▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
โรงแรมรีสอร์ท
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
[CR] เกาะใต้ New Zealand – โลกอีกใบของฉัน ep.2 Mt.Cook Aoraki-Wanaka
เราต้องไปถึงที่ Mount Cook สักบ่าย 2 เพื่อเดิน trek ของ Hooker Valley เข้าไปหา Mt.Cook ตัวเป็นๆ ซึ่งเป็น Trail ที่ใช้เวลาไปกลับ 3 ชั่วโมง เอาเป็นว่าแถวนี้มีที่ให้จอดแวะถ่ายรูปตลอดเวลา โดยจุดที่เราชอบมาก คือจุดที่เลย Mt.Cook/Aoraki Aerodrome มาไม่ไกล จะเจอวิวนี่เลย
มาถึงที่ลานจอดของ Hooker Valley วันนี้อากาศสัก 8 องศา ฟ้าใสชนิดไม่มีเมฆเลย แนะนำว่าให้ใส่เสื้อแบบบาง แจคเก็ตเบาๆ แว่นกันแดด ทากันแดดไปให้ทั่วหน้า พกกน้ำขวดจิ๋วๆไปจิบ อ่อ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะ ไม่งั้นคือ... เข้าไปเด็ดดอกไม้อย่างเดียว เพราะไม่มีห้องน้ำ ไม่มีถังขยะ 8km เต็มๆ ระหว่างที่เราเดิน ต้องยอมรับว่าเดินง่ายมาก ด้วยที่ว่าอากาศดีเดินไปสบายๆแต่อุปสรรคจริงๆ คือแดดที่ฟาดหน้าอย่างไม่ลดละ ดีที่เสื้อมีฮู้ดของเราช่วยได้เยอะ ช่วง Spring เป็นช่วงที่ต้นไม้เขียว สดชื่นมากกกก
ตอนที่เราเดินนี่เดินไปคนเดียวไปเรื่อยๆ ชมวิวไปเท้าก็พยายามจะไม่หยุดเดินจะได้ไม่เมื่อยมาก โดยมีจุดหมายคือการได้พบหน้า คุณ Mt.Cook เพลิดเพลินตลอดทางจริงๆ ธรรมชาติช่างยิ่งใหญ่เตือนใจตัวเองว่าเราเองตัวเล็กมาก เล็กเหลือเกิน เราเปลี่ยนโลกไม่ได้ เราเปลี่ยนใครไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือทำใจให้มีความสุข อยู่กับความเปลี่ยนแปลงได้ อยู่ด้วยความรู้สึกพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เดินไปจนถึง walk-board ที่เป็นสะพานไม้ยาวๆๆๆ เดินจนสุด และตอนนั้นก็สัก 17.00 ละ เลยตัดสินใจเดินกลับเพราะรู้ตัวว่าเรามาไกลแล้ว ถามตัวเองว่าเสียใจมั๊ยที่ไม่ได้เดินเข้าไป พอตอบได้ว่า “ไม่” ก็เดินกลับเลย เดินไป ถ่ายรูปไป แดดยังแรงเหมือนเดิม แต่ย้ายมาเผาแก้มด้านขวาเต็มๆ
ต้องบอกว่า ระหว่างเดินคนเดียว คิดแต่ว่า ยังไงก็ต้องไป ไปให้ถึง มาแล้ว ไปเห็นเองกับตา... ดีใจ ที่วันนั้นตัดสินใจที่จะไป ชอบมากจริงๆ
เย็นนี้เราเหนื่อยกันเลยทานข้าวที่ร้านอาหาร ชื่อ The Chamois ไม่อร่อยเลย แต่ต้องกิน สั่งสเต๊กเนื้อ พิซซ่า อร่อยสุดน่าจะเป็นเฟรนช์ฟราย กะ onion ring จบการรายงาน
คืนนี้เราพักที่ Mt.Cook- Aoraki Court Motel ติดกะร้านอาหาร เป็นห้อง studio สวยงาม ที่นอนสบายมากกก ของเรา 3 คน มี 1 king size bed + single bed ห้องน้ำดีงาม มีครัวเล็กๆ ที่เค้าขอให้เราแค่ต้มน้ำร้อน หรือทำมาม่าได้เท่านั้น คืนนี้ก็ออกไปถ่ายดาวรอบๆที่พัก ยังเสียดาย ถ้าวันนั้นขับรถออกไปอีกนิด คงได้รูปดีๆ แต่เพราะเหนื่อยแล้ว เลยอดเลย
16 Oct – เช้านี้ตัดใจลา Mt.Cook/Aoraki เพื่อเดินทางต่อไปยัง Wanaka Drive 210 KM (3Hr) ระหว่างทาง ผ่านเลค Pukaki นางน่ารัก ยิ่งวันนี้อากาศดีมากๆ ฟ้าใสแจ๋ว เราจอดรถ ลงไปถ่ายรูป กระโดดขึ้นรถ ขับต่อ ทำแบบนี้มาตลอดการเดินทางใน NZ เลย เท่าที่เห็นทุกคนก็เป็นเหมือนเรา จากที่นี่ขับไปสัก ชั่วโมง ... เอาเป็นว่าไม่ไกลมา แต่นานเพราะเราจอดตลอดบวกกับการจำกัดความเร็วของที่นี่ เราก็จะผ่าน Country Salmon Farm ที่เพื่อนชาวมาเล เราบอกว่า ยังไงก็ตควรลอง โดยแนะนำให้สั่ง ครีบแซลมอนย่าง กะ ซาชิมะ จัดไปค่ะ ก็ดีนะ เค็มๆ นิดๆแบบแซลม่อนย่างซีอิ๊ว
ออกจากที่นี่ไปที่เมือง Wanaka เมืองที่มีต้นไม้อยู่ในเลค ในความไม่มีอะไร มันก็มีอะไร ไม่รู้ทำไม ... คือก็อยากรู้ว่าผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อถ่ายต้นไม้ต้นเดียว ทำไมนะ? อ่ะ อยากรู้ก็ต้องมาก เรื่องกินก็สำคัญ(มาก) มีเพื่อนแนะนำร้านชื่อ Florence Food store &Café เป็นร้านอาหารที่เป็นออแกนิคส์ วัตถุดิบชั้นดีเลิศเลอ อร่อยทุกสิ่งอัน แต่ชอบมากส่วนตัวคือ Bagel Cream Cheese ที่นี่ดีงามมาก
กินเสร็จเราก็ขับรถเข้ามาเมืองเล็กๆ แห่งนี้ โดยจุดแรกที่ไปก็คือ ต้น That Wanaka Tree ต้นไม้ที่อยู่ในเลค ไม่ว่าน้ำจะขึ้น จะลง อากาศจะร้อนหนาว ก็อดทนอยู่ตรงนี้ ตอนนี้เพิ่งผ่าน Winter มาไม่นานเข้าสู่ Spring คุณเค้าก็ออกใบอ่อนๆ มาให้ชม ตรงนี้เป็นสวนสาธารณะ คนมาวิ่ง เดินชิลริมเลค นอนอาบแดด
Wanaka ที่นี่ทำเราต้องมนต์ ถึงกะอยากมาปักหลักตั้งรกรากเลยทีเดียว
เราแวะที่ Wharf ท่าเรือขนาดเล็กจิ๋ว น่ารัก และมีที่ให้เช่าเรือ เช่าอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ แต่เนื่องจากหนาวมากก็จะเงียบๆหน่อย
ถ้ามีเวลาการนั่งเรือชมเลคก็คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ชั้นจะไม่พลาดเลยจริงๆนะ แต่วันนั้นเรือออกไปแล้ว เราเลยเลือกที่จะกลับโรงแรม โรงแรมที่นี่ก็แนะนำเลย ดีมาก วิวสวยมาก ห้องที่เลือกของเราเป็นห้อง Lake View ชั้น 1 ของอาคาร 2 เปิดประตูอีกด้านหลังคือติดเลคเลย ราคาที่นี่ค่อนข้างโอเค สำหรับ 3 คน ราคาประมาณ 6,000 บาท
เย็นนี้เราจะออกไปถ่ายรูป Wanaka Tree อีกรอบ เค้าบอกว่าที่นี่ฟ้าก่อนพระอาทิตย์ตกดินสวยมาก เราไปเจอกับช่างภาพมืออาชีพ เลนส์ยาววววว อุปกรณ์ครบครัน ส่วนเรานั้นไปกับ Mirrorless พร้อมขาตั้งแสนธรรมดา เดินถอยหน้าถอยหลังระวังจะชนกล้องชาวบ้าน เกรงว่าทริปนี้จะราคาเรือนล้าน 555+ วันนี้ฟ้ามีเมฆมาก อากาศอยู่ๆก็หนาวมาก คนอื่นทยอยกลับกันหมด เรารู้ตัวอีกทีก็ 3ทุ่มละ
Where to eat : ซึ่งเย็นนี้กว่าจะได้ทาน ร้านอาหารเกือบทั้งเมืองก็ปิดหมด เราเลยต้องไปร้านที่เราเล็งๆ เอาไว้ คือ Wanaka Gourmet Kitchen (WGK) แนะนำโดย Yelp, Trip Advisor เราสั่งเนื้อ Rob Roys วางบนหินร้อน , Seared Scallop, Lamp Shoulder ทุกจานดีงามมากจริงๆ
Wanaka เป็นที่ที่เราอยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายจริงๆนะ ชั้นต้องเป็นคนแก่ที่มีความสุข และอายุยืนขึ้นมากแน่ๆ
แล้วไปต่อกันที่ EP ถัดไป Queenstown น๊า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้