ท่ามกลางสภาพที่ Gen X ส่ายหัวกับน้องๆ Gen Y เพราะมุมมองในชีวิตที่ต่างกัน เคยไปโพสต์ในกระทู้นึงที่ถามว่า Gen Y มีใครอยากเป็นหัวหน้างานกันหรือไม่ คำตอบส่วนใหญ่ก็คือไม่อยากเป็น มันเหนื่อย มันหัวโขน มันเสียสละเกิน Work Life Balance มันไม่ได้ ... ฯลฯ ก็เข้าใจ สังคมเราคนร้อยคน เป็นลูกน้องเสีย 80 - 90 คน แนวทางคำตอบก็ออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว
เรารู้ดีว่า Gen Y มีความคิดที่เป็น Unique ไปจาก Gen เดิมๆ ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องใช้ชีวิต เช่น อยากทำธุรกิจส่วนตัว มากกว่าที่จะจำเจ อยู่ในบริษัทใดนานๆ หรือ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ไม่ใช่ทำงานหลังขดหลังแข็ง ดูภาพล่างประกอบด้วย (ไม่รู้จะให้เครดิตใคร เพราะส่งต่อๆ กันมา แต่อ่านแล้ว ทั้ง Gen X Gen Y ก็บอกว่าตรง) อยากฟังความคิด Gen Y เรื่อง เบสิคๆ ของ Gen X ว่า
1. งานอิสระ งานส่วนตัว ไม่มีบริษัท ที่ทำงานรับรองรายได้ ... ทำบัตรเครดิตกันอย่างไร ( 0% 10 เดือนได้ไหม)
( ขอแบบคนส่วนใหญ่นะ แบบรวยเป็นสิบ เป็นร้อยล้าน ส่วนน้อย นั่งก่อนนะ)
2. เที่ยวไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ... จะมีครอบครัว จะซื้อบ้าน ยังไง
3. แผนการเงิน การมีลูก ลูกเข้าเรียน ประกันสุขภาพลูก Gen Y คิดเรื่องนี้อย่างไร
4. หลักประกันสุขภาพตัวเอง ความมั่นคงทางการเงิน หลังเกษียณ วางแผนไว้อย่างไร
( เล่นหุ้น มี Passive Income นั่งลงก่อนนะ เพราะมันทำแบบนั้นไม่ได้ทุกคน )
สำหรับคนที่จะเม้นท์ว่า พ่อแม่รวย บ้านรวย อยู่กับพ่อแม่ไปตลอดไม่ต้องซื้อบ้าน หรือ ไม่มีเมีย ไม่มีสามี ไม่อยากมีลูก ...
ขอให้นั่งลงก่อนนะครับ มันจะไม่ได้อะไรเอา ( ถามว่าจะทำอย่างไร ถ้าคำตอบว่า ก็ไม่ต้องทำ บทสนทนามันเดินต่อไม่ได้)
หวังว่า Gen Y น่าจะให้มุมมองดีๆ ได้ ขณะที่ Gen X อาจจะหาช่องเข้าหา ได้ใจ เข้าใจ Gen Y ได้มากขึ้น
เอ้า .....เริ่มได้
แก้ไขเพิ่มเติม #1 26 ธค 61
กลัวไปเองว่า จะเข้าใจประเด็นไม่ชัดเจน มาเพิ่มเติมตรงนี้อีกนิด
1. ไม่มีเจตนา แซะ Gen Y ..... คนอายุมากๆ ห่วยๆ มีมากมาย
2. Chart ที่มาแสดง ก็ได้รับการส่งต่อๆ กันมา หลายคนคงเห็นกันมาแล้ว หลายคนก็เห็นด้วย จึงนำมาประกอบประเด็น
ถ้าไม่ตรงใจ ก็ขอโทษด้วยครับ
3. ไม่น่าเกี่ยวกับ Generation .... ก็แล้วแต่จะเรียกล่ะครับ เพียงแต่นักการตลาด นักวิชาการ เขาสำรวจแล้ว ก็เลย
Grouping ออกมาเป็นแบบนี้ เราก็แค่เอามาใช้ จะเรียกว่า คนรุ่นนี้ หรือ อะไรก็ได้ มันเป็นเรื่องแค่ Wording ที่ใช้ ไม่ใช่สาระหลัก
4. หลายๆ ความคิดเห็นในนี้ มีความคิดที่ดี สำหรับ ท่านที่ไม่อยากเป็นผู้บริหาร ก็เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ และไม่จำเป็นต้องเป็น
5. อันนี้สำคัญ ... ประเด็นคือ อีกไม่เกิน 10 ปี อย่างเร็ว 5 ปี Generation ที่เป็นผู้บริหารในปัจจุบัน จะหายไปจากระบบ
สิ่งที่ท้าทาย นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล คือการปั้น คนให้มารับช่วงต่อ ใน Gen ที่แล้ว สามารถสร้างทายาทได้ไม่ยาก
ด้วยวิธีเดิมๆ แต่ ทายาทช่วงสุดท้าย ที่จะส่งไม้ ต่อไปยัง รุ่นถัดไป เกิดภาวะชะงักงัน บางองค์กร ผู้บริหารคนไทยรุ่นปัจจุบัน
มองลงมาในองค์กร เริ่มมองไม่เห็น Talent ของพนักงานที่จะมารับช่วง บางที่ผู้บริหารต้องรายงานตัวเลขกับ Top พอตกค่ำ
ต้องมาตรวจเอกสารโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นงานเดิมๆ ที่เคยทำตอนสามสิบต้นๆ จนสี่สิบปลายๆ แล้วก็ยังต้องทำอยู่
( ปัญหาเฉพาะบุคคลเช่นไม่ถ่ายงาน ไม่สอนงาน ฯลฯ ตัดออกไปก่อน เห็นด้วยว่ามี ) หลายครั้งที่แนะนำแล้ว แต่ก็ต้อง
ปล่อยให้เป็นไป เหมือนพ่อแม่ ปล่อยมือลูก ที่หัดขี่จักรยาน ถ้าล้มบาดเจ็บ พ่อแม่ก็น้ำตาไหล หลายครั้งที่พอประชุมเสร็จ
ก็ถูกลูกค้า เรียกไปตำหนิ อีกห้อง ว่าเอาเด็กที่ไหนมาพรีเซนต์งาน หัวหน้าก็ต้องกัดลิ้นจนเลือดไหล ซึ่งตรงนี้ ผู้บริหารรับได้
และต้องรับ มันคือส่วนหนึ่งของการสร้างคน จากแนวโน้มที่ สังคมกำลังขาดแคลนผู้บริหาร ในยุคถัดไป หลายองค์กรกำลัง
ค้นหา วิธี หนทาง ในการสร้างแรงจูงใจ ในการปั้นคนขึ้นมา มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังตอบโจทย์ไม่ได้ว่า
ต้องทำอย่างไร หลายองค์กร ต้องอิมพอร์ตต่างชาติอายุน้อยๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาเป็นเป็นผู้บริหารแทน ทั้งที่รู้ว่าต้นทุน
องค์กรมันต้องสูงขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นภาระร่วม ของคนทั้งองค์กร เมื่อไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ก็ต้องเลิกกิจการไป
ไม่มีความจำเป็นใดๆ ในกระทู้นี้ ที่ต้อง Defense ว่า ทำไมต้องเป็น ทำไมต้องรักองค์กร ทำไมต้องเสียสละ เพราะรู้ดีอยู่แล้ว
สุดท้าย ทุกคนก็เลือกตัวเองทั้งนั้น แม้แต่ จขกท เองก็ด้วย ครั้งหนึ่ง องค์กร เคยนำ ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์
มาใช้ผูกกับการสร้าง Motivation ในการทำงานแต่ในยุคต่อจากนี้ไป มันอาจไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ดังนั้น ประเด็นของกระทู้คือ
เราจะสามารถค้นหา Key Word อะไรสักอย่างที่จะเป็น Motivation ในการสร้างแผนการปั้น ผู้บริหารรุ่นใหม่ ขึ้นมาได้
ด้วยวิธีการใหม่ ๆ ...... แม้ว่ามันจะเลือนลาง แต่เราต้อง ไม่หมดความหวัง จขกท รู้ว่า มีหลายองค์กร กำลังจ้างบริษัทคอนซัลท์
ที่มีชื่อเสียงทำสำรวจ ( Study Project ) ว่าจะสร้าง Motivation ในการสร้างผุ้บริหารอย่างไร ด้วยราคาที่แสนแพง ( ผมจ่ายไปแล้ว )
ตัวแทนองค์กร หากได้อ่าน ความคิดเห็นต่างๆ ในนี้ อาจพอได้ ไอเดีย หรือ อาจแชร์ ปสก ด้วย ก็ยินดี
สุดท้าย Gen ปัจจุบัน ก็ต้องจากไป จะเต็มใจหรือไม่ Gen ถัดไปก็ต้องรับ จะทำเองหรือจะให้ต่างชาติมาเป็นหัวหน้า
หรือจะประเมินทรัพย์สิน แล้วเลิกกิจการ ตกงานกันไป 3-400 คนก็สุดแล้วแต่ ตอนนี้เรามีหน้าที่นี้ ก็ต้องทำตรงนี้ให้ดี
เพิ่มอีกนิด ... คำถามด้านบน เป็นคำถาม Dummy ที่ถอดจาก ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์โดยทั่วๆ ไป คาดว่าจะสามารถ
โยงเข้ากับ การออกแบบชีวิตให้ Secure ได้ ตั้งใจว่าน่าจะหา Key Word อะไรได้บ้าง สำหรับคนที่กำลังจะเม้นท์ว่า ผมไม่เห็น
ต้องการเลย ไม่เป็นไรนะครับ คุณคือผู้โชคดี ถ้าจะให้ดีมากๆ เลย ช่วยกัน Design แบบสอบถามกันดีกว่า มีคนตั้งคำถามมากพอแล้วครับ
เชิญต่อครับ
อยากรู้ว่าน้องๆ Gen Y มองชีวิตอนาคตอย่างไร
เรารู้ดีว่า Gen Y มีความคิดที่เป็น Unique ไปจาก Gen เดิมๆ ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องใช้ชีวิต เช่น อยากทำธุรกิจส่วนตัว มากกว่าที่จะจำเจ อยู่ในบริษัทใดนานๆ หรือ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ไม่ใช่ทำงานหลังขดหลังแข็ง ดูภาพล่างประกอบด้วย (ไม่รู้จะให้เครดิตใคร เพราะส่งต่อๆ กันมา แต่อ่านแล้ว ทั้ง Gen X Gen Y ก็บอกว่าตรง) อยากฟังความคิด Gen Y เรื่อง เบสิคๆ ของ Gen X ว่า
1. งานอิสระ งานส่วนตัว ไม่มีบริษัท ที่ทำงานรับรองรายได้ ... ทำบัตรเครดิตกันอย่างไร ( 0% 10 เดือนได้ไหม)
( ขอแบบคนส่วนใหญ่นะ แบบรวยเป็นสิบ เป็นร้อยล้าน ส่วนน้อย นั่งก่อนนะ)
2. เที่ยวไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ... จะมีครอบครัว จะซื้อบ้าน ยังไง
3. แผนการเงิน การมีลูก ลูกเข้าเรียน ประกันสุขภาพลูก Gen Y คิดเรื่องนี้อย่างไร
4. หลักประกันสุขภาพตัวเอง ความมั่นคงทางการเงิน หลังเกษียณ วางแผนไว้อย่างไร
( เล่นหุ้น มี Passive Income นั่งลงก่อนนะ เพราะมันทำแบบนั้นไม่ได้ทุกคน )
สำหรับคนที่จะเม้นท์ว่า พ่อแม่รวย บ้านรวย อยู่กับพ่อแม่ไปตลอดไม่ต้องซื้อบ้าน หรือ ไม่มีเมีย ไม่มีสามี ไม่อยากมีลูก ...
ขอให้นั่งลงก่อนนะครับ มันจะไม่ได้อะไรเอา ( ถามว่าจะทำอย่างไร ถ้าคำตอบว่า ก็ไม่ต้องทำ บทสนทนามันเดินต่อไม่ได้)
หวังว่า Gen Y น่าจะให้มุมมองดีๆ ได้ ขณะที่ Gen X อาจจะหาช่องเข้าหา ได้ใจ เข้าใจ Gen Y ได้มากขึ้น
เอ้า .....เริ่มได้
แก้ไขเพิ่มเติม #1 26 ธค 61
กลัวไปเองว่า จะเข้าใจประเด็นไม่ชัดเจน มาเพิ่มเติมตรงนี้อีกนิด
1. ไม่มีเจตนา แซะ Gen Y ..... คนอายุมากๆ ห่วยๆ มีมากมาย
2. Chart ที่มาแสดง ก็ได้รับการส่งต่อๆ กันมา หลายคนคงเห็นกันมาแล้ว หลายคนก็เห็นด้วย จึงนำมาประกอบประเด็น
ถ้าไม่ตรงใจ ก็ขอโทษด้วยครับ
3. ไม่น่าเกี่ยวกับ Generation .... ก็แล้วแต่จะเรียกล่ะครับ เพียงแต่นักการตลาด นักวิชาการ เขาสำรวจแล้ว ก็เลย
Grouping ออกมาเป็นแบบนี้ เราก็แค่เอามาใช้ จะเรียกว่า คนรุ่นนี้ หรือ อะไรก็ได้ มันเป็นเรื่องแค่ Wording ที่ใช้ ไม่ใช่สาระหลัก
4. หลายๆ ความคิดเห็นในนี้ มีความคิดที่ดี สำหรับ ท่านที่ไม่อยากเป็นผู้บริหาร ก็เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ และไม่จำเป็นต้องเป็น
5. อันนี้สำคัญ ... ประเด็นคือ อีกไม่เกิน 10 ปี อย่างเร็ว 5 ปี Generation ที่เป็นผู้บริหารในปัจจุบัน จะหายไปจากระบบ
สิ่งที่ท้าทาย นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล คือการปั้น คนให้มารับช่วงต่อ ใน Gen ที่แล้ว สามารถสร้างทายาทได้ไม่ยาก
ด้วยวิธีเดิมๆ แต่ ทายาทช่วงสุดท้าย ที่จะส่งไม้ ต่อไปยัง รุ่นถัดไป เกิดภาวะชะงักงัน บางองค์กร ผู้บริหารคนไทยรุ่นปัจจุบัน
มองลงมาในองค์กร เริ่มมองไม่เห็น Talent ของพนักงานที่จะมารับช่วง บางที่ผู้บริหารต้องรายงานตัวเลขกับ Top พอตกค่ำ
ต้องมาตรวจเอกสารโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นงานเดิมๆ ที่เคยทำตอนสามสิบต้นๆ จนสี่สิบปลายๆ แล้วก็ยังต้องทำอยู่
( ปัญหาเฉพาะบุคคลเช่นไม่ถ่ายงาน ไม่สอนงาน ฯลฯ ตัดออกไปก่อน เห็นด้วยว่ามี ) หลายครั้งที่แนะนำแล้ว แต่ก็ต้อง
ปล่อยให้เป็นไป เหมือนพ่อแม่ ปล่อยมือลูก ที่หัดขี่จักรยาน ถ้าล้มบาดเจ็บ พ่อแม่ก็น้ำตาไหล หลายครั้งที่พอประชุมเสร็จ
ก็ถูกลูกค้า เรียกไปตำหนิ อีกห้อง ว่าเอาเด็กที่ไหนมาพรีเซนต์งาน หัวหน้าก็ต้องกัดลิ้นจนเลือดไหล ซึ่งตรงนี้ ผู้บริหารรับได้
และต้องรับ มันคือส่วนหนึ่งของการสร้างคน จากแนวโน้มที่ สังคมกำลังขาดแคลนผู้บริหาร ในยุคถัดไป หลายองค์กรกำลัง
ค้นหา วิธี หนทาง ในการสร้างแรงจูงใจ ในการปั้นคนขึ้นมา มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังตอบโจทย์ไม่ได้ว่า
ต้องทำอย่างไร หลายองค์กร ต้องอิมพอร์ตต่างชาติอายุน้อยๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาเป็นเป็นผู้บริหารแทน ทั้งที่รู้ว่าต้นทุน
องค์กรมันต้องสูงขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นภาระร่วม ของคนทั้งองค์กร เมื่อไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ก็ต้องเลิกกิจการไป
ไม่มีความจำเป็นใดๆ ในกระทู้นี้ ที่ต้อง Defense ว่า ทำไมต้องเป็น ทำไมต้องรักองค์กร ทำไมต้องเสียสละ เพราะรู้ดีอยู่แล้ว
สุดท้าย ทุกคนก็เลือกตัวเองทั้งนั้น แม้แต่ จขกท เองก็ด้วย ครั้งหนึ่ง องค์กร เคยนำ ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์
มาใช้ผูกกับการสร้าง Motivation ในการทำงานแต่ในยุคต่อจากนี้ไป มันอาจไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ดังนั้น ประเด็นของกระทู้คือ
เราจะสามารถค้นหา Key Word อะไรสักอย่างที่จะเป็น Motivation ในการสร้างแผนการปั้น ผู้บริหารรุ่นใหม่ ขึ้นมาได้
ด้วยวิธีการใหม่ ๆ ...... แม้ว่ามันจะเลือนลาง แต่เราต้อง ไม่หมดความหวัง จขกท รู้ว่า มีหลายองค์กร กำลังจ้างบริษัทคอนซัลท์
ที่มีชื่อเสียงทำสำรวจ ( Study Project ) ว่าจะสร้าง Motivation ในการสร้างผุ้บริหารอย่างไร ด้วยราคาที่แสนแพง ( ผมจ่ายไปแล้ว )
ตัวแทนองค์กร หากได้อ่าน ความคิดเห็นต่างๆ ในนี้ อาจพอได้ ไอเดีย หรือ อาจแชร์ ปสก ด้วย ก็ยินดี
สุดท้าย Gen ปัจจุบัน ก็ต้องจากไป จะเต็มใจหรือไม่ Gen ถัดไปก็ต้องรับ จะทำเองหรือจะให้ต่างชาติมาเป็นหัวหน้า
หรือจะประเมินทรัพย์สิน แล้วเลิกกิจการ ตกงานกันไป 3-400 คนก็สุดแล้วแต่ ตอนนี้เรามีหน้าที่นี้ ก็ต้องทำตรงนี้ให้ดี
เพิ่มอีกนิด ... คำถามด้านบน เป็นคำถาม Dummy ที่ถอดจาก ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์โดยทั่วๆ ไป คาดว่าจะสามารถ
โยงเข้ากับ การออกแบบชีวิตให้ Secure ได้ ตั้งใจว่าน่าจะหา Key Word อะไรได้บ้าง สำหรับคนที่กำลังจะเม้นท์ว่า ผมไม่เห็น
ต้องการเลย ไม่เป็นไรนะครับ คุณคือผู้โชคดี ถ้าจะให้ดีมากๆ เลย ช่วยกัน Design แบบสอบถามกันดีกว่า มีคนตั้งคำถามมากพอแล้วครับ
เชิญต่อครับ