..........
“ใครตอบข้าได้บ้างว่าสิ่งที่เจ้ากำลังจะเรียนในไม่ช้า มันเกี่ยวกับอะไร” เสียงของเซ็นทอร์ร่างกายบึกบึน เนื้อตัวมอมแมม ย่ำกีบอยู่ข้าง ๆ เตาที่มีเหล็กสีแดงร้อนระอุวางอยู่ดังขึ้นในขณะที่เซ็นทอร์กำลังทยอยเข้ามา
“การตีเหล็ก” เซ็นทอร์ตนหนึ่งชูมือขึ้นแล้วก็ตอบ
“ถูก แต่ยังไม่ที่สุด” เขาพูด “ไหนมีใครรู้บ้างว่าข้าหมายถึงอะไร”
“การตรงต่อเวลา” ธีนีดัสพูด
“ถูกต้อง” เขามองธีนีดัสอย่างชื่นชม “การตีศาสตราวุธเป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญในการรบเป็นอย่างมาก กองทัพของพวกเจ้าจะแข็งแรงไม่ได้ถ้าศาสตราวุธพวกนี้ไม่แกร่ง” เขาหันไปหยิบค้อนแล้วลากเหล็กแดง ๆ ออกมาพร้อมทุบด้วยค้อนด้ามโตลงไปที่เหล็กเสียงดังสนั่น
“และกองทัพเจ้าจะแพ้หากดาบพวกนี้ไม่ระคายศัตรู” เขาฟาดค้อนลงไปอีกที คราวนี้เสียงมันไม่ดังเท่าเก่า
“และถ้าเจ้าหลอมเหล็กพวกนี้นานเกินไป หรือสั้นเกินไป การตีดาบจะไม่ประสบความสำเร็จ” เขากวาดสายตามองเซ็นทอร์และตนอื่น ๆ ที่กำลังทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ “ดังนั้นบทเรียนของวันนี้ที่เจ้าต้องรู้ก็คือการตรงต่อเวลา”
เขายกค้อนขึ้นเหนือหัว แขนขวาเกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อปูดออกมาเป็นมัด ๆ เขาเหวี่ยงค้อนอันใหญ่ลงไปสุดกำลัง เสียงของค้อนกระทบกับเหล็กแดงดังแกร็ก และส่วนที่หักก็กระเด็นมาอยู่ที่ปลายเท้าผม เขามองตามมันมา
“เจ้าไม่ใช่เซ็นทอร์ เจ้าเป็นใคร” เขาถาม
“ผมเทเลอร์ครับ” ผมรีบตอบ “ฟีเลียสให้เฮร่าสอนผมเรื่องการรบของเซ็นทอร์”
“ดี ข้าไม่ได้สอนมนุษย์แบบเจ้ามานานมากแล้ว” เขาพูด
“ทุกคน เลือกหาบ่อตีดาบที่เจ้าชอบได้ หยิบค้อนข้าง ๆ ตัวเจ้าขึ้นมาแล้วก็ฟาดมันลงไปให้ขึ้นรูป วันนี้เราจะทำกันอยู่แค่นี้ ห้ามมีใครบ่นโดยเด็ดขาด” สิ้นเสียงของเขา ทุกคนก็แยกย้ายหาบ่อตีเหล็กทันทีและผมก็ถูกเบียดด้วยช่วงตัวของเซ็นทอร์จนล้มลุกคลุกคลานอยู่บริเวณนั้น
“เทเลอร์ มานี่” ธีนีดัสเรียกผมหลังจากที่ผมลุกขึ้นยืน ผมรีบวิ่งไปหาเขาก่อนที่ผมจะเป็นคนสุดท้าย
“ขอบใจ”
“อ่าว พวกเจ้ายืนรออะไร จับค้อนขึ้นมาแล้วทุบเหล็กพวกนี้ลงไปให้ขึ้นรูป” เขาตะคอกเสียงดัง เมื่อสิ้นเสียง เสียงเหล็กกระทบกับค้อนก็ลั่นไปทั่วโรงตีเหล็ก
มีเซ็นทอร์หลายตนในเต้นท์ของผมในวันนี้ อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีมนุษย์แบบผมเข้ามาอยู่กับพวกเขาในค่ายแห่ง บ้างก็แวะมาดู บ้างก็เดินเฉียดและพยายามมองผมจากด้านนอก จนผมรู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่
“สยองมาก ๆ ชั่วโมงแรกของการตีเหล็ก” เซ็นทอร์ตัวหนึ่งในเต็นท์บ่น
“เจ้าเห็นกล้ามของเขาไหมที่ยกค้อนขึ้นตี มันโหดมากจริง ๆ” เซ็นทอร์อีกตัวพูด
“พวกนายเพิ่งได้เรียนการตีเหล็กกันวันนี้เหรอ” ผมถามเซ็นทอร์ตนที่สนใจกับกล้ามของช่าง
“ข้าชื่อ อเดล” เขาพูด
“ฉัน เทเลอร์นะ” ผมยื่นมือไปจับ แต่เขากลับซ่อนมือในลำตัวแทน “เอ่อ...ที่เอเธนส์เวลาทักทายหรือกล่าวลา เขามักจะยื่นมือไปจับกันแบบนี้แล้วเขย่าเบา ๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันคงไม่ได้อยู่ที่เอเธนส์หรอกใช่ไหม” ผมพูดและชักมือกลับ
“ข้าชื่อทาร์คนะ” เซ็นทอร์ที่สยองกับการเรียนวิชาตีเหล็กพูด แล้วก็ยื่นมือมาที่ผม
“ขอบใจ” ผมยื่นมือขวาออกไปจับมือเขาแล้วเขย่าเบา ๆ “อันที่จริง นายยื่นมือขวามาจะดีกว่า มือขวาของนายน่ะ” ทาร์ครีบเปลี่ยนมือฉับพลันแล้วก็ยื่นมาด้วยความไว
“ที่เจ้าถามว่าเราเพิ่งเรียนการตีเหล็กมาใช่ไหม ใช่เราเพิ่งเรียนวันนี้เป็นวันแรก แต่ที่ถูกคือ เราเพิ่งเรียนทุกวิชาวันแรกเหมือนกัน”
“ค่ายเพิ่งเปิดเหรอ...ทำไมพวกนายใช้ดาบกันเก่งจัง” ผมพูดอย่างชื่นชม
“อ่อ แน่ล่ะ เซ็นทอร์ที่อายุไม่ถึงสิบแปดปีจะถูกส่งไปฝึกดาบและการต่อสู้ขั้นพื้นฐานที่ค่ายธาอีส ในอาณาจักรธาอีสก่อน หลังจากนั้นพวกเราก็จะถูกส่งกลับมาเรียนวิชาชีพขั้นสูงอีกที” เซ็นทอร์หญิงตนหนึ่งเดินมายืนที่หน้าประตูเต็นท์ พูดอย่างชำนาญ ทำให้ผมนึกสงสัยว่าเพศหญิงเป็นเหมือนทุกคนหรือไม่
“ข้า ลิเซียนะ”
“ฉันเทเลอร์”
“เจ้าบอกชื่อนี้หลายครั้งแล้ว” เธอเชิดริมฝีปาก จ้องมองผมสักพัก “เอาล่ะ ข้าแค่แวะมาดูเทเลอร์ว่าเจ้าจะปรับตัวกับที่นี่ได้ไหม แต่ข้าเชื่อว่าได้นะ” เธอฝืนยิ้ม
“ส่วนพวกเจ้า” ลิเซียหันไปทางอเดลและทาร์ค “ก็อย่าแอบไปดูดาวกันล่ะ เฮร่าไม่เหมือนกับฟีล่าแห่งธาอีสหรอกนะ”
หลังจากที่ผมเรียนวิชาต่าง ๆ เสร็จ เฮร่าได้สั่งย้ายผมออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้ามาพักรวมกับเซ็นทอร์ตนอื่นในค่าย แม้มันจะรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่ต้องอาศัยรวมกับเซ็นทอร์ในตอนแรก แต่ผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทั้งทาร์คและอเดลต้อนรับผมเข้าสู่เต็นท์อย่างเป็นกันเอง จนผมทำให้ผมรู้สึกว่ารู้จักกันมาสักระยะหนึ่ง
ในเต็นท์หลังนี้ประกอบด้วยเตียงกลมสี่เตียงตามมุมห้อง มีโต๊ะตัวยาววางอยู่กลางห้อง และทางทิศเหนือของโต๊ะมีโถงทางเดินเชื่อมกับทางออกสู่ค่ายส่วนทิศใต้ โถงเล็กก็ทำหน้าที่เชื่อมห้องพักกับห้องน้ำเช่นกัน
“แล้วนี่ทำไมธีนีดัสยังไม่กลับมา” อเดลชะเง้อไปมองนอกหน้าต่างใกล้เตียงเขา ใช่ครับ หนึ่งในสมาชิกอีกคนก็คือ ธีนีดัส
“ถ้าเจ้าจะรอก็รอนะ อเดล ส่วนข้าไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน” ทาร์คพูดแล้วก็เดินไปที่เตียงกลมทันที
เอาล่ะได้เวลานอนของเซ็นทอร์แล้ว ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเขามีวิธีการนอนแบบไหน ทาร์คเปิดฝาเตียงขึ้น มันปรากฏเป็นหลุม ความลึกยาวเท่ากับลำตัวจนถึงขาของเขา เขาเดินย่ำลงไปหลุมที่ถูกบุด้วยผ้านวมนุ่ม เอนตัวลงด้านข้างไหล่ลู่ตามฝาเตียง ที่บัดนี้มันหลายเป็นพนักพิงของเขา ด้วยลักษณะทางกายภาพของพวกเขา ท่านอนแบบนี้ ในความคิดผม จึงน่าจะเป็นท่าทางการนอนที่ทำให้พวกเขารู้สุขสบายมากที่สุด หลังจากที่เขาดับตะเกียง ทาร์คหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมาห่อตัว ปิดมุ้งแล้วก็หลับตา ผมนึกในใจ ถ้าผมลงไปนอนแบบเซ็นทอร์แล้วปิดฝาเตียง มันก็จะดูเหมือนโลงศพดี ๆ นี้เอง ขณะที่ผมคิดวิธีที่จะนอนบนเตียงเซ็นทอร์อยู่นี้ ธีนีดัสก็เดินเข้ามาพร้อมหอบผ้านวมชุดใหญ่เข้ามาในเต็นท์
“ข้าเดาไม่มีผิดว่าเจ้าต้องหาวิธีนอนไม่ได้ ข้าจึงบอกเฮร่าว่าเจ้าจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้” เขายื่นผ้าห่มให้ผม “เจ้านอนบนฝาเตียงได้ มันแข็งแรงมากพอ”
“ขอบคุณ” ผมรับมันแล้ววางลงบนเตียง พอผมหันมา ธีนีดัสกำลังเดินออกไปนอกเต็นท์อีกครั้ง “นายกำลังจะไปไหน”
“ข้ากับเฮร่ายังคุยธุระกันไม่จบ ข้าแค่ขอตัวเอาผ้าห่มมาให้เจ้า เจ้าหลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตื่นเช้า”
เสียงนกหวีดดังก้อง ผมลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ทาร์คและอเดลยังไม่ตื่น ส่วนเตียงของธีดีนัสว่างเปล่าเหมือนว่าเขายังไม่ได้กลับมา ผมมองลอดผ่านประตูไป ท้องฟ้ายังไม่สว่าง แสงพระอาทิตย์สีแดงตรงขอบท้องฟ้ายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
“ตื่นเช้าเหมือนกันนะเจ้าน่ะ เทเลอร์” ธีนีดัสเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เสียงนกหวีดข้างนอกทำให้ฉันตื่น” ผมกระพริบตาทำให้ชินกับแสงตะเกียงที่ธีนีดัสถือ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม” เขาถามและผมก็พยักหน้าแทนคำตอบ “เอาล่ะ ในตอนเช้าของทุก ๆ วัน เสียงนกหวีดจะดังขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกเจ้ามีเวลาครึ่งชั่วโมงสำหรับการเก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟันและแต่งตัว หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป จะมีเสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เจ้ามีเวลาห้านาทีสำหรับวิ่งไปเข้าแถวที่ลานกว้างนั่น และถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ให้เสียงนกหวีดครั้งที่สองดังขณะที่ข้ากำลังอยู่ในเต็นท์อย่างแน่นอน...หลังจากนั้นเราจะออกกำลังกาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นวิ่งรอบค่ายซะมากกว่า เมื่อเสร็จแล้ว เจ้าก็จะเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อกลับมาทำธุระส่วนตัว...เจ้าตามข้าทันใช่ไหม” ธีนีดัสพูด
“ทันสิ” ผมลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ
“ตอนนี้ เจ้าเก็บที่นอนซะแล้วไปล้างหน้า ส่วนสองคนนี้ไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอก เขาจะล้างหน้าในตอนอาบน้ำ”
ผมทำตามธีนีดัสอย่างเคร่งครัดและเดินออกมาจากเต็นท์ เสียงนกหวีดครั้งสองดังขึ้น อเดลและทาร์คค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงและเก็บที่นอน เริ่มมีเหล่าเซ็นทอร์ทยอยออกจากเต็นท์ และเป็นไปตามที่ธีนีดัสพูดทุกประการ เราต้องวิ่งรอบ ๆ ค่ายที่มีระยะทางกว่า 3 ไมล์ พวกเราวิ่งเยาะ ๆ โดยที่ไม่ได้ส่งเสียงร้องเพลงและหรือพูดคุยกันเลย เซ็นทอร์ครูฝึกวิ่งตามพวกเรามาด้วยกันสามตน เมื่อวิ่งเสร็จ เราทั้งหมดก็มายืนเข้าแถวที่หน้าเต็นท์อำนวยการ เฮร่าได้ชี้แจงตารางการเรียนชั่วคราวของเราสำหรับวันนี้ หลังจากนั้นผมจึงได้กลับเข้ามาที่เต็นท์และอาบน้ำ
“วันนี้ไม่มีวิชาปฏิบัติเลย มีแต่เรียนทฤษฎี” ทาร์คพูด
“เจ้าชอบเรียนวิชาตีเหล็กรึ” อเดลพูดและธีดีนัสก็หัวเราะ
ผมหันไปมองพวกเขาสามคนและก้มลงมาที่กระเป๋า ตอนนี้เหลือเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่แค่สองสามตัว
“เจ้ามองหาอะไรในกระเป๋ารึ เทเลอร์” ธีนีดัสถาม
“เสื้อผ้าฉันใกล้หมดแล้ว ฉันหมายถึงฉันใส่เสื้อหมดแล้ว”
“อ๋อ...ใช่สินะ นายเป็นมนุษย์นี่” อเดลพูด
“เอ่อ...พวกนายไม่ซักผ้ากันหรอกใช่ไหม” ผมตัดสินใจถามแม้รู้ว่าเขาจะตอบมาว่า ใช่ ก็ตาม
“ใช่”
“ฉันรู้อยู่แล้ว”
“ไม่ ๆ อย่าเข้าใจผิด เราใช้เวทในการซักแห้งแทน นี่เป็นเวทแรกที่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเซ็นทอร์ต้องได้เรียน” ทาร์คบอก
“ว้าว...” ผมอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น “นายทำให้ดูหน่อยสิ”
“ส่งเสื้อเจ้ามาสิ” ทาร์คพยักหน้า ผมจึงหยิบตัวที่เหม็นที่สุดให้เขา “กลิ่นเสื้อเจ้าแรงไม่เบาเหมือนกันนะ” อเดลกับธีนีดัสหัวเราะลั่น
“นี่มันหลายวันแล้วนะ” ผมบอกอย่างเหนียมอาย
อัศวินเทเลอร์กับอาณาจักรแอตแลนติส...บทที่ 20 – ภาษาแอตแลนติส (Part 4)
“ใครตอบข้าได้บ้างว่าสิ่งที่เจ้ากำลังจะเรียนในไม่ช้า มันเกี่ยวกับอะไร” เสียงของเซ็นทอร์ร่างกายบึกบึน เนื้อตัวมอมแมม ย่ำกีบอยู่ข้าง ๆ เตาที่มีเหล็กสีแดงร้อนระอุวางอยู่ดังขึ้นในขณะที่เซ็นทอร์กำลังทยอยเข้ามา
“การตีเหล็ก” เซ็นทอร์ตนหนึ่งชูมือขึ้นแล้วก็ตอบ
“ถูก แต่ยังไม่ที่สุด” เขาพูด “ไหนมีใครรู้บ้างว่าข้าหมายถึงอะไร”
“การตรงต่อเวลา” ธีนีดัสพูด
“ถูกต้อง” เขามองธีนีดัสอย่างชื่นชม “การตีศาสตราวุธเป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญในการรบเป็นอย่างมาก กองทัพของพวกเจ้าจะแข็งแรงไม่ได้ถ้าศาสตราวุธพวกนี้ไม่แกร่ง” เขาหันไปหยิบค้อนแล้วลากเหล็กแดง ๆ ออกมาพร้อมทุบด้วยค้อนด้ามโตลงไปที่เหล็กเสียงดังสนั่น
“และกองทัพเจ้าจะแพ้หากดาบพวกนี้ไม่ระคายศัตรู” เขาฟาดค้อนลงไปอีกที คราวนี้เสียงมันไม่ดังเท่าเก่า
“และถ้าเจ้าหลอมเหล็กพวกนี้นานเกินไป หรือสั้นเกินไป การตีดาบจะไม่ประสบความสำเร็จ” เขากวาดสายตามองเซ็นทอร์และตนอื่น ๆ ที่กำลังทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ “ดังนั้นบทเรียนของวันนี้ที่เจ้าต้องรู้ก็คือการตรงต่อเวลา”
เขายกค้อนขึ้นเหนือหัว แขนขวาเกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อปูดออกมาเป็นมัด ๆ เขาเหวี่ยงค้อนอันใหญ่ลงไปสุดกำลัง เสียงของค้อนกระทบกับเหล็กแดงดังแกร็ก และส่วนที่หักก็กระเด็นมาอยู่ที่ปลายเท้าผม เขามองตามมันมา
“เจ้าไม่ใช่เซ็นทอร์ เจ้าเป็นใคร” เขาถาม
“ผมเทเลอร์ครับ” ผมรีบตอบ “ฟีเลียสให้เฮร่าสอนผมเรื่องการรบของเซ็นทอร์”
“ดี ข้าไม่ได้สอนมนุษย์แบบเจ้ามานานมากแล้ว” เขาพูด
“ทุกคน เลือกหาบ่อตีดาบที่เจ้าชอบได้ หยิบค้อนข้าง ๆ ตัวเจ้าขึ้นมาแล้วก็ฟาดมันลงไปให้ขึ้นรูป วันนี้เราจะทำกันอยู่แค่นี้ ห้ามมีใครบ่นโดยเด็ดขาด” สิ้นเสียงของเขา ทุกคนก็แยกย้ายหาบ่อตีเหล็กทันทีและผมก็ถูกเบียดด้วยช่วงตัวของเซ็นทอร์จนล้มลุกคลุกคลานอยู่บริเวณนั้น
“เทเลอร์ มานี่” ธีนีดัสเรียกผมหลังจากที่ผมลุกขึ้นยืน ผมรีบวิ่งไปหาเขาก่อนที่ผมจะเป็นคนสุดท้าย
“ขอบใจ”
“อ่าว พวกเจ้ายืนรออะไร จับค้อนขึ้นมาแล้วทุบเหล็กพวกนี้ลงไปให้ขึ้นรูป” เขาตะคอกเสียงดัง เมื่อสิ้นเสียง เสียงเหล็กกระทบกับค้อนก็ลั่นไปทั่วโรงตีเหล็ก
มีเซ็นทอร์หลายตนในเต้นท์ของผมในวันนี้ อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีมนุษย์แบบผมเข้ามาอยู่กับพวกเขาในค่ายแห่ง บ้างก็แวะมาดู บ้างก็เดินเฉียดและพยายามมองผมจากด้านนอก จนผมรู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่
“สยองมาก ๆ ชั่วโมงแรกของการตีเหล็ก” เซ็นทอร์ตัวหนึ่งในเต็นท์บ่น
“เจ้าเห็นกล้ามของเขาไหมที่ยกค้อนขึ้นตี มันโหดมากจริง ๆ” เซ็นทอร์อีกตัวพูด
“พวกนายเพิ่งได้เรียนการตีเหล็กกันวันนี้เหรอ” ผมถามเซ็นทอร์ตนที่สนใจกับกล้ามของช่าง
“ข้าชื่อ อเดล” เขาพูด
“ฉัน เทเลอร์นะ” ผมยื่นมือไปจับ แต่เขากลับซ่อนมือในลำตัวแทน “เอ่อ...ที่เอเธนส์เวลาทักทายหรือกล่าวลา เขามักจะยื่นมือไปจับกันแบบนี้แล้วเขย่าเบา ๆ แต่ไม่เป็นไร ฉันคงไม่ได้อยู่ที่เอเธนส์หรอกใช่ไหม” ผมพูดและชักมือกลับ
“ข้าชื่อทาร์คนะ” เซ็นทอร์ที่สยองกับการเรียนวิชาตีเหล็กพูด แล้วก็ยื่นมือมาที่ผม
“ขอบใจ” ผมยื่นมือขวาออกไปจับมือเขาแล้วเขย่าเบา ๆ “อันที่จริง นายยื่นมือขวามาจะดีกว่า มือขวาของนายน่ะ” ทาร์ครีบเปลี่ยนมือฉับพลันแล้วก็ยื่นมาด้วยความไว
“ที่เจ้าถามว่าเราเพิ่งเรียนการตีเหล็กมาใช่ไหม ใช่เราเพิ่งเรียนวันนี้เป็นวันแรก แต่ที่ถูกคือ เราเพิ่งเรียนทุกวิชาวันแรกเหมือนกัน”
“ค่ายเพิ่งเปิดเหรอ...ทำไมพวกนายใช้ดาบกันเก่งจัง” ผมพูดอย่างชื่นชม
“อ่อ แน่ล่ะ เซ็นทอร์ที่อายุไม่ถึงสิบแปดปีจะถูกส่งไปฝึกดาบและการต่อสู้ขั้นพื้นฐานที่ค่ายธาอีส ในอาณาจักรธาอีสก่อน หลังจากนั้นพวกเราก็จะถูกส่งกลับมาเรียนวิชาชีพขั้นสูงอีกที” เซ็นทอร์หญิงตนหนึ่งเดินมายืนที่หน้าประตูเต็นท์ พูดอย่างชำนาญ ทำให้ผมนึกสงสัยว่าเพศหญิงเป็นเหมือนทุกคนหรือไม่
“ข้า ลิเซียนะ”
“ฉันเทเลอร์”
“เจ้าบอกชื่อนี้หลายครั้งแล้ว” เธอเชิดริมฝีปาก จ้องมองผมสักพัก “เอาล่ะ ข้าแค่แวะมาดูเทเลอร์ว่าเจ้าจะปรับตัวกับที่นี่ได้ไหม แต่ข้าเชื่อว่าได้นะ” เธอฝืนยิ้ม
“ส่วนพวกเจ้า” ลิเซียหันไปทางอเดลและทาร์ค “ก็อย่าแอบไปดูดาวกันล่ะ เฮร่าไม่เหมือนกับฟีล่าแห่งธาอีสหรอกนะ”
หลังจากที่ผมเรียนวิชาต่าง ๆ เสร็จ เฮร่าได้สั่งย้ายผมออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้ามาพักรวมกับเซ็นทอร์ตนอื่นในค่าย แม้มันจะรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่ต้องอาศัยรวมกับเซ็นทอร์ในตอนแรก แต่ผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทั้งทาร์คและอเดลต้อนรับผมเข้าสู่เต็นท์อย่างเป็นกันเอง จนผมทำให้ผมรู้สึกว่ารู้จักกันมาสักระยะหนึ่ง
ในเต็นท์หลังนี้ประกอบด้วยเตียงกลมสี่เตียงตามมุมห้อง มีโต๊ะตัวยาววางอยู่กลางห้อง และทางทิศเหนือของโต๊ะมีโถงทางเดินเชื่อมกับทางออกสู่ค่ายส่วนทิศใต้ โถงเล็กก็ทำหน้าที่เชื่อมห้องพักกับห้องน้ำเช่นกัน
“แล้วนี่ทำไมธีนีดัสยังไม่กลับมา” อเดลชะเง้อไปมองนอกหน้าต่างใกล้เตียงเขา ใช่ครับ หนึ่งในสมาชิกอีกคนก็คือ ธีนีดัส
“ถ้าเจ้าจะรอก็รอนะ อเดล ส่วนข้าไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน” ทาร์คพูดแล้วก็เดินไปที่เตียงกลมทันที
เอาล่ะได้เวลานอนของเซ็นทอร์แล้ว ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเขามีวิธีการนอนแบบไหน ทาร์คเปิดฝาเตียงขึ้น มันปรากฏเป็นหลุม ความลึกยาวเท่ากับลำตัวจนถึงขาของเขา เขาเดินย่ำลงไปหลุมที่ถูกบุด้วยผ้านวมนุ่ม เอนตัวลงด้านข้างไหล่ลู่ตามฝาเตียง ที่บัดนี้มันหลายเป็นพนักพิงของเขา ด้วยลักษณะทางกายภาพของพวกเขา ท่านอนแบบนี้ ในความคิดผม จึงน่าจะเป็นท่าทางการนอนที่ทำให้พวกเขารู้สุขสบายมากที่สุด หลังจากที่เขาดับตะเกียง ทาร์คหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมาห่อตัว ปิดมุ้งแล้วก็หลับตา ผมนึกในใจ ถ้าผมลงไปนอนแบบเซ็นทอร์แล้วปิดฝาเตียง มันก็จะดูเหมือนโลงศพดี ๆ นี้เอง ขณะที่ผมคิดวิธีที่จะนอนบนเตียงเซ็นทอร์อยู่นี้ ธีนีดัสก็เดินเข้ามาพร้อมหอบผ้านวมชุดใหญ่เข้ามาในเต็นท์
“ข้าเดาไม่มีผิดว่าเจ้าต้องหาวิธีนอนไม่ได้ ข้าจึงบอกเฮร่าว่าเจ้าจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้” เขายื่นผ้าห่มให้ผม “เจ้านอนบนฝาเตียงได้ มันแข็งแรงมากพอ”
“ขอบคุณ” ผมรับมันแล้ววางลงบนเตียง พอผมหันมา ธีนีดัสกำลังเดินออกไปนอกเต็นท์อีกครั้ง “นายกำลังจะไปไหน”
“ข้ากับเฮร่ายังคุยธุระกันไม่จบ ข้าแค่ขอตัวเอาผ้าห่มมาให้เจ้า เจ้าหลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้เจ้าจะต้องตื่นเช้า”
เสียงนกหวีดดังก้อง ผมลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ทาร์คและอเดลยังไม่ตื่น ส่วนเตียงของธีดีนัสว่างเปล่าเหมือนว่าเขายังไม่ได้กลับมา ผมมองลอดผ่านประตูไป ท้องฟ้ายังไม่สว่าง แสงพระอาทิตย์สีแดงตรงขอบท้องฟ้ายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
“ตื่นเช้าเหมือนกันนะเจ้าน่ะ เทเลอร์” ธีนีดัสเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เสียงนกหวีดข้างนอกทำให้ฉันตื่น” ผมกระพริบตาทำให้ชินกับแสงตะเกียงที่ธีนีดัสถือ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม” เขาถามและผมก็พยักหน้าแทนคำตอบ “เอาล่ะ ในตอนเช้าของทุก ๆ วัน เสียงนกหวีดจะดังขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกเจ้ามีเวลาครึ่งชั่วโมงสำหรับการเก็บที่นอน ล้างหน้า แปรงฟันและแต่งตัว หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป จะมีเสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เจ้ามีเวลาห้านาทีสำหรับวิ่งไปเข้าแถวที่ลานกว้างนั่น และถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ให้เสียงนกหวีดครั้งที่สองดังขณะที่ข้ากำลังอยู่ในเต็นท์อย่างแน่นอน...หลังจากนั้นเราจะออกกำลังกาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นวิ่งรอบค่ายซะมากกว่า เมื่อเสร็จแล้ว เจ้าก็จะเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อกลับมาทำธุระส่วนตัว...เจ้าตามข้าทันใช่ไหม” ธีนีดัสพูด
“ทันสิ” ผมลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ
“ตอนนี้ เจ้าเก็บที่นอนซะแล้วไปล้างหน้า ส่วนสองคนนี้ไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอก เขาจะล้างหน้าในตอนอาบน้ำ”
ผมทำตามธีนีดัสอย่างเคร่งครัดและเดินออกมาจากเต็นท์ เสียงนกหวีดครั้งสองดังขึ้น อเดลและทาร์คค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงและเก็บที่นอน เริ่มมีเหล่าเซ็นทอร์ทยอยออกจากเต็นท์ และเป็นไปตามที่ธีนีดัสพูดทุกประการ เราต้องวิ่งรอบ ๆ ค่ายที่มีระยะทางกว่า 3 ไมล์ พวกเราวิ่งเยาะ ๆ โดยที่ไม่ได้ส่งเสียงร้องเพลงและหรือพูดคุยกันเลย เซ็นทอร์ครูฝึกวิ่งตามพวกเรามาด้วยกันสามตน เมื่อวิ่งเสร็จ เราทั้งหมดก็มายืนเข้าแถวที่หน้าเต็นท์อำนวยการ เฮร่าได้ชี้แจงตารางการเรียนชั่วคราวของเราสำหรับวันนี้ หลังจากนั้นผมจึงได้กลับเข้ามาที่เต็นท์และอาบน้ำ
“วันนี้ไม่มีวิชาปฏิบัติเลย มีแต่เรียนทฤษฎี” ทาร์คพูด
“เจ้าชอบเรียนวิชาตีเหล็กรึ” อเดลพูดและธีดีนัสก็หัวเราะ
ผมหันไปมองพวกเขาสามคนและก้มลงมาที่กระเป๋า ตอนนี้เหลือเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่แค่สองสามตัว
“เจ้ามองหาอะไรในกระเป๋ารึ เทเลอร์” ธีนีดัสถาม
“เสื้อผ้าฉันใกล้หมดแล้ว ฉันหมายถึงฉันใส่เสื้อหมดแล้ว”
“อ๋อ...ใช่สินะ นายเป็นมนุษย์นี่” อเดลพูด
“เอ่อ...พวกนายไม่ซักผ้ากันหรอกใช่ไหม” ผมตัดสินใจถามแม้รู้ว่าเขาจะตอบมาว่า ใช่ ก็ตาม
“ใช่”
“ฉันรู้อยู่แล้ว”
“ไม่ ๆ อย่าเข้าใจผิด เราใช้เวทในการซักแห้งแทน นี่เป็นเวทแรกที่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเซ็นทอร์ต้องได้เรียน” ทาร์คบอก
“ว้าว...” ผมอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น “นายทำให้ดูหน่อยสิ”
“ส่งเสื้อเจ้ามาสิ” ทาร์คพยักหน้า ผมจึงหยิบตัวที่เหม็นที่สุดให้เขา “กลิ่นเสื้อเจ้าแรงไม่เบาเหมือนกันนะ” อเดลกับธีนีดัสหัวเราะลั่น
“นี่มันหลายวันแล้วนะ” ผมบอกอย่างเหนียมอาย