เคยเขียนถึงแม่แล้ว แต่ยังไม่เคยเขียนถึงพ่อเลย ว่าจะเขียนถึงช่วงวันพ่อ ก็มีอะไรให้ทำก่อนสิ้นปีแบบชนิดที่เรียกว่ายุ่งขิงมาก ๆ
ปีใหม่ที่ผ่านมา ได้ไปพักที่บ้านพักตากอากาศของเพื่อนใกล้ ๆ เขาตะเกียบ เห็นสามีกับลูกสาวทั้งสามคน คุยกัน เดินเล่น จูงมือกันริมชายหาด บางที พ่อนอน ยัยลูกสาวคนเล็กก็ไปนัวเนีย ปีนป่าย เกาะก่าย ไปบนตัวพ่อราวกับจะสิงร่าง เลยนึกอยากทำให้เขียนถึงเรื่องพ่อกับลูกสาวขึ้นมา
บทความที่อ่าน ประสบการณ์ที่เห็น ทำให้รู้สึกได้มากว่า พ่อมีอิทธิพลกับลูกสาวมากกว่าที่ใครอาจจะคาดคิดไปถึง ผู้หญิงทุกคนมีพ่อเป็นผู้ชายคนแรกที่รู้จัก จึงไม่แปลกที่หลายคนที่มีความสัมพันธ์ ความผูกพัน ความทรงจำที่ดีกับพ่อ จะเลือกผู้ชายที่มีลักษณะบางอย่างหรือหลายอย่างคล้ายพ่อตัวเอง กระทั่งคนที่ไม่ลงรอยกับพ่อ หรือไม่ถูกกับพ่อ และมักบอกว่า จะ “ไม่เลือกคนที่เหมือนพ่อ” ก็ยังมี “พ่อ” เป็นศูนย์กลาง เอาพ่อเป็นหลักว่านิสัยอย่างนี้ ๆ ๆ ของพ่อ เราชอบ นิสัยอย่างนี้ ๆ ๆ ของพ่อ เราไม่ชอบ เพราะงั้น เราจะไม่เลือก
ทำไมพ่อจึงมีอิทธิพลต่อลูกสาวนัก ?
- พ่อเป็นผู้ชายคนแรกที่ลูกสาวรู้จัก เป็นตัวอย่างแรกของความเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างแรกของความเป็นลูกผู้ชาย อาจจะไม่อ่อนหวาน หรือ อ่อนโยนเหมือนแม่ แต่การมีพ่ออยู่ใกล้ ๆ มันให้ความรู้สึกอุ่นใจกึ่งภูมิใจ ภูมิใจอะไรยังไงก็ตอบไม่ถูก แต่รู้สึกอุ่นใจที่มีผู้ชายสูง ๆ (อย่างน้อยก็สูงกว่าลูกสาว) คอยอุ้มหรือเข็นรถให้
“It is admirable for a man to take his son fishing, but there is a special place in heaven for the father who takes his daughter shopping.” – John Sinor
เป็นเรื่องน่าชื่นชมสำหรับการที่พ่อกับลูกชายออกไปตกปลากัน แต่มีที่พิเศษสุดบนสรวงสวรรค์สำหรับพ่อที่พาลูกสาวออกไปช้อปปิ้งซื้อของ --- จอห์น ไซเนอร์
- อยู่กับพ่อแล้วสนุก ได้แหกกฎบ้าง ได้ทำอะไรที่แม่มักจะห้ามบ้าง เช่น ถ้าแม่ไม่อยู่ เดี๋ยวพ่อจะรินเป๊ปซี่ให้ เดี๋ยวจะตื่นสายได้โดยไม่มีคนบ่น ออกไปเล่นน้ำฝนได้บ้าง เล่นเกมส์ทั้งวันได้ ทำเสื้อเลอะเล่นจนเนื้อตัวมอมแมมได้
ผู้ชาย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ยังมีส่วนที่เป็นเด็กเสมอค่ะ บางทีพ่อก็อาจจะแหย่อะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบเด็ก ๆ
เราจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ป่าป๊าเราจับตั๊กแตนแอบไว้กระเป๋ากางเกง แล้วล้วงออกมาแหย่ให้ลูกกรี๊ดกร๊าดลั่นบ้าน
เรื่องนี้เป็นจริงทุกเชื้อชาติค่ะ ฝรั่งยังบอกเลยว่า
“Dad. He can play like a kid, give advice like a friend, and protect like a bodyguard.” – Unknown
พ่อ --- เป็นผู้ชายที่เล่นได้เหมือนเด็ก ๆ ให้คำแนะนำได้เหมือนเพื่อน และปกป้องคุณได้เหมือนบอดี้การ์ด
“A little girl giggles when she is denied an ice-cream by her mother. She knows daddy will get her some later.” – Unknown
เด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะกิ๊กกั๊กเวลาแม่ไม่ให้กินไอศกรีม เธอรู้ว่า เดี๋ยวพ่อก็ให้กินเองแหละ
- ในเหตุการณ์ครอบครัวปกติ ลูกสาวมักรักและชื่นชมพ่ออย่างเป็นธรรมชาติ อย่างอัตโนมัติ อย่างไม่ต้องใช้เหตุผล แม้พ่อจะมีข้อเสียอะไรอื่น ๆ อีกหมื่นแปดพันอย่าง ถ้ามันไม่หนักหนาสาหัสหรือทำร้ายจิตใจกันมากจนเกินไปแล้ว ลูกสาวมักมองข้ามหรือแทบไม่พูดถึง จะโฟกัสแต่ข้อดีของพ่อแทน
สำหรับลูกสาวแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเธอยังเป็นเด็ก พ่อเป็นฮีโร่เสมอ เพราะงั้น ถ้าคุณเป็นเจ้านายหรือหัวหน้าใคร อย่าดุด่าลูกน้องคุณต่อหน้าลูกเขาเด็ดขาด เพื่อถนอมหัวใจของเด็กหญิงน้อย ๆ ที่มองพ่อเธอเป็นยอดมนุษย์
ตอนเราสนิทกับผู้ชายคนหนึ่งสมัยวัยละอ่อน เราจำได้ว่า ไม่ว่าเขาจะขับรถ หรือทำอะไรก็ตาม เรามักเปรียบเทียบกับพ่อเราเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้น เอารถเข้าจอดในช่องว่างไม่ได้ ก็เลยขับออกไป เราหลุดปากออกไปว่า
“โห... นี่ถ้าเป็นป่าป๊าเรานะ แค่นี้เอง ถอยรถเข้าได้แน่นอน”
ชายหนุ่มหัวเสียมาก หันมาบอกเราว่า
“ถ้าเอารถเข้าช่องนั้นได้ พ่อเธอคงเป็นเทวดาแล้วละ เพราะช่องนั้น มันสั้นกว่ารถอีก” แป่วววววววว
พอเราโตขึ้น เห็นอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น เราก็จะรู้โดยธรรมชาติได้เองว่า ถ้ามองอย่างเป็นกลางแล้ว พ่อเราอาจจะไม่ได้เก่งสุด หล่อสุด ดีสุดหรอก แต่จะมีเสียงเล็ก ๆ ในหัวใจแย้งออกมาเสมอว่า ถึงจะไม่เก่งสุด หล่อสุด ดีสุดในสายตาใคร แต่อย่างน้อย ก็เก่ง หล่อ และดีในสายตาเรานั่นแหละ
ลูกเราคนเล็กยังมีความนึกคิดและอารมณ์แบบเด็ก ๆ อยู่มาก เธอจะติดอยู่กับความคิดว่า ป๋าเธอเก่ง หล่อ และเจ๋งที่สุด ทำอะไรให้เธอได้ทุกอย่าง รักและถนอมเธอที่สุด เวลาทะเลาะกับเรา จึงมักบอกว่า “ไม่รักหม่ามี้แล้ว ลูกรักป๋าที่สุด รักป๋าคนเดียว”
ส่วนลูกสองคนโต โตพอที่จะรู้แล้วว่า มีอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกันที่ป๋าก็ทำได้ไม่ถนัดนัก แต่ถึงอย่างนั้น ความรัก ความชื่นชม และความผูกพันก็ไม่ได้ลดน้อยลง
มีคำกล่าวไว้ว่า
“ตอนที่คุณยังเด็ก คุณคิดว่าพ่อคุณเป็นซูเปอร์แมน ต่อเมื่อคุณโตขึ้น คุณถึงได้ประจักษ์ว่า จริง ๆ แล้วพ่อก็คนธรรมดานั่นแหละ ที่แค่เอาผ้ามาคลุมตัวเป็นซูเปอร์แมน”
“When you’re young, you think your dad is Superman. Then you grow up, and you realize he’s just a regular guy who wears a cape.” – Unknown
อิทธิพลที่พ่อมีต่อลูกสาวลึกซึ้งอย่างบางทีเราไม่อาจสามารถหยั่งคะเนได้
พ่ออาจไม่พูดมากเหมือนแม่ที่ขยันบ่นปากเปียกปากแฉะ แต่พูดอะไรออกมาแต่ละคำ ทำอะไรออกมาแต่ละอย่าง มันฝังและซึมซาบลงไปในหัวใจลูกอย่างแนบแน่นทั้งด้านดีและด้านไม่ดี
“A daughter needs a dad to be the standard against which she will judge all men.” – Unknown
เค้าบอกว่า “ลูกสาวต้องการพ่อ เพื่อเป็นมาตรฐานที่จะใช้วัดผู้ชายคนอื่น ๆ “
เพื่อนเราบางคน เลือกคบผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายพ่อ ชอบผู้ชายตัวหอม ใช้น้ำหอมโปโลเหมือนพ่อ
บางคน เอามาตรฐานเวลาอยู่กับพ่อมาเป็นตัวตัดสินว่าผู้ชายคนนั้นน่าคบหรือไม่ เช่น เบียร์ (เพื่อนเราในกระทู้นู้น) เคยบอกว่า เวลาออกไปกินข้าวด้วยกันแล้วต้องหารสองตลอด ๆ หรือบางครั้ง เบียร์ต้องควักเงินเลี้ยงบ่อย ๆ เธอจะรับไม่ค่อยได้ เพราะอยู่กับพ่อและที่เคยเห็นพ่อเทคแคร์ผู้หญิงกี่คนกี่คนของพ่อมา เรื่องกินอยู่ “พ่อชั้นดูแลหมด”
จะว่าเบียร์วัตถุนิยมหรือเอาเปรียบก็ไม่ได้ เพราะเบียร์เป็นคนที่สปอร์ตกับแฟนมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เราเคยเห็น ถ้าวัดจากของที่ซื้อให้หรือสิ่งที่ทุ่มเทให้ ครั้งหนึ่ง แฟนเบียร์รถเสียต้องเข้าอู่นาน เธอเอารถให้แฟนเธอใช้ค่ะ แล้วตัวเธอก็นั่งรถเมล์ไปหาคุณแฟนที่ทำงานให้คุณแฟนพาเธอกลับบ้าน
ป่าป๊าเราสูง 180 ยังใส่กางเกงยีนส์อยู่จนถึงอายุ 60-70 ขายาว สำอาง ทำงานเรียบร้อยเป็นระเบียบ ชอบใช้น้ำหอม aramis ขวดเหลี่ยม ๆ แบน ๆ ใส ๆ และใส่รองเท้า BALLY เรายังมีภาพจำของ BALLY บู๊ทข้อสั้นสีมิดไนท์บลูหนังกลับอยู่ติดตาเลย เวลาเห็นใครแต่งตัวหรือใช้น้ำหอมแบบที่ป่าป๊าเราใช้ เราก็มักจะอมยิ้ม ชื่นชมและคิดว่า “รสนิยมดีจัง เหมือนพ่อชั้นเล้ย”
อิอิอิ จริง ๆ สมัยนี้ มันอาจจะเอ๊าท์หรือลุงมากแล้วก็ได้
แต่ใช่ว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อเรามาตลอดชีวิตนะคะ มันมีช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ ตอนเด็ก ๆ เรามักรู้สึกว่า เราไม่ใช่ลูกรัก เพราะเราหัวช้า และไม่สูง ขายาวเหมือนลูกคนอื่น ๆ ของพ่อ เรารู้สึกตลอดว่า ความรักของผู้ชายมีเงื่อนไข หรือที่ฝรั่งมักเรียกว่า strings attached รุงรังเยอะแยะกว่าความรักของแม่ จนเราต้องพยายามทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จเพื่อให้พ่อหันมามองเราและภูมิใจกับเราบ้าง พอมาอ่าน quote นี้ ในใจเราน้ำตารื้นนะคะ
“When I’m at my best, I am my father’s daughter.” – Unknown
“เมื่อฉันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ที่เก่งที่สุด --- ฉันเป็นลูกพ่อ”
ป่าป๊าเราไม่ค่อยพูดอะไรมาก แต่หม่าม้ามาเล่าให้ฟังหลังจากป่าป๊าไปสวรรค์แล้วว่า ป่าป๊าไปบอกใครต่อใครว่า
“ในบรรดาลูกทั้งหมด (จากทั้งสองแม่) ป่าป๊ารักและภูมิใจในตัวเราที่สุด”
มันเหมือนเสียงสวรรค์ที่ทำน้ำตาเราไหลเงียบ ๆ ในใจ หลังจากทำงานหนักและพยายามมาหลายปี ในที่สุด เราก็ไต่อันดับขึ้นไปได้ในใจพ่อ
และด้วยความที่เหมือนมีปมเล็ก ๆ แบบนี้ในใจ ทุกวันนี้ เวลาลูกสาวทำอะไรสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือบางครั้งอาจจะไม่สำเร็จแต่เธอได้เข้าร่วมในการแข่งขันหรือทำกิจกรรม เราจะต้องกำชับให้สามีไปกอดลูก และพูดออกมาทุกครั้งว่า “ภูมิใจในตัวลูกมาก ทำได้ดีมาก” และถ้าแพ้ก็ต้องไปกอดเช่นกันและต้องพูดว่า “ทำได้ดีแล้วลูก”
พ่อมักไม่ค่อยพูดความรู้สึกอะไรพวกนี้ออกมา แต่เขาอาจจะไม่รู้ว่า คำพูดของเขาส่งอิทธิพลต่อลูกสาวมากแค่ไหน กับลูกเราเคี่ยวเข็ญ กล่อม ชักจูงแทบตาย พวกเธอเฉย ๆ แต่ป๋าพูดออกมาแค่คำเดียวหรือแค่เปรยสั้น ๆ เธอทำตามหมดราวกับถูกร่ายมนตร์ใส่
แต่พูดก็พูดเถอะ ใช่ว่า พ่อจะมีอิทธิพลต่อลูกสาวฝ่ายเดียวเสียเมื่อไร ลูกสาวก็มีอิทธิพลต่อพ่อไม่น้อยไปกว่ากัน
เรารู้จักผู้ชายสองสามคน สูงทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และหน้าที่การงาน แต่เกรงใจลูกสาวม้ากมาก บางคนนี่ถึงขนาดสารภาพเลยว่า ที่ไม่กล้านอกลู่นอกทาง แม้ว่าใจจะเตลิดไปไกลแล้วก็ตาม เหตุผลเดียวเลยคือ --- เกรงใจลูกสาว
เพื่อนรุ่นพี่หลายปีวัยใกล้เกษียณคนหนึ่ง ชอบรุ่นน้องที่ทำงานมาก น้องคนนี้อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปีนะคะ แต่เป็นเด็กฉลาด ทำงานเก่ง นิสัยดี เรียกว่าตรงสเป๊คไปหมด
อีตารุ่นพี่คนนี้ก็ชื่นชมแล้วก็อ่อยแรง ๆ ไปหลายที ไม่ใช่เพื่อต้องการดึงน้องมาเป็นแฟน แต่เพราะต้องการระบายความชื่นชมที่คัดล้นหัวอกออกไปบ้าง
อ่อยแรง ๆ ไปอย่างไรบ้างน่ะหรือคะ ?
- จัดการจองโต๊ะให้น้องในปาร์ตี้วันเกิดน้องกินกับผองเพื่อน น้องคิดว่าตัวเองเป็นคนจ่าย แต่จริง ๆ แล้วงบน้องน่ะ มันไม่พอหรอกสำหรับร้านขนาดนั้นและอาหารแบบนั้น แต่พี่จะให้จ้ะ ประสงค์จะออกตังค์ ไม่ประสงค์จะได้หน้า ก็ไม่รู้ว่าน้องจะปลื้มปริ่มหรืออึดอัดนะคะถ้าเกิดน้องได้รู้ว่า อิตาพี่ระดับ VP บริษัทยักษ์ใหญ่นี่ดอดลงไปกำชับเจ้าของร้านด้วยตัวเองเลยว่า “จานปลานี่ขอเป็นเนื้อล้วน ไม่เอามาเป็นตัวติดก้างนะครับ”
- รู้ว่าน้องจะกลับจากต่างประเทศ เอ่ยลอย ๆ ว่า เดี๋ยวให้ยืมรถพร้อมคนขับไปรับ เตี๊ยมกับคนขับว่า ให้จอดที่ห้างแห่งหนึ่งและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอถึงห้างขุ่นพี่ผู้บริหารเซอร์ไพรส์มารับหน้าที่โชเฟอร์ขับไปส่งน้องเองเลยค่า ...
แม่เจ้า ... ฟังแล้วถึงขนาดกลอกตาขึ้นบน ... ข้าพเจ้านึกว่าฉากหนังฮอลลีวูด
ทั้งนี้และทั้งนั้น รุ่นพี่คนนั้นเล่าให้ดิฉันฟังว่า ทำไปเพราะชอบและชื่นชมน้อง ไม่ได้คิดจะล่วงล้ำก้ำเกินอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น และน้องเองก็รู้ขอบเขตถึงพยายามหลบมาตลอดจนเริ่มมาใจอ่อนนิด ๆ ตอนหลัง
แต่หนุ่มใหญ่กลับบอกดิฉันว่า “ให้ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวน้อง *** (ชื่อลูกสาว) เสียใจ คุณ *** (ชื่อดิฉัน)ก็รู้ ผมนี่แนวคิดเดียวกับ ดอน คอร์ลิโอนี่ ยังไงครอบครัวกับลูกก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
และนี่ไม่ใช่เคสแรกที่ดิฉันเห็นหนุ่มใหญ่ มีวัยวุฒิกระเป๋าหนักจะชอบอ่อยแรง ๆ แบบคลีน ๆ แบบนี้ คือ แนวพระเอกโบราณ พี่ไม่ได้หวังอะไรมาก ไม่หวังจับมือ ไม่หวังครอบครอง แต่ชอบมาก ถ้าไม่ได้ให้ดอกไม้ ไม่ได้ทำอะไรให้แล้วมันจะอกแตกตาย แค่ได้คุยด้วย(บ้าง) ส่งไลน์ให้บ้าง หรือรับไลน์ตอบบ้าง แค่นี้พอแล้ว ออกแนวโอตะยังไงพิกล
ร้อยทั้งร้อยจะเลือกคนใหม่ไหมน่ะหรือคะ ?
No, No, No,. It’s a solid NO.
เกรงใจลูกสาว นั่นคือเหตุผล
---อิทธิพลของพ่อที่มีต่อลูกสาว และอิทธิพลของลูกสาวที่มีต่อพ่อ---
ปีใหม่ที่ผ่านมา ได้ไปพักที่บ้านพักตากอากาศของเพื่อนใกล้ ๆ เขาตะเกียบ เห็นสามีกับลูกสาวทั้งสามคน คุยกัน เดินเล่น จูงมือกันริมชายหาด บางที พ่อนอน ยัยลูกสาวคนเล็กก็ไปนัวเนีย ปีนป่าย เกาะก่าย ไปบนตัวพ่อราวกับจะสิงร่าง เลยนึกอยากทำให้เขียนถึงเรื่องพ่อกับลูกสาวขึ้นมา
บทความที่อ่าน ประสบการณ์ที่เห็น ทำให้รู้สึกได้มากว่า พ่อมีอิทธิพลกับลูกสาวมากกว่าที่ใครอาจจะคาดคิดไปถึง ผู้หญิงทุกคนมีพ่อเป็นผู้ชายคนแรกที่รู้จัก จึงไม่แปลกที่หลายคนที่มีความสัมพันธ์ ความผูกพัน ความทรงจำที่ดีกับพ่อ จะเลือกผู้ชายที่มีลักษณะบางอย่างหรือหลายอย่างคล้ายพ่อตัวเอง กระทั่งคนที่ไม่ลงรอยกับพ่อ หรือไม่ถูกกับพ่อ และมักบอกว่า จะ “ไม่เลือกคนที่เหมือนพ่อ” ก็ยังมี “พ่อ” เป็นศูนย์กลาง เอาพ่อเป็นหลักว่านิสัยอย่างนี้ ๆ ๆ ของพ่อ เราชอบ นิสัยอย่างนี้ ๆ ๆ ของพ่อ เราไม่ชอบ เพราะงั้น เราจะไม่เลือก
ทำไมพ่อจึงมีอิทธิพลต่อลูกสาวนัก ?
- พ่อเป็นผู้ชายคนแรกที่ลูกสาวรู้จัก เป็นตัวอย่างแรกของความเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างแรกของความเป็นลูกผู้ชาย อาจจะไม่อ่อนหวาน หรือ อ่อนโยนเหมือนแม่ แต่การมีพ่ออยู่ใกล้ ๆ มันให้ความรู้สึกอุ่นใจกึ่งภูมิใจ ภูมิใจอะไรยังไงก็ตอบไม่ถูก แต่รู้สึกอุ่นใจที่มีผู้ชายสูง ๆ (อย่างน้อยก็สูงกว่าลูกสาว) คอยอุ้มหรือเข็นรถให้
“It is admirable for a man to take his son fishing, but there is a special place in heaven for the father who takes his daughter shopping.” – John Sinor
เป็นเรื่องน่าชื่นชมสำหรับการที่พ่อกับลูกชายออกไปตกปลากัน แต่มีที่พิเศษสุดบนสรวงสวรรค์สำหรับพ่อที่พาลูกสาวออกไปช้อปปิ้งซื้อของ --- จอห์น ไซเนอร์
- อยู่กับพ่อแล้วสนุก ได้แหกกฎบ้าง ได้ทำอะไรที่แม่มักจะห้ามบ้าง เช่น ถ้าแม่ไม่อยู่ เดี๋ยวพ่อจะรินเป๊ปซี่ให้ เดี๋ยวจะตื่นสายได้โดยไม่มีคนบ่น ออกไปเล่นน้ำฝนได้บ้าง เล่นเกมส์ทั้งวันได้ ทำเสื้อเลอะเล่นจนเนื้อตัวมอมแมมได้
ผู้ชาย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ยังมีส่วนที่เป็นเด็กเสมอค่ะ บางทีพ่อก็อาจจะแหย่อะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบเด็ก ๆ
เราจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ป่าป๊าเราจับตั๊กแตนแอบไว้กระเป๋ากางเกง แล้วล้วงออกมาแหย่ให้ลูกกรี๊ดกร๊าดลั่นบ้าน
เรื่องนี้เป็นจริงทุกเชื้อชาติค่ะ ฝรั่งยังบอกเลยว่า
“Dad. He can play like a kid, give advice like a friend, and protect like a bodyguard.” – Unknown
พ่อ --- เป็นผู้ชายที่เล่นได้เหมือนเด็ก ๆ ให้คำแนะนำได้เหมือนเพื่อน และปกป้องคุณได้เหมือนบอดี้การ์ด
“A little girl giggles when she is denied an ice-cream by her mother. She knows daddy will get her some later.” – Unknown
เด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะกิ๊กกั๊กเวลาแม่ไม่ให้กินไอศกรีม เธอรู้ว่า เดี๋ยวพ่อก็ให้กินเองแหละ
- ในเหตุการณ์ครอบครัวปกติ ลูกสาวมักรักและชื่นชมพ่ออย่างเป็นธรรมชาติ อย่างอัตโนมัติ อย่างไม่ต้องใช้เหตุผล แม้พ่อจะมีข้อเสียอะไรอื่น ๆ อีกหมื่นแปดพันอย่าง ถ้ามันไม่หนักหนาสาหัสหรือทำร้ายจิตใจกันมากจนเกินไปแล้ว ลูกสาวมักมองข้ามหรือแทบไม่พูดถึง จะโฟกัสแต่ข้อดีของพ่อแทน
สำหรับลูกสาวแล้ว โดยเฉพาะเมื่อเธอยังเป็นเด็ก พ่อเป็นฮีโร่เสมอ เพราะงั้น ถ้าคุณเป็นเจ้านายหรือหัวหน้าใคร อย่าดุด่าลูกน้องคุณต่อหน้าลูกเขาเด็ดขาด เพื่อถนอมหัวใจของเด็กหญิงน้อย ๆ ที่มองพ่อเธอเป็นยอดมนุษย์
ตอนเราสนิทกับผู้ชายคนหนึ่งสมัยวัยละอ่อน เราจำได้ว่า ไม่ว่าเขาจะขับรถ หรือทำอะไรก็ตาม เรามักเปรียบเทียบกับพ่อเราเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มคนนั้น เอารถเข้าจอดในช่องว่างไม่ได้ ก็เลยขับออกไป เราหลุดปากออกไปว่า
“โห... นี่ถ้าเป็นป่าป๊าเรานะ แค่นี้เอง ถอยรถเข้าได้แน่นอน”
ชายหนุ่มหัวเสียมาก หันมาบอกเราว่า
“ถ้าเอารถเข้าช่องนั้นได้ พ่อเธอคงเป็นเทวดาแล้วละ เพราะช่องนั้น มันสั้นกว่ารถอีก” แป่วววววววว
พอเราโตขึ้น เห็นอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น เราก็จะรู้โดยธรรมชาติได้เองว่า ถ้ามองอย่างเป็นกลางแล้ว พ่อเราอาจจะไม่ได้เก่งสุด หล่อสุด ดีสุดหรอก แต่จะมีเสียงเล็ก ๆ ในหัวใจแย้งออกมาเสมอว่า ถึงจะไม่เก่งสุด หล่อสุด ดีสุดในสายตาใคร แต่อย่างน้อย ก็เก่ง หล่อ และดีในสายตาเรานั่นแหละ
ลูกเราคนเล็กยังมีความนึกคิดและอารมณ์แบบเด็ก ๆ อยู่มาก เธอจะติดอยู่กับความคิดว่า ป๋าเธอเก่ง หล่อ และเจ๋งที่สุด ทำอะไรให้เธอได้ทุกอย่าง รักและถนอมเธอที่สุด เวลาทะเลาะกับเรา จึงมักบอกว่า “ไม่รักหม่ามี้แล้ว ลูกรักป๋าที่สุด รักป๋าคนเดียว”
ส่วนลูกสองคนโต โตพอที่จะรู้แล้วว่า มีอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกันที่ป๋าก็ทำได้ไม่ถนัดนัก แต่ถึงอย่างนั้น ความรัก ความชื่นชม และความผูกพันก็ไม่ได้ลดน้อยลง
มีคำกล่าวไว้ว่า
“ตอนที่คุณยังเด็ก คุณคิดว่าพ่อคุณเป็นซูเปอร์แมน ต่อเมื่อคุณโตขึ้น คุณถึงได้ประจักษ์ว่า จริง ๆ แล้วพ่อก็คนธรรมดานั่นแหละ ที่แค่เอาผ้ามาคลุมตัวเป็นซูเปอร์แมน”
“When you’re young, you think your dad is Superman. Then you grow up, and you realize he’s just a regular guy who wears a cape.” – Unknown
อิทธิพลที่พ่อมีต่อลูกสาวลึกซึ้งอย่างบางทีเราไม่อาจสามารถหยั่งคะเนได้
พ่ออาจไม่พูดมากเหมือนแม่ที่ขยันบ่นปากเปียกปากแฉะ แต่พูดอะไรออกมาแต่ละคำ ทำอะไรออกมาแต่ละอย่าง มันฝังและซึมซาบลงไปในหัวใจลูกอย่างแนบแน่นทั้งด้านดีและด้านไม่ดี
“A daughter needs a dad to be the standard against which she will judge all men.” – Unknown
เค้าบอกว่า “ลูกสาวต้องการพ่อ เพื่อเป็นมาตรฐานที่จะใช้วัดผู้ชายคนอื่น ๆ “
เพื่อนเราบางคน เลือกคบผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายพ่อ ชอบผู้ชายตัวหอม ใช้น้ำหอมโปโลเหมือนพ่อ
บางคน เอามาตรฐานเวลาอยู่กับพ่อมาเป็นตัวตัดสินว่าผู้ชายคนนั้นน่าคบหรือไม่ เช่น เบียร์ (เพื่อนเราในกระทู้นู้น) เคยบอกว่า เวลาออกไปกินข้าวด้วยกันแล้วต้องหารสองตลอด ๆ หรือบางครั้ง เบียร์ต้องควักเงินเลี้ยงบ่อย ๆ เธอจะรับไม่ค่อยได้ เพราะอยู่กับพ่อและที่เคยเห็นพ่อเทคแคร์ผู้หญิงกี่คนกี่คนของพ่อมา เรื่องกินอยู่ “พ่อชั้นดูแลหมด”
จะว่าเบียร์วัตถุนิยมหรือเอาเปรียบก็ไม่ได้ เพราะเบียร์เป็นคนที่สปอร์ตกับแฟนมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เราเคยเห็น ถ้าวัดจากของที่ซื้อให้หรือสิ่งที่ทุ่มเทให้ ครั้งหนึ่ง แฟนเบียร์รถเสียต้องเข้าอู่นาน เธอเอารถให้แฟนเธอใช้ค่ะ แล้วตัวเธอก็นั่งรถเมล์ไปหาคุณแฟนที่ทำงานให้คุณแฟนพาเธอกลับบ้าน
ป่าป๊าเราสูง 180 ยังใส่กางเกงยีนส์อยู่จนถึงอายุ 60-70 ขายาว สำอาง ทำงานเรียบร้อยเป็นระเบียบ ชอบใช้น้ำหอม aramis ขวดเหลี่ยม ๆ แบน ๆ ใส ๆ และใส่รองเท้า BALLY เรายังมีภาพจำของ BALLY บู๊ทข้อสั้นสีมิดไนท์บลูหนังกลับอยู่ติดตาเลย เวลาเห็นใครแต่งตัวหรือใช้น้ำหอมแบบที่ป่าป๊าเราใช้ เราก็มักจะอมยิ้ม ชื่นชมและคิดว่า “รสนิยมดีจัง เหมือนพ่อชั้นเล้ย”
อิอิอิ จริง ๆ สมัยนี้ มันอาจจะเอ๊าท์หรือลุงมากแล้วก็ได้
แต่ใช่ว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อเรามาตลอดชีวิตนะคะ มันมีช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ ตอนเด็ก ๆ เรามักรู้สึกว่า เราไม่ใช่ลูกรัก เพราะเราหัวช้า และไม่สูง ขายาวเหมือนลูกคนอื่น ๆ ของพ่อ เรารู้สึกตลอดว่า ความรักของผู้ชายมีเงื่อนไข หรือที่ฝรั่งมักเรียกว่า strings attached รุงรังเยอะแยะกว่าความรักของแม่ จนเราต้องพยายามทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จเพื่อให้พ่อหันมามองเราและภูมิใจกับเราบ้าง พอมาอ่าน quote นี้ ในใจเราน้ำตารื้นนะคะ
“When I’m at my best, I am my father’s daughter.” – Unknown
“เมื่อฉันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ที่เก่งที่สุด --- ฉันเป็นลูกพ่อ”
ป่าป๊าเราไม่ค่อยพูดอะไรมาก แต่หม่าม้ามาเล่าให้ฟังหลังจากป่าป๊าไปสวรรค์แล้วว่า ป่าป๊าไปบอกใครต่อใครว่า
“ในบรรดาลูกทั้งหมด (จากทั้งสองแม่) ป่าป๊ารักและภูมิใจในตัวเราที่สุด”
มันเหมือนเสียงสวรรค์ที่ทำน้ำตาเราไหลเงียบ ๆ ในใจ หลังจากทำงานหนักและพยายามมาหลายปี ในที่สุด เราก็ไต่อันดับขึ้นไปได้ในใจพ่อ
และด้วยความที่เหมือนมีปมเล็ก ๆ แบบนี้ในใจ ทุกวันนี้ เวลาลูกสาวทำอะไรสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือบางครั้งอาจจะไม่สำเร็จแต่เธอได้เข้าร่วมในการแข่งขันหรือทำกิจกรรม เราจะต้องกำชับให้สามีไปกอดลูก และพูดออกมาทุกครั้งว่า “ภูมิใจในตัวลูกมาก ทำได้ดีมาก” และถ้าแพ้ก็ต้องไปกอดเช่นกันและต้องพูดว่า “ทำได้ดีแล้วลูก”
พ่อมักไม่ค่อยพูดความรู้สึกอะไรพวกนี้ออกมา แต่เขาอาจจะไม่รู้ว่า คำพูดของเขาส่งอิทธิพลต่อลูกสาวมากแค่ไหน กับลูกเราเคี่ยวเข็ญ กล่อม ชักจูงแทบตาย พวกเธอเฉย ๆ แต่ป๋าพูดออกมาแค่คำเดียวหรือแค่เปรยสั้น ๆ เธอทำตามหมดราวกับถูกร่ายมนตร์ใส่
แต่พูดก็พูดเถอะ ใช่ว่า พ่อจะมีอิทธิพลต่อลูกสาวฝ่ายเดียวเสียเมื่อไร ลูกสาวก็มีอิทธิพลต่อพ่อไม่น้อยไปกว่ากัน
เรารู้จักผู้ชายสองสามคน สูงทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และหน้าที่การงาน แต่เกรงใจลูกสาวม้ากมาก บางคนนี่ถึงขนาดสารภาพเลยว่า ที่ไม่กล้านอกลู่นอกทาง แม้ว่าใจจะเตลิดไปไกลแล้วก็ตาม เหตุผลเดียวเลยคือ --- เกรงใจลูกสาว
เพื่อนรุ่นพี่หลายปีวัยใกล้เกษียณคนหนึ่ง ชอบรุ่นน้องที่ทำงานมาก น้องคนนี้อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปีนะคะ แต่เป็นเด็กฉลาด ทำงานเก่ง นิสัยดี เรียกว่าตรงสเป๊คไปหมด
อีตารุ่นพี่คนนี้ก็ชื่นชมแล้วก็อ่อยแรง ๆ ไปหลายที ไม่ใช่เพื่อต้องการดึงน้องมาเป็นแฟน แต่เพราะต้องการระบายความชื่นชมที่คัดล้นหัวอกออกไปบ้าง
อ่อยแรง ๆ ไปอย่างไรบ้างน่ะหรือคะ ?
- จัดการจองโต๊ะให้น้องในปาร์ตี้วันเกิดน้องกินกับผองเพื่อน น้องคิดว่าตัวเองเป็นคนจ่าย แต่จริง ๆ แล้วงบน้องน่ะ มันไม่พอหรอกสำหรับร้านขนาดนั้นและอาหารแบบนั้น แต่พี่จะให้จ้ะ ประสงค์จะออกตังค์ ไม่ประสงค์จะได้หน้า ก็ไม่รู้ว่าน้องจะปลื้มปริ่มหรืออึดอัดนะคะถ้าเกิดน้องได้รู้ว่า อิตาพี่ระดับ VP บริษัทยักษ์ใหญ่นี่ดอดลงไปกำชับเจ้าของร้านด้วยตัวเองเลยว่า “จานปลานี่ขอเป็นเนื้อล้วน ไม่เอามาเป็นตัวติดก้างนะครับ”
- รู้ว่าน้องจะกลับจากต่างประเทศ เอ่ยลอย ๆ ว่า เดี๋ยวให้ยืมรถพร้อมคนขับไปรับ เตี๊ยมกับคนขับว่า ให้จอดที่ห้างแห่งหนึ่งและขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอถึงห้างขุ่นพี่ผู้บริหารเซอร์ไพรส์มารับหน้าที่โชเฟอร์ขับไปส่งน้องเองเลยค่า ...
แม่เจ้า ... ฟังแล้วถึงขนาดกลอกตาขึ้นบน ... ข้าพเจ้านึกว่าฉากหนังฮอลลีวูด
ทั้งนี้และทั้งนั้น รุ่นพี่คนนั้นเล่าให้ดิฉันฟังว่า ทำไปเพราะชอบและชื่นชมน้อง ไม่ได้คิดจะล่วงล้ำก้ำเกินอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น และน้องเองก็รู้ขอบเขตถึงพยายามหลบมาตลอดจนเริ่มมาใจอ่อนนิด ๆ ตอนหลัง
แต่หนุ่มใหญ่กลับบอกดิฉันว่า “ให้ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวน้อง *** (ชื่อลูกสาว) เสียใจ คุณ *** (ชื่อดิฉัน)ก็รู้ ผมนี่แนวคิดเดียวกับ ดอน คอร์ลิโอนี่ ยังไงครอบครัวกับลูกก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
และนี่ไม่ใช่เคสแรกที่ดิฉันเห็นหนุ่มใหญ่ มีวัยวุฒิกระเป๋าหนักจะชอบอ่อยแรง ๆ แบบคลีน ๆ แบบนี้ คือ แนวพระเอกโบราณ พี่ไม่ได้หวังอะไรมาก ไม่หวังจับมือ ไม่หวังครอบครอง แต่ชอบมาก ถ้าไม่ได้ให้ดอกไม้ ไม่ได้ทำอะไรให้แล้วมันจะอกแตกตาย แค่ได้คุยด้วย(บ้าง) ส่งไลน์ให้บ้าง หรือรับไลน์ตอบบ้าง แค่นี้พอแล้ว ออกแนวโอตะยังไงพิกล
ร้อยทั้งร้อยจะเลือกคนใหม่ไหมน่ะหรือคะ ?
No, No, No,. It’s a solid NO.
เกรงใจลูกสาว นั่นคือเหตุผล