สวัสดีครับ ผมขออนุญาต เล่าที่มา และขอคำแนะนำจากผู้รู้ ทีนะครับ
คือผมได้รับทุนเรียนต่อ ป.เอก จากมหาวิทยาลัย แต่เนื่องด้วยเหตุหลายอย่างไม่สามารถที่จะเรียนให้จบตามเกณฑ์ได้ ซึ่งใช้เงินไปแล้ว 140,000 บาท หลังจากนั้นทางผู้ให้ทุน ได้มีหนังสือแจ้งให้ใช้ทุนคืน พร้อมเบี้ยปรับ 1 เท่า รวมทั้งหมด เป็น 280,000 บาท ภายใน 30 วัน หากเกินเวลาที่กำหนดจะ จะมีเกณฑ์ให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนพร้อมคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี จำนวน 48 งวด รวมแล้วผมเป็นหนี้ทั้งหมด ประมาณเกือบ 350,000 บาท ตกที่ต้องชำระเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 7,000 กว่า บาท ประเด็นที่จะขอคำปรึกษาคือ
1. ผมไม่มีพอที่จะจ่ายรายเดือน ตามกำหนดให้ได้
2. พอมีวิธีอื่นที่จะสามารถชำระได้ มากกว่านี้รึเปล่า คือเมื่อหักรายได้ยอดสุทธิแล้ว สามารถจ่ายได้แค่ เดือนละ 2000 เอง แต่นิติกรมหาวิทยาลัย ไม่ยอม ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นระเบียบกลางที่กำหนด เช่น ที่ผมขอเสนอการผ่อนชำระคือ จ่ายเดือนละ 2000 เป็นเวลา 47 งวด และงวดสุดท้าย ขอจ่ายเป็นก้อน ปิดบัญชี หรือ ขอจ่ายเป็นรายปี แทน เพราะอย่างน้อยผมจะได้มีเวลาตั้งตัวและหารายได้ทางอื่นมาใช้เพิ่มได้
3. ผมไม่เคยคิดจะหนีทุน และยังทำงานด้วยดีเสมอมาในมหาวิทยาลัยที่ให้ทุน แต่เหมือนโดนเอาเปรียบ ตั้งแต่ปรับ 1 เท่า และยังคิดดอกเบี้ยเพิ่ม ร้อยละ 7 และหากไม่จ่ายตามเวลา จะคิดเป็นร้อยละ 15 ต่อปี ตอนที่ให้ทุนเวลาจะเบิกกว่าจะได้ และจ่ายเป็นเทอมที่ แต่เวลาคืนทุนต้องมาให้จ่ายเป็นก้อน และลาเรียนแค่บางเวลาเท่านั้น คือ วันจันทร์ กับ วันศุกร์ นอกนั้นทำงานปกติ ตลอด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนให้ลาเต็มเวลาเพราะไม่อยากจ้างอัตราเพิ่ม
4. นิติกรมหาวิทยาลัยที่ให้ทุนไม่สามารถให้คำปรึกษาอะไรได้นอก พูดว่าเกณฑ์เป็นแบบที่กล่าวข้างต้น ผมเลยคิดว่าจะทำบันทึกข้อความถึงผู้บริหาร คือ ท่านอธิการบดี (มหาวิทยาลัยนี้ ทำอะไรต้องแจ้งที่อธิการบดี ก่อนเสมอนะครับ ) เพื่อขอให้พิจารณารูปแบบการคืนทุน ตามที่ผมเสนอ แต่ไม่ทราบว่าจะเห็นควรว่าอย่างไร เพราะที่ผ่านมาการทำบันทึกข้อความต่างๆ เรียนท่าร ท่านไม่ให้เหตุอะไรซักอย่าง มีแต่แทงหนังสือตามผู้รับผิดชอบ กรณีนี้ก็เช่นกัน ก็ส่งมาที่ฝ่ายนิติกร อีกเช่นเดี่ยวกัน เหมือนกับโยนให้กันไปมา ฝ่ายนิติกรก็บอกไม่มีอำนาจพิจารณาตัดสินเอง ส่วนฝ่ายบริหารก็แทงหนังสือมอบให้ฝ่ายนิติกร จัดการ ทำให้ผมรู้สึกสับสนกับกระบวนการนี้มาก
5. หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ จะต้องรอให้ฟ้องที่ศาลรึเปล่าครับ ผมไม่มีประสบการณ์แบบนี้เลย และไม่รู้จะมีผลดีผลร้ายกับชีวิตหน้าที่การงานในอนาคตรึป่าว
หากท่านใดมีประสบการณ์แนวนี้หรือคำแนะนำแนวทางที่ดี ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะที่นี้ครับ
ทำยังไงดี ผิดสัญญาทุนเรียน จะใช้ทุนคืนแต่ยังไม่มีเงินคืน
คือผมได้รับทุนเรียนต่อ ป.เอก จากมหาวิทยาลัย แต่เนื่องด้วยเหตุหลายอย่างไม่สามารถที่จะเรียนให้จบตามเกณฑ์ได้ ซึ่งใช้เงินไปแล้ว 140,000 บาท หลังจากนั้นทางผู้ให้ทุน ได้มีหนังสือแจ้งให้ใช้ทุนคืน พร้อมเบี้ยปรับ 1 เท่า รวมทั้งหมด เป็น 280,000 บาท ภายใน 30 วัน หากเกินเวลาที่กำหนดจะ จะมีเกณฑ์ให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนพร้อมคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี จำนวน 48 งวด รวมแล้วผมเป็นหนี้ทั้งหมด ประมาณเกือบ 350,000 บาท ตกที่ต้องชำระเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 7,000 กว่า บาท ประเด็นที่จะขอคำปรึกษาคือ
1. ผมไม่มีพอที่จะจ่ายรายเดือน ตามกำหนดให้ได้
2. พอมีวิธีอื่นที่จะสามารถชำระได้ มากกว่านี้รึเปล่า คือเมื่อหักรายได้ยอดสุทธิแล้ว สามารถจ่ายได้แค่ เดือนละ 2000 เอง แต่นิติกรมหาวิทยาลัย ไม่ยอม ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นระเบียบกลางที่กำหนด เช่น ที่ผมขอเสนอการผ่อนชำระคือ จ่ายเดือนละ 2000 เป็นเวลา 47 งวด และงวดสุดท้าย ขอจ่ายเป็นก้อน ปิดบัญชี หรือ ขอจ่ายเป็นรายปี แทน เพราะอย่างน้อยผมจะได้มีเวลาตั้งตัวและหารายได้ทางอื่นมาใช้เพิ่มได้
3. ผมไม่เคยคิดจะหนีทุน และยังทำงานด้วยดีเสมอมาในมหาวิทยาลัยที่ให้ทุน แต่เหมือนโดนเอาเปรียบ ตั้งแต่ปรับ 1 เท่า และยังคิดดอกเบี้ยเพิ่ม ร้อยละ 7 และหากไม่จ่ายตามเวลา จะคิดเป็นร้อยละ 15 ต่อปี ตอนที่ให้ทุนเวลาจะเบิกกว่าจะได้ และจ่ายเป็นเทอมที่ แต่เวลาคืนทุนต้องมาให้จ่ายเป็นก้อน และลาเรียนแค่บางเวลาเท่านั้น คือ วันจันทร์ กับ วันศุกร์ นอกนั้นทำงานปกติ ตลอด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนให้ลาเต็มเวลาเพราะไม่อยากจ้างอัตราเพิ่ม
4. นิติกรมหาวิทยาลัยที่ให้ทุนไม่สามารถให้คำปรึกษาอะไรได้นอก พูดว่าเกณฑ์เป็นแบบที่กล่าวข้างต้น ผมเลยคิดว่าจะทำบันทึกข้อความถึงผู้บริหาร คือ ท่านอธิการบดี (มหาวิทยาลัยนี้ ทำอะไรต้องแจ้งที่อธิการบดี ก่อนเสมอนะครับ ) เพื่อขอให้พิจารณารูปแบบการคืนทุน ตามที่ผมเสนอ แต่ไม่ทราบว่าจะเห็นควรว่าอย่างไร เพราะที่ผ่านมาการทำบันทึกข้อความต่างๆ เรียนท่าร ท่านไม่ให้เหตุอะไรซักอย่าง มีแต่แทงหนังสือตามผู้รับผิดชอบ กรณีนี้ก็เช่นกัน ก็ส่งมาที่ฝ่ายนิติกร อีกเช่นเดี่ยวกัน เหมือนกับโยนให้กันไปมา ฝ่ายนิติกรก็บอกไม่มีอำนาจพิจารณาตัดสินเอง ส่วนฝ่ายบริหารก็แทงหนังสือมอบให้ฝ่ายนิติกร จัดการ ทำให้ผมรู้สึกสับสนกับกระบวนการนี้มาก
5. หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ จะต้องรอให้ฟ้องที่ศาลรึเปล่าครับ ผมไม่มีประสบการณ์แบบนี้เลย และไม่รู้จะมีผลดีผลร้ายกับชีวิตหน้าที่การงานในอนาคตรึป่าว
หากท่านใดมีประสบการณ์แนวนี้หรือคำแนะนำแนวทางที่ดี ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะที่นี้ครับ