โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 :
ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 :
ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 :
นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 :
แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
เช้าวันที่ 3 ผมรีบ Check Out จากโรงแรม APA Hotel Fukushima-Ekimae ผมรีบกลับไปที่สถานี Fukushima ทางออก East Exit เพื่อไปลองถามประชาสัมพันธ์อีกครั้งนึงว่า Mt.Azuma ยังสามารถไปได้ไหม ผมลุ้นมากเลยครับ และพนักงานก็ให้คำตอบผมว่า
55555555 ความฝันล่มสลายเหมือนเดิมครับ
ผมเลยเอาแผนของวันพรุ่งนี้มาใช้นั่นก็คือ เดินทางไป Iwaya Kannon ซึ่งเป็นหน้าผาแกะสลัก เดินทางโดยนั่งรถบัสสายใดก็ได้จาก จาก East Exit Bus Stop No. 2 ลงป้าย Iwayashita (ใช้เวลา 25 นาที) ราคา 270 เยนครับ
อยู่ใกล้ ๆ กับสถานี Fukushima เดินทางง่ายมากเลยครับ
รอบรถมีบ่อยมากครับ สามารถสอบถามพนักงานที่ประชาสัมพันธ์เพื่อความชัวร์ครับ
ทริปนี้ฝนตกมากหนักมากเลยครับ แต่ก็สนุกไปอีกแบบครับ
ใช้เวลาแค่ 25 นาที ก็จะถึงจุดหมาย ให้ลงป้าย Iwayashita
หลังจากนั้นเดินกลับมาอีกประมาณ 5 นาที ก็จะเห็นบ่อน้ำแบบนี้
หน้าบ่อน้ำก็จะมีทางบันไดสูง ๆ แบบนี้ครับ ซึ่งดูเหมือนจะใกล้ ๆ แต่เอาเข้าจริง หอบเลยครับ ฮ่า ๆ น่าจะเป็นเพราะผมแบกกระเป๋าขึ้นด้วยครับ
ขึ้นมาปุ๊ปก็จะเจอหน้าผาแกะสลักเลย ซึ่งเราสามารถเข้าดูได้ฟรี ไม่มีค่าบริการใดๆ
เลี้ยวซ้ายจะมีทางขึ้นไปดูหินสลักอีกหนึ่งจุกครับ
สภาพหินบางอันดูไม่ค่อยออกครับว่าเป็นรูปอะไร
ยังมีจุดชมวิวที่มีอารมณ์เหมือนสุสาน พร้อมไปกับวิวเมือง Fukushima สวยมากเลยครับ
ซึ่งที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่ใหญ่พอสมควร เค้าจะมีแผนที่บอกละเอียดเลยครับ สามารถเดินขึ้นไปบนยอดเขาได้อีก แต่ฝนตกหนักมากผมเลยหยุดอยู่แค่นี้ก่อน
ผมลืมไปว่า เช้านี้ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลย เที่ยวจนลืม 5555 ผมเลยรีบเดินลงเขามา ก็เจอกับร้าน Yoshinoya
เมนูที่นี่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่โชคดียังมีภาพให้ผมได้จิ้ม ๆ ฮ่า ๆ ผมเลยเลือก ข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้ลิ้มรส คำแรกที่เข้าปาก โอ้โห หอมกลิ่นย่างจากเตาถ่าน หวาน เค็ม กลมกล่อม ไม่หวานเกินไป เนื้อปลานุ่มมมมม กินกับข้าวญี่ปุ่น ช่างมีความสุขเหลือเกินครับ 5555
หลังจากนั้นผมรีบกลับมายังสถานี Fukushima เพื่อไปเข้าพักที่เมือง Aizu Wakamatsu ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยไม่แพ้ใครเลยครับ
โดยคืนนี้ผมจะพักที่ Tagoto Ryokan เป็นที่พักลักษณะเรียวกังที่ให้บริการมายาวนานกว่า 80 ปี โดยถ้าเราลงสถานี Aizu Wakamatsu เราสามารถนั่งรถบัสหน้าสถานีมาลงที่ป้ายรถเมย์ Nanukamachi ได้ แต่ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟเพื่อไปลงที่ Nanukamachi Station เลย ครับ
ใช้เวลาชั่วโมงนิด ๆ ผมก็มาถึง สถานี Nanukamachi ไม่มีคนเลยสักคนครับฮ่าๆ
คราวนี้ผมปักหมุด ใน Google Maps ว่า Cuisine inn Tagoto เดินจากสถานีแค่ 7 นาที ระยะทาง 550 เมตร กับบรรยากาศเย็น ๆ เพลินมากเลยครับ
นี่ครับมาถึงแล้ว Tagoto Ryokan ผมชอบที่นี่มาก เป็นที่พักลักษณะเรียวกังที่ให้บริการมายาวนานกว่า 80 ปี อยู่ในโซนที่ไม่ค่อยมีรถ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน มีที่จอดรถเยอะพอสมควร เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในกัน
ทุกคนก็ต้องถอดเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ซึ่งเราแค่ถอดวางไว้เฉย ๆ พนักงานจะหยิบขึ้นไปไว้บนตู้ให้เลยครับ
ภายในห้องนอน มีทีวี มีฮีตเตอร์ ปูเสื่อ ทาทามิ และนอนบนฟูกนุ่มๆ ปูไว้ให้เรียบร้อย แถมยังมีชุดยูกาตะ ชุดชงชา ส่วนห้องน้ำ มีออนเซ็นให้แช่ด้วยครับ
หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย ผมรีบกลับมาที่สถานี Nanukamachi เพื่อไปหาอะไรกินที่สถานี Aizu Wakamatsu ใช้เวลานั่งรถไฟเพียง 3 นาทีครับ
ออกมาจากสถานีให้มองไปทางขวา จะเห็นร้านอาหารเต็มเลย เอาจริง ๆ คือ ผมลองเดินสุ่มร้านเห็นร้านไหนคนเยอะก็ลองเข้าไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยครับว่า
ข้างในขายอะไร 5555 และผมดันมาเจอกับร้านนี้ครับ
เข้าไปข้างในลักษณะเป็นห้อง ๆ เป็นล็อค ๆ มีความเป็นส่วนตัวมากเลยครับ
บรรยากาศในห้องจะเป็นโต๊ะ นั่งได้ 4-5 คน มีทีวี มีที่แขวนเสื้อ มีปุ่มให้เรียกพนักงาน
ร้านนี้ดีมากครับ เค้ามีภาพ และ ภาษาอังกฤษด้วย เปิดไปเปิดมาผมก็มาเอ๊ะใจกับเมนูนี้ครับ Horse Sashimi ซาชิมิเนื้อม้า สดสด โอ้โห ผมรีบสั่งก่อนเพื่อนเลยครับ 5555 แต่ผมอยากลองหลาย ๆ อย่าง อีกอย่างที่ไม่เคยกินคือ เนื้อไก่สดสด ผมเลยสั่งทั้งเนื้อม้า และ เนื้อไก่ ครับ
มาแล้วครับ เนื้อม้า ก่อนทานผม Search ใน Google นานมากว่าจะมี พยาธิไหม คำตอบคือ เนื้อไหน ๆ ก็มีพยาธิครับ แต่อยู่ที่กรรมวิธีในการทำ ซึ่งผมอยากลอง เข้ามาขนาดนี้แล้ว ผมไว้ใจร้านนี้เลยก็แล้วกันครับ 5555
ซึ่งรสชาติม้าไม่เหมือนเนื้อที่เคยกินในชีวิตมาก่อนเลย ไม่คาว ไม่เหนียวเลย อร่อยมาก แต่กินไปนาน ๆ มันจะเลี่ยนนิดหน่อย เชื่อผมมาสักครั้งต้องลองครับ ส่วนเนื้อไก่ นิ่มเหมือนกันครับ แต่รสชาติยังคุ้น ๆ เหมือนที่เคยกินร้านหมูกระทะไม่สุกอยู่ แต่พิเศษตรงที่ไม่คาว ละลาย รสนุ่ม เนื้อแน่น แทบไม่ได้กลิ่นไก่เลย เขาทำมาดีจริงๆ อารมณ์เหมือนกินปลาดิบเนื้อแน่น (ประมาณทูน่า) อย่าพลาด!เลยครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด หมดไป 900 บาท ถือว่า อิ่ม และ คุ้มมากเลยครับ ขากลับขอถ่ายรูปคู่กับพนักงานเป็นที่ระลึกสักนิดครับ 5555
ชื่อสินค้า: ญีปุ่น, JR EAST PASS TOHOKU, TOHOKU, TAZAWAKO, NYUTO ONSEN, HACHINOHE, HASSHOKU CENTER, Asamushi Onsen, Hotel Akitaya, Cafe + Inn That sounds good, APA Hotel Keisei Narita, Kawatoyo, Toritsuneshizendou (鳥つね自然洞)
คะแนน:
[CR] แจกแผนลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด Ep.3
โปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดฟุคุชิมะใน 6 ตอน
Ep. 1 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima กับที่เที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนไป
Ep. 2 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima หนึ่งในร้อยเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
Ep 3 : ลุยเดี่ยวเที่ยว Fukushima ชิมเนื้อม้าซาซิมิ สด สด
Ep 4 : ตะลุยเมือง Aizu-Wakamatsu ดินแดนโบราณของโลกใบนี้
Ep 5 : นอนกระท่องกลางป่า Oze National Park
Ep 6 : แช่ออนเซ็นริมน้ำตกสุดพรีเมียม วิวหลักล้าน
เช้าวันที่ 3 ผมรีบ Check Out จากโรงแรม APA Hotel Fukushima-Ekimae ผมรีบกลับไปที่สถานี Fukushima ทางออก East Exit เพื่อไปลองถามประชาสัมพันธ์อีกครั้งนึงว่า Mt.Azuma ยังสามารถไปได้ไหม ผมลุ้นมากเลยครับ และพนักงานก็ให้คำตอบผมว่า
55555555 ความฝันล่มสลายเหมือนเดิมครับ
ผมเลยเอาแผนของวันพรุ่งนี้มาใช้นั่นก็คือ เดินทางไป Iwaya Kannon ซึ่งเป็นหน้าผาแกะสลัก เดินทางโดยนั่งรถบัสสายใดก็ได้จาก จาก East Exit Bus Stop No. 2 ลงป้าย Iwayashita (ใช้เวลา 25 นาที) ราคา 270 เยนครับ
อยู่ใกล้ ๆ กับสถานี Fukushima เดินทางง่ายมากเลยครับ
รอบรถมีบ่อยมากครับ สามารถสอบถามพนักงานที่ประชาสัมพันธ์เพื่อความชัวร์ครับ
ทริปนี้ฝนตกมากหนักมากเลยครับ แต่ก็สนุกไปอีกแบบครับ
ใช้เวลาแค่ 25 นาที ก็จะถึงจุดหมาย ให้ลงป้าย Iwayashita
หลังจากนั้นเดินกลับมาอีกประมาณ 5 นาที ก็จะเห็นบ่อน้ำแบบนี้
หน้าบ่อน้ำก็จะมีทางบันไดสูง ๆ แบบนี้ครับ ซึ่งดูเหมือนจะใกล้ ๆ แต่เอาเข้าจริง หอบเลยครับ ฮ่า ๆ น่าจะเป็นเพราะผมแบกกระเป๋าขึ้นด้วยครับ
ขึ้นมาปุ๊ปก็จะเจอหน้าผาแกะสลักเลย ซึ่งเราสามารถเข้าดูได้ฟรี ไม่มีค่าบริการใดๆ
เลี้ยวซ้ายจะมีทางขึ้นไปดูหินสลักอีกหนึ่งจุกครับ
สภาพหินบางอันดูไม่ค่อยออกครับว่าเป็นรูปอะไร
ยังมีจุดชมวิวที่มีอารมณ์เหมือนสุสาน พร้อมไปกับวิวเมือง Fukushima สวยมากเลยครับ
ซึ่งที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่ใหญ่พอสมควร เค้าจะมีแผนที่บอกละเอียดเลยครับ สามารถเดินขึ้นไปบนยอดเขาได้อีก แต่ฝนตกหนักมากผมเลยหยุดอยู่แค่นี้ก่อน
ผมลืมไปว่า เช้านี้ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลย เที่ยวจนลืม 5555 ผมเลยรีบเดินลงเขามา ก็เจอกับร้าน Yoshinoya
เมนูที่นี่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่โชคดียังมีภาพให้ผมได้จิ้ม ๆ ฮ่า ๆ ผมเลยเลือก ข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้ลิ้มรส คำแรกที่เข้าปาก โอ้โห หอมกลิ่นย่างจากเตาถ่าน หวาน เค็ม กลมกล่อม ไม่หวานเกินไป เนื้อปลานุ่มมมมม กินกับข้าวญี่ปุ่น ช่างมีความสุขเหลือเกินครับ 5555
หลังจากนั้นผมรีบกลับมายังสถานี Fukushima เพื่อไปเข้าพักที่เมือง Aizu Wakamatsu ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยไม่แพ้ใครเลยครับ
โดยคืนนี้ผมจะพักที่ Tagoto Ryokan เป็นที่พักลักษณะเรียวกังที่ให้บริการมายาวนานกว่า 80 ปี โดยถ้าเราลงสถานี Aizu Wakamatsu เราสามารถนั่งรถบัสหน้าสถานีมาลงที่ป้ายรถเมย์ Nanukamachi ได้ แต่ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟเพื่อไปลงที่ Nanukamachi Station เลย ครับ
ใช้เวลาชั่วโมงนิด ๆ ผมก็มาถึง สถานี Nanukamachi ไม่มีคนเลยสักคนครับฮ่าๆ
คราวนี้ผมปักหมุด ใน Google Maps ว่า Cuisine inn Tagoto เดินจากสถานีแค่ 7 นาที ระยะทาง 550 เมตร กับบรรยากาศเย็น ๆ เพลินมากเลยครับ
นี่ครับมาถึงแล้ว Tagoto Ryokan ผมชอบที่นี่มาก เป็นที่พักลักษณะเรียวกังที่ให้บริการมายาวนานกว่า 80 ปี อยู่ในโซนที่ไม่ค่อยมีรถ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน มีที่จอดรถเยอะพอสมควร เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในกัน
ทุกคนก็ต้องถอดเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ซึ่งเราแค่ถอดวางไว้เฉย ๆ พนักงานจะหยิบขึ้นไปไว้บนตู้ให้เลยครับ
ภายในห้องนอน มีทีวี มีฮีตเตอร์ ปูเสื่อ ทาทามิ และนอนบนฟูกนุ่มๆ ปูไว้ให้เรียบร้อย แถมยังมีชุดยูกาตะ ชุดชงชา ส่วนห้องน้ำ มีออนเซ็นให้แช่ด้วยครับ
หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย ผมรีบกลับมาที่สถานี Nanukamachi เพื่อไปหาอะไรกินที่สถานี Aizu Wakamatsu ใช้เวลานั่งรถไฟเพียง 3 นาทีครับ
ออกมาจากสถานีให้มองไปทางขวา จะเห็นร้านอาหารเต็มเลย เอาจริง ๆ คือ ผมลองเดินสุ่มร้านเห็นร้านไหนคนเยอะก็ลองเข้าไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยครับว่า
ข้างในขายอะไร 5555 และผมดันมาเจอกับร้านนี้ครับ
เข้าไปข้างในลักษณะเป็นห้อง ๆ เป็นล็อค ๆ มีความเป็นส่วนตัวมากเลยครับ
บรรยากาศในห้องจะเป็นโต๊ะ นั่งได้ 4-5 คน มีทีวี มีที่แขวนเสื้อ มีปุ่มให้เรียกพนักงาน
ร้านนี้ดีมากครับ เค้ามีภาพ และ ภาษาอังกฤษด้วย เปิดไปเปิดมาผมก็มาเอ๊ะใจกับเมนูนี้ครับ Horse Sashimi ซาชิมิเนื้อม้า สดสด โอ้โห ผมรีบสั่งก่อนเพื่อนเลยครับ 5555 แต่ผมอยากลองหลาย ๆ อย่าง อีกอย่างที่ไม่เคยกินคือ เนื้อไก่สดสด ผมเลยสั่งทั้งเนื้อม้า และ เนื้อไก่ ครับ
มาแล้วครับ เนื้อม้า ก่อนทานผม Search ใน Google นานมากว่าจะมี พยาธิไหม คำตอบคือ เนื้อไหน ๆ ก็มีพยาธิครับ แต่อยู่ที่กรรมวิธีในการทำ ซึ่งผมอยากลอง เข้ามาขนาดนี้แล้ว ผมไว้ใจร้านนี้เลยก็แล้วกันครับ 5555
ซึ่งรสชาติม้าไม่เหมือนเนื้อที่เคยกินในชีวิตมาก่อนเลย ไม่คาว ไม่เหนียวเลย อร่อยมาก แต่กินไปนาน ๆ มันจะเลี่ยนนิดหน่อย เชื่อผมมาสักครั้งต้องลองครับ ส่วนเนื้อไก่ นิ่มเหมือนกันครับ แต่รสชาติยังคุ้น ๆ เหมือนที่เคยกินร้านหมูกระทะไม่สุกอยู่ แต่พิเศษตรงที่ไม่คาว ละลาย รสนุ่ม เนื้อแน่น แทบไม่ได้กลิ่นไก่เลย เขาทำมาดีจริงๆ อารมณ์เหมือนกินปลาดิบเนื้อแน่น (ประมาณทูน่า) อย่าพลาด!เลยครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด หมดไป 900 บาท ถือว่า อิ่ม และ คุ้มมากเลยครับ ขากลับขอถ่ายรูปคู่กับพนักงานเป็นที่ระลึกสักนิดครับ 5555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้