โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 :
ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 :
นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 :
แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
เพื่อน ๆ สามารถดูวีดีโอที่เที่ยวสุด Unseen ของเมือง Aizu-Wakamatsu ที่ผมเห็นแล้วสวยจนน้ำตาไหล ก่อนได้เลยครับ
----------------------------------------------
หลังจากที่ผม Check Out จากที่พักปุ๊ป ผมรีบไปที่ป้ายรถบัส Nanukamachi เพื่อรอรสบัสเที่ยวเมือง Aizu-Wakamatsu โดยที่นี่จะมีบริการถ Aizu Loop Bus จะมี 2 สี ได้แก่ สายสีเขียว (Haikara-san) วิ่งวนทวนเข็มนาฬิกา และสายสีแดง (Akabe) วิ่งตามเข็มนาฬิกา โดยรถทั้ง 2 สายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม
ผ่านสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ในตัวเมืองนี้ทั้งหมดครับ
ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวในการนั่งรถทั้ง 2 สายนี้จะอยู่ที่ 210 เยน/คน/เที่ยว สำหรับผู้ใหญ่ และ 110 เยน/คน/เที่ยว สำหรับเด็ก ซึ่งผมแนะนำซื้อเหมาแบบ 1 Day Pass ไปเลยครับ สำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 500 เยน/คนเท่านั้นเอง ส่วนราคาตั๋ว 1 Day Pass สำหรับเด็กนั้นจะอยู่ที่ 250 เยน/คนครับ สามารถซื้อที่ สถานี Aizu-Wakamatsu ได้เลย โดยถ้าเราซื้อบัตรที่ชื่อว่า Aizu Gurutto Card จะสามารถใช้นั่งรถบัสและรถไฟในเขตเมืองนี้ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวถึง 2 วันเต็มๆ เลยครับ
โดยรถทั้งสองสายจะออกจากสถานี Aizu-Wakamatsu ทุกๆ 30 นาที
สายสีเขียว (Haikara-san) : 8.00-17.00 น.
สายสีแดง (Akabe) : 9.15-16.15 น.
เพื่อให้ได้เที่ยวเยอะที่สุด ผมรีบมาที่โชสุเกะโนะยาโดะ ทากิโนะยุ (Shosuke no Yado Takinoyu) ให้ลงป้ายรถบัส Higashiyama Onsen แล้วเดินย้อนลงมา ซึ่งที่นี่จะเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อน แต่ผมเลือกที่จะมาแช่ออนเซ็นอย่างเดียวในราคา 1,200 เยน
ก่อนแช่ออนเซ็น เค้ามีที่ให้แช่เท้า มองน้ำตก โคตรฟินเลยครับ
จุดแช่ออนเซ็นมีทั้งแบบห้องส่วนตัว และห้องรวม ซึ่ง ห้องรวมมีแบบกระจก และ แบบเปิดโล่ง เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์มากเลย มันเหมือนกับเราได้ปล่อยกาย ปล่อยใจ ปล่อยความทุกข์ ให้ไหลไปผ่านน้ำตก แถมทุกคืนจะมีการแสดงเพื่อความบันเทิงที่แตกต่างกันบนเวทีกลางแจ้งเช่น การเล่านิทาน เล่นซามิเซ็นในแบบฉบับของอาอิซุ (เครื่องสาย) ระบำเกอิชา ฯลฯ อีกด้วยครับ
หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จปุ๊ป ผมเดินขึ้นมาอีกนิดนึง จะเจอร้าน ราเมง ที่มีคนเยอะพอสมควร ผมเลยแวะเข้าไป ซึ่งทั้งชื่อร้าน ชื่อเมนูอาหาร เป็นภาษาญี่ปุ่น หมดเลย แต่อร่อยมากครับ
Higashiyama Onsen เป็นแหล่งออนเซ็นธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยบรรดาที่พักต่างๆ ที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขารอบด้านเลย แถมยังมีที่ให้แช่ออนเซ็นเท้าสาธารณะฟรีด้วยครับ
ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือปราสาทนกกระเรียน โดยให้เรานั่งรถ Aizu Loop Bus มาลงที่จุด H15 สำหรับสายสีเขียว และจุด A26 สำหรับสายสีแดงนะครับ จากนั้นก็ให้เรามองหาป้ายชื่อปราสาทแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีก็จะเจอปราสาทครับ พอเดินทางมาถึงปราสาทให้ซื้อตั๋วเข้าชมภายในปราสาทจะมี 2 จุดคือ ขึ้นชมปราสาทอย่างเดียว 410 เยน แต่ถ้าเข้าชมสวนด้วย 510 เยน ผมแนะนำให้ซื้อแบบ 510 เยนเลยครับ
ที่ต่อไปคือ Oyakuen ที่นี่คือสถานที่พักผ่อนและสวนสมุนไพรของโทโนะซามะ (หัวหน้าสูงสุดของซามูไรไอสุ) ภายในเป็นสถานที่ร่มรื่นและสงบเหมาะสำหรับการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ที่นี่มีเรือนน้ำชาแบบญี่ปุ่นแท้ๆคอยต้อนรับผู้ที่มาเยือน โดยสามารถลงที่ป้าย Oyakuen ได้เลยครับ ราคา ตั๋วเข้าชมสถานที่ : 320 เยน และ ตั๋วเข้าชม+ดื่มชาและขนม : 700 เยนครับ
คราวนี้ผมเปลี่ยนเป็นเดินทางด้วยรถไฟกันบ้าง ผมกลับมาที่สถานี Aizu-Wakamatsu ต่อไปที่สถานี Tonohetsuri ใช้เวลาเพียง 40 นาที คือแบบ แค่ถึงสถานีรถไฟ น้ำตาจะไหล จะสวยไปไหน ยังมองไม่เห็นหน้าผา แต่ว่าป่ารอบตัวเวลานี้สวยไปหมดเลยครับการเกิดขึ้นของหินนี้ใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ล้านปี เลยเรียกว่า หน้าผาหินล้านปี Tonohetsuri ถูกสายน้ำ Okawa river กัดกร่อนเซาะจนเป็นรูปร่างหน้าตากลายหมู่เจดีย์ จนเป็นที่มาของชื่อ To แปลว่าเจดีย์ hetsuri แปลว่า หน้าผา Tonohetsuri หน้าผาเจดีย์ ที่แห่งนี้เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติที่งดงามไม่ว่าจะอยู่ในฤดูกาลไหน สีสันที่เปลี่ยนไปทั้ง 4 ฤดูก็สร้างความอัศจรรย์ใจทุกครั้ง เป็นผลงานศิลปะจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งยังง่ายต่อการท่องเที่ยวเพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเพียงเดินแค่ 3 นาทีเท่านั้นเองครับ
นั่งรถไฟย้อนมาแค่ 5 นาที ก็จะถึงสถานี Yunokami Onsen โดยจุดเด่นของสถานีนี้คือ มีที่ให้นั่งแช่เท้าฟรีด้วยครับ หลังจากนั้นพอเราออกจากสถานีก็ให้เราเลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปตามทางจะเห็นจุดรอรถบัสอยู่ โดยจะมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 500 เยน/คน/เที่ยว หรือเราจะเลือกซื้อเป็นตั๋ววันที่นั่งกี่รอบก็ได้ที่ราคา 1,000 เยน/คน ซึ่งตั๋วทั้งสองแบบนี้สามารถซื้อบนรถได้เลย ผมแนะนำให้ขอตารางเวลาการให้บริการของรถที่พนักงานไว้เลยครับ
โออุจิจุคุเป็นเมืองของโรงแรมในจังหวัด FukushimaของบริเวณMinamiaizu เมืองShimogo เป็นบรรยากาศสมัยEdo(1603-1868)ที่ยังคงเหลืออยู่ที่นี่ บ้านหลังคามุงจากกว่า30หลังเรียงรายอยู่บนถนนและบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ถูกเลือกให้ได้รับการอนุรักษ์สำหรับอาคารแบบโบราณ ศูนย์กลางของเมืองคือถนน Shimotsuke และถนนAizunishikaido ระหว่างสมัยEdo ถนนสองสายนี้เป็นเส้นทางการคมนาคมที่สำคัญ ซึ่งเชื่อมต่อกับบริเวณ Aizu-WakamatsuและNikko-Imaichi กลุ่มขุนนางสมัยก่อนและตระกูลHanที่4เคยใช้ถนนเหล่านี้ในอดีตเช่นกัน ณ ปัจจุบันแม้ว่ายุคเอโดะได้ล่มสลายไปนานแล้ว แม้แต่เมืองเอโดะก็ยังถูกสถาปนาชื่อใหม่ในนามของโตเกียว แต่ถ้าหากยังหลงใหลในวัฒนธรรมอันเก่าแก่โบราณของชนชาติญี่ปุ่น และแสวงหาสถานที่ที่ย้อนสู่ยุคเอโดะดั้งเดิม หมู่บ้านโบราณโออุจิจุคุ สามารถตอบโจทย์ได้เลยครับ😊
ซึ่งวันนี้ผมเที่ยวจนลืมเลยครับว่าต้องจองโรงแรม ผมเลยตัดสินใจไปหาโรงแรมที่ใกล้กับที่เที่ยวที่ผมจะไปพรุ่งนี้ เดี๋ยวเรามาลุ้นกันครับว่า ผมจะมีที่พักในคืนนี้ไหมใน Ep.5 เลยครับ
โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 :
ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 :
นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 :
แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
"อย่าทิ้งความฝัน เพียงเพราะแค่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนนะครับ"
Go Went Gone ไปไม่เว้น
-------------------------------
Fanpage :
https://www.facebook.com/gowentgonetrip
Instagram : gowentgonetrip
E-mail : gowentgonetrip@gmail.com
Website : www.gowentgonetrip.com
Youtube :
https://goo.gl/rSc2rQ
[CR] แจกแผนลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu Ep.4
โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 : ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 : นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 : แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
เพื่อน ๆ สามารถดูวีดีโอที่เที่ยวสุด Unseen ของเมือง Aizu-Wakamatsu ที่ผมเห็นแล้วสวยจนน้ำตาไหล ก่อนได้เลยครับ
----------------------------------------------
หลังจากที่ผม Check Out จากที่พักปุ๊ป ผมรีบไปที่ป้ายรถบัส Nanukamachi เพื่อรอรสบัสเที่ยวเมือง Aizu-Wakamatsu โดยที่นี่จะมีบริการถ Aizu Loop Bus จะมี 2 สี ได้แก่ สายสีเขียว (Haikara-san) วิ่งวนทวนเข็มนาฬิกา และสายสีแดง (Akabe) วิ่งตามเข็มนาฬิกา โดยรถทั้ง 2 สายนี้จะวิ่งเป็นวงกลม
ผ่านสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ในตัวเมืองนี้ทั้งหมดครับ
ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวในการนั่งรถทั้ง 2 สายนี้จะอยู่ที่ 210 เยน/คน/เที่ยว สำหรับผู้ใหญ่ และ 110 เยน/คน/เที่ยว สำหรับเด็ก ซึ่งผมแนะนำซื้อเหมาแบบ 1 Day Pass ไปเลยครับ สำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 500 เยน/คนเท่านั้นเอง ส่วนราคาตั๋ว 1 Day Pass สำหรับเด็กนั้นจะอยู่ที่ 250 เยน/คนครับ สามารถซื้อที่ สถานี Aizu-Wakamatsu ได้เลย โดยถ้าเราซื้อบัตรที่ชื่อว่า Aizu Gurutto Card จะสามารถใช้นั่งรถบัสและรถไฟในเขตเมืองนี้ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวถึง 2 วันเต็มๆ เลยครับ
โดยรถทั้งสองสายจะออกจากสถานี Aizu-Wakamatsu ทุกๆ 30 นาที
สายสีเขียว (Haikara-san) : 8.00-17.00 น.
สายสีแดง (Akabe) : 9.15-16.15 น.
เพื่อให้ได้เที่ยวเยอะที่สุด ผมรีบมาที่โชสุเกะโนะยาโดะ ทากิโนะยุ (Shosuke no Yado Takinoyu) ให้ลงป้ายรถบัส Higashiyama Onsen แล้วเดินย้อนลงมา ซึ่งที่นี่จะเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อน แต่ผมเลือกที่จะมาแช่ออนเซ็นอย่างเดียวในราคา 1,200 เยน
ก่อนแช่ออนเซ็น เค้ามีที่ให้แช่เท้า มองน้ำตก โคตรฟินเลยครับ
จุดแช่ออนเซ็นมีทั้งแบบห้องส่วนตัว และห้องรวม ซึ่ง ห้องรวมมีแบบกระจก และ แบบเปิดโล่ง เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์มากเลย มันเหมือนกับเราได้ปล่อยกาย ปล่อยใจ ปล่อยความทุกข์ ให้ไหลไปผ่านน้ำตก แถมทุกคืนจะมีการแสดงเพื่อความบันเทิงที่แตกต่างกันบนเวทีกลางแจ้งเช่น การเล่านิทาน เล่นซามิเซ็นในแบบฉบับของอาอิซุ (เครื่องสาย) ระบำเกอิชา ฯลฯ อีกด้วยครับ
หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จปุ๊ป ผมเดินขึ้นมาอีกนิดนึง จะเจอร้าน ราเมง ที่มีคนเยอะพอสมควร ผมเลยแวะเข้าไป ซึ่งทั้งชื่อร้าน ชื่อเมนูอาหาร เป็นภาษาญี่ปุ่น หมดเลย แต่อร่อยมากครับ
Higashiyama Onsen เป็นแหล่งออนเซ็นธรรมชาติที่ขึ้นชื่อมากๆ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยบรรดาที่พักต่างๆ ที่ถูกรายล้อมด้วยภูเขารอบด้านเลย แถมยังมีที่ให้แช่ออนเซ็นเท้าสาธารณะฟรีด้วยครับ
ปราสาทซึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือปราสาทนกกระเรียน โดยให้เรานั่งรถ Aizu Loop Bus มาลงที่จุด H15 สำหรับสายสีเขียว และจุด A26 สำหรับสายสีแดงนะครับ จากนั้นก็ให้เรามองหาป้ายชื่อปราสาทแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีก็จะเจอปราสาทครับ พอเดินทางมาถึงปราสาทให้ซื้อตั๋วเข้าชมภายในปราสาทจะมี 2 จุดคือ ขึ้นชมปราสาทอย่างเดียว 410 เยน แต่ถ้าเข้าชมสวนด้วย 510 เยน ผมแนะนำให้ซื้อแบบ 510 เยนเลยครับ
ที่ต่อไปคือ Oyakuen ที่นี่คือสถานที่พักผ่อนและสวนสมุนไพรของโทโนะซามะ (หัวหน้าสูงสุดของซามูไรไอสุ) ภายในเป็นสถานที่ร่มรื่นและสงบเหมาะสำหรับการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ที่นี่มีเรือนน้ำชาแบบญี่ปุ่นแท้ๆคอยต้อนรับผู้ที่มาเยือน โดยสามารถลงที่ป้าย Oyakuen ได้เลยครับ ราคา ตั๋วเข้าชมสถานที่ : 320 เยน และ ตั๋วเข้าชม+ดื่มชาและขนม : 700 เยนครับ
คราวนี้ผมเปลี่ยนเป็นเดินทางด้วยรถไฟกันบ้าง ผมกลับมาที่สถานี Aizu-Wakamatsu ต่อไปที่สถานี Tonohetsuri ใช้เวลาเพียง 40 นาที คือแบบ แค่ถึงสถานีรถไฟ น้ำตาจะไหล จะสวยไปไหน ยังมองไม่เห็นหน้าผา แต่ว่าป่ารอบตัวเวลานี้สวยไปหมดเลยครับการเกิดขึ้นของหินนี้ใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ล้านปี เลยเรียกว่า หน้าผาหินล้านปี Tonohetsuri ถูกสายน้ำ Okawa river กัดกร่อนเซาะจนเป็นรูปร่างหน้าตากลายหมู่เจดีย์ จนเป็นที่มาของชื่อ To แปลว่าเจดีย์ hetsuri แปลว่า หน้าผา Tonohetsuri หน้าผาเจดีย์ ที่แห่งนี้เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติที่งดงามไม่ว่าจะอยู่ในฤดูกาลไหน สีสันที่เปลี่ยนไปทั้ง 4 ฤดูก็สร้างความอัศจรรย์ใจทุกครั้ง เป็นผลงานศิลปะจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งยังง่ายต่อการท่องเที่ยวเพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเพียงเดินแค่ 3 นาทีเท่านั้นเองครับ
นั่งรถไฟย้อนมาแค่ 5 นาที ก็จะถึงสถานี Yunokami Onsen โดยจุดเด่นของสถานีนี้คือ มีที่ให้นั่งแช่เท้าฟรีด้วยครับ หลังจากนั้นพอเราออกจากสถานีก็ให้เราเลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปตามทางจะเห็นจุดรอรถบัสอยู่ โดยจะมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 500 เยน/คน/เที่ยว หรือเราจะเลือกซื้อเป็นตั๋ววันที่นั่งกี่รอบก็ได้ที่ราคา 1,000 เยน/คน ซึ่งตั๋วทั้งสองแบบนี้สามารถซื้อบนรถได้เลย ผมแนะนำให้ขอตารางเวลาการให้บริการของรถที่พนักงานไว้เลยครับ
โออุจิจุคุเป็นเมืองของโรงแรมในจังหวัด FukushimaของบริเวณMinamiaizu เมืองShimogo เป็นบรรยากาศสมัยEdo(1603-1868)ที่ยังคงเหลืออยู่ที่นี่ บ้านหลังคามุงจากกว่า30หลังเรียงรายอยู่บนถนนและบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ถูกเลือกให้ได้รับการอนุรักษ์สำหรับอาคารแบบโบราณ ศูนย์กลางของเมืองคือถนน Shimotsuke และถนนAizunishikaido ระหว่างสมัยEdo ถนนสองสายนี้เป็นเส้นทางการคมนาคมที่สำคัญ ซึ่งเชื่อมต่อกับบริเวณ Aizu-WakamatsuและNikko-Imaichi กลุ่มขุนนางสมัยก่อนและตระกูลHanที่4เคยใช้ถนนเหล่านี้ในอดีตเช่นกัน ณ ปัจจุบันแม้ว่ายุคเอโดะได้ล่มสลายไปนานแล้ว แม้แต่เมืองเอโดะก็ยังถูกสถาปนาชื่อใหม่ในนามของโตเกียว แต่ถ้าหากยังหลงใหลในวัฒนธรรมอันเก่าแก่โบราณของชนชาติญี่ปุ่น และแสวงหาสถานที่ที่ย้อนสู่ยุคเอโดะดั้งเดิม หมู่บ้านโบราณโออุจิจุคุ สามารถตอบโจทย์ได้เลยครับ😊
ซึ่งวันนี้ผมเที่ยวจนลืมเลยครับว่าต้องจองโรงแรม ผมเลยตัดสินใจไปหาโรงแรมที่ใกล้กับที่เที่ยวที่ผมจะไปพรุ่งนี้ เดี๋ยวเรามาลุ้นกันครับว่า ผมจะมีที่พักในคืนนี้ไหมใน Ep.5 เลยครับ
โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 : ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 : นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 : แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
"อย่าทิ้งความฝัน เพียงเพราะแค่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนนะครับ"
Go Went Gone ไปไม่เว้น
-------------------------------
Fanpage : https://www.facebook.com/gowentgonetrip
Instagram : gowentgonetrip
E-mail : gowentgonetrip@gmail.com
Website : www.gowentgonetrip.com
Youtube : https://goo.gl/rSc2rQ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้