินและบริษัทกับนักการเมืองและผู้มีทรงอิทธิพลต่าง ๆ นั้น มีรายงานว่า APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อบริจาคให้แก่กองทุนหาเสียงของนายเจบ บุช (ลูกชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช) ซึ่งเป็นน้องชายของนายเนล บุช หนึ่งในบอร์ดของ APIC นอกจากนี้ สองปีก่อนหน้าการบริจาคเงินดังกล่าว นางเฉิน ได้ซื้อบ้านของนายแกรี ล็อค ในรัฐแมรี่แลนด์ในขณะที่ล็อคยังเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งด้วย
ส่วนนายวิลสัน เฉิน (Wilson Chen) น้องชายของนางเฉินผู้ซึ่งมีสัญชาติอเมริกันและเป็นหนึ่งในบอร์ดของ APIC กล่าวว่า "ธุรกรรมต่าง ๆ เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความสัมพันธ์มิตรสหายของเรา นักการเมืองมักจะชอบขอความช่วยเหลือจากเรา นั่นเป็นธรรมชาติของพวกเขา"
นายเฉินให้ข้อมูลว่า บริษัทได้สนับสนุนนักการเมืองจากทั้งสองพรรคและมีความนับถือครอบครัวบุชมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศจีนในสมัยที่นายจอร์จ เอช ดับบลิว บุช (George H.W. Bush) ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้านักการทูตในกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงปี 2513
นายเฉินย้ำว่า การบริจาคทั้งหลายนั้นถูกต้องตามกฎหมายและมีนักกฎหมายคอยตรวจทานอยู่ ทั้งยังกล่าวว่าแม้นายเจบ บุช ไม่ได้รับเลือกจากพรรครีพับลิกัน แต่นายทังก็ไม่เคยเสียดายเงินบริจาคเลยเนื่องจากถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นายทังได้เปิดเผยความรู้สึกในทางเดียวกันระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ The Intercept โดยนักข่าวฮ่องกงชื่อ Elaine Yu ซึ่งนายทังยังได้เสนอเงินสดให้แก่เธอแลกกับการไม่รายงานข่าวลือในโลกออนไลน์ของนายทังเรื่องการสืบสวนสอบสวนในปี 2543 เกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสินค้าหนีภาษีในเมืองซัวเถา ประเทศจีน ซึ่งปัญหาในเรื่องดังกล่าวปรากฏอยู่ในเอกสารที่ยื่นโดยบริษัทสิงคโปร์ชื่อ SingHaiyi ซึ่งคู่สามีภรรยาเฉินเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เนื่องจากกฎหมายสิงคโปร์กำหนดให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องรายงานว่าผู้บริหารหรือบอร์ดเคยบริหารบริษัทที่ถูกสืบสวนสอบสวนในประเทศใดว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่
ในปี 2556 SingHaiyi ประกาศว่าในปี 2544 และ 2545 ผู้นำเข้าทุกรายในเมืองซัวเถาได้ถูกสืบสวนสอบสวนเรื่องภาษีศุลกากรรวมถึงนายทังและบริษัทเก่าที่เขาเคยเป็นเจ้าของด้วย SingHaiyi ประกาศว่า หลายคนในเมืองซัวเถาโดนตัดสินว่าผิด รวมพนักงานหลายคนในส่วนนำเข้าส่งออก และทรัพย์สินทั้งหลายถูกยึด แต่ต่อมาศาลประเทศจีนก็ไม่ได้ลงโทษปรับหรือตัดสินว่านายทังเป็นผู้กระทำความผิดในฐานะส่วนตัว
เจมส์ เมย์ (James Mei) ทนายความสหรัฐอมเริกาของนายทัง ระบุว่า ข่าวลือทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริง นายทังผ่านการตรวจประวัติโดยสหรัฐอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ แผนกคนเข้าเมือง และ FBI
อย่างไรก็ตาม ได้มีการเปิดเผยว่า ต่อมานายทังยังได้โทรศัพท์หา Elaine Yu โดยตรงเพื่อโน้มน้าวและข่มขู่ให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวลือเรื่องดังกล่าวของนายทัง ทั้งยังเสนอเงินสดให้แก่ Elaine Yu เป็นจำนวน 200,000 เหรียญสหรัฐอีกด้วย
การไหลเวียนของเงินจากครอบครัวเฉินไปยังครอบครัวบุชนั้นไม่ได้มาจากการบริจาคให้แก่กองทุนเท่านั้น ในปี 2556 นายนาล บุช ยังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารและได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์บางส่วนจากหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ ประวัติของ SingHaiyi ได้แสดงว่านายบุชได้รับเงินจำนวน 17,000 เหรียญสหรัฐในปี 2556 เพื่อให้ในฐานะคณะบอร์ดของบริษัท
ในขณะเดียวกัน นางเฉินและผู้บริหารอีกสองคนจาก APIC ได้บริจาคเงินจำนวน 1,320 เหรียญสหรัฐเป็นค่าใช้จ่ายให้แก่นายกเทศมนตรีเมเยอร์ เอด ลี ในการเดินทางไปประเทศจีนเพื่อแลกกับการที่บริษัทจะมีสิทธิซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในพื้นที่ของเขา
นอกจากนี้ได้มีการค้นพบประวัติการเงินแคมเปญการเลือกตั้งของนายกเทศมนตรีชาลี เฮลส์ (Charlie Hales) ของเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ว่า APIC ได้บริจาคให้เงินให้แคมเปญจำนวน 2,500 เหรียญสหรัฐ และ 9,500 เหรียญสหรัฐให้แก่แคมเปญหาเสียงผู้ว่าฯ จอห์น คิตเซเบอร์ (John Kitzhaber) และบริษัทยังได้บริจาคให้ผู้หาเสียงท้องถิ่นอีกหลายคน
ผู้บริหารหลายคนของ APIC ยังได้สนับสนุนนายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก นายเมเยอร์ ลี เป็นการส่วนตัวและมอบเงินให้เป็นจำนวน 41,100 เหรียญสหรัฐให้แคมเปญระดับมลรัฐและระดับรัฐบาลกลาง รวมไปถึงการสนับสนุนสมาคมพรรครีพับลิกันในมลรัฐเคนตักกี และคณะกรรมการพรรคเดโมแครต นายวิลสัน เฉิน ยังได้เคยสนับสนุนเคมเปญหาเสียงของนางฮิลลารี คลินตัน อีกเป็นจำนวน2,700 เหรียญสหรัฐ
ในงานเปิดตัวธุรกิจต่าง ๆ ของนายทัง ก็ยังได้มีการเชิญนักการเมืองอเมริกันเชื้อสายจีนมาร่วมงาน ในปี 2551 ในงานเปิดตัวการก่อสร้างที่พักอาศัยและคอนโดมิเนียมในเมืองซัวเถา ก็ได้มีนางเอเลน เฉา (Elaine Chao) อดีตเลขาธิการกระทรวงแรงงานภรรยาของนายมิชท์ แมคคอร์แนล (Mitch McConnell) ผู้นำเสียงข้างมากในสภา
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ APIC หรือวิคตอเรีย ยู (Victoria Yu) กล่าวว่า APIC ปฏิบัติเหมือนกับบริษัททั่วไปที่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองเพื่อโน้มน้าวนโยบายที่ดีหรือแย่และสร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการทำงาน
ในปัจจุบัน ธุรกิจของนางทังกำลังเดินไปข้างหน้า SingHaiyi สร้างรายได้มากถึง 226.5 เหรียญสหรัฐในการพัฒนาที่พักอาศัยระดับหรูในประเทศสิงคโปร์และเริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศมาเลเซียอีกด้วย
ในปี 2556 เวลาไม่นานหลังจากที่ APIC ประกาศให้นายเนล บุช ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการซึ่งไม่เป็นผู้บริหาร ได้กล่าวแก่ผู้ถือหุ้นว่า อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาได้ถูกลดทอนคุณค่าในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู และได้นำเสนออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาที่มีโอกาสสำหรับการลงทุน
ในปีที่ผ่านมา RHB Bank หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซียได้เพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนใน SingHaiyi (Buy Rating) โดยบริษัทไม่เพียงแต่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสสูงในราคาน่าดึงดูด แต่ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับนักการเมืองอเมริกันหลายคน เช่น นายเนล บุช และนายแกรี ล็อค ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในบริษัทด้วย
สำหรับเว็บไซต์ของ SingHaiyi เองก็ได้ยืนยันความสำเร็จของธุรกิจด้วยรูปภาพอสังหาริมทรัพย์และโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่ประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เรื่อยมาจนถึงสหรัฐอเมริกา
(ที่มาเรื่อง/ภาพประกอบจาก : https://theintercept.com/2016/08/03/chinese-couple-million-dollar-donation-jeb-bush-super-pac/?fbclid=IwAR2qb4gd648nV1QjeDEwj8-RGRzXHFn9IxAmxqdJXqdZeaHeqY7-qlb5K84)
https://www.isranews.org/isranews/72805-report01-72805.html