#กรรมองค์พระศาสดา# ตอนที่ ๑ พระเจ้าจักรพรรดิ์ติโลกวิชัย ๑
ในสมัยนั้นท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวันมหาวิหารว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติ(เกิดขึ้น) ได้เพราะเหตุใด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ทรงได้สั่งสมกุศลไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆนับไม่ถ้วน
จากนั้นจึงทรงเล่าอดีตชาติของพระองค์สมัยเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้มีนามว่า พระเจ้าติโลกวิชัย มีเนื้อความดังนี้
ธีรชนเหล่าใดได้สั่งสมกุศลสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
ยังไม่ได้ความหลุดพ้นจากกิเลสในศาสนาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เพราะมุ่งหน้าต่อสัมโพธิญาณนั้นแล
ธีรชนผู้มีปัญญาแก่กล้าดีจึงได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า
ด้วยอัธยาศัยที่เข้มแข็งและด้วยอำนาจแห่งปัญญา
ถึงเราก็ได้เป็นผู้มีใจปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า
ในสำนักของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ หลายพระองค์
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทรงเป็นพระธรรมราชา นับไม่ถ้วน
ต่อไปนี้ ขอให้เธอทั้งหลายผู้มีใจหมดจด
จงฟังประวัติในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระธรรมราชา
สมบูรณ์ด้วยบารมี ๓๐ ประการนับไม่ถ้วน
เรา (หมายถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์ติโลกวิชัย อดีตชาติของพระพุทธเจ้า) ยกนิ้วมือทั้ง ๑๐ นิ้วขึ้น
นอบน้อมพระโพธิญาณของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด (พระเจ้าติโลกวิชัยไหว้บูชาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย)
อภิวาทพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
พร้อมด้วยพระสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
ในพุทธเขต (เขตแดนของพระพุทธเจ้า) มีรัตนะที่อยู่ในอากาศ
ที่อยู่บนภาคพื้นดิน นับจำนวนไม่ถ้วนอยู่เท่าใด
เราพึงนึกนำรัตนะเหล่านั้นทั้งหมดมาได้
ณ พื้นที่อันเป็นเงินนั้น เราได้เนรมิตปราสาทแก้วหลายร้อยชั้น
สูงตระหง่านโชติช่วงในท้องฟ้า
มีเสาวิจิตรงดงาม มีค่ามากตั้งอยู่เรียงราย
มีขื่อทำด้วยทองคำ(ติดคู่ห่วงทองคำที่ขื่อหรือจันทัน)
ประดับด้วยนกกระเรียนและฉัตร
พื้นชั้นแรกทำด้วยแก้วไพฑูรย์
งดงามดังก้อนเมฆปราศจากมลทิน
มีภาพฝูงปลาและดอกบัวอยู่เกลื่อนกลาด
ย่อมงามด้วยพื้นทองคำอย่างดี
พื้นบางชั้นมีภาพกิ่งไม้อ่อนช้อย มีสีเหมือนสีแก้วประพาฬ
บางชั้นมีสีแดงสด บางชั้นงดงามเปล่งรัศมีดังสีแมลงค่อมทอง (แมลงปีกแข็ง ตัวเล็กกว่าแมลงทับปีกสีเขียวเหลืองทอง)
บางชั้นสว่างไสวไปทั่วทิศ
ที่ปราสาทนั้น แบ่งพื้นที่เป็นหน้ามุข ระเบียง หน้าต่าง ไว้อย่างดี
มีพวงอุบะหอมที่น่ารื่นรมย์ใจ ห้อยย้อยจากวลัยไพที (แท่นรองเครื่องบูชา)และบานประตูข่ายทั้ง ๔ ด้าน
ที่ปราสาทนั้นประกอบด้วยเรือนยอดชั้นเยี่ยม
ประดับด้วยรัตนะ ๗ ประการ
มีสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว สีดำล้วน
มีดอกปทุมชูก้านบานสะพรั่ง
งดงามด้วยภาพหมู่เนื้อร้ายและฝูงนก
ดารดาษด้วยดวงดาวพราวพรายระยิบระยับ
ประดับด้วยรูปดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
ใช้ตาข่ายทองคำปกคลุมปราสาท
ติดข่ายกระดิ่งทองคำ พวงดอกไม้ทองคำ น่ารื่นรมย์ใจ
ลมพัดมากระทบเข้าก็เกิดเสียงดังกังวาน
ที่ปราสาทนั้นขึงธงทิวซึ่งย้อมด้วยสีนานาชนิด
คือ ธงสีหงสบาท สีแดง สีเหลือง สีทองชมพูนุท
มีที่นอนต่างๆ งดงาม มากมายหลายร้อยชนิด
ทำด้วยแก้วผลึก เงิน แก้วมณี ทับทิม แก้วลาย
ปูด้วยผ้าแคว้นกาสีเนื้อละเอียดอ่อน
ผ้าห่มสีเหลือง ทอด้วยด้ายขนสัตว์
ทอด้วยผ้าเปลือกไม้ ทอด้วยฝ้ายเมืองจีน
ทอด้วยฝ้ายเมืองปัตตุณณะ
เครื่องปูลาดต่างๆ ทั้งหมดเราอธิษฐานใจปูลาดไว้
ที่ปราสาทนั้นแต่ละชั้นประดับด้วยช่อฟ้าซึ่งทำด้วยรัตนะ
มีคนยืนถือประทีปดวงแก้วสว่างไสวอยู่เรียงราย
มีเสาระเนียด (เสาปักเรียงรายตลอดรั้ว)
และเสาค่ายทองคำ เสาค่ายทองชมพูนุท เสาค่ายไม้แก่น
เสาค่ายเงินที่งดงาม ย่อมทำปราสาทนั้นให้งดงาม
มีช่องหลายแห่งจัดไว้เรียบร้อยดี
มีบานประตูและลูกดาลงดงาม มีกระถางบัวหลวง
บัวขาบเรียงรายอยู่ทั้ง ๒ ด้าน
เราเนรมิตพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกในอดีตทุกพระองค์
พร้อมทั้งพระสงฆ์สาวกด้วยวรรณะและรูปตามปกติ
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์พร้อมด้วยสาวก
เป็นหมู่พระอริยะ เสด็จเข้าไปทางประตูนั้น
ประทับนั่งบนตั่งทองคำล้วน
พระพุทธเจ้าผู้ยอดเยี่ยมในโลก
ทั้งที่เป็นอดีตและปัจจุบันทุกพระองค์
ได้เสด็จขึ้นสู่ปราสาทของเราแล้ว
พระปัจเจกพุทธเจ้าหลายร้อยพระองค์
ผู้เป็นพระสยัมภู ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้
ทั้งที่เป็นอดีตและปัจจุบันทั้งหมด
ได้เสด็จขึ้นสู่ปราสาทของเราแล้ว
ต้นกัลปพฤกษ์ทิพย์ และต้นกัลปพฤกษ์มนุษย์ มีมากมาย
เราได้นำผ้าทุกอย่างมาจากต้นกัลปพฤกษ์เหล่านั้น
ตัดเย็บเป็นไตรจีวรถวายให้นุ่งห่ม
ของเคี้ยว ของฉัน ของลิ้ม น้ำปานะ
รวมทั้งอาหารมีอยู่อย่างเพียบพร้อม
เราถวายบรรจุจนเต็มบาตรแก้วมณีลูกงามทุกลูก
หมู่พระอริยะเหล่านั้น เป็นผู้หมดจดจากกิเลส
ครองจีวรผ้าทิพย์เสมอกัน
อันข้าพเจ้านิมนต์ฉันจนอิ่มหนำ ด้วยน้ำตาลกรวด
น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และข้าวอย่างดี
ทั้งหมดได้เข้าไปสู่ห้องแก้ว
เหมือนไกรสรราชสีห์เข้าไปสู่ถ้ำ
สำเร็จสีหไสยาสน์บนที่นอนมีค่ามาก
มีสติสัมปชัญญะ ลุกขึ้นแล้ว นั่งขัดสมาธิบนที่นอน
ซึ่งเป็นอารมณ์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
แนบแน่นด้วยความยินดีในฌาน
หมู่หนึ่งแสดงธรรม หมู่หนึ่งยินดีด้วยฤทธิ์
หมู่หนึ่งเข้าอัปปนาฌาน
หมู่หนึ่งเจริญอภิญญาวสี (อภิญญา ๕)
แสดงฤทธิ์ได้หลายร้อยหลายพันประการ
ฝ่ายพระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ถึงปัญหาอันเป็นวิสัยแห่งพระสัพพัญญุตญาณ
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นก็ทรงรู้แจ้งเหตุอันลึกซึ้งละเอียดอ่อนด้วยปัญญา
สาวกทั้งหลายก็ทูลถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ตรัสถามสาวกทั้งหลาย
ทั้งพระพุทธเจ้าและสาวกเหล่านั้นต่างก็ถามตอบกันและกัน
พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกผู้ปรนนิบัติเหล่านั้น
ต่างรื่นรมย์ยินดีในปราสาทด้วยความยินดีด้วยประการฉะนี้
เรานึกให้ ฉัตรตั้งซ้อนกัน
มีรัศมีเปล่งปลั่งดังแก้วไพฑูรย์
ขอให้ทุกคนจงกั้นฉัตร มีตาข่ายทองคำห้อยระย้า
ประดับด้วยตาข่ายเงิน
แวดล้อมด้วยตาข่ายแก้วมุกดาไว้เหนือศีรษะข้าพเจ้า
มีเพดานผ้าติดดวงดาวทองมีแสงแวววาว
มีพวงมาลัยห้อยอยู่ทั่วงดงามตระการตา
เพดานผ้าทั้งหมด จงดาดอยู่เหนือศีรษะ
สระที่ดารดาษด้วยพวงมาลัย
งดงามด้วยพวงของหอม มีพวงผ้าห้อยระย้า
ประดับประดาด้วยพวงรัตนะ
มีดอกไม้เรียงราย งดงามนัก
อบด้วยของหอมกลิ่นฟุ้งขจายไป
ใช้นิ้วมือทั้ง ๕ เจิมด้วยของหอม
มุงด้วยหลังคาทองคำทั้ง ๔ ทิศ
ดารดาษด้วยดอกปทุมและดอกอุบล
ปรากฏเป็นสีทอง หอมฟุ้งด้วยละอองเกสรดอกปทุม
รอบๆ ปราสาท ต้นไม้ทุกต้นจงออกดอกบานสะพรั่ง
ดอกไม้หล่นเอง ปลิวไปโปรยปราสาท
ใกล้ๆ ปราสาทนั้น ขอฝูงนกยูงจงรำแพนหาง
ฝูงหงส์ทิพย์จงส่งเสียงร้อง ฝูงนกการเวกจงร้องขับขาน
วิหคก็จงส่งเสียงขับขานอยู่รอบๆ ปราสาท
กลองทุกชนิดจงดังขึ้น พิณทุกชนิดจงบรรเลง
เครื่องสังคีตทุกชนิดจงบรรเลงขับกล่อมอยู่รอบๆ ปราสาท
ตลอดพุทธเขตและในจักรวาล
ต่อจากนั้นจงมีบัลลังก์ทองขนาดใหญ่ เรืองรองด้วยรัศมี
ไม่มีช่องว่าง ขลิบด้วยรัตนะ ตั้งอยู่รอบๆ ปราสาท
ขอต้นพฤกษาประทีป (ต้นไม้ที่แขวนตะเกียง) จงส่องสว่าง
มีแสงโชติช่วงติดต่อเป็นอันเดียวกันทั้ง ๑๐,๐๐๐ ดวง
หญิงนักฟ้อนก็จงฟ้อน หญิงนักร้องก็จงขับร้อง
หมู่นางอัปสรก็จงร่ายรำ
สนามเต้นรำต่างๆจงปรากฏอยู่รอบๆ ปราสาท
#กรรมในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า #อดีตกรรมของพระพุทธเจ้า #บุญกรรมของพระพุทธเจ้า
************************************
ขอเชิญอ่านพระสูตรบทเต็มได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=1
ขอเชิญอ่าน "กรรมองค์พระศาสดา" ตั้งแต่ตอนที่ ๑ ได้ที่
http://toncoon.com/community/index.php?topic=2350.0
ขออนุโมทนาสามารถเผยแผ่เป็นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย
**************************************
ขออนุโมทนากับผู้ร่วมรวบรวมพระธรรม ผู้อ่านอัดเสียงธรรม และตรวจทานคำผิดในการเผยแผ่ทุกท่าน
ขอให้ทั้งหลายเจริญในธรรม มีธรรมเป็นที่ไป มีธรรมดำเนินไป มีธรรมนำทางไป
#กรรมองค์พระศาสดา# ตอนที่ ๑ พระเจ้าจักรพรรดิ์ติโลกวิชัย ๑ (ธรรมจากพระไตรปิฎก)
#กรรมองค์พระศาสดา# ตอนที่ ๑ พระเจ้าจักรพรรดิ์ติโลกวิชัย ๑
ในสมัยนั้นท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวันมหาวิหารว่า พระพุทธเจ้าทรงอุบัติ(เกิดขึ้น) ได้เพราะเหตุใด
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ทรงได้สั่งสมกุศลไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆนับไม่ถ้วน
จากนั้นจึงทรงเล่าอดีตชาติของพระองค์สมัยเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้มีนามว่า พระเจ้าติโลกวิชัย มีเนื้อความดังนี้
ธีรชนเหล่าใดได้สั่งสมกุศลสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
ยังไม่ได้ความหลุดพ้นจากกิเลสในศาสนาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เพราะมุ่งหน้าต่อสัมโพธิญาณนั้นแล
ธีรชนผู้มีปัญญาแก่กล้าดีจึงได้บรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า
ด้วยอัธยาศัยที่เข้มแข็งและด้วยอำนาจแห่งปัญญา
ถึงเราก็ได้เป็นผู้มีใจปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า
ในสำนักของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ หลายพระองค์
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทรงเป็นพระธรรมราชา นับไม่ถ้วน
ต่อไปนี้ ขอให้เธอทั้งหลายผู้มีใจหมดจด
จงฟังประวัติในอดีตชาติของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระธรรมราชา
สมบูรณ์ด้วยบารมี ๓๐ ประการนับไม่ถ้วน
เรา (หมายถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์ติโลกวิชัย อดีตชาติของพระพุทธเจ้า) ยกนิ้วมือทั้ง ๑๐ นิ้วขึ้น
นอบน้อมพระโพธิญาณของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด (พระเจ้าติโลกวิชัยไหว้บูชาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย)
อภิวาทพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
พร้อมด้วยพระสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า
ในพุทธเขต (เขตแดนของพระพุทธเจ้า) มีรัตนะที่อยู่ในอากาศ
ที่อยู่บนภาคพื้นดิน นับจำนวนไม่ถ้วนอยู่เท่าใด
เราพึงนึกนำรัตนะเหล่านั้นทั้งหมดมาได้
ณ พื้นที่อันเป็นเงินนั้น เราได้เนรมิตปราสาทแก้วหลายร้อยชั้น
สูงตระหง่านโชติช่วงในท้องฟ้า
มีเสาวิจิตรงดงาม มีค่ามากตั้งอยู่เรียงราย
มีขื่อทำด้วยทองคำ(ติดคู่ห่วงทองคำที่ขื่อหรือจันทัน)
ประดับด้วยนกกระเรียนและฉัตร
พื้นชั้นแรกทำด้วยแก้วไพฑูรย์
งดงามดังก้อนเมฆปราศจากมลทิน
มีภาพฝูงปลาและดอกบัวอยู่เกลื่อนกลาด
ย่อมงามด้วยพื้นทองคำอย่างดี
พื้นบางชั้นมีภาพกิ่งไม้อ่อนช้อย มีสีเหมือนสีแก้วประพาฬ
บางชั้นมีสีแดงสด บางชั้นงดงามเปล่งรัศมีดังสีแมลงค่อมทอง (แมลงปีกแข็ง ตัวเล็กกว่าแมลงทับปีกสีเขียวเหลืองทอง)
บางชั้นสว่างไสวไปทั่วทิศ
ที่ปราสาทนั้น แบ่งพื้นที่เป็นหน้ามุข ระเบียง หน้าต่าง ไว้อย่างดี
มีพวงอุบะหอมที่น่ารื่นรมย์ใจ ห้อยย้อยจากวลัยไพที (แท่นรองเครื่องบูชา)และบานประตูข่ายทั้ง ๔ ด้าน
ที่ปราสาทนั้นประกอบด้วยเรือนยอดชั้นเยี่ยม
ประดับด้วยรัตนะ ๗ ประการ
มีสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว สีดำล้วน
มีดอกปทุมชูก้านบานสะพรั่ง
งดงามด้วยภาพหมู่เนื้อร้ายและฝูงนก
ดารดาษด้วยดวงดาวพราวพรายระยิบระยับ
ประดับด้วยรูปดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
ใช้ตาข่ายทองคำปกคลุมปราสาท
ติดข่ายกระดิ่งทองคำ พวงดอกไม้ทองคำ น่ารื่นรมย์ใจ
ลมพัดมากระทบเข้าก็เกิดเสียงดังกังวาน
ที่ปราสาทนั้นขึงธงทิวซึ่งย้อมด้วยสีนานาชนิด
คือ ธงสีหงสบาท สีแดง สีเหลือง สีทองชมพูนุท
มีที่นอนต่างๆ งดงาม มากมายหลายร้อยชนิด
ทำด้วยแก้วผลึก เงิน แก้วมณี ทับทิม แก้วลาย
ปูด้วยผ้าแคว้นกาสีเนื้อละเอียดอ่อน
ผ้าห่มสีเหลือง ทอด้วยด้ายขนสัตว์
ทอด้วยผ้าเปลือกไม้ ทอด้วยฝ้ายเมืองจีน
ทอด้วยฝ้ายเมืองปัตตุณณะ
เครื่องปูลาดต่างๆ ทั้งหมดเราอธิษฐานใจปูลาดไว้
ที่ปราสาทนั้นแต่ละชั้นประดับด้วยช่อฟ้าซึ่งทำด้วยรัตนะ
มีคนยืนถือประทีปดวงแก้วสว่างไสวอยู่เรียงราย
มีเสาระเนียด (เสาปักเรียงรายตลอดรั้ว)
และเสาค่ายทองคำ เสาค่ายทองชมพูนุท เสาค่ายไม้แก่น
เสาค่ายเงินที่งดงาม ย่อมทำปราสาทนั้นให้งดงาม
มีช่องหลายแห่งจัดไว้เรียบร้อยดี
มีบานประตูและลูกดาลงดงาม มีกระถางบัวหลวง
บัวขาบเรียงรายอยู่ทั้ง ๒ ด้าน
เราเนรมิตพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกในอดีตทุกพระองค์
พร้อมทั้งพระสงฆ์สาวกด้วยวรรณะและรูปตามปกติ
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์พร้อมด้วยสาวก
เป็นหมู่พระอริยะ เสด็จเข้าไปทางประตูนั้น
ประทับนั่งบนตั่งทองคำล้วน
พระพุทธเจ้าผู้ยอดเยี่ยมในโลก
ทั้งที่เป็นอดีตและปัจจุบันทุกพระองค์
ได้เสด็จขึ้นสู่ปราสาทของเราแล้ว
พระปัจเจกพุทธเจ้าหลายร้อยพระองค์
ผู้เป็นพระสยัมภู ผู้ไม่ทรงพ่ายแพ้
ทั้งที่เป็นอดีตและปัจจุบันทั้งหมด
ได้เสด็จขึ้นสู่ปราสาทของเราแล้ว
ต้นกัลปพฤกษ์ทิพย์ และต้นกัลปพฤกษ์มนุษย์ มีมากมาย
เราได้นำผ้าทุกอย่างมาจากต้นกัลปพฤกษ์เหล่านั้น
ตัดเย็บเป็นไตรจีวรถวายให้นุ่งห่ม
ของเคี้ยว ของฉัน ของลิ้ม น้ำปานะ
รวมทั้งอาหารมีอยู่อย่างเพียบพร้อม
เราถวายบรรจุจนเต็มบาตรแก้วมณีลูกงามทุกลูก
หมู่พระอริยะเหล่านั้น เป็นผู้หมดจดจากกิเลส
ครองจีวรผ้าทิพย์เสมอกัน
อันข้าพเจ้านิมนต์ฉันจนอิ่มหนำ ด้วยน้ำตาลกรวด
น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และข้าวอย่างดี
ทั้งหมดได้เข้าไปสู่ห้องแก้ว
เหมือนไกรสรราชสีห์เข้าไปสู่ถ้ำ
สำเร็จสีหไสยาสน์บนที่นอนมีค่ามาก
มีสติสัมปชัญญะ ลุกขึ้นแล้ว นั่งขัดสมาธิบนที่นอน
ซึ่งเป็นอารมณ์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
แนบแน่นด้วยความยินดีในฌาน
หมู่หนึ่งแสดงธรรม หมู่หนึ่งยินดีด้วยฤทธิ์
หมู่หนึ่งเข้าอัปปนาฌาน
หมู่หนึ่งเจริญอภิญญาวสี (อภิญญา ๕)
แสดงฤทธิ์ได้หลายร้อยหลายพันประการ
ฝ่ายพระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ถึงปัญหาอันเป็นวิสัยแห่งพระสัพพัญญุตญาณ
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นก็ทรงรู้แจ้งเหตุอันลึกซึ้งละเอียดอ่อนด้วยปัญญา
สาวกทั้งหลายก็ทูลถามพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ตรัสถามสาวกทั้งหลาย
ทั้งพระพุทธเจ้าและสาวกเหล่านั้นต่างก็ถามตอบกันและกัน
พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และสาวกผู้ปรนนิบัติเหล่านั้น
ต่างรื่นรมย์ยินดีในปราสาทด้วยความยินดีด้วยประการฉะนี้
เรานึกให้ ฉัตรตั้งซ้อนกัน
มีรัศมีเปล่งปลั่งดังแก้วไพฑูรย์
ขอให้ทุกคนจงกั้นฉัตร มีตาข่ายทองคำห้อยระย้า
ประดับด้วยตาข่ายเงิน
แวดล้อมด้วยตาข่ายแก้วมุกดาไว้เหนือศีรษะข้าพเจ้า
มีเพดานผ้าติดดวงดาวทองมีแสงแวววาว
มีพวงมาลัยห้อยอยู่ทั่วงดงามตระการตา
เพดานผ้าทั้งหมด จงดาดอยู่เหนือศีรษะ
สระที่ดารดาษด้วยพวงมาลัย
งดงามด้วยพวงของหอม มีพวงผ้าห้อยระย้า
ประดับประดาด้วยพวงรัตนะ
มีดอกไม้เรียงราย งดงามนัก
อบด้วยของหอมกลิ่นฟุ้งขจายไป
ใช้นิ้วมือทั้ง ๕ เจิมด้วยของหอม
มุงด้วยหลังคาทองคำทั้ง ๔ ทิศ
ดารดาษด้วยดอกปทุมและดอกอุบล
ปรากฏเป็นสีทอง หอมฟุ้งด้วยละอองเกสรดอกปทุม
รอบๆ ปราสาท ต้นไม้ทุกต้นจงออกดอกบานสะพรั่ง
ดอกไม้หล่นเอง ปลิวไปโปรยปราสาท
ใกล้ๆ ปราสาทนั้น ขอฝูงนกยูงจงรำแพนหาง
ฝูงหงส์ทิพย์จงส่งเสียงร้อง ฝูงนกการเวกจงร้องขับขาน
วิหคก็จงส่งเสียงขับขานอยู่รอบๆ ปราสาท
กลองทุกชนิดจงดังขึ้น พิณทุกชนิดจงบรรเลง
เครื่องสังคีตทุกชนิดจงบรรเลงขับกล่อมอยู่รอบๆ ปราสาท
ตลอดพุทธเขตและในจักรวาล
ต่อจากนั้นจงมีบัลลังก์ทองขนาดใหญ่ เรืองรองด้วยรัศมี
ไม่มีช่องว่าง ขลิบด้วยรัตนะ ตั้งอยู่รอบๆ ปราสาท
ขอต้นพฤกษาประทีป (ต้นไม้ที่แขวนตะเกียง) จงส่องสว่าง
มีแสงโชติช่วงติดต่อเป็นอันเดียวกันทั้ง ๑๐,๐๐๐ ดวง
หญิงนักฟ้อนก็จงฟ้อน หญิงนักร้องก็จงขับร้อง
หมู่นางอัปสรก็จงร่ายรำ
สนามเต้นรำต่างๆจงปรากฏอยู่รอบๆ ปราสาท
#กรรมในอดีตชาติของพระพุทธเจ้า #อดีตกรรมของพระพุทธเจ้า #บุญกรรมของพระพุทธเจ้า
************************************
ขอเชิญอ่านพระสูตรบทเต็มได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=1
ขอเชิญอ่าน "กรรมองค์พระศาสดา" ตั้งแต่ตอนที่ ๑ ได้ที่
http://toncoon.com/community/index.php?topic=2350.0
ขออนุโมทนาสามารถเผยแผ่เป็นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย
**************************************
ขออนุโมทนากับผู้ร่วมรวบรวมพระธรรม ผู้อ่านอัดเสียงธรรม และตรวจทานคำผิดในการเผยแผ่ทุกท่าน
ขอให้ทั้งหลายเจริญในธรรม มีธรรมเป็นที่ไป มีธรรมดำเนินไป มีธรรมนำทางไป