คุกโหดสมัยก่อน เอาไว้ขังคน ยืมเงินไม่คืน โดยเฉพาะ!!

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชาแนล Who Askk นะครับ ตอนนี้คุณอยู่กับผมอีกครั้ง ลัก ครับ
จำความรู้สึกสุดหัวร้อนเวลา โดนยืมเงินไม่คืน ได้ป่ะครับ คือตอนบากหน้ามาขอเรานี่แทบจะคลานเข่ามา แต่พอจะขอเงินคืน ครบกำหนดเวลาที่ตกลงกันผักวันประกันพรุ่ง แถมบางคนนี่หน้าด้านหน้าทน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เจอแบบนี้ทำได้เต็มที่ก็ตัดเพื่อนกันไป ถือซะว่าซื้อใจกันกับคนแบบนั้น
.
แต่ในสมัยก่อนนี่เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นบ่อยๆ แน่นอน เพราะคนในอดีตเค้าถึงขนาดทำคุกขึ้นมาสำหรับขังพวก ยืมเงินไม่คืน โดยเฉพาเลย

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยน้าาา : )

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ซึ่งเรื่องนี้เอาจริงๆ ก็เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษนี่แหละครับ ในสมัยศตวรรษที่ 14 การยืมเงินไม่คืนเค้านับว่าเป็นอะไรที่เลวร้ายมากๆ เลยนะ เพราะกว่าจะทำงานหาเงินกันมาได้แต่ละบาท แต่ละสตางค์ อยู่ๆ มายืมไปแล้วไม่คืนแบบนี้มันมิจฉาชีพชัดๆ เลย
.
ทางการถือว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก คนพวกนี้ต้องโดนจับเข้าคุกสถานเดียว และด้วยความเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ คุกสำหรับขังพวกลูกหนี้ขี้คอกทั้งหลายเลยถือกำเนิดขึ้น ภายใต้ชื่อว่า Marshalsea ซึ่งมีเอาไว้ใช้ขังลูกหนี้ที่ยืมเงิน กู้เงินกันไปเกิน 11,000 บาทแล้วทำนิสัยไม่ดีคิดจะชิ่ง หรือเบี้ยวหนี้ ก็ต้องโดนตามตัวมาขังคุกด่วนๆ
.
.
และแน่นอนครับว่าคนประเภทนี้เนี่ยมันไม่ใช่เพิ่งจะมาเริ่มยั้วเยี้ยในรุ่นเรานะ แต่มันถือกำเนิดสืบต่อเจตนารมกันมาตั้งแต่สมัยก่อนนู้นเลย เพราะขนาดในศตวรรษที่ 14 ก็มีคนถูกจับขังคุกขี้คอกนี้มากถึง 10,000 รายทุกปีแล้ว คือเยอะมาก และส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพวกรากหญ้าชนชั้นแรงงานที่ยากจนเนี่ยแหละ พอทำงานแล้วมันใช้เงินไม่พอก็ไปหยิบยืม แล้วพอหยิบยืมก็เอาไปคืนไม่ทันตามกำหนด ก็ติดคุกกันไปตามระเบียบ
.
แถมแค่ติดคุกอย่างเดียวยังไม่เจ็บปวดรวดร้าวพอนะครับ แต่การที่คุณโดนจับมาอยู่ที่นี่ เท่ากับว่าคุณต้องจ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ให้กับสิ่งที่คุณใช้ด้วย ไม่ได้อยู่ฟรี กินฟรี เหมือนคุกปัจจุบัน คือนักโทษต้องจ่ายทั้งค่าห้อง ค่าอาหาร แถมภายในก็มีร้านเหล้าขายอีกซะอย่างงั้น (ถ้าอยากกินก็ต้องซื้อนะจ๊ะ) พอมีสิ่งล่อตาล่อใจเพียงอย่างเดียวในคุกแบบนี้ มีเงินเท่าไหร่ก็ต้องเอามาใช้กับสิ่งนี้จนหมดนี่แหละครับ ยิ่งอยู่ ยิ่งเป็นหนี้
.
.
หนทางเดียวที่จะทำให้ปลดเปลื้องพันธนาการตัวเองออกได้ กลับมาใช้ชีวิตอย่างปัจจุบันก็คือ ต้องออกไปทำงานเพื่อหาเงิน แล้วพอตกดึกก็กลับมานอนที่คุกเหมือนเดิม
.
และแน่นอนเพราะคำว่า ยืมเงินไม่คืน มันค้ำคออยู่ทำให้ไม่มีร้านไหนเค้ารับเข้าทำงาน แถมยังเป็นนักโทษอีก แบบนี้ใครจะอยากมาเสี่ยงถูกป่ะ เกิดฆ่าเจ้าของร้านขโมยเงินขึ้นมาทำไงอ่ะ แค่รู้ว่าติดคุกอยู่เจ้าของร้านก็ไล่แล้วครับ เพราะแบบนี้แหละในปี 1729 เลยมีนักโทษในเรือนจำแห่งนี้อดอยากปากแห้ง ไม่มีอะไรกิน เพราะไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน และไม่มีเงินมาซื้ออาหารจนอดตายไปมากถึง 300 คน
.
.
เอาเข้าจริงๆ ก็น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้าของเงินสักหน่อย ถ้ายืมมาแล้วก็ต้องคืน เรื่องมันก็ง่ายๆ แค่นั้นเอง หรือถ้ารู้ว่าตัวเองใช้เงินไม่พอ ก็อาจจะต้องลดบางสิ่งบางอย่างลง กินข้าววันละมื้อเพื่อให้พออยู่ไหว หรือไม่ใช้จ่ายกับอะไรที่ฟุ่มเฟือยเลยก็คงจะช่วยให้อยู่รอดได้โดยไม่ต้องถึงขั้นกู้ยืมจนติดคุกแบบนี้มั้ง
.
.
แต่ความโหดร้ายของคุกแห่งนี้ยังไม่หมดเท่านั้นนะครับ เพราะจากปากคำให้การของคนวงในเนี่ยเค้าบอกว่า ผู้คุมที่นี่โหดร้ายมาก ต่อให้ทำงานยังไง ได้เงินกลับมาก็ต้องโดนผู้คุมดักรุมไถตังกันอีก เพราะที่คุกแห่งนี้มันมีกฎมากมายที่ผู้คุมเค้าตั้งกันไว้เอง แล้วนักโทษคนไหนทำผิดกฎก็ต้องจ่ายเงินเป็นการลงโทษ
.
เช่น กฎห้ามเสียงดังเกินไป กฎห้ามชกต่ายกัน กฎห้ามสูบบุหรี่ กฎห้ามขโมยของ ซึ่งฟังดูแล้วก้อาจจะเป็นกฎทั่วๆ ไปใช่มั้ยครับ แต่ช่องโหว่ของมันคือ ไม่มีใครคอยคุ้มครองนักโทษแบบจริงจังเลยสักคนเนี่ยแหละ ทำให้ผู้คุมสามารถมั่วแหลกแจกโชคขึ้นมาได้ว่า ใครทำเรื่องอะไรที่ผิดกฎบ้าง ถ้าไม่จ่ายก็โดนทำโทษ พอจ่ายผู้คุมก็ได้ใจ และกลับมาเล่นงานใหม่อยู่แบบนั้นแหละ แย่ทั้งคน ยืมเงินไม่คืน แย่ทั้งผู้คุม
.
.
และความพีคที่ทำให้คุกแห่งนี้ต้องปิดตัวลงในที่สุดก็เพราะ มันแย่งชิงอิสรภาพของนักโทษมากเกินไป เพราะวันๆ นึงนักโทษต้องเจอทั้งค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าทำผิดกฎที่ผู้คุมโมเมขึ้นมา แล้วจะออกจากคุกนี้ได้ก็ต่อเมื่อคืนเงินเจ้าหนี้หมดแล้วเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าโดนเก็บเงินขนาดนี้จะเอาอะไรไปคืนเจ้าหนี้เค้าวะ ถูกป่ะ มันก็ต้องติดอยู่ในนั้นจนตายนั่นแหละ ซึ่งในวันที่คุกนี้ปิดตัวลงก็พบว่ามีคนที่ติดอยู่ในคุกนี้นานถึง 30 ปีด้วย เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้คืนเจ้าหนี้ได้หมดนั่นเอง
.
.
แต่เห็นคุกขังคน ยืมเงินไม่คืน มันโหดร้ายแบบนี้แต่คนภายในเค้าก็อาจจะไม่รู้สึกแบบนั้นก็ได้มั้ง เพราะบางคนถึงขนาดหอบเอาลูกเอาเมียมาอาศัยอยู่ในคุกด้วยเลยซะอย่างนั้น จนเกิดเป็นชุมชนในคุกขึ้นมาเลย พวกเหล่านักโทษก็เลยเห็นว่ามันมีโอกาสทำเงินได้อยู่เยอะแยะไปหมด ก็เลยดีลกับผู้คุมขอเปิดร้านนู้นร้านนี้ขึ้นมา จนวันสุดท้ายที่ปิดคุก เค้าพบว่ามันมีทั้งร้านค้าต่างๆ มากมาย ทั้งร้านกาแฟ ร้านสเต็ก ร้านตัดผม บางครอบครัวนี่อยู่มานานจนลูกหลานแต่งงานกันในนี้เลย
.
ไม่รู้จะสงสาร หรือจะยังไงกับพวก ยืมเงินไม่คืน เหล่านี้ดีนะครับ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าไงกันบ้างกับเรื่องนี้ อยากให้คุกแบบนี้กลับมาเปิดอีกครั้งมั้ย หรือคิดว่ามันปิดไปก็ดีแล้ว สงสารคนเหล่านี้ ก็คอมเมนท์มาได้เลยนะ อยากรู้ว่าจริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่รู้สึกยังไงบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่