จาก EP.1 :
https://ppantip.com/topic/38400541 Lake Tekapo
EP.2 :
https://ppantip.com/topic/38400711 Mt.Cook and Lake Wanaka
EP.3 :
https://ppantip.com/topic/38400985 Queenstown,Arrow Town,Glenochy
EP.นี้เราออกเดินทางจาก Queenstown โดยมีจจุดหมายหลัก คือ Milford Sound ถนนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก และล่องเรือชม Fiord
19 Oct – วันนี้เราออกเดินทางไกลไปเมืองที่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย มันคือ Te Anau เมืองที่เราจะใช้เป็นเมืองพัก เพื่อที่จะเดินทางไปที่ Milford Sound โดยเราทำการจอง Milford Sound Cruise ผ่านทางเวบไซต์ www.backpackerdeals.com ก็ได้ราคา 40NZD เป็น Cruise ของ Jucy Cruise Milford Sound
ก่อนออกไปเราทานอาหารเช้าที่บ้าน พร้อมเตรียมอาหารกลางวันมาด้วย วันนี้เราต้องขับรถประมาณ 170km และก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรกินมั๊ย อีกอย่าง ต้องย้ำคือ ถ้าออกจากเมืองใหญ่ขอให้มีน้ำมันเต็มถังไว้ก่อน เพื่อความอุ่นใจ น้ำดื่ม ลูกอมแก้ง่วง ขนมกรุบกริบ ระหว่างทางมีน้องม้า น้องแกะ อัลปาก้า ตลอดทาง เราได้แวะที่บ้านหลังนึงที่มีอัลปาก้า เจ้าของบ้านน่ารักมาก เอาอาหารมาใส่มือพวกเรา แล้วให้เราป้อนน้อง แถมชวนคุยนั่นนี่ คนที่นี้ใจดีมาก ออกจากที่นี่ เราไม่ได้ตรงไป Te Anau เลย เราเลือกที่จะขับแยกไปทาง Manapouri ซึ่งไม่ไกลจาก Te Anau เลย
เอาจริงๆ มันไม่ได้อยู่ในแผนไรหรอก เราขับมาเล่นๆ แล้วก็เจอว่าที่นี่เป็นท่าเรือที่ไป Doubtful Sound เท่าที่ดู Doubtful Sound มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า Milford Sound เงียบ สงบมากกว่า และพื้นที่น่าจะเยอะกว่า เราลองเขาไปถามการเดินทาง เรือเที่ยวสุดท้ายออกไปแล้ว เท่าที่อ่านมา มันมีความคล้ายกันมากและราคาก็ไม่ถูก เราเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร เราปิกนิกกันที่ท่าเรือ อากาศดีมากกกก นั่งทานข้าวแล้วก็คุยเรื่องนั่นนี่อีกแพ้พ แล้วก็เคลื่อนตัวไป Te Anau โดยตอนเช็คอินเราก็เช็คทัวร์ที่จะไปล่องเรือและไปดู Te Anau Glowworm Caves Tour ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Fiordland National Park เนื่องจากไม่จองมาล่วงหน้าก็แพงนิด คือ คนละ 99NZD ก็ขับจากที่พักไป แพ้พเดียว แล้วไปนั่งเรือ Catamaran คนน้อยดี สบายๆ เลย มีชั้นดาดฟ้าให้ชมวิวแต่ลมแรง หนาวมากกกก แต่เราเป็นพวกชอบนั่งเรือ หนาวก็ทน วิวรอบๆ เงียบสงบ มีแค่ น้ำ ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม แต่เราชอบนะ พอไปถึงก็ลงเรือ ไปพบเจ้าหน้าที่ อารมณ์แบบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชี้แจงนั่นนี่แล้วพาเราเดินเข้าถ้า ก็มีเรื่องเล่าว่าถ้ำนี้เจอมากี่ปี อายุถ้ำ และที่ไปที่มาของเจ้าหนอนที่สีไฟที่ตูด เหมือนเจ้าหิ่งห้อย แต่เจ้านี่เป็นหนอน ก็สนุกดีแต่เราเป็นพวกกลัวที่แคบ ช่วงนึงที่ต้องนั่งเรือล่องไปในความมืด อื้อหืออออ กลัวเชียว แล้วการเข้าถ้ำนี้ ห้ามใช้เสียง ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด เนื่องจากอาจจะไปหยุดการเติบโตของเจ้าหนอนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ภาพข้างล่างจาก Internet นะ แต่ แต่ แต่.. ของจริงตามดวงนะฮะ คือ ของเราเจอน้อยมาก เอาเป็นว่า ชอบนั่งเรือ เลยไม่รู้สึกพลาดอะไร
ทัวร์นี้ประมาณ 135 นาที กลับมาเราก็แวะซุปเปอร์ซื้ออาหารมาทำกัน เมืองนี้มี ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน เมืองขนาดไม่เล็กมากค่ะ มีโรงแรมอยุ่พอควร
ที่พักที่เราพักคืนนี้ อยู่ริมเลค ชื่อ Te Anau Kiwi Holidays Park and motels สำหรับ 3 คน เป็นแบบบังกะโลยุค 70s แต่มีของเครื่องใช้ครบครัน มีครัว ห้องนี้มีเตียงใหญ่ 1 เตียงเล็ก 2 ก็สะดวกสบายดี
คืนนี้เรานั่งคุยกันเรื่องวันพรุ่งนี้ที่จะไป Milford Sound เมื่อบ่ายโทร confirmed ไปเรียบร้อย เตรียมอาหารสำหรับอาหารเช้า อาหารเที่ยง และเวลาตื่นว่าใครตื่นกี่โมง เนื่องจากเราต้องออกตั้งแต่ ตี5 เพื่อขึ้นเรือตอน 8.55 แล้วระยะทางประมาณ 120KM เวลาก็คงประมาณ 2 ชั่วโมง
20 Oct : ถึงตอนออกจริง ด้วยความว่าฟ้ามืด และการจำกัดความเร็ว เราออก ตี 5.30 วิวข้างทางไม่ได้มองมากเพราะยังมืดอยู่แล้วง่วงมาก สรุปแอบหลับไปก่อนถึงแค่ครึ่งชั่วโมง เราต้องจอดรถข้างนอกแล้วเดินไปที่ Ferry ประมาณ 5 นาที ที่นี่เราเจอแมลงที่เหมือนยุง กัดเจ็บมาก ตัวใหญ่มาก และเราแพ้เกิดแผลเป็น คันจนต้องกินยาแก้แพ้ มันกัดทุกที่ที่ออกมานอกเสื้อผ้า ข้อเท้า มือ หน้าเรา ทรมานสุด
เอาล่ะ ขึ้นเรือๆ เราต้องไปแลกตั๋วที่เรา print มาจากเมืองไทย ไปที่เคาน์เตอร็ของ Jucy ที่ท่าเรือมีหลายยี่ห้อมากๆ เราจองมาก่อนราคาก็จะถูกกว่า ไปแลกตั๋วเสร็จไปดูเวลาพอดีๆ ก็ไปรอที่ Boarding deck ได้เลย วันนี้วันธรรมดาที่ค่อนข้างเช้า ก็มีนักท่องเที่ยวไม่เยอะ สบายๆ เค้าบอกว่า ที่นี่ฝนตกปีละ 200+ วัน ถ้าเจอฝนตกก็ไม่ต้องนอยด์ แต่เราโชคดีวันนี้ไม่มีฝน แต่เนื่องจากการอยู่ใน Fiordland มันก็จะอึมครึม ป่ามีความหนาแน่น เมฆลอยต่ำ นั่งเรือชมวิวจาก deck ดาดฟ้าบ้าง ข้างหลังที่เป็น open air บ้าง และก็โผล่ไปข้างหน้าสนุกดี มีขนมให้ มีเครื่องดื่ม เรือสวยงามและสะอาด
ตลอดทางเรือจะขับเลาะเขา ทำให้เห็นน้ำตกหลายๆสาย สวยงาม มีจุดดูน้องเพนกวิน ดูแมวน้ำ และถ้าโชคดีก็จะเจอโลมา นี่ก็ยืนชื่นชมความงามตลอดทาง
ขากลับจาก Milford Sound วิวข้างทางคือสวยมากกก สวยขาดใจ ถนนสายนี้ถือเป็นถนนที่สวย ติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก เราแวะตลอดทาง จุดชมวิวก็จะมีรถบัสแวะตลอดเช่นกัน ลำธารเล็กๆข้างทางคือใส เย็น พร้อมวิวหลักล้านจริงๆ เราแวะทานข้าวที่เราเตรียมมา อาหารเย็นๆเพราะอากาศหนาว แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นชืด เพราะวิวข้างทางเนี่ย ทำให้อาหารอร่อยขึ้นอีกเท่าตัว
ขากลับเราไม่ลืมที่จะแวะ Mirror Lake เรียกว่าอยู่ริมถนนเลย ถ้าวันที่น้ำนิ่งๆ ที่นี่ก็จะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนเงาภูเขา น้ำใสๆ นิ่งๆ ที่นี่มาปลาด้วยนะ
เย็นวันนี้เราเลือกที่จะไปนั่ง sport bar จิบเบียร์เย็นๆ พร้อมวิวริมเลคและคนท้องถิ่นที่ออกมาเจอเพื่อนฝูง สนุกไปอีกแบบ คืนนี้เราหลับอย่างมีความสุขในเมืองเล็กๆริมเลค ที่คนส่วนมากมักมองข้าม... นี่แหละกำไรในชีวิตข้า
[CR] เกาะใต้ New Zealand – โลกอีกใบของฉัน EP.4 Te Anau , Milford Sound
EP.2 : https://ppantip.com/topic/38400711 Mt.Cook and Lake Wanaka
EP.3 : https://ppantip.com/topic/38400985 Queenstown,Arrow Town,Glenochy
EP.นี้เราออกเดินทางจาก Queenstown โดยมีจจุดหมายหลัก คือ Milford Sound ถนนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก และล่องเรือชม Fiord
19 Oct – วันนี้เราออกเดินทางไกลไปเมืองที่เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย มันคือ Te Anau เมืองที่เราจะใช้เป็นเมืองพัก เพื่อที่จะเดินทางไปที่ Milford Sound โดยเราทำการจอง Milford Sound Cruise ผ่านทางเวบไซต์ www.backpackerdeals.com ก็ได้ราคา 40NZD เป็น Cruise ของ Jucy Cruise Milford Sound
ก่อนออกไปเราทานอาหารเช้าที่บ้าน พร้อมเตรียมอาหารกลางวันมาด้วย วันนี้เราต้องขับรถประมาณ 170km และก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรกินมั๊ย อีกอย่าง ต้องย้ำคือ ถ้าออกจากเมืองใหญ่ขอให้มีน้ำมันเต็มถังไว้ก่อน เพื่อความอุ่นใจ น้ำดื่ม ลูกอมแก้ง่วง ขนมกรุบกริบ ระหว่างทางมีน้องม้า น้องแกะ อัลปาก้า ตลอดทาง เราได้แวะที่บ้านหลังนึงที่มีอัลปาก้า เจ้าของบ้านน่ารักมาก เอาอาหารมาใส่มือพวกเรา แล้วให้เราป้อนน้อง แถมชวนคุยนั่นนี่ คนที่นี้ใจดีมาก ออกจากที่นี่ เราไม่ได้ตรงไป Te Anau เลย เราเลือกที่จะขับแยกไปทาง Manapouri ซึ่งไม่ไกลจาก Te Anau เลย
เอาจริงๆ มันไม่ได้อยู่ในแผนไรหรอก เราขับมาเล่นๆ แล้วก็เจอว่าที่นี่เป็นท่าเรือที่ไป Doubtful Sound เท่าที่ดู Doubtful Sound มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า Milford Sound เงียบ สงบมากกว่า และพื้นที่น่าจะเยอะกว่า เราลองเขาไปถามการเดินทาง เรือเที่ยวสุดท้ายออกไปแล้ว เท่าที่อ่านมา มันมีความคล้ายกันมากและราคาก็ไม่ถูก เราเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร เราปิกนิกกันที่ท่าเรือ อากาศดีมากกกก นั่งทานข้าวแล้วก็คุยเรื่องนั่นนี่อีกแพ้พ แล้วก็เคลื่อนตัวไป Te Anau โดยตอนเช็คอินเราก็เช็คทัวร์ที่จะไปล่องเรือและไปดู Te Anau Glowworm Caves Tour ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Fiordland National Park เนื่องจากไม่จองมาล่วงหน้าก็แพงนิด คือ คนละ 99NZD ก็ขับจากที่พักไป แพ้พเดียว แล้วไปนั่งเรือ Catamaran คนน้อยดี สบายๆ เลย มีชั้นดาดฟ้าให้ชมวิวแต่ลมแรง หนาวมากกกก แต่เราเป็นพวกชอบนั่งเรือ หนาวก็ทน วิวรอบๆ เงียบสงบ มีแค่ น้ำ ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม แต่เราชอบนะ พอไปถึงก็ลงเรือ ไปพบเจ้าหน้าที่ อารมณ์แบบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชี้แจงนั่นนี่แล้วพาเราเดินเข้าถ้า ก็มีเรื่องเล่าว่าถ้ำนี้เจอมากี่ปี อายุถ้ำ และที่ไปที่มาของเจ้าหนอนที่สีไฟที่ตูด เหมือนเจ้าหิ่งห้อย แต่เจ้านี่เป็นหนอน ก็สนุกดีแต่เราเป็นพวกกลัวที่แคบ ช่วงนึงที่ต้องนั่งเรือล่องไปในความมืด อื้อหืออออ กลัวเชียว แล้วการเข้าถ้ำนี้ ห้ามใช้เสียง ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด เนื่องจากอาจจะไปหยุดการเติบโตของเจ้าหนอนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ภาพข้างล่างจาก Internet นะ แต่ แต่ แต่.. ของจริงตามดวงนะฮะ คือ ของเราเจอน้อยมาก เอาเป็นว่า ชอบนั่งเรือ เลยไม่รู้สึกพลาดอะไร
ทัวร์นี้ประมาณ 135 นาที กลับมาเราก็แวะซุปเปอร์ซื้ออาหารมาทำกัน เมืองนี้มี ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน เมืองขนาดไม่เล็กมากค่ะ มีโรงแรมอยุ่พอควร
ที่พักที่เราพักคืนนี้ อยู่ริมเลค ชื่อ Te Anau Kiwi Holidays Park and motels สำหรับ 3 คน เป็นแบบบังกะโลยุค 70s แต่มีของเครื่องใช้ครบครัน มีครัว ห้องนี้มีเตียงใหญ่ 1 เตียงเล็ก 2 ก็สะดวกสบายดี
คืนนี้เรานั่งคุยกันเรื่องวันพรุ่งนี้ที่จะไป Milford Sound เมื่อบ่ายโทร confirmed ไปเรียบร้อย เตรียมอาหารสำหรับอาหารเช้า อาหารเที่ยง และเวลาตื่นว่าใครตื่นกี่โมง เนื่องจากเราต้องออกตั้งแต่ ตี5 เพื่อขึ้นเรือตอน 8.55 แล้วระยะทางประมาณ 120KM เวลาก็คงประมาณ 2 ชั่วโมง
20 Oct : ถึงตอนออกจริง ด้วยความว่าฟ้ามืด และการจำกัดความเร็ว เราออก ตี 5.30 วิวข้างทางไม่ได้มองมากเพราะยังมืดอยู่แล้วง่วงมาก สรุปแอบหลับไปก่อนถึงแค่ครึ่งชั่วโมง เราต้องจอดรถข้างนอกแล้วเดินไปที่ Ferry ประมาณ 5 นาที ที่นี่เราเจอแมลงที่เหมือนยุง กัดเจ็บมาก ตัวใหญ่มาก และเราแพ้เกิดแผลเป็น คันจนต้องกินยาแก้แพ้ มันกัดทุกที่ที่ออกมานอกเสื้อผ้า ข้อเท้า มือ หน้าเรา ทรมานสุด
เอาล่ะ ขึ้นเรือๆ เราต้องไปแลกตั๋วที่เรา print มาจากเมืองไทย ไปที่เคาน์เตอร็ของ Jucy ที่ท่าเรือมีหลายยี่ห้อมากๆ เราจองมาก่อนราคาก็จะถูกกว่า ไปแลกตั๋วเสร็จไปดูเวลาพอดีๆ ก็ไปรอที่ Boarding deck ได้เลย วันนี้วันธรรมดาที่ค่อนข้างเช้า ก็มีนักท่องเที่ยวไม่เยอะ สบายๆ เค้าบอกว่า ที่นี่ฝนตกปีละ 200+ วัน ถ้าเจอฝนตกก็ไม่ต้องนอยด์ แต่เราโชคดีวันนี้ไม่มีฝน แต่เนื่องจากการอยู่ใน Fiordland มันก็จะอึมครึม ป่ามีความหนาแน่น เมฆลอยต่ำ นั่งเรือชมวิวจาก deck ดาดฟ้าบ้าง ข้างหลังที่เป็น open air บ้าง และก็โผล่ไปข้างหน้าสนุกดี มีขนมให้ มีเครื่องดื่ม เรือสวยงามและสะอาด
ตลอดทางเรือจะขับเลาะเขา ทำให้เห็นน้ำตกหลายๆสาย สวยงาม มีจุดดูน้องเพนกวิน ดูแมวน้ำ และถ้าโชคดีก็จะเจอโลมา นี่ก็ยืนชื่นชมความงามตลอดทาง
ขากลับจาก Milford Sound วิวข้างทางคือสวยมากกก สวยขาดใจ ถนนสายนี้ถือเป็นถนนที่สวย ติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก เราแวะตลอดทาง จุดชมวิวก็จะมีรถบัสแวะตลอดเช่นกัน ลำธารเล็กๆข้างทางคือใส เย็น พร้อมวิวหลักล้านจริงๆ เราแวะทานข้าวที่เราเตรียมมา อาหารเย็นๆเพราะอากาศหนาว แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นชืด เพราะวิวข้างทางเนี่ย ทำให้อาหารอร่อยขึ้นอีกเท่าตัว
ขากลับเราไม่ลืมที่จะแวะ Mirror Lake เรียกว่าอยู่ริมถนนเลย ถ้าวันที่น้ำนิ่งๆ ที่นี่ก็จะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนเงาภูเขา น้ำใสๆ นิ่งๆ ที่นี่มาปลาด้วยนะ
เย็นวันนี้เราเลือกที่จะไปนั่ง sport bar จิบเบียร์เย็นๆ พร้อมวิวริมเลคและคนท้องถิ่นที่ออกมาเจอเพื่อนฝูง สนุกไปอีกแบบ คืนนี้เราหลับอย่างมีความสุขในเมืองเล็กๆริมเลค ที่คนส่วนมากมักมองข้าม... นี่แหละกำไรในชีวิตข้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้