เตือนภัย Telesales ขายประกันภัยมามุก แยกประกันบัตรออกจากบัตรเครดิต

/// วันที่ถูกหลอก ///

ผมเจอกับตัวเองเลยครับสดๆ ร้อนๆ คือจะมีคนโทรมาสอบถามว่า "บัตรเครดิตฯ .... ที่คุณลูกค้าได้ใช้ เลขที่ .... นี้ ว่าเราได้รับใบแจ้งหนี้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่" ผมตอบว่า "ได้รับประจำทางเมล" จากนั้นคนที่โทรมาก็จะสอบถามว่า "คุณลูกค้าทราบหรือไม่ว่าที่บัตรเครดิตนี้มีประกันภัยของบัตรอยู่ เป็นสิ่งที่บริษัทฯผู้ออกบัตรจัดทำให้บวกไปกับค่าธรรมเนียมการใช้บัตรจัดเก็บในทุกๆเดือน" เราตอบว่า "ไม่ทราบ ไม่เห็นมี List ในการหักค่าใช้จ่ายในส่วนนี้" จากนั้นคนที่โทรมาจะแสดงตัวคล้ายเป็นเจ้าหน้าที่จากบัตรเครดิตแล้วแจ้งว่า "ทางบัตรมีนโยบายที่จะแยกประกันภัยของบัตรออกจากตัวบัตรเครดิตให้ ในสิ่งที่ลูกค้าได้จ่ายในทุกๆเดือนอยู่แล้ว" จากนั้นก็มาเป็น Step ตามนี้เลยครับ

1. ให้ยืนยันเลขที่บัตรที่ลูกค้าถืออยู่ และ วันหมดอายุของบัตร ยืนยัน ตัวตน ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน
ผมเห็นเจ้าหน้าที่ที่โทรมามีข้อมูลบัตรทุกอย่างก็ยืนยันว่าใช่ เลขตามนั้น (ไม่ทราบว่ารู้หมายเลขบัตรของเราได้อย่างไร)

2. สอบถามที่จัดส่งเอกสารกรมธรรม์ และ บัตรประกันภัย ที่แยกออกมาจากตัวบัตรเครดิต
ผมแจ้งที่อยู่ ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนไป เพราะที่เค้าแจ้งข้อมูลมาเป็นที่อยู่เก่า ผมเลยถือโอกาสนี้แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ใหม่

- มาถึงตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจ เลยสอบถามไปว่า เป็นการขายประกันชีวิต หรือ ประกันภัยหรือไม่ ถ้าเป็นไม่ทำทุกกรณี เพราะมีอยู่แล้ว
เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า ไม่ใช่ เป็นการประกันบัตร และจะแยกการประกันนี้ออกมาจากบัตรที่เราจ่ายอยู่แล้วทุกเดือนเดือนละ ร้อยกว่าบาท ออกมาให้ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้

3. เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบในผลประโยชน์ของประกันที่แยกออกมาจากบัตร ซึ่งพูดเร็วมาก วกไป วนมา จับใจความได้ว่าเป็นการประกันภัย กรณีตายจากอุบัติเหตุได้รับเท่าไหร่ เจ็บป่วย นอนโรงพยาบาลสามารถเบิกได้เท่าไหร่  และเคลมได้ที่ไหน ซึ่งพูดเร็วมาก

4. เจ้าหน้าที่จะถามว่า คุณลูกค้าจะให้ผลประโยชน์แก่ใคร
ผมก็ตอบน้องชายไป

5. เจ้าหน้าที่จะให้ยืนยันตกลง การส่งเอกสาร กรมธรรม์ประกันบัตร ไปตามที่อยู่ที่แจ้ง
ผมก็ตอบตกลงให้ส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไป

- จากนั้นผมยังถามย้ำอีกครั้งว่า "ถ้าอย่างนี้ในใบสลิปจะแสดงการหักให้เห็นใช่หรือไม่ว่าเป็นการหักไปเพื่อประกันบัตร ไม่ใช่ค่าธรรมเนียม เพราะก่อนหน้านี้ผมสังเกต ไม่เห็นมีข้อความ หรือ ส่วนใดๆ บอกว่าเป็นประกันจากบัตร"
เจ้าหน้าที่ตอบว่า ก่อนหน้านี้อยู่ในการค่าธรรมเนียม ลูกค้าจะมองไม่เห็น แต่เป็นเงินประกันบัตรที่ถูกหักในแต่ละเดือนไม่ได้เก็บเพิ่มแต่อย่างใด

จากนั้นเจ้าหน้าที่คนนี้ก็วางหู และมีเจ้าหน้าที่อีกคนโทรว่าได้จัดส่ง กรมธรรม์ประกันบัตร ไปยังที่อยู่ให้เรียบร้อยแล้ว

/// วันรุ่งขึ้น ถึงรู้ตัว ///

จากนั้นในวันรุ่งขึ้น จะมีข้อความ SMS มาจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ระบุว่า "เลขที่กรมธรรม์ ..... ประเภทกรมธรรม์ ..... ของ ชื่อ ผม คุ้มครอง ในวันที่ เดือน ปี ขอบคุณที่ไว้วางใจ "ชื่อบริษัทประกันภัย"

-- ???? พอได้รับข้อความ SMS ก็งงเลยซิครับ ไปทำประกันภัยบริษัทนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ประเภทกรมธรรม์อะไรไม่เคยได้ยินมาก่อน เลยตกใจ เช็คกับ App บัตรเครดิตก่อนเลย ปรากฎว่ายอดเงินคงเหลือในบัตรน้อยลง โดนหักไปห้าพันสามร้อยกว่าบาท อ้าว งงเลยซิครับ ใครหักไป เลยรีบโทรไปแจ้งกับบัตรเครดิตว่ามีการใช้เงินไป บัตรเครดิตตอบมาว่า ตรวจสอบไม่ได้ว่าใคร ? จะต้องรออีก 3-4 วัน เพราะเป็นยอดของเมื่อวาน วันนี้ตรวจสอบไม่ได้ว่าใครเป็นคนหัก ทำผมอึ้งไปพักหนึ่งแต่ไม่รอช้า รีบดำเนินการดังนี้

1. สอบถามไปที่บัตรเครดิตว่ามีนโยบายทำประกันไว้กับบัตรแล้วจะแยกกรมธรรม์จากบัตร ใช่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บัตรที่แท้จริงแจ้งว่า "ไม่มีนโยบายแบบนี้ มีแต่ค่าธรรมเนียมบัตรแบบรายปีเท่านั้น" ผมเลยเล่าทั้งหมดให้ทางบัตรเครดิตฟังและแจ้งกับทางบัตรเครดิตไปเลยว่า "ผมไม่ยอมรับยอดที่หักนี้ขอให้อายัดการเรียกเก็บเงินจำนวนนี้ ถ้ามีใบเรียกเก็บเงินเข้ามา และแจ้งให้ผมทราบด้วยว่าใครเป็นคนหัก"

2. จากนั้นไม่รอช้าผมค้นหาเบอร์โทรจากชื่อบริษัทประกันภัยที่ส่ง SMS เข้ามา และตรวจสอบไปทางบริษัทประกันภัย ว่าผมไปทำกรมธรรม์นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วแจ้งขอยกเลิกโดยทันที พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ หรือ โบรคเกอร์ ของ Telesales ขายประกันภัย ประจำบัตรเครดิตนี้ ซึ่งบังเอิญโชคดีเคสของผมมี โบรคเกอร์ แค่เจ้าเดียวที่ขาย เลยขอชื่อ บริษัทโบรคเกอร์ และเบอร์โทรติดต่อ

- มาถึงตรงนี้ผมเลยเข้าไปดูประเภทของกรมธรรม์ เพื่อหาว่ายอดที่ถูกหักไปตรงกับกรมธรรม์ประเภทใด ปรากฎว่าเป็นกรมธรรม์ประเภทหัก 3 ปีเลย
** โชคดีอย่างหนึ่งคือบัตรเครดิตผมมีวงเงินคงเหลือไม่เยอะ เลยโดนเต็ม Max ของวงเงินคงเหลือห้าพันสามร้อยกว่าบาทเลย ถ้าเหลือเยอะกว่านี้ คงโดนเป็นหมื่นตามประเภทที่เรียกเก็บสูงสุด และอีกอย่างประกันประเภทนี้ผมไม่มีทางทำได้หรอก เพราะผมไม่มีรถ ไม่ได้ขับรถ ชื่อประกันบอกอยู่ว่า "Care in Car " ต่อให้มีผลประโยชน์อื่นๆ ด้วยก็ตาม แต่การหักเงินประกันครั้งเดียวที่สูงขนาดนี้ผมคงไม่ทำแน่ๆ ที่งงที่สุดคือ รู้ได้อย่างไรว่าเงินในบัตรมีคงเหลือเท่าไหร่ สามารถหักไปทำประกันประเภทใดที่สูงสุดได้บ้าง

3. โทรไปที่โบรคเกอร์และแจ้งชื่อ เลขที่กรมธรรม์ วิธีการที่พนักงานของบริษัทโบรคเกอร์หลอกเอาเงินประกัน ซึ่ง
- ไม่บอกว่าเป็นการทำประกันภัยใหม่ ประเภทอะไร ของใคร (ให้เราคิดว่าเป็นประกันปกติจากบัตร แค่แยกออกมาจากตัวบัตร)
- ไม่บอกจำนวนเงินที่จะหักจากบัตรทันที บอกแต่ว่าเป็นเงินค่าธรรมเนียมเดือนละร้อยกว่าบาทที่หักจากบัตรปกติทุกเดือนอยู่แล้ว
- จงใจไม่บอกว่าเป็นการขายประกันภัย
แล้วผมก็ขู่จะแจ้ง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)
ทางโบรคเกอร์รับแจ้งและบอกว่าจะโทรกลับ แต่ก็ยังไม่โทรกลับจนหมดไปอีก 1 วัน

4. ในวันถัดมา ผมโทรไปที่โบรคเกอร์แจ้งว่ายังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาใดๆ แล้วบอกไปเลยครับว่าให้ติดต่อกลับภายในกี่นาทีไม่งั้นโดนร้องเรียนแน่ ทางโบรคเกอร์จึงได้โทรกลับมาแล้วแจ้งวิธีการยกเลิก และการนำเงินคืนเข้าบัตร (จะใช้เวลาเท่าไหร่ถึงได้รับเงินคืน ยังไม่ทราบเหมือนกันเพราะอยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ในตอนนี้)

5. วิธีการคือ ต้องสำเนาบัตรประชาชนพร้อมเขียนว่า ขอยกเลิกกรมธรรม์ของ เลขที่ ...... สำเนาถูกต้อง และลงชื่อ ส่งไปทางไลน์ หรือ FAX เข้าบริษัทโบรคเกอร์ หลังจากส่งไลน์ขอยกเลิกกรมธรรม์ไปจะได้รับ ข้อความมาดังนี้ "หลังจากลูกค้าส่งเอกสารยกเลิกประมาณ 30 วัน ทำการ ระบบจะนำเช็คเข้าบัญชีให้ ลูกค้าอาจจะได้รับเงินเร็วหรือช้า กว่าที่แจ้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรอบการอนุมัติเช็คเนื่องจากเช็คไม่ได้อนุมัติทุกวันตามที่ ลูกค้าส่งเอกสาร หากได้รับช้าหรือเกินจากที่แจ้งลูกค้าติดต่อหมายเลข 02xxxxxxx กด x หรือ x วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 - 18.00 น." ตอนหักเงินก็จะหักจากบัตรโดนทันทีนะครับ แต่เวลาจะจ่ายคืนนี่ต้องภายใน 30 วันทำการ มีข้อกังวลอยู่ 1 ข้อคือ ถ้าหากภายในระยะเวลาที่เงินยังไม่ได้เข้าคืนบัตร ทางบัตรเครดิตจะเรียกเก็บเงินหรือไม่ ถ้าเรียกเก็บแล้วมีค่าธรรมเนียมในการใช้ด้วยพร้อมดอกเบี้ยอีกตั้งหาก ใครจะจ่าย คงต้องเป็นประเด็นติดตามต่อไป

-- เข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมมาคือ การทำประกันทางโทรศัพท์นั้นเราสามารถยกเลิกได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์และสามารถเรียกเงินคืนครบตามจำนวนที่จ่ายไป

6. คงต้องดำเนินการยกเลิกบัตรเครดิตใบนี้โดยทันที

/// อุทาหรณ์ เตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ครับ ///

ให้ระวังการคุยโทรศัพท์กับ Telesales ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน โดยเฉพาะการมาในรูปแบบ หลอกลวงให้เราเชื่อว่าเป็นบุคคลอื่น โทรมาเพื่อการอื่น ที่ไม่ใช่การขายประกัน โดยสามารถหลอกดึงคำว่า "ยินยอม" / "ตกลง" / "โอเค" จากเราไปได้ในคำถามที่ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเค้า แล้วนำไปใช้ในการซื้อประกันภัยโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ต้องใช้ "สติ" ระมัดระวังให้มากกว่านี้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!